ความคิดเห็นที่ 14
อ่านนี่ก่อนดีกว่า ชื่อเรื่อง 'เขียนให้พี่จุ้ย' โดยคุณลุง(หรือพี่?)ชาติ กอบจิตติ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารสีสัน ปีที่ ๑๑ ฉบับที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๒
ตอนหลังเอามารวมเล่มในชื่อหนังสือ "เปลญวนใต้ต้นนุ่น"
คัดมาทุกตัวอักษร ความว่า
เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนเป็นตัวหนังสือลำบาก
คือถ้าเขียนออกมาไม่ดีแล้วจะพลอยเสียหายกันไปหมด (รวมถึงพี่จุ้ยที่ผม
กำลังจะเขียนถึงด้วย) นับว่าเป็นเรื่องเสี่ยงพอสมควรกับอาชีพของผม
แต่ถึงจะเสี่ยงอย่างไรก็จำเป็นต้องเขียน เพราะผมรับปากกับพี่จุ้ยไว้แล้ว
ว่าจะเขียนเรื่องนี้ออกสู่สาธารณชนให้อ่านกัน
และต้องบอกพี่จุ้ยไว้ตรงนี้เลยว่า
ถ้าหากผมเขียนออกมาแล้วทำให้พี่ต้องเสียคนละก็ อย่ามาว่าผม
ผมบอกแล้วว่าเรื่องอย่างนี้มันเขียนยาก
ที่หมู่บ้านใกล้บ้านที่ผมอยู่ คงไม่ต้องบอกชื่อหรอกครับว่าหมู่บ้านอะไร
มีโรงเรียนประจำหมู่บ้านอยู่โรงเรียนหนึ่ง
วันหนึ่งผมมานั่งคิดว่า นอกจากร่วมกินหล้ากับชาวบ้านเป็นประจำแล้ว
ผมน่าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์กับหมู่บ้านบ้าง นั่งคิด นอนคิดดู
ผมจึงตัดสินใจไปสอนหนังสือเด็ก ๆ ผมไปสอนวิชาการเขียนและการอ่าน
(เป็นวิชาเสริม) เพราะเป็นวิชาเดียวที่ผมรู้
ขณะที่ผมไปโรงเรียน ผมก็สังเกตเด็ก ๆ ไปด้วย อาจเป็นด้วยความหิว
ไม่อาจซ่อนเร้นหรืออย่างไรไม่ทราบ ผมจึงสังเกตเห็นเด็กบางคนหิว
.........เด็กบอกผมว่า ไม่ได้กินข้าวกลางวัน...........
ผมจึงถามครูใหญ่ว่า ทำไมเด็ก ๆ จึงไม่ได้กินข้าวกลางวัน ทั้ง ๆ ที่โรงเรียนนี้
มีโครงการอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียน (เป็นงบประมาณของทางราชการ)
ครูใหญ่บอกผมว่า งบประมาณของราชการนั้นเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งเราก็คง
ทราบกันดี คือมาไม่ตรงเวลา เด็กเปิดเทอมไปจวนจะปิดอยู่แล้ว
งบฯ ก็ยังไม่ตกมา (แต่มิใช่ว่าจะไม่มา)
ผมหารือกับครูใหญ่ว่า เราน่าจะหาเงินสักก้อนมาเป็นกองทุนสำรองจ่าย
เพื่อเด็ก ๆ จะได้มีอาหารกลางวันกินทุกวัน เมื่องบประมาณราชการตกมาถึง
ก็นำเงินมาคืนกองทุนสำรองจ่าย ครูใหญ่เห็นดีด้วย แต่ติดที่ว่า
ลำพังชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว
คงเป็นเรื่องลำบากที่จะจัดหาเงินกองทุน
ด้วยความที่เป็นคน 'ชอบเสือก' ของผม ผมจึงอาสาจะหาทุนก้อนนี้มาให้
คิดในตอนนั้นว่าน่าจะอาศัยพี่ ๆ น้อง ๆ และเพื่อนฝูงในแวดวงที่ผมรู้จัก
คงจะพอช่วยกันได้
ผมจึงเริ่มออกปากกับเพื่อนฝูงพี่น้องที่คิดว่าพอมีเหลือเฟือฟาย พอจะแบ่งปัน
ให้คนที่ขาดแคลนได้ ทุกคนที่ผมเอ่ยปากต่างตอบรับมาด้วยดี ในจำนวนนี้
มีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งบอกกับผมว่า จะลองคุยกับ "กองทุนเฉลียง" ดู
ผมเองไม่เคยรู้หรอกว่าวงดนตรีเฉลียงมีกองทุนช่วยเหลือสังคมอยู่ด้วย
นึกตามประสาแบบทุนนิยมเต็มตัวทั่ว ๆ ไปว่า เรื่องอะไรเขาจะเอาเงิน
ที่หามาได้มาแจกจ่ายให้คนอื่นที่ไม่รู้จัก สู้เก็บเอาไว้ซื้อบ้าน ซื้อรถ
ซื้อความสะดวกสบายเพิ่มพูนให้กับตัวเองไม่ดีกว่าหรือ
รุ่นน้องผู้อาสาขอทุนให้ บอกกับผมว่า กองทุนเฉลียงเกิดขึ้นจากการนำรายได้
จากการแสดงของพวกเขาฝากไว้ในธนาคาร แล้วนำดอกผลคืนสู่สังคม
ซึ่งก็น่าอนุโมทนาด้วย
ในวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๑ ผมพาครูใหญ่และครูผู้ช่วยไปรับเงินทุนอาหาร-
กลางวัน(จำนวนสามหมื่นบาท) ในวันนั้นผมยังมีโอกาสได้เห็นกองทุนเฉลียง
มอบทุนให้กับโครงการต่าง ๆ อีกหลายโครงการ เช่น
โครงการเกี่ยวกับเด็กพิการ, โครงการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอชไอวี,
โครงการสร้างที่พักให้เด็กนักเรียนชาวเขา ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่ผมนึกไม่ถึง
นึกไม่ถึงว่าสมาชิกวงดนตรีเฉลียงจะมีน้ำใจงดงามกับสังคมเช่นนี้
ก่อนพิธีมอบทุนเราได้มีโอกาสคุยกัน จุ้ยบอกกับผมว่า ให้ผมเขียนเรื่องนี้
(เรื่องกองทุนอาหารกลางวัน) ลงในหน้าหนังสือให้คนอ่านได้ทราบทั่วกัน
ในวงกว้าง ถ้าผมไม่เขียนเขาจะไม่ให้ทุน (ฮา) ผมรู้ว่าจุ้ยพูดเล่น
เพราะเราพูดเล่นกันเสมอ ๆ
แต่หลังจากที่ครูใหญ่รับทุนมาแล้ว จุ้ยก็ยังยืนยันให้ผมเขียนอยู่ดี
ผมจึงรู้ว่าจุ้ยพูดจริง ผมจึงรับปากกับจุ้ยว่าจะเขียนให้
จุ้ยบอกกับผมว่าไม่ต้องการให้ผมบอก (โฆษณา) ว่า
ได้รับเงินจากกองทุนเฉลียงแต่อย่างใด -ไม่ต้องการทำบุญเอาหน้า
แต่อยากให้ผมเขียนถึงปัญหาของงบประมาณอาหารกลางวันของเด็กในชนบท
ดังที่ผมเล่ามา มาบอกกับท่านผู้อ่าน เผื่อว่ามีท่านผู้อ่านที่บังเอิญมีหน้าที่จัดทำ
งบประมาณอาหารกลางวันของเด็ก ๆ ได้มาอ่านเข้า จะได้ช่วยกันเร่งทำ
งบประมาณให้ตรงตามเวลาตามเวลา ช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วงไป
เพราะคนปัญญาดี ๆ น่าจะทราบได้ว่า
...........เมื่อเด็กหิว เด็กจะเรียนไม่รู้เรื่อง..........
และเมื่อเด็กเรียนไม่รู้เรื่องแล้ว อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร.. คงไม่ต้องเดา
พี่จุ้ยครับ เอาเป็นว่าผมเขียนให้พี่แล้วนะครับ ส่วนใครอ่านแล้วจะหาว่า
พี่จุ้ยทำบุญเอาหน้า ก็ขอให้โทษผมคนเดียว เพราะฝีมือผมมีอยู่แค่นี้จริง ๆ
" " " " " " " " " " " " " " " " " "
เพราะฉะนี้ รักเราจึงนิรันดร์ ใช่รักจนบ้าคลั่งแบบหาเหตุไม่ได้
เพราะหลาย ๆ เรื่องที่รับรู้เกี่ยวกับเฉลียง
ทำให้ภูมิใจทุกครั้งที่ฟังเพลงเฉลียงด้วยซีดีแผ่นแท้
หรือแม้หากจะก๊อป ก็ก๊อปจากแผ่นแท้ที่ซื้อมาเอง ลง mp3 หรือมือถือ
เพื่อสะดวกแก่การฟังเท่านั้น
โดยคุณ
:~๐~ - [17:20:35 9 พ.ย. 2552] |