กระดานความรู้สึก


เตือนภัยจากปลา !!!!
สำหรับผู้ที่ทานปลา

เมื่อวานเอได้ดูรายการบ้านเลขที่ 5 ช่วงมาเยี่ยมมาเยือน แขกรับเชิญคือบุคคลที่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ …เรื่องมีอยู่ว่าคนนี้เขาชอบทานปลาดิบมาก
แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งเขาทานปลาดิบ(เขาบอกประเภทของปลาด้วยว่เป็นปลาโอกับปลาอะไรอีกอย่าง เอ จำชื่อไม่ได้ค่ะ) เป็นอาหารมื้อกลางวันติดต่อกันถึง 3 วัน
โดยทานที่ร้านหาหารญี่ปุ่นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง (ไม่ได้บอกว่าที่ไหน) วันแรกที่ทานก็ไม่มีอาการใด ๆ แต่สังเกตเห็นว่าปลาดิบนั้นผิดปกตินิดหน่อย
แต่เขาก็คิดเอาเองว่าเป็นเพราะอากาศเมืองไทยคงจะร้อนก็ไม่ได้เอะใจ พอวันที่สองก็มาทานอีก ก็ยังไม่มีอะไร พอวันที่สามก็มาทานอีกตอนทานเสร็จก็ไม่มี
อะไรอีกเช่นกัน พอตกกลางคืนประมาณสัก 3 ทุ่ม ก็เริ่มรู้สึกว่าปวดศีรษะ และ ชาที่ใบหู มีเม็ดคล้ายเม็ดสิวขึ้นที่หน้า เขาก็เลยโทรถามญาติที่เป็นหมอ
ญาติก็บอกว่าคงไม่เป็นอะไรให้ลองทานยาแล้วนอนพัก พออีกสักพักเม็ดก็เริ่มขึ้นมากขึ้น หน้าเริ่มชาและเบี้ยว ลิ้นจุกปาก ไม่สามารถกลืนน้ำลงคอได้ ก็เลย
โทรไปหาญาติที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ญาติก็เลยให้รีบส่งตัวมาที่โรงพยาบาล
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเกี่ยวกับเส้นประสาท แต่ก็หาสาเหตุไม่พบ เลยส่งตัวไป MRI ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตอนที่ MRI คนไข้ต้องห้ามขยับตัว
แม้แต่กลืนน้ำลายก็ห้ามด้วย ด้วยสภาพที่ผู้ป่วยรายนี้ปวดศีรษะอย่างรุนแรงก็เลยต้องฉีดยาสลบก่อนส่งเข้าเครื่อง MRI เวลาผ่านไปนานพอสมควร ฟิล์มก็
ยังไม่ชัด แต่คนไข้เริ่มรู้สึกตัว จึงต้องดึงคนไข้ออกจากเครื่องมาวางยาสลบใหม่ แล้วก็ส่งเข้าเครื่อง MRI ใหม่ เขาเล่าว่าเขาต้องอยู่ในเครื่อง MRI ถึง 6 ชั่วโมง
พอหมอดูฟิล์มก็เห็นตัวอะไรกำลังจะไต่ไปที่ลูกตา (ถ้าเจ้าตัวนั้นไปจริง ๆ ตาจะบอดทันที) ภาพที่เห็นจากการ MRI คือพยาธิตัวจี๊ด ที่กำลังจะหาทางออกจาก
ร่างกายผู้ป่วย เพราะสภาพร่างการของมนุษย์ไม่ใช่ Host ที่พยาธิพวกนี้จะอาศัยอยู่ได้
วิธีรักษาก็คือจะต้องฉีดยาเข้าไปในร่างกายผู้ป่วยเพื่อฆ่าพยาธิ์โดยพยายามให้พยาธิตายอยู่กับที่โดยเร็ว หลังจากนั้นร่างกายของมนุษย์จะมีสาร
(ไม่แน่ใจว่าคือเอนไซน์หรือเปล่านะคะ) ขับซากพยาธิพวกนี้ออกมาเอง เขาเล่าว่าพยาธิพวกนี้จะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 14 วัน
คงสงสัยแล้วซินะคะว่า หลังจากนั้นผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างไร ก็นอนอยู่โรงพยาบาลอยู่หนึ่งเดือน แล้วก็เกือบจะเดินไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็บินไป
รักษาตัวต่อเพื่อทำกายภาพบำบัดที่อเมริกา 3 เดือน ตอนนี้ก็เดินได้โดยใช้ไม่เท้าช่วยค่ะ.......เอาว่ากรณีนี้เป็น Case ที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่นิยมทาน
ปลาดิบ ก็จะได้ระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น หรือเมื่อมีการการผิดปกติคล้าย ๆ กับผู้ป่วยรายนี้ก็จะได้พอเดาสาเหตุได้บ้างนะคะ แต่หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้
จะไม่เกิดกับเราและคนที่เรารักหรอกนะคะ…
โดยคุณ : แมงมุมน้อย - [0:24:12  2 พ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
ที่เดียวกับหมอผัสพรหรือเปล่าคะ

.....
ขอบคุณนะคะ ที่มาบอกกัน
กำลังอยากกินอยู่พอดี เลิกเลย
โดยคุณ :Picmee - [8:54:02  2 พ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
เพื่อนเมล์มาให้เหมือนกันค่ะ...อ่านแล้วน่ากลัวจัง ดีนะที่ไม่ชอบกินปลาดิบอยู่แล้ว แต่ก็ห่วงเพื่อน ๆ ที่ชอบกินปลาดิบน่ะสิ เดี๋ยวต้องเมล์กระจายข่าว !!!
โดยคุณ :เฉลียงตัวน้อย - [15:49:00  2 พ.ค. 2544]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....