อะไรอะไรก็เฉลียง จะมาเฉลียงอะไรกันนักกันหนา หือ
เธอกับฉัน กับคนอื่นๆ ในโลกนี้
มันเหมือนมี ทางรถไฟ พาไปถึง
หลับที ก็ อยากมีหมอน นอนคำนึง
นอนคิดถึง นอนหาฝัน นอนตบยุง
เที่ยวละไม ไท่ละเมียว ท่องเที่ยวป่า
เจอฝูงหมา ใยแมงมุม เส้นใสใส
เจอน้ำหวาน ในดอกไม้ ดื่มชื่นใจ
วณิพก เจ้าคือใคร ก็ฉันเอง
สะดุดหิน ล้มหัวทิ่ม จิ้มลงบ่อ
พอเงยคอ ก็เจอปรา กฏการณ์ฝน
ถ้าโลกนี้มีเราเพียงสองคน
ที่นี่คง เป็นที่ถูก โฉลกเธอ
นึกถึงต้น ชบากับ คนตาบอด
ดอกมะลิ ดอกพุดซ้อน ดอกไหนไหน
ก็ไม่อาจ ทำให้เธอ ได้เข้าใจ
ถึงหัวใจ คนอย่างฉัน คนดนตรี
รู้สึกสบายดี ทุกวันที่ มีเธออยู่
เธอชอบดู เทวดา ตกสวรรค์
ดูดูไป เธอก็กิน กล้วยไข่พลัน
แล้วก็ยัง กล้วยอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ฉันชอบ ดูคุณยาย กายสิทธิ์
และชอบดู นายแพทย์ส- -นุกสนาน
เพราะดูแล้ว โล่งเหมือนเรา แบ-กบาล
แต่สรุป เราสำราญ ไม่ต่างกัน
อ้ออย่าลืม บอกน้องเธอ ให้เก็บใจ
ถ้าอยากได้ รักออมซอม อย่ารีบหนา
รักง่ายๆ ช้ำง่ายๆ เราเคยมา
เย็นไว้หนา เย็นเถิดใจ เย็นน้องชาย
โลกกลมๆ ทำให้เรา มาเจอกัน
ไม่คิดถาม แต่แปลกใจ ไม่เคยหาย
ยังมีคน ให้เรารัก อีกมากมาย
เรื่องตลก ก็ทำไม ต้องเป็นเธอ
กุ๊กไก่คือ ชื่อของเธอ เธอไม่ชอบ
แม่เธอบอก ตั้งชื่อตอน พ่อกล่อมลูก
ฉันอยากจะ ฝากเอาไว้ เผื่ออยากรู้
ฉันว่าชื่อ กุ๊กไก่นั้น น่ารักดี
อยู่ที่ใคร อยากอยู่ไหน ใครกำหนด
เล็กชิ้นสด ตะไคร่น้ำ สุดขอบฟ้า
ตามกันไป กว่าจะถึง พรุ่งนี้นา
เหนื่อยหนักหนา ล้มตัวนอน ตากพัดลม
เขาบอกว่า ว่าโลกา โคม่าแล้ว
จงเข้าแถว ฝันให้ไกล ไปให้ถึง
แต่ละคน ทำตัวเป็น อิฐก้อนหนึ่ง
โลกนี้จึง อยู่ได้รอด สวัสดี
ถึงคนเรา จะไม่รัก แต่คิดถึง
แม้คนหนึ่ง จะมัวย้ำ คิดย้ำฝัน
แล้วคนอื่น ก็เดินทาง ใครทางมัน
เรื่องราวบน แผ่นไม้นั้น เขียนต่อไป. โดยคุณ :
ลูกสาวอดีตหัวหน้าวงรำไทย - [13:15:23 22 ธ.ค. 2543] |