กระดานความรู้สึก |
คุณคิดยังไงกับคนที่ไม่สามารถเรียนจบตามกำหนดได้โดยคุณ : เรียนไม่เก่ง - [12:03:48 23 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 1
สมน้ำหน้า เอ้ย ไม่ใช่.. ว่าแต่ทำไมถึงเรียนจบไม่ทันเค้าล่ะ เอาอะไรไปแลกมาโดยคุณ :TingTing - [20:43:47 23 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 2
ตามความรู้สึกของเรา จบช้าจบเร็ว มันไม่เห็นจะต่างกันเท่าไหร่เลยค่ะโดยคุณ :น้ำตาล - [22:19:02 23 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 3
บังเอิญผ่านมา .......เห็นด้วยกับคุณน้ำตาลนะ เราก็จบช้าไป 1 ปี เหมือนกัน ตอนแรกนะก็รู้สึกอายทุกคนที่รู้จักมากๆ ทั้งเพื่อน รุ่นน้อง รุ่นพี่ คุณครู ที่สำคัญคือพ่อแม่ ทำใจอยู่นานเหมือนกันที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งกับพ่อแม่ด้วยแล้วคืออันดับแรกที่ต้องทำความเข้าใจกันว่าอะไรเกิดขึ้น เราจะทำไงต่อ ถ้าสาเหตุที่จบช้าไม่ได้เป็นเพราะเราเหลวไหล เที่ยวเตร่ ผู้ใหญ่เขารับได้อยู่แล้ว หลังจากนั้นก็ต้องพยายามแล้วล่ะโดยคุณ :ลาล่า - [0:29:58 24 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 4
เราว่าเรื่องจบช้ากว่าเพื่อนสมัยนี้เป็นเรื่องปกติมากค่ะ ยิ่งถ้าสาเหตุที่ทำให้เราเรียนจบช้านั้นไม่ใช่เพราะเราเกเร โดดเรียนเพื่อไปทำอะไรที่ไร้สาระ (อันนี้ขอให้คุณคิดเองนะค่ะ ว่าสิ่งที่ทำไปไร้สาระรึเปล่า อย่าเอาบรรทัดฐานของคนอื่นมาวัดเด็ดขาด เพราะคนเรามองเรื่องเดียวกันออกมาได้หลายอย่าง) ถ้าเราทบทวนแล้วว่าช่วยเวลาที่ผ่านมาเราได้รับอะไรมากมาย เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ก็ไม่ต้องเสียใจที่ต้องเป็นนักเรียนต่ออีก 1 ปี หรือ 1 เทอม ขอบอกว่ามันคุ้มค่ามากค่ะ ยิ่งถ้าครอบครัวเข้าใจและไม่ว่าอะไร ยิ่งเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แค่คุณรับปริญญาช้ากว่าเพื่อนไปปีเดียว สิ่งที่คุณพลาดก็เพียงแค่ ไม่ได้ถ่ายรูปตอนใส่ชุดครุยพร้อมเพื่อนเท่านั้นค่ะ แต่ปริญญาที่คุณจะได้รับในปีหน้านั้น ยังคงมีคุณค่าเทียบเท่า และมีความหมายเท่ากับที่เพื่อนคุณได้รับในปีนี้ค่ะ และเพื่อนๆก็จะมาแสดงความยินดีกับคุณ เท่ากับว่าคุณจะได้ของขวัญจากเพื่อนร่วมสถาบันด้วย ซึ่งถ้ารับพร้อมกันไม่มีทางได้ (^_^)โดยคุณ :^_^ - [3:46:22 24 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 5
เอ้ย ...ระหว่างที่รอจบอีกตัว ไปทำงานพิเศษสิ..จะได้เอาไปเขียนในใบสมัครงานได้ คนรับเข้าทำงานเข้าสนใจประสบการณ์การทำงานมากกว่าดูว่าจบภายในกี่ปีนะโดยคุณ :เด็กน้อยไม่ยอมเรียน - [9:00:14 27 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 6
เคยเสียใจที่เรียนไม่จบพร้อมเพื่อนโดยคุณ :The แป้ก - [16:45:29 27 ต.ค. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่เป็นไร คุณค่าของคนไม่ได้วัดที่ใบปริญญา นะคะ สู้ต่อไป ต้องมีวันสำคัญวันนั้นแน่นอน ถ้าตั้งใจทำให้ดีที่สุดนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะโดยคุณ :น้องนุช - [20:21:28 2 พ.ย. 2547] |
ความคิดเห็นที่ 8
อ่านกระทู้นี้แล้วมีกำลังใจอย่างมากมายโดยคุณ :จบช้าเหมือนกัน T-T - [17:40:15 29 ก.ย. 2552] |
ความคิดเห็นที่ 9
ตอนนี่เราก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกับคุณเลยโดยคุณ :ดาด้า - [11:34:52 21 ก.ค. 2553] |
ความคิดเห็นที่ 10
เเป็นคนหนึ่งที่เรียนจบช้า แต่เราโชคร้ายกว่าใครๆๆที่มีแต่เพื่นคอยหัวเราะเยาะและซำเติมเราที่ช้ากว่าพวกเขา แต่มันก็ทำให้เราเราก็ตกอยู่ในสภาพที่น่าอายไม่อยากไปเรียน อายใครต่อใครที่เราจบช้า และรู้สึกเหมือนว่าจะทำให้พ่อแม่เสียใจกับการทัฃี่เราจบช้าและไม่ได้รับปริญญาพร้อมเพื่อน เราเสียใจมากเพราะเราไปแคร์ตรที่ว่าต้องถ่ายรูปกับเพื่อน มันเลยทำให้เราเสียใจมากขึ้นและยิ่งเพื่อนที่คบกันมา มาซ้ำเติมและตอกย้ำเราอีกเรายิ่งเสยใจหนัก แต่เราก็ไม่รู้ทำไงและจาเราจบช้ามันโดยคุณ :แทงข้างหลังทะลุถึงปอด - [0:36:54 24 พ.ย. 2553] |
ความคิดเห็นที่ 11
ฉันก็เพิ่งเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน แต่กว่าจะมาเจอข้อความพวกคุณฉันก็คิดว่าพวกคุณที่เม้นก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จด้านการเรียนแล้ว ฉันเรียนอีกห้าเดือนก็จะจบระดับปริญญาตรีแล้วแต่ถูกรถชนขาหักอาจารย์เลยให้ไปฝึกปฎิบัติกับน้องพอรู้ว่าเรียนจบพร้อมน้องไม่เรียนจบพร้อมเพื่อนฉันเสียใจมาก ร้องไห้ทุกวัน จนคนรอบข้างไม่อยากได้ยินและไม่อยากรับฟังฉันบ่นกับเรื่องซวยๆที่เกิดขึ้นในชีวิตฉันก็ต้องร้องไห้อยู่กับตัวเองจนได้รู้ว่าคนที่อยู่เคียงข้างกับเราตลอดก็คือตัวเราเอง ฉันดูปฏิทินทุกวันเมื่อไหร่จะผ่านพ้นไปสักที 1 ปีกว่ามันช่างทรมานเหลือเกิน เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายแต่คิดถึงพ่อแม่แล้วเลยไม่ทำ และอีกอย่างฉันต้องเรียนจบเพื่อให้ประกอบอาชีพที่ฉันใฝ่ฝันให้ได้ คนเราต้องต่อสู้กับปัญหาชีวิต คิดซะว่าหนึ่งปีกว่านี้ถือเป็นประสบการณ์ชีวิต เป็นภูมิคุ้มกันให้เราเมื่อเจอปัญหาชีวิตในครั้งต่อไป คนเราต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าต้องทำได้ ซึ่งฉันก็เชื่อว่าสักวันฉันคงได้รับปริญญาและกราบเท้าพ่อแม่ด้วยชุดรับปริญญาโดยคุณ :กาสะลอง - [15:10:07 7 มี.ค. 2555] |
|