กระดานความรู้สึก


- ปาฎิหารย์ -
    วันนี้ตอนกลางวัน  ออกไปทานข้าวนอกออฟฟิศกับเพื่อน
เดินมาเจอผู้ชายคนนึง  กำลังคุ้ยถังขยะ
ก็เลยมองด้วยความสนใจ  ว่าเค้าหาอะไรหนอ
เค้าทำของหล่นลงไป ....  รึว่าหาของไปขายต่อ
แป๊บนึงก็เห็นเค้าหยิบได้แก้วน้ำที่เป็นพลาสติกออกมาจากถังขยะ
เพื่อนที่ไปด้วยสะกิดบอกว่าไปเหอะ..ไม่เห็นมีอะไร
พอได้รู้ความสนใจก็หมดลง ไม่รอช้าออกเดินต่อเพื่อ
ข้ามสะพานลอยไปทานข้าว  เมื่ออิ่มหนำสำราญเดินย้อนกลับมา
   โอ.... เกิดปาฎิหารย์ประจักษ์แก่สายตา ชายผู้คุ้ยเขี่ยถังขยะเมื่อตะกี๊  บัดนี้แขนของเค้าได้หดหายไปแล้วทั้ง 2 ข้าง ในเสื้อตัวเดิม
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเหลือเพียงปากคาบแก้วน้ำ  นั่งขอทานอยู่บนสะพานลอย  
   แย่..แย่..แย่ ที่หากินกับความเอื้ออาทรของผู้อื่น ใครเคยเจออะไรแบบนี้บ้างคะเนี่ย ? เฮ้อ !

โดยคุณ : บี..เฉย..เฉย - [0:22:58  8 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 1
จึ๋ยส์
โดยคุณ :อัญญา - [0:32:40  8 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 2
เอ่อ.......นะ
โดยคุณ :อ้อม - [9:36:03  9 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 3
บางทีเราก็เป็นเหมือนคน ๆ หนึ่งในสังคมใหญ่
ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยกับความเป็นไปในสังคมใหญ่นี้
ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามสิ่งที่มันเกิดขึ้น
เคยได้ยินได้ฟังนิทานเรื่องปลาดาวหรือเปล่า
เราว่าบางทีมันก็เป็นเพียงนิทานที่คอยปลอมประโลม
หัวใจของใครบ้างคนเท่านั้นเอง
โดยคุณ :มือใหม่หัดโพส - [15:25:03  9 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 4
"เคยได้ยินได้ฟังนิทานเรื่องปลาดาวหรือเปล่า"

ไม่เคยค่ะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ อยากฟัง
โดยคุณ :ดุ๊ก - [20:20:31  9 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 5
ไม่เคยฟังนิทานเรื่องปลาดาวเช่นกัน
อยากฟังเหมือนกันคะ...
โดยคุณ :เด็กน้อยไม่ยอมเรียน - [9:09:44  10 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 6
ขอนิทานปลาดาวด้วยค่ะ
โดยคุณ :marmalade - [11:01:24  10 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 7
ไม่รู้ว่าจะใช่เรื่องเดียวกันหรือเปล่านะคะ....เรื่องมีอยู่ว่า
 ยามเช้า  ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง หลังจากที่เกิดพายุหนักเมื่อคืนนี้
ใครคนนึงเดินเล่นทอดน่องมาเรื่อย ๆ   ......... จนเมื่อเดินมาถึง
หาดทราย   ภาพที่เห็น..คือปลาดาวนับร้อย นับพัน นับหมื่น
หรืออาจ นับแสนเลยทีเดียว   อาจเป็นเพราะพายุที่เกิดผ่านไป
ได้พัดหอบเข้าเหล่าปลาดาวทั้งหลาย ขึ้นมาเกยหาดเช่นนี้
แสงแดดแรงขึ้นทุกขณะ ..... หากเจ้าปลาดาวทั้งหลาย ยังนอนอาบ
แดดอย่างนี้ต่อไป...... คงต้องตายเป็นแน่  
 ว่าแล้ว...ใครคนนั้น ก็บรรจงก้มลงเก็บปลาวดาว  ทีละตัว  ทีละตัว
......ทีละตัว   และ.......ทีละตัว  โยนกลับลงทะเลไป
โดยคุณ :ปลาดาวผู้ถูกทอดทิ้ง.... - [12:26:43  10 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 8
ทีละตัว ทีละตัว....ได้กลับไปแหวกว่ายชื่นใจในสายน้ำ
ขณะที่ ยังมีอีก....มากมายเหลือเกินที่รอว่า เมื่อใด  
จะได้กลับลงสู่น้ำทะเลได้อีกเล่า.........ต่างก็เฝ้ารอ
  แต่จะอย่างไรก็ตาม  ใครคนนั้น..ก็ยังก้มลงเก็บปลาดาวต่อไป
................
  ใครหลายคน เดินผ่านมาเห็นภาพนี้เข้า  ภาพที่ใครคนหนึ่ง
เก็บปลาดาวโยนลงทะเล  ทีละตัว ทีละตัว  
  ใครหลายคนนั้น พากันหัวเราะเยาะ  พร้อมกับบอกใครคนหนึ่ง
นั้นว่า   ...... "จะมีประโยชน์อะไรเล่าที่จะเก็บปลาโยนลงทะเลไป
ในเมื่อยังมีปลาดาวอีกมากมายนัก เต็มหาดอย่างนี้   เธอเก็บได้ไม่
หมดหรอก............. !!!"
   ใครคนหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง  ......  พร้อมกับคำพูดลอดออกมา
จากปากว่า   "ฉันรู้...ว่าตัวฉันไม่สามารถทำให้ปลาดาวตัวสุดท้าย
กลับลงทะเลได้ทันขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่    ....  ฉันไม่ได้คิดถึงตรงนั้น
แต่มันสำคัญตรงปลาดาวตัวแรกที่ถูกหยิบขึ้นมาต่างหาก..... "
    "..........................."


   ก็เป็นอย่างนี้ ......ที่พอจะจำได้  อาจมีบางตอนที่ความทรงจำ
เลอะเลือน  หากไม่ถูกต้องอย่างไร ขออภัยด้วยนะคะ
   อารมณ์นี้ คิดได้อย่างนี้แหละค่ะ  .... "นิทานปลาดาว"  *
โดยคุณ :ปลาดาวตัวที่ 2 - [12:35:13  10 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 9
ใช่แล้วล่ะ
ที่เล่ามาคือนิทานปลาดาว
โดยคุณ :มือใหม่หัดโพส - [12:44:52  10 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 10
คนที่เดินมาเห็น เค้าพูดว่า "พยายามช่วยปลาดาวไปก้อไม่มีประโยชน์ มันเยอะเกินกว่าที่จะช่วยได้ทั้งหมด"
เด็กคนที่ก้มหน้าก้มตาเก็บปลาดาวโยนกลับลงทะเลยก้อเลยบอกว่า "แต่สำหรับปลาดาวตัวที่เค้าเก็บโยนกลับลงทะเลแล้ว มันมีประโยชน์มากที่สุดเลย"

ฟังนิทานเรื่องนี้แล้วก้อน่าประทับใจอยู่หรอก แต่เราว่านิทานเรื่องนี้ลืมอะไรไปอย่างนึงรึป่าว
ในนิทานเรื่องนี้มีคนที่ไม่ทำอะไรเลยกับปัญหาด้วยเหตุผลว่าทำอะไรไปก้อแก้ปัญหาไม่ได้ กับคนที่ก้มหน้าก้มตาแก้ไขปัญหาโดยไม่ทราบว่าได้วิเคราะห์ปัญหารึยัง
ถ้าเอามาเทียบกับเรื่องขอทาน คนที่สักแต่ให้เงินขอทานเพราะคิดว่าเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าไปก่อน ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แต่เคยศึกษาวิเคราะห์ปัญหาต่อมั๊ยว่า ขอทานบางคนเค้าเอาเปรียบสังคมอยู่รึป่าว ผู้ปกครองบางคนเอาลูกมาทำน่าสงสารขอทานเป็นการเอาเปรียบเด็กรึป่าว แย่กว่านั้น เด็กบางคนถึงกับถูกลักพาตัวไปขอทาน
ความจริงการโยนเศษเงินให้ขอทาน หรือให้เงินคนที่มาเรี่ยรายขอบริจาคมันง่ายมากเลยนะ เราไม่นับถือคนที่ทำแบบนั้นหรอก ถ้าจะทำทานกันจริงๆ มันต้องลงทุนลงแรงให้แน่ใจว่าคนที่สมควรได้รับการช่วยเหลือมันได้รับทานเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ ไม่ใช่ไปสนับสนุนให้ใครเอาเปรียบได้ประโยชน์โดยที่ไม่ควรได้เข้าไปอีก
เหมือนเด็กๆ ในเว็บเราเนี่ย ไปทำบุญโรงเรียนสอนคนตาบอด ไปเล่นกับน้องๆ กำพร้า แบบนี้น่านับถือน่าสนับสนุนมากๆ
โดยคุณ :ชายตาบอด -_- - [9:46:37  11 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 11
คิดเหมือนพี่ชายฯ

มัวเก็บปลาดาวอยู่คนเดียว ปลาดาวแห้งหมดหาดพอดี
ไปปลุกระดมคนมาช่วยกันเก็บ จะฉลาดกว่ามั้ย
โดยคุณ :ทีฯ - [12:16:41  12 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 12
อืมมม ถูกต้อง น้องเราฉลาดมากเลย
จะแก้ปัญหาทั้งที มันต้องทำให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล
ถ้าสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรสืบให้รู้ว่าปลาดาวตัวไหนควรได้รับความช่วยเหลือมากกว่ากัน เช่น ปลาดาวตัวที่เกยตื้นอยู่ด้วยกันแท้ๆ ยังรังแกปลาดาวตัวอื่นอีก แบบนี้ไม่ควรเสียเวลาช่วยมัน ปล่อยให้มันเกยตื้นต่อไป เอาเวลาไปช่วยตัวอื่นดีกว่า หรือปลาดาวตัวไหนพยามอีดนิดก้อถึงน้ำแล้ว ดันนอนซังกะตายอยู่ได้ อย่าไปช่วยมัน ถ้ามันไปไม่ถึงน้ำเองก้อปล่อยให้มันเกยตื้นต่อไป เป็นต้น
โดยคุณ :พี่ชายฯ -_- - [13:41:45  12 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 13
เกื้อหนุนกันจริงนะ สองคนข้างบนเนี่ย
โดยคุณ :picmee - [14:39:21  12 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 14
อืมม เห็นด้วยกับ picmee ด้วยคน
โดยคุณ :akejung - [15:02:45  12 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 15
ฝากน้องทีฯ ช่วยปลุกระดมอะไรที่มันยังค้างอยู่ทีนะ
โดยคุณ :จอมยุทธ์น้อย - [18:03:34  12 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 16
ก็ช่วยๆกันปลุกแหละพี่ท่าน..
ปลุกไป น้อยใจไป
แต่บางคนก็ช่วยอย่างขันแข็งเหลือเกิน
น่าสร้างอนุสาวรีย์ให้ยิ่งนัก
(เอาเป็นอนุสาวรีย์ปลาดาวพ่นน้ำดีไหม)


พี่ชายฯฮะ
บางทีมันดูยากเหมือนกันนะ ว่าปลาดาวตัวไหนควรได้รับความช่วยเหลือ
กองทุนเฉลียงรวยอื้อซ่า  ก็ด้วยเหตุผลนี้ ไม่รู้ว่าควรช่วยใครดีถึงคุ้มค่า

ปล. เห็นด้วยกับพี่เอก :P
โดยคุณ :ทีฯ - [0:52:04  14 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 17
เออ.. พี่ก้อว่างั้น ปลาดาวเลวๆ เดี๋ยวนี้มันก้อพัฒนาการมีแผนการทำเหมือนว่าเป็นปลาดาวดีๆ ที่น่าสงสารต้องการความช่วยเหลือสารพัด ตามไม่ทันเลยเนอะ
ก้อพยามเท่าที่ทำได้อ่ะนะ ถ้ามันยากไปก้อช่วยสุ่มๆ มันไปก่อน ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจมากกว่า ถ้าคิดว่าจะช่วยจริงๆ ถึงจะดูโดนหลอกโง่ๆ ไปหน่อย ก้อคงไม่ว่ากัน ดีกว่าไม่ช่วยอะไรเลยมัวแต่อ้างว่าวิเคราะห์ปัญหาอยู่
ปล. ไอ้สองคนข้างบนเรามันก้อเป็นปี่เป็นขลุ่ยเหมือนกันแหล่ะว๊า
ปล.2 เห็นด้วยกับ 3 คนข้างบน
โดยคุณ :ชายตาบอดเป็นขลุ่ย -_- - [8:24:38  14 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 18
ไม่ให้เงินขอทานเหมือนกัน เวลาไปจตุจักรนี่จะเห็นชัดมากว่าจัดฉากมา
บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าอาชีพแสดงละครขอเงินนี่ก็มีข้อดีเหมือนกัน น่าจะอนุรักษ์ไว้บ้าง
คนเราพื้นฐานชอบอยากเห็นสิ่งสวยงาม สิ่งที่พึงประสงค์พยายามจัดระเบียบ จัดฉากไปซะทุกอย่าง คนธรรมดาอยู่ที่นึง คนพิการก็ไปอยู่ที่นึง คนชรา คนป่วย ผู้ติดเชื้อเอดส์ เด็กกำพร้า ก็ไปอยู่เป็นที่ๆที่จัดไว้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาทนเห็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาอยู่ทุกวัน แล้วพอมีคนมาแสดงภาพอย่างนี้ให้เราดูเราก็ว่าเค้า หาว่าเค้าหากินกับความสงสารของมนุษย์ ความจิงจะมาเป็นขอทานก็ลงทุนเหมือนกัน ต้องใจกล้า (หน้าด้าน) มีอุปกรณ์ เครื่องเสียง เครื่องดนตรี แว่นตา ผ้ากอส เลือดปลอม สายยาง เยอะแยะมาก ทำกันเป็นระบบแน่นอน กว่าเค้าจะมานั่งแสดงภาพบางอย่างที่คอยเตือนเราให้ได้ระลึกถึงทุกข์อันแท้จริงบนโลกนี้ คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่เราทุกคนเลี่ยงไม่ได้ ได้เห็นภาพแบบนี้บ้างก็ดี เหมือนพระพุทธเจ้าเดิมเป็นเจ้าชายสิทธัตถะอยู่แต่ในวังเห็นแต่ของสวยงามก็คงไม่มีแรงบันดาลใจอยากหลุดพ้น จนกระทั่งหนีออกจากวังมาพบภาพเหล่านี้เข้า
พูดมาซะยาว เอาเข้าจิงๆ ก็ไม่ได้ให้ตังเค้าหรอก เพราะเห็นว่าคนอื่นให้เยอะแล้ว แต่ถึงไม่ได้ให้ก็แอบอยากให้มีขอทานอยู่ดีแฮะ
โดยคุณ :(0_0)m_อุ้ม - [22:57:02  15 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 19
นานมาแล้ว เคยเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ตาบอดข้างหนึ่ง
เอามือยัดไว้ในเสื้อยืดข้างหนึ่ง แต่แสดงให้เห็นว่ามีมือ ไม่ได้แกล้งทำแขนด้วน
นั่งขอทานบนสะพานลอยสามเหลี่ยมสามมุม หน้าซอยอารีย์
เนื้อตัวเสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรัง เราก็ให้ทานไปด้วยความสงสาร

อีกหลายวันต่อมา พบเขาอีกครั้ง ยังคงนั่งอยู่ที่สะพานเดิมแต่เปลี่ยนมุม
เอามือยัดไว้ในเสื้อยืดข้างหนึ่งเหมือนเดิม แต่แสดงให้เห็นว่ามีมือ ไม่ได้แกล้งทำแขนด้วน
เปลี่ยนเสื้อแล้ว แต่เลือดยังกรังเหมือนเดิม ดูจะสดกว่าเดิมเล็กน้อย
เลยถามว่า เป็นอะไรครับ ไปโดนอะไรมาครับ เจ็บไหม ไปหาหมอไหม
เขาก็ทำเสียงอึกอัก ร้อง อึ อึ หลบหน้าหลบตา ไม่อยากคุย
ก็ให้ทานไปอีก เพราะยังคงสงสารว่า ตาบอดแล้วยังพูดไม่ได้อีกด้วย

อีกหลายวันต่อมาอีก พบเขาอีกครั้ง ยังคงนั่งอยู่ที่สะพานเดิมแต่เปลี่ยนมุมเช่นเดิม
เปลี่ยนเสื้อแล้วเช่นเดิม แต่คราวนี้ไม่มีเลือดเช่นเดิม เอามือยัดไว้ในเสื้อยืดสองข้าง
รู้สึกเหมือนมือมันจับอะไร ทำอะไรกระดุกกระดิกอยู่ตรงตัก ตรงหว่างขา

คราวนี้รู้แล้วว่าเลือดมันมาจากไหนทุกวัน ไม่หมดตัวตายไปซะที
คราวนี้ไม่ให้ทาน แต่อยากเตะมัน เพราะได้ยินเสียงดัง อี๊ด อี๊ด ออกมาจากใต้เสื้อ
ตรงหว่างขามันนั่นแหละ

พี่ผู้หญิงที่เดินไปด้วยกันเขาขอไว้ แล้วก็โทรไปแจ้งตำรวจว่ามันจับลูกหมามาทรมาน
กว่าจะตายไม่รู้โดนเจาะกี่ครั้ง กี่วัน
ไม่รู้ว่ามันฆ่าลูกหมามาแล้วกี่ตัว

ไอ้ลูกหมาเอ๊ย
โดยคุณ :อัลลากาดิ้ว - [18:53:20  20 มี.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 20
เรื่องของขอทานคนนั้น ผมไม่ได้รู้สึกแย่หรอกครับ
แต่ผมว่าเราได้รู้ในมุมของ การใช้ชีวิตเพื่ออยู่รอดของสังคมสมัยนี้
คนเราต้องหาทางออกเพื่อตัวเอง ไม่ทางใดทางหนึ่ง
เค้าก็คือคนที่พยายาม ใช้ชีวิตในสังคมของมนุษย์ที่ใช้กันอยู่
โดยคุณ :Gong - [8:48:16  27 พ.ค. 2549]

ความคิดเห็นที่ 21
ผมหมายถึงขอทานด้านบนกระทู้นะ

แต่ไอ้ขอทานที่ทรมานลูกหมา ขอให้ไปตายไป
โดยคุณ :Gong - [9:06:29  27 พ.ค. 2549]

ความคิดเห็นที่ 22
มันก้อเป็นเรื่องแปลกดีนะ
โดยคุณ :....................... - [13:41:48  11 ก.พ. 2550]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....