กระดานความรู้สึก


+ + + + เรื่องของมาลี + + + +

.....................................................................


ชายร่างสูงโปร่งที่กำลังยืนเลือกซื้อของในแผนกเสื้อผ้าเด็กนั่น ดูคุ้นตาดิฉันเหลือเกิน ดิฉันพยายามนึกทบทวนอยู่หลายรอบ เดินวนไปมาก็หลายหน

...ใจก็พยายามนึก....

ดิฉันเคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ที่ไหนกันนะ

แต่จนแล้วจนรอด ดิฉันก็ยังนึกไม่ออก  เวลาผ่านไปซักพัก ชายคนนั้นก็หันกลับมา

...ใช่แล้ว ใช่แน่ ๆ .....

ยิ่งเห็นหน้าดิฉันยิ่งมั่นใจ ว่าดิฉันรู้จักเขา แต่รู้จักที่ไหน และเมื่อไหร่ นี่สิคือปัญหา

แล้วปริศนากลางห้างสรรพสินค้า ก็กระจ่างขึ้น

“..นั่นมาลีหรือเปล่า...”   เขาทักดิฉันอย่างเป็นกันเอง

“..เฮ้ย...”  ดิฉันกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี

“วรพงศ์...วรพงศ์ใช่มั้ย”  ดิฉันเรียกชื่อของเขาออกมาอย่างลืมตัว  

ดิฉันจำเขาได้แล้ว

วรพงศ์ คือเพื่อนของดิฉันตั้งแต่สมัยอนุบาลสอง  แต่เป็นเพื่อนแบบที่ดิฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเราสนิทกันหรือเปล่า เพราะวรพงศ์ชอบแกล้งดิฉันอยู่เสมอ

ตอนเข้าแถวเข้าห้องเรียน วรพงศ์จะเอามือมาดึงหางเปียของดิฉันไปผูกกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง แล้วก็แอบหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ

บางวันก็เอารองเท้านักเรียนของดิฉันไปซ่อน แล้วก็ลืมเอามาคืน จนดิฉันต้องเดินเท้าเปล่ากลับบ้าน

สิ่งที่วรพงศ์ทำทั้งหมด ส่งผลให้เพี่อน ๆ ในชั้นอนุบาลสองของเราในขณะนั้น ลงความเห็นว่า วรพงศ์คงแอบชอบดิฉันอยู่

...แล้วก็ล้อว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน...

มาลี - วรพงศ์  สองชื่อนี้เลยกลายเป็นชื่อที่ติดหูของเพื่อน ๆ ในห้องมาตั้งแต่ตอนนั้น

ไม่แพ้ สมบัติ- อรัญญา หรือ สรพงศ์-จารุณี เลยทีเดียว

และถึงเขาจะแกล้งดิฉันขนาดไหน ดิฉันก็ไม่เคยโกรธ

แต่ในใจลึก ๆ กลับรู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก

ดังนั้น ทุกครั้งที่ถูกล้อว่าเป็นแฟนกัน  ดิฉันได้แต่ยิ้มขวยเขิน หน้าแดง เอามือหมุนหางเปียไปมา แล้วก็วิ่งหนีไปหาอะไรกินแถว ๆ โรงอาหารเป็นประจำทุกครั้ง

“..ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ ว่าเราจะได้มาเจอกันอีก..”  ดิฉันเริ่มบทสนทนา หลังจากที่ทบทวนความทรงจำได้แล้ว

“ใช่...ใช่ บังเอิญมากเลย”  เขายิ้มเห็นฟันขาว  จนดิฉันเริ่มหวั่นไหว

“ว่าแต่ยังโกรธผมไหมอ่ะ มาลี ที่เคยแกล้งเมื่อตอนเด็กๆ”    เขาทำหน้าเหมือนสำนึกผิด

ดิฉันส่ายหัว จนผมกระจาย

“ไม่เคย ไม่เคยโกรธเลย”  ดิฉันรีบตอบ  ความรู้สึกดี ๆ เมื่อครั้งเก่าก่อนก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง

แล้วเราก็นั่งมองหน้ากันไปมา สลับกับการพูดคุยเป็นระยะ ๆ  หัวข้อที่พูดคุยมีตั้งแต่ อาหารปลอดสารพิษ ปัญหาเด็กจรจัด  ไปจนถึงเรื่องความสัมพันธ์ระดับประเทศ  แต่เรื่องเดียวที่เราทั้งคู่ไม่กล้าจะถามกัน ก็คือ

...เอ้อ...เอ้อ...  แบบว่า มีแฟนกันหรือยังนะ

เหมือนเขาจะรู้ว่าดิฉันคิดอะไรอยู่

“มาลี วันนี้ผมคงต้องรีบกลับแล้วล่ะ”  เขาทำท่าเหมือนจะลุกขึ้น

ดิฉันหน้าเปลี่ยนสี  ใจยังคงอยากถามถึงความเป็นไป

“ผมเป็นห่วงลูกน่ะ”  สิ้นคำที่เขาพูด ดิฉันถึงกับใจสั่น สองมือบีบเข้าหากันอย่างลืมตัว

“..ลูกผมสองขวบแล้ว..” เขายังคงพูดไปเรื่อย ๆ แต่ก้มหน้านิ่ง

ดิฉันซึมไปทันทีที่รู้ความจริง  แม้จะรู้ว่า ก็เราเป็นเพียงเพื่อนกัน แต่ดิฉันก็อดใจหายไม่ได้

“เอ้อ...แล้วมาลีล่ะ  มีแฟนหรือยัง”  เขายังมีแก่ใจถามถึงความเป็นไปของดิฉัน

ดิฉันเชิดหน้า ทำท่ารักษาฟอร์มสุดชีวิต

“มีแล้ว เรามีแล้ว”  เสียงของดิฉันขาดหายไปเป็นห้วง ๆ

เขาอมยิ้ม เหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับคำตอบของดิฉันแม้แต่นิดเดียว

“..ลูกวรพงศ์คงน่ารักนะ ป่านนี้คงจะเดินได้แล้วล่ะสิ...”  ดิฉันถามออกไปอย่างรักษามารยาท ไม่อยากให้เขารู้ว่าดิฉันรู้สึกอย่างไร

“อือ...วิ่งทั้งวันเลย”  เขาตอบอย่างใจเย็น นั่นยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกแปลบ ๆ ที่ในใจอย่างบอกไม่ถูก

“วรพงศ์กลับไปเถอะ...เดี๋ยวลูกจะรอ”  ดิฉันรีบตัดบท เพราะรู้ตัวดีว่า ถ้ายังนั่งประวิงเวลาอยู่อย่างนี้ ดิฉันอาจจะต้องร้องไห้โฮ ๆ เหมือนนางเอกมิวสิควีดีโอก็เป็นได้

“..มาลี...”  เขาเรียกดิฉัน

“ อยากรู้ไหมว่าลูกผมชื่ออะไร” เขาถามเสียงทุ้ม นุ่ม

“ชื่ออะไรเหรอ” ดิฉันกลั้นใจถามกลับไป

“ชื่อ..มาลี..”  เขาตอบกลับมา ย้ำอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ผมตั้งชื่อลูกตามชื่อมาลีเลยนะ  เอ่อ  ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ผมอยากให้ลูกผมใช้ชื่อนี้”  เขาพูดเสียงเบา ๆ แต่นั่นมันทำให้ดิฉันยิ่งอ่อนแอขนาดหนัก น้ำตาเริ่มปริ่มอยู่ที่ขอบตา

...ดิฉันเบือนหน้าหนี  ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว....

“ลูกผมรออยู่ที่รถ มาลีไปดูด้วยกันไหม” เขาเอ่ยปากชวน

ดิฉันแทบจะวิ่งหนีออกไปให้พ้นจากที่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เป็นไปได้ขนาดนี้แม้จะไม่อยากไปเห็นความจริง แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว  พยักหน้าและเดินตามเขาไปที่ลานจอดรถ

...ลูกของเขารออยู่ที่นั่นจริง ๆ ....

ลูกของเขาหน้าตาน่ารัก

ลูกของเขาใส่เสื้อผ้าเด็กสีชมพูสดใส

ลูกของเขาดวงตาขี้เล่น

ลูกของเขามีขนปุกปุย


...และที่สำคัญ...


ลูกของเขาเห่าได้ด้วย !!


“..มาลี มาลี...”  เขาตบมือเรียก


“..มานี่..มามะ มามะ ...มาหาพ่อมา..”  เขายังคงตบมือเรียกลูกของเขา และหันมายิ้มให้ดิฉันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  


ภาพความทรงจำเมื่อครั้งอนุบาลสองผุดขึ้นมาอีกครั้ง


...วรพงศ์...วรพงศ์.....


ชื่อนี้ไม่เคยเปลี่ยนไป


..เขายังคงเป็นวรพงศ์คนเดิมสำหรับดิฉันจริง ๆ ....


.........................................................................

โดยคุณ : ชมพูพันธุ์ทิพย์ - [11:25:46  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 1
กรี๊ด ๆ ๆ ๆ ชอบ ๆ ๆ ๆ


แฟนฉ้าน แฟนฉ้าน
โดยคุณ :ป.ฟ. - [12:23:26  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 2
เหมือนหัวใจได้นั่งไทม์ แมชชีนเลยพี่ ^_^
โดยคุณ :แต้ว - [12:29:31  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 3
น่ารักจังเลย!!!!!!!
โดยคุณ :chindo - [13:29:34  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 4
...คิดถึงแฟนเก่า...
โดยคุณ :ลี้น้อย - [14:23:56  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 5
เกือบเลิกอ่านกลางคันแล้ว
ดีนะที่อ่านจนจบ

ก๊ากๆๆๆๆๆ
โดยคุณ :เด็กน้อยไม่ยอมเรียน - [15:56:33  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 6
แหมมมมมมมมมม มันน่านัก
โดยคุณ :ไม่เคยคิดถาม - [20:05:06  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 7
น่ารักดีนะคะ

สมัยเด็ก ๆ เคยมีความหลัง

อยากเปลี่ยนชื่อเป็น มานี

ไม่รู้คิดได้ไง....

แต่มีความรู้สึกว่ามันเท่ห์มาก















โดยคุณ :บี..เฉย..เฉย - [21:48:14  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 8
:)
โดยคุณ :หมีสมองฯ - [22:55:23  29 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 9
picmee ก็เอาชื่อ พี่ชายสุดที่รัก (project คนแรก) ไปตั้งชื่อหมาที่บ้านเหมือนกัน

...นังบะหมี่...
โดยคุณ :picmee - [8:34:45  30 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 10
เรื่องนี้คล้ายๆๆกันเลย
ของจอยเราโดนเพื่อนล้อตอนป.4
เค้าเป็นคนขี้อายต่อหน้าเพื่อนๆๆบอกว่าไม่ชอบเรา
แต่ก็พยายามที่จะเข้าใกล้เราตลอด
เลยไม่รู้ว่าคิดยังไงกันแน่จนจบป.6
จอยมาเรียนกทม. แล้วก็ไม่ได้ข่าวเค้าอีกเลย
จนตอนนี้เรียนจบแล้วเค้ามีนัดเพื่อนประถมกันที่กทม.
เค้ามาขอจอยเป็นแฟนเค้าบอกว่า
10 ปีที่ผ่านมาเค้ายังไม่เคยจีบใครเลย
เค้าขอโทษที่ทำให้จอยอายเพื่อนๆๆสมัยเด็กๆๆ
เค้าบอกว่าเค้าชอบจริงๆๆนะ รอมานานแล้วด้วย
ช่วงนี้ก็ติดต่อกันมาตลอด เดี๋ยวศุกร์นี้เราจะไปดู
" แฟนฉัน  "ด้วยกันไม่รู้จะสนุกรึป่าว
เขินจังแต่เรื่องจริงนะนี่
โดยคุณ :ยาวันต์ - [9:30:16  30 ก.ย. 2546]

ความคิดเห็นที่ 11
มาลี
แนะนำให้จีบเค้าด่วน
โดยคุณ :วิทยา ณ บางรัก - [15:45:54  1 ต.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 12
.
โดยคุณ :พญาเสือโคร่ง - [16:48:52  1 ต.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 13
น่ารักจังแต่ก็พอเดาออกแต่ต้นเหมือนกันนะ แต่พอมากลาวงๆก็ชักหวั่นๆเศร้าไปพร้อมกับมาลีเลย น่าจะมีเป็นนิยายเรื่องยาวเลยนะ รับรองว่าซื้ออ่านแน่นอน
ชอบๆ  
เรื่องของคุณจอย ยาวันต์ ก็น่ารักมากๆเลยค่ะ เรื่องที่มันเหมือนจะเป็นไปได้ยากแต่มันก็มีได้จริงๆเหมือนกันนะค่ะ
โดยคุณ :1 - [20:53:14  1 ต.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 14
อ่านไปก็อมยิ้มไป เศร้าไป แล้วก็อมยิ้มอีกครั้งตอนจบ
อมยิ้มสุดๆตอน ของคุณจอย ยาวันต์
น่ารักค่ะ
โดยคุณ :0 - [20:57:46  1 ต.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 15
น่ารักมาก มากกกกก
โดยคุณ :วีร์ - [2:42:36  4 ต.ค. 2546]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....