แล้วเพื่อนหนูเขาก็พาไป.......
"กริ้งๆๆๆๆๆ"
เสียงโทรศัพท์ดังขณะที่ฉันกำลังถ่ายรูปไฟยามราตรีแถวถนนสีลมอยู่
"พรุ่งนี้ไปถ่ายรูปที่ไร่ทานตะวันกันป่ะ เจอกันตี 4 นะ..จะไปรับ"
"โห....ตั้งตี 4 นี่ก็จะ 5 ทุ่มแล้วยังไม่ได้กลับบ้านเลย แล้วจะตื่นทันไม๊เนี่ยะ" ฉันนึกในใจ
"ไปๆๆๆๆ " ฉันบอกเพื่อนไปอย่างนั้น
แล้วก็เก็บกล้อง..รีบเดินทางกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เก็บแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้เช้า....
วันรุ่งขึ้น...ฉันตื่นแต่เช้าด้วยความงัวเงีย..
รอเวลาที่นัดไว้..และแล้ว..ก็สายจนได้
"เฮ้ย.....รู้อย่างงี้ตื่นสาย ๆ ดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งรอ" ฉันคิดในใจ
เพื่อนมารับ..ก็เกือบตี 5 แล้ว ไหนจะต้องไปเจอคนอื่นๆอีก 8 คนที่รออยู่ที่รังสิตอีก..
กว่าจะได้ออกจากกรุงเทพฯ ก็เป็นเวลาเกือบ 6 โมงเช้า
"แล้วจะทันพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าไหมเนี้ยะ" ฉันรำพึงกับตัวเอง
ความหวังที่จะถ่ายรูปไร่ทานตะวันกับพระทิตย์ขึ้นคงยาก
แต่..ไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่เป็นไร..ขอให้ฟ้าใสก็พอแล้ว
เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ไร่ทานตะวันไร่แรกก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ผู้คนเยอะแยะมากมาย พวกเราจึงตัดสินใจขับรถผ่านไป
ไร่ที่ 1 ผ่านไป... ที่2 ก็ผ่านไปอีก.. ที่ 3 ก็อีก..
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถก็วนกลับมาอีกรอบจนในที่สุด
เพื่อนฉันคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า
"ไร่นี้แหละ ไม่มีคนเลย วิวด้านหลังก็ดีนะ ถึงจะมีดอกทานตะวันไม่เยอะก็ไม่เป็นไร"
พอจอดรถสนิท ก็ลงมาเดินเล่น เพื่อหามุมมองของตัวเอง
"อากาศดีจัง" เพื่อนฉันคนหนึ่งพูดขึ้นมา
ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพรียง..ใจตรงกันเหมือนนัดเลยทีเดียว
เพียงแวบแรกที่เห็นดอกทานตะวัน เพลงหนึ่งก็แว่วเข้ามาในสมอง
ใช่แล้ว...ฉันนึกถึงเพลง"ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน" ขึ้นมาทันที
"แรกแย้มยามบานอวดแสงตะวันช่างงดงามเกินจะเอ่ย......"
คนแต่งช่างจินตนาการได้ดีจริง ๆๆๆ... คิดอะไรเพลินๆอยู่ไม่นาน..
หันไปเห็นเพื่อนๆเริ่มปืนรถขึ้นไปถ่ายรูปกันแล้ว...
นั่นแน่..ว่าแล้วก็เก็บรูปเพื่อน ๆ กำลังถ่ายรูปอยู่บนรถดีกว่า....
แชะ แชะ
คราวนี้เจ้าของรถปืนมั่ง...
แชะ แชะ
แอบถ่ายเพื่อน ๆ เสร็จ ก็ออกเดินไปกลางไร่ หามุมสบายถ่ายภาพ...
ว่าแล้วก็เริ่มมุดลงไปนั่งกับดิน จับภาพดอกทานตะวันในมุมบนตัดกับท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้า
แล้วชัตเตอร์ก็ทำงานอีกครั้ง...
สายลมกับดอกทานตะวัน....พลิ้วไปพร้อมกัน
แชะ แชะ
"เจ้าผึ้งน้อยบินมาดูดน้ำหวานในเกสรดอกไม้นี่นา" ฉันเล็งอยู่นาน
กะว่าจะกดชัดเตอร์ตอนที่มันกำลังเข้ามาดูดน้ำหวานซะหน่อย ดันบินหนีไปซะแล้ว
แต่ก็ไม่หมดความพยายาม..ใจเย็นนั่งรออีก ก็เห็นมันบินมาอีก
แชะ แชะ "คราวนี้ต้องได้แน่ๆๆ" ฉันยิ้มในใจ
(ทำไมเจ้าผึ้งน้อย...ตัวเล็กแทบจะมองไม่เห็นเลยอ่ะ)
เสียงเพื่อนแว่วมาไกลๆ เรียกให้กลับไปที่รถ คราวนี้เลยเป็นทีฉันปืนขึ้นไปถ่ายบนรถบ้างล่ะ..เอ้า..อึ๊บ
เวลาผ่านไปรวดเร็วอย่างไม่รู้ตัว...5 ชั่วโมงกว่า ๆ สำหรับการถ่ายรูป
เป็นเวลาที่ยาวนานมาก ขอบอก....
"อ๊ะ...งั้นก็ถึงเวลากลับกรุงเทพฯแล้วสิ
และแล้ว..ฉันกับเพื่อนก็เดินทางกลับด้วยความเหนื่อยและง่วงนอน..." โดยคุณ :
sunflower - [22:01:46 9 พ.ค. 2544] |