กระดานความรู้สึก


###ฝากเอาไว้...ช่วยบอกสายรถเมล์แก่คนตาบอด..###
ขอเลียนแบบรูปแบบหัวข้อของคุณชบาชูช่อนะคะ
จริงๆ เรามาเริ่มวัฒนธรรม "ฝากเอาไว้" ดีไหมคะ
พวกเราจะได้มีอะไรทำยามไม่เจอกัน
.......
เมื่อค่ำๆ ของวันนี้...
เรากำลังเดินเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่หน้ามหาวิทยาลัย
ระหว่างที่เดินอยู่เรามองเห็นรถเมล์เป้าหมายกำลังมาแต่ไกล...
และเราก็อยู่ไกลจากป้ายรถเมล์มากเอาการ
วิ่ง...ค่ะ...วิ่งเท่านั้น
ขณะนั้นเราพุ่งจุดสนใจไปที่ประตูรถเมล์เท่านั้น
ไม่ได้สนใจสิ่งใดใดรอบข้าง
รถเมล์จอด...
เราก็จวนเจียนจะถึงอยู่แล้ว
...
ทันใดนั้นเองเราก็ได้ยินเสียงหนึ่ง
"สายอะไรครับ..."
เพราะเราสนใจกับรถเมล์มากเกินไป
แวบแรกจึงไม่สนใจเสียงใดใดที่เข้าหู
..........
แต่ผ่านไปสักหลายหลายวินาที
...เอ๊ะ
'คำถามแบบนี้มักเป็นคนตาบอดถามนะ'
...เอ๊ะ
'แล้วทำไมยังไม่มีใครตอบล่ะ'
เราก็เลยหันไปมองต้นทางของเสียงนั้น (พร้อมทั้งวิ่งอยู่นะ)
เป็นคนตาบอดจริงๆ ด้วยค่ะ ผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคน
เราเลยรีบบอกเขาว่า "สายสามสิบค่ะ" (พร้อมทั้งวิ่งอยู่นะ)
"ขอบคุณครับ"
คนตาบอดเอ่ยขึ้นและยืนเฉยๆ
เขาไม่ได้ต้องการขึ้นรถคันนี้
แล้วเราก็ขึ้นรถเมล์คันนั้นมา
(ขณะก้าวขึ้นรถเมล์คุณคนตาบอดคนนั้นยังกล่าวอีกว่า "ขอบใจนะจ๊ะ" เราก็ตะโกนตอบด้วยเสียงอันดังว่า "ไม่เป็นไรค่ะ")
....
ระหว่างทางกลับบ้าน
ใจหนึ่งรู้สึก "เอมใจ"
แต่อีกใจหนึ่งก็คิดสงสัยว่า ทำไมถึงไม่มีใครเอ่ยตอบเขาสักคนก่อนหน้าที่เราจะเอ่ยตอบไป
...
จะว่าไม่มีคนก็ไม่ใช่
ที่ป้ายรถมี 7-8 คน บนรถเมล์นับไม่ถ้วน
จะว่าเสียงเบา ไม่มีใครได้ยิน ก็ไม่น่าใช่
เราอยู่ห่างจากทุกคนแถวนั้น ยังได้ยิน
......
คำตอบเดียวที่บอกได้ "จิตสำนึก" ค่ะ
หลายคนเที่ยวพร่ำบอกว่าไม่มีทุนทรัพย์มากพอที่จะเจือจานคนอื่น...ไม่ว่ากันค่ะ
แต่การให้ด้วยแรงกายแรงใจไม่ต้องรอเวลาใดใดค่ะ
...
อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวเฉลียง
ช่วยกันปลูกสร้างจิตอันงามให้กับลูก หลาน น้อง เด็กเล็กๆ ที่อยู่ข้างกาย
ช่วยกันนะคะ...
100 ชาวเฉลียง บอกต่อ 100 ลูกหลานของชาวเฉลียง
100 ลูกหลานของชาวเฉลียง บอกต่อ 100 เหลนของชาวเฉลียง
...ฯลฯ...
สักวันเราคงได้โลกที่เราฝันไว้ในมือนะคะ
โดยคุณ : น้ำกะฟ้า - [0:06:08  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
รับทราบและจะปฏิบัติตามครับผม
โดยคุณ :engineer man - [0:17:34  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
เก็บค่าลิขสิทธิ์ 10 บาท ! กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่พอดี :P
ดีแล้ว ช่วยๆกันคนละไม้ คนละมือ คนละแขน สองแขน คนละตาสองตา คนละ..อะไรต่อดี
โดยคุณ :ชบาชูช่อ - [0:46:18  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือ
เอมใจเหมือนกัน
เท่านี้แหละที่อยากได้ คือน้ำใจ ไม่ใช่ความเวทนาสงสาร
(เราว่าเลิกมองคนพิการแบบเวทนาสงสารกันเถอะ ถึงจะตาบอดเค้าก้อสัมผัสได้ และเราเข้าใจว่ามันเป็นความรู้สึกที่แย่มากเลย
แทนที่จะมัวมอง เราแสดงน้ำใจออกมาให้เห็น ๆ กันไปเลยดีกว่า... นิ)
โดยคุณ :ชายตาบอด -_- - [7:41:22  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 4
เห็นด้วยกับชายตาบอดค่ะ
เรามองคนพิการเป็นแบบเวทนาสงสาร
ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลย
เขาเพียงต้องการให้เราช่วยเหลือในสิ่งที่เขาทำไม่ได้
อย่างพาข้ามถนนหรือขึ้นรถเมล์เราก็แตะแขนนำเขาไปก็เยี่ยมมากแล้วนะคะ
ครั้งนึงเราเห็นชายตาบอด(ไม่ใช่คนข้างบนนะคะ: ))กำลังจะข้ามถนนที่อนุสาวรีย์ซึ่งรถเยอะมาก
เราออกไปบอกเค้าเลยว่ารถเยอะมากเลยนะคะ ข้ามไม่ได้หรอกจะไปไหนเหรอคะ
เค้าก็บอกแหล่งที่เขาจะไป
เราเลยรู้ว่าที่เขายืนอยู่น่ะถูกแล้ว จะข้ามไปที่ฝั่งเกาะกลางอนุสาวรีย์ทำไม
เราก็เลยบอกให้ลุงเขารอรถเมล์อยู่ตรงที่เดิม
พอรถเมล์มาก็บอกเค้าแล้วแตะแขนพาไปที่ประตูรถ
เพียงแค่นี้ก็ได้ความรู้สึกอิ่มเอมใจที่เราไม่สามารถ
ไปหาซื้อได้ที่ไหนแล้วค่ะ
เมื่อก่อนยอมรับว่ามีรู้สึกอายบ้างเพราะตกเป็นเป้าสายตา
ตอนนี้ก็คิดเสียว่าเขามองด้วยความชื่นชม.....ละกันเนอะ ^_^
โดยคุณ :ป้วนเปี้ยน - [9:52:23  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 5
น่ารักจริงๆค่ะ แล้วจะบอกต่อๆกันไปค่ะ
โดยคุณ :ปลายฟ้า - [12:01:06  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 6
^_^
สัญญาว่าจะทำแต่ความดีโดยไม่อายใครค่ะ
โดยคุณ :MaaMod Noi - [12:31:01  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 7
หนูเคยถามทางกับคนตาบอดด้วยแหละ
ไม่ใช่อยากลองของอะไรนะคะ
แต่แถวนั้นไม่มีใครเลยจริงๆ

เขารู้ทางกว่าคนตาดีอย่างหนูอีก :)
โดยคุณ :ทีหัว - [13:21:14  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 8
รับฝากครับ

@^o^@
โดยคุณ :นายละเมอ เพ้อพก - [21:27:19  10 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 9
ขอเพิ่มอีกอย่างครับ...
เคยเห็นคนตาบอดคนนึงกำลังจะขึ้นรถเมล์ แกก็หาราวข้างประตูไม่เจอ ต้องควานหากันวุ่น ไหนจะต้องถือไม้เท้ากะแผงล๊อตเตอรี่อีก ดูแล้วทุลักทุเลมาก ช่วยพาแกขึ้นกันด้วยก็ดีนะครับ
โดยคุณ :คนที่คุณก็รู้ว่าใคร - [13:21:05  11 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 10
เรื่องแบบนี้ บางทีต้องใช้การเสียวละอย่างสูงนะ
picmee เคยเจอตอนเรียนอยู่ เขามาถมหารถเมล์สาย AA เนี่ย มาหรือยัง
เราจะทิ้งเขาไปก็กระไร กลัวไม่มีใครมาช่วยเขาอีก เลยยืนรอเป็นเพื่อนเขา พร้อมกับมองตาละห้อย หูตูบ น้ำลายตกมองรถเมล์ของเราผ่านไปทีละคัน ทีละคัน (มันก็ไม่ได้มาง่ายๆนะ) พอรถเขามาก็ให้เขาเกาะศอกพาเขาและเมียไปขึ้นรถ
อิ่มเอมเหมือนกัน แต่ก็ไปเรียน sec เช้าไม่ทันไปเลย.....(อันนี้อิ่มเอมกว่า)
อ้อ เดี๋ยวใน Meeting ครั้งต่อๆ ไป บอกได้เลยว่าเราจะไปลงที่โรงเรียนสอนคนตาบอดนะ พวกเราเองจะต้องเข้าคอร์สการดูแลคนตาบอดด้วย.....อย่างเรื่องนำทางคนตาบอดนี่ไง ไม่ใช่ลากๆ จูงๆ พลักๆ ได้เฉยๆ นี่นา
:D
โดยคุณ :picmee - [2:46:40  12 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 11
เราเองไม่ใช่คนกรุงเทพ แต่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ นานสำหรับเรา เราก้อมองแบบเด็กต่างจังหวัดมองคนกรุงเทพแหละ ว่าจะรีบไปไหน(วะ) ทำไมไม่สนใจมองคนรอบข้างบ้างเลย บางอารมณ์เราเข้าใจนะ แต่บางทีเราเห็นอะไรที่มันเกิน...ไป จิงๆ น้ำใจหายไปไหนหมด เราเลยทนอยู่ไม่ไหว เราแพ้สังคม แบบนั้น กลับมาอยู่เชียงใหม่อุ่นใจกว่าแยะเลย พูดงี้เด็กเทพ ทั้งหลาย คนกำลังสรรเสริญเราในใจสินะ เฮ้อ........ แต่ขอบอกว่าเราก้อเข้าใจในบางเหตุผล (ที่มันสมผลน่ะนะ)
โดยคุณ :โอ๊ตจ้า - [8:36:17  12 ก.พ. 2544]

ความคิดเห็นที่ 12
ขอปรบมือดังๆให้คนดีของสังคมอย่างคุณน้ำกับฟ้าและคุณป้วนเปี้ยนด้วยคนนะคะ มีข่าวมาประชาสัมพันธ์ด้วยนะคะ ที่มูลนิธิคนตาบอดรับสมัครอาสาสมัครให้คนตาบอดฟัง ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจลองไปสมครดูนะคะ หรือลองโทรไปถามรายละเอียดได้ที่02-2476031 ขอให้ได้บุญกันถ้วนหน้านะคะ ด้วยความปรารถนาดี
โดยคุณ :IQ20 - [11:50:27  16 ก.พ. 2544]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....