รามเกียรติ์แอนิเมชั่น

มะลิ สัญจร

เชื่อว่าอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง ที่คนไทยอย่างพวกเราได้เคยเดินลัดเลาะระเบียงพระอุโบสถวัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเดินชมภาพจิตรกรรม "รามเกียรติ์" ที่เรียงรายรอบพระอุโบสถ

...ยังจำท่วงท่าสง่างามของพระราม-พระลักษมณ์ ดวงหน้าอ่อนหวานและวงแขนอ่อนของนางสีดา ท่วงท่าน่าเกรงขามกับบุคลิกโลดโผนโจนทะยานของหนุมานและทศกัณฐ์ ประกอบคำโคลงที่บรรยายไว้รอบเสาพระระเบียง

...ความงดงาม เพลิดเพลิน และอารมณ์ภาคภูมิ บังเกิดอีกครั้ง... เมื่อเหลือบเห็นอาการ "ทึ่ง" ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลายคนเอ่ยปากชื่นชมศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ถ้าหากสืบสาวราวเรื่องแล้วจะรู้ว่า นี่คือความมานะอุสาหะ ของช่างฝีมือไทยโบราณ ผู้บรรจงวาดงานศิลปะอันวิจิตรลงบนฝาผนัง ที่นับวันก็ยิ่งทวีคุณค่ามากขึ้นตามกาลเวลา แม้จะล่วงเลยมานานกว่า 200 ปี !

น่าเสียดายที่ว่า ความทรงจำของคนส่วนใหญ่จะหยุดอยู่เพียงเท่านั้น มิได้ลงลึกซึ้งถึงอรรถรสของเรื่องราววรรณคดีคลาสสิกที่จารึกบนผนังปูนเก่าคร่ำคร่า หากทรงคุณค่านี้

อาจเป็นเพราะวรรณกรรมคลาสสิกเรื่อง "รามเกียรติ์" มีความยาวมาก นับเริ่มตั้งแต่ส่วนที่เป็นห้องที่ 1 ต่อเนื่องไปจนถึงห้องที่ 178 ผู้ชมจึงต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย เพื่อติดตามเรื่องราวสุดระทึก สนุกสนาน กว่าจะจบเรื่อง อีกทั้งภาษาที่บรรยายอย่างสละสลวยนั้น มีคำศัพท์ที่เข้าใจยากอยู่มาก หรือแม้จะมีการนำประกอบกับนาฏศิลป์อ่อนช้อยอย่าง "โขน" ก็ไม่อาจ "โดนใจ" คนสมัยใหม่

วรรณคดีทรงคุณค่าเรื่องนี้ จึงมักเป็นเพียงตัวเอกผู้ทำหน้าเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของไทย ที่นิยมหยิบมาอวดคนต่างชาติ หรือแขกบ้านแขกเมือง ในบทบาทของการแสดงละครโขน ในขณะที่คนในประเทศ กลับเข้าไม่ถึงเรื่องราว และความหมายของวรรณคดีสอนสติ มีคติสอนใจ ที่มีปรัชญาว่า "ธรรมะย่อมชนะอธรรม"

และก่อนที่ "รามเกียรติ์" จะเหลือเพียงตำนานที่ยากจะเข้าถึง หน่วยงานเอกชนแห่งหนึ่ง รับอาสาเป็นผู้นำเสนอ "รามเกียรติ์" ในภาคใหม่ ให้เยาวชนไทยได้ศึกษา เข้าใจ และชมได้อย่างสนุกสนาน อาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่จากฮอลลีวู้ด ถ่ายทอดเรื่องราวความงดงามที่เคยฝังอยู่บนผนังคร่ำคร่า หรือในโรงมหรสพ รามเกียรติ์ในรูปโฉมใหม่จะส่งตรงถึงประตูบ้าน ในรูปแบบวีซีดีฉบับรามเกียรติ์ภาค "มายาแอนิเมชั่น"

จันทนา สุขุมานนท์ รองประธานอาวุโสสายการตลาด บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ผู้ริเริ่มโครงการจัดทำสารคดีพิเศษชุด "จิตรกรรมรามเกียรติ์" เล่าว่า

"เนื่องจากบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ และตั้งใจทำประชาสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม นอกเหนือจากบริจาคปูนซีเมนต์ เพื่ออนุรักษ์โบราณสถานแล้ว เรายังคิดต่อไปว่า จะอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังที่วัดพระแก้วได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของการผลิตสารคดีชุดนี้ เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษา อีกทั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสที่ทรงเจิรญพระชนมายุครบ 48 พรรษา โดยได้รับความร่วมมือจากกระทรวงวัฒนธรรม และบริษัท โฮลชิม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสารคดีชุดนี้"

สารคดีชุด "จิตรกรรมรามเกียรติ์" ใช้งบประมาณกว่า 5 ล้านบาท เป็นสารคดีที่ถ่ายทอดความงดงามจากภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว แล้วนำมาผสมผสานกับเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ทำให้ภาพนิ่งเหล่านั้นเคลื่อนไหวได้ รวมทั้งใช้เทคนิคด้านเสียง (Sound Effect) ประกอบผู้บรรยายทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง นำเสนอในรูปแบบแอนิเมชั่น (Animation) จัดทำเป็นตอนสั้นๆ ตอนละ 3 นาที รวมทั้งสิ้น 48 ตอน

ม.ล.ศุภกัญญา สุขสวัสดิ์ ผู้บริหารของโฮลซิม ในฐานะผู้ผลิตสารคดีรามเกียรติ์ฉบับแอนิเมชั่น เล่าถึงกระบวนการผลิตว่า

"ใช้เวลาเตรียมงานกว่า 5 เดือน เริ่มจากทำเนื้อเรื่องย่อและเขียนบท แบ่งเป็นกำเนิดของตัวละครแต่ละตัว โดยเน้นที่ความถูกต้องของวรรณคดี และสามารถให้คนดูเข้าใจได้ง่าย จากนั้นจึงใช้กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพระแก้ว แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ทำให้เกิดภาพเคลื่อนไหวหรือแอนิเมชั่น จากนั้นก็จะนำภาพมาผ่านกระบวนการคอมพิวเตอร์อีกครั้งโดยใช้โปรแกรมมายา (MAYA) ซึ่งเป็นโปรแกรมเดียวกับที่ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เรื่อง The Matrix ภาคล่าสุดใช้สร้างเทคนิคต่างๆ ในเรื่อง เน้นให้เกิดความเคลื่อนไหว หรือหรือเกิดเอฟเฟคท์ กับตัวละคร เราไม่ได้ทำถึงกระทั่งขยับแขนขา แต่เป็นการเคลื่อนไหวของแบ็คกราวนด์ และโฟกัสไปที่แอ็คชั่นของตัวละคร เพราะต้องการให้เห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่แท้จริง"

ผู้ชมจะได้ชมภาพพระราม-พระลักษมณ์ นางสีดา ทศกัณฐ์ ฯลฯ เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต อีกทั้งผู้ผลิตยังเพิ่มอรรถรสในการชมด้วยเชิญ ศักดิ์อรุณ วชิรปิรัญย์ นักพากย์บทร้อยแก้วและร้อยกรองชื่อดังมาเป็นผู้บรรยาย และเพิ่มดนตรีประกอบ ที่จัดสรรโดยสำนักงานสังคีต กรมศิลปากร

เรื่องราวรามเกียรติ์ในไทย มีต้นตอมาจาก "รามายณะ" ของฮินดู ความจริงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ที่สำคัญมี 2 ฉบับ คือ ฉบับสมบูรณ์พระราชนิพนธ์โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และฉบับย่อโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในรัชกาลที่ 2 ซึ่งมีภาษาและเรื่องราวไพเราะสนุกสนานทั้งสองฉบับ

แต่ "จิตรกรรมรามเกียรติ์" ฉบับ "มายาแอนิเมชั่น" ครั้งนี้ ยึดเอาฉบับพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 เพราะใช้ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นตัวสำคัญในการดำเนินเรื่อง อีกทั้งเป็นวรรณคดีที่มีความสนุกสนานแต่ค่อนข้างยาว ซึ่งหากได้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ก็จะได้แง่คิดและคติธรรม เพราะมีทั้งเรื่องราวอันเกี่ยวข้องกับการเมือง การปกครอง การทหาร และการรบ โดยมีบทสรุป คือ "ธรรมะย่อมชนะอธรรม"

สารคดีชุดนี้จึงเหมือนกับการสรุปเนื้อหา ให้เข้าใจได้ง่าย และชวนติดตาม แบ่งเสนอเป็นตอนสั้นๆ เช่น ตอนกำเนิดตัวละครต่างๆ, การยกทัพทำสงคราม จนถึงตอนที่พระรามเสด็จกลับวัง

วันนี้...ภาพจิตรกรรมวิจิตรบนผนังปูนเก่า จะโลดแล่นเคลื่อนไหวแบบเห็นได้ด้วยตาเป็นครั้งแรก เพิ่มแรงหวังว่า คนรุ่นใหม่จะรู้จัก "รามเกียรติ์" ลึกซึ้งมากกว่าที่เคยรู้เพียง... พระลักษมณ์เป็นน้องพระราม, นางสีดาเป็นพระชายาคนสวยของพระราม หรือหนุมานมีอิทธิฤทธิ์เก่งกาจเผากรุงลงกาให้วอดเป็นจุณ...

เทคโนโลยีไฮเทค ช่วยประคับประคองงานศิลป์สาขาจิตรกรรมเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ให้อยู่คู่กับคนทุกรุ่นทุกสมัยได้อย่างภาคภูมิ...

ติดตามชม รามเกียรติ์ภาคแอนิเมชั่นชุด "จิตรกรรมรามเกียรติ์" ได้ทุกวันศุกร์ ช่อง 11 เวลาหลังข่าวพระราชสำนัก (หลัง 2 ทุ่ม) เผยแพร่เป็นตอน ความยาวตอนละ 3 นาที รวม 48 ตอน (เริ่มตอนแรกเมื่อ .......................) และเมื่อเสนอถึงตอนจบ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จะจัดทำเป็นวีซีดี แจกจ่ายให้กับโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ และผู้สนใจทั่วไป สอบถาม โทร.02-272-5555

ล้อมกรอบ) กว่า 200 ปี... ภาพจิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์

จิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระนารายณ์อวตารปางต่างๆ และเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบ เขียนขึ้นครั้งแรกเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี และทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอารามในพระอุโบสถ เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก้วมรกต เรียกสั้นๆ ว่า "พระแก้วมรกต" และโปรดเกล้าฯ ให้เขียนรูปภาพรอบพระระเบียงเรื่องรามเกียรติ์ตามแนวพระราชนิพนธ์ "บทละครเรื่องรามเกียรติ์" ของพระองค์เอง ในปีพุทธศักราช 2325 แต่ต่อมาปัญหาความชื้นของผนังปูน ทำให้ภาพจิตรกรรมที่วาดเลือนและหลุดล่อนไป จึงมีการซ่อมแซมใหม่ในเวลาต่อมา

เริ่มตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เขียนภาพรามเกียรติ์ขึ้นใหม่ เพื่อฉลองกรุงครบรอบ 50 ปี ใน พ.ศ.2375 ต่อมาในรัชกาลที่ 5 ได้ซ่อมภาพเขียนเพื่อฉลองกรุงครบ 100 ปี ใน พ.ศ.2425 หลังจากนั้นได้มีการซ่อมภาพเขียนอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 7 เพื่อฉลองกรุงครบ 150 ปี เมื่อ พ.ศ.2475 จนถึงรัชกาลปัจจุบัน ได้จัดดำเนินการซ่อมภาพเขียนเพื่อฉลองกรุงครบ 200 ปี เมื่อ พ.ศ.2525....

เรื่องย่อรามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ท้าวทศรถ เป็นกษัตริย์ครองกรุงอยุธยา มีพระมเหสี 3 องค์ คือ นางเกาสุริยา นางไกยเกษี และนางสมุทรเทวี วันหนึ่งท้าวทศรถไปรบกับยักษ์ชื่อ ปทูตทันต์ โดยนางไกยเกษีตามเสด็จไปด้วย ขณะรบกัน ยักษ์แผลงศรไปถูกเพลารถของท้าวทศรถหัก นางไกยเกษีรีบกระโดดลงจากรถ เอาแขนของนางสอดแทนเพลารถ เมื่อท้าวทศรถฆ่ายักษ์ได้แล้ว ได้ทรงทราบถึงความจงรักภักดีของนางไกยเกษี จึงประทานพรว่าหากนางปรารถนาสิ่งใด พระองค์ก็จะประทานให้

ท้าวทศรถครองราชสมบัติมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีโอรส จึงทำพิธีกวนข้าวทิพย์ กลิ่นข้าวทิพย์หอมไปถึงกรุงลงกา ทศกัณฐ์จึงใช้นางยักษ์กากนาสูรมาขโมย นางแปลงร่างมาเป็นอีกา โฉบเอาข้าวทิพย์ไปได้เพียงครึ่งก้อน ทศกัณฐ์นำข้าวทิพย์ให้นางมณโฑผู้เป็นมเหสีกิน นางจึงตั้งครรภ์และประสูติพระธิดาออกมา

แต่ขณะที่ประสูตินั้น พระธิดาร้องว่า "ผลาญราพณ์" ขึ้น 3 ครั้ง พิเภกและโหรอื่นๆ ทำนายว่าเป็นกาลีบ้านกาลีเมือง ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำพระธิดาผู้นั้นใส่ผอบลอยน้ำไป พระฤาษีชนกซึ่งเดิมเป็นราชาแห่งเมืองมิถิลาพบเข้า ก็เก็บไปฝังดินฝากแม่พระธรณีไว้ จนเวลาล่วงไปถึง 16 ปี จึงไปขุดนางขึ้นมา แล้วตั้งชื่อให้ว่า "สีดา" แล้วกลับไปครองเมืองมิถิลาเช่นเดิม และได้จัดพิธียกศรเพื่อหาคู่ครองให้นางสีดา พระรามยกศรได้จึงได้อภิเษกกับนางสีดา และพานางกลับไปอยู่ที่กรุงอยุธยา

ส่วนข้าวทิพย์ที่เหลือสามก้อนครึ่ง ท้าวทศรถแบ่งให้มเหสีทั้งสาม ซึ่งต่อมานางตั้งครรภ์ และให้กำเนิดโอรส คือ นางเกาสุริยา ประสูติพระราม นางไกยเกษี ประสูติพระพรต นางสมุทรเทวี ประสูติพระลักษมณ์กับพระสัตรุด

ต่อมาท้าวทศรถคิดจะยกราชสมบัติให้พระรามปกครอง แต่นางไกยเกษีทูลขอเมืองอยุธยาให้พระพรตโอรสของตน และขอให้พระรามออกเดินป่าเป็นเวลา 14 ปี ท้าวทศรถเคยประทานพรให้นางไว้ จึงจำต้องรักษาวาจาสัตย์ พระรามก็ยินยอมออกจากเมืองโดยดี ซึ่งพระลักษมณ์กับนางสีดาขอตามเสด็จไปด้วย ท้าวทศรถเสียพระทัยมากจนกระทั่งสิ้นพระชนม์

พระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ไปตั้งอาศรมอยู่ในป่า วันหนึ่งนางสำมนักขา น้องสาวของทศกัณฐ์ออกไปเที่ยวป่า ได้พบพระรามเข้า เห็นพระรามมีรูปโฉมงดงามก็หลงรัก เข้าไปเกี้ยวพาราสีพระราม และทำร้ายนางสีดา พระลักษมณ์โกรธมาก จับนางมาตัดหู จมูกมือและเท้า แล้วปล่อยตัวไป

นางกลับไปฟ้องพี่ชายทั้งสาม คือ ทูษณ์ ขร ตรีเศียร ให้ไปรบกับพระราม แต่ก็ถูกพระรามฆ่าตาย นางจึงไปเล่าถึงความงดงามของนางสีดาให้ทศกัณฑ์ฟัง ทศกัณฐ์อยากได้นางสีดามาเป็นชายา จึงออกอุบายให้มารีศแปลงตัวเป็นกวางทองมาล่อ นางสีดาเห็นกวางทองเข้าก็อยากได้ขอให้พระรามไปจับมาให้ พอมารีศถูกศรของพระรามก็แกล้งทำเสียงพระรามร้องให้ช่วย นางสีดาจึงขอให้พระลักษมณ์ตามไป ทศกัณฐ์ได้โอกาสจึงเขามาลักพานางสีดาไปกรุงลงกา พระราม พระลักษมณ์ เสด็จออกติดตามนางด้วยความห่วงใย จนได้พบกับหนุมานและสุครีพ สุครีพขอให้พระรามฆ่าพาลีผู้เป็นพี่ชายของตนเสียก่อน ตนจึงจะช่วยทำสงครามกับทศกัณฐ์

เนื่องจากสุครีพแค้นใจที่ครั้งหนึ่งพระอินทร์ฝากผอบใส่นางดารามากับพาลี เพื่อเป็นรางวัลให้สุครีพที่ยกเขาพระสุเมรุให้ตั้งตรงได้ แต่ถูกพาลีริบไปเป็นของตน และครั้งสุดท้าย พาลีเข้าไปสู้รบกับควายชื่อทรพีในถ้ำ แล้วสุครีพให้คอยดูอยู่ปากถ้ำ ถ้าเลือดที่ไหลออกมาข้นเป็นเลือดควาย ถ้าเลือดใสเป็นเลือดของคน ให้สุครีพปิดปากถ้ำเสีย สุครีพเฝ้าดูอยู่เห็นเลือดที่ไหลออกมาใส เพราะน้ำฝนชะจึงคิดว่าพาลีตาย จึงเอาหินปิดปากถ้ำไว้ พาลีเข้าใจว่าสุครีพคิดฆ่าตน จึงขับไล่สุครีพออกจากเมือง พระรามได้แผลงศรไปฆ่าพาลีตาย สุครีพจึงเกณฑ์ไพร่พลลิงมาช่วยพระรามรบ

คืนหนึ่ง ทศกัณฑ์ฝันร้าย พิเภกทำนายว่าทศกัณฐ์ถึงคราวมีเคราะห์ ให้ส่งนางสีดาไปคืนเสีย ทศกัณฑ์โกรธมาก ขับไล่พิเภกออกจากเมือง พิเภกจึงเข้าไปสวามิภักดิ์กับพระราม ช่วยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการทำสงครามแก่พระรามอยู่เสมอ

พระรามทำสงครามกับทศกัณฐ์อยู่นานหลายปี จนญาติพี่น้องของทศกัณฐ์ตายในสงครามกันหมด ทศกัณฐ์ต้องออกรบเอง พระรามแผลงศรถูกหลายครั้ง แต่ทศกัณฐ์ก็ไม่ตาย เพราะถอดดวงใจฝากพระฤาษีโคบุตรไว้ หนุมานกับองคตจึงทูลรับอาสาพระรามไปหลอกเอากล่องดวงใจมาได้ ทศกัณฐ์ออกรบอีก พอพระรามแผลงศรไปปักอกทศกัณฐ์ หนุมานก็ขยี้กล่องดวงใจจนแหลกลาญ ทศกัณฐ์จึงสิ้นชีวิต จากนั้นพิเภกก็พานางสีดามาคืนให้พระราม และเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นางสีดาจึงขอทำพิธีลุยไฟ ซึ่งนางสามารถเดินลุยไฟได้อย่างปลอดภัย พระรามแต่งตั้งพิเภกให้ครองกรุงลงกา แล้วพระรามก็เสด็จกลับอยุธยาพร้อมด้วยนางสีดา และพระลักษมณ์

Source :www.bangkokbiznews.com/jud/sun/index.html กรุงเทพธุรกิจ section กรุงเทพวันอาทิตย์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2546

@@@@@@@@@@@@@@@@
ติดตามชม รามเกียรติ์ภาคแอนิเมชั่นชุด "จิตรกรรมรามเกียรติ์" ได้ทุกวันศุกร์ ช่อง 11 เวลาหลังข่าวพระราชสำนัก (หลัง 2 ทุ่ม) เผยแพร่เป็นตอน ความยาวตอนละ 3 นาที รวม 48 ตอน (เริ่มตอนแรกเมื่อ .......................) และเมื่อเสนอถึงตอนจบ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จะจัดทำเป็นวีซีดี แจกจ่ายให้กับโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ และผู้สนใจทั่วไป สอบถาม โทร.02-272-5555
@@@@@@@@@@@@@@@

เพิ่งไปซื้อหนังสือ รวมภาพจิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์มา
สวยมาก
เรื่องย่อ ก็ค่อนข้างครบถ้วนดีมาก

คะก้อเคยเรียนมาบ้างแล้วแต่จำได้นิดๆนะ

โดยคุณ :

ชอบมากมาก

โดยคุณ :

น่ารักดีค่ะ  

โดยคุณ :

ดีค่า

ก็ดีค่า ชอบมากๆค่า ชอบมากค่า คือว่าหนุกอ่าค่า

โดยคุณ :

อยากหาตัวละครในรามเกียรติ์

โดยคุณ :

ก็สนุกดีค่ะ

ก็สนุกดีค่ะ

โดยคุณ :

อยากได้ความคิดเห็นที่ดีกว่านี้

โดยคุณ :

ก็น่ารักดีคับ

โดยคุณ :

อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัด จำหน่ายการ์ตูนเป็นแบบ vcd และจะหาซื้อได้ ที่ใดบ้าง

ดูแล้วสนุกดีภาพสวย เสียงก็โอเคสนับสนุนของดีดี ที่คนไทยทำคับ
(ถ้าเมล์รายละเอียดมาบอกก็ดี นะคับ ขอบคุนล่วงหน้า)

ดีครับ

โดยคุณ :

ดีจังคะ

โดยคุณ :

น่ารักดีนะค่ะ

โดยคุณ :

นุกดี แล้วภาค 2งะ

ชอบมากค่ะ

โดยคุณ :

ได้ดูทาง UBC ชอบมากครับ ยังพอหาซื้อได้ที่ไหน ครับ
รบกวนแจ้งด้วย ครับ...
ขอบคุณมาก ครับ,...

สนุกมากเลยยยยย

โดยคุณ :

หนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หนุกหนานดี

โดยคุณ :

ใครมีบ้างครับกรุณาติดต่อผมหน่อยอยากดูจริงๆ

โดยคุณ :

                                    ลูกเทวดา

สนุกมากๆๆๆๆ

โดยคุณ :