เขียนให้อ่าน เล่าให้ฟัง ตอน 4
เขียนให้อ่าน เล่าให้ฟัง 4
ประมาณ บ่าย 4โมงกว่าๆ ของการถ่ายทำวันแรก 8 ก.พ. 45
หลังจากนอนเล่นอย่างเบียดเสียด ใต้ร่มผ้าใบที่พอจะทำให้เกิดร่มเงาได้ ทีมงานก็เตรียมที่จะถ่ายทำช้อตต่อไปบนเขาหินแท่งนั้น ถ้าสังเกตดูให้ดี จะพบว่าทั้ง 4 คน นอนเล่นกันแบบนิ่งมาก อันเป็นผลมาจากพิษของทะเล และแดด ที่สำคัญก็คือความคมของพื้นหินที่ตะปุ่มตะป่ำ จนไม่มีใครอยากขยับตัวนั่นเอง
ช้อตนี้คือ 3 คนจะเดินมามองตรงหน้าผาที่เจี๊ยบตั้งท่าจะกระโดดลงไป และพบว่ามันสูงเกินอายุขัย จึงเดินไปหาทางลงที่อื่น ในภาพก็จะมีชาวเลท้องถิ่นนั่งหาหอยหาปูอยู่ตามธรรมชาติ
และเพื่อความเป็นธรรมชาติ ผู้กำกับจึงสั่งให้ชาวเลคนหนึ่งถอดเสื้อผ้าออกหมด เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า ทีมงานหญิงทั้งหมดถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ แล้วจึงกรูเข้าไปช่วยกันชะโลมโลชั่นให้ผิวสีคล้ำนั้นสะท้อนแดดได้งดงาม ดูเหมือนจะมีการแย่งพื้นที่กันเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงแว่วมา เธอทาข้างบนไป ชั้นทาข้างล่างเอง หรือ เอามือออกไป ไม่ต้องอายน่า ศิลปะๆ
ทีพวกเรา ไม่เห็นมีใครมาช่วยทาครีมให้มั่งเลย เจี๊ยบโวย
แหม
ก็น้องเค้า
ล่ำ
ไม่กี่เทคก็ผ่านไปได้ด้วยดี นักแสดงชาวเลคนนั้นก็เดินโทงๆ กลับมาใส่เสื้อผ้าดังเดิม มีเสียงบ่นเสียดายแว่วมาจากสาวๆที่ไปทาโลชั่นให้ นี่ขนาดเด็กยังไม่ถึง 10 ขวบยังบ่นเสียดาย ถ้าซัก 18 19 มีหวังทาโลชั่นกันข้ามคืนแหงๆ
ช้อตต่อไป เป็นช้อตจบเรื่อง ทั้งหมด 4 หนุ่มใหญ่ กับเด็กชายชาวเล ( คนเดิมที่กระโดดน้ำเมื่อเช้า ) จะต้องลอยคอเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
เกี๊ยง นก แต๋ง รู้ดีกับการลอยตัวในน้ำตั้งแต่เช้ามาแล้วจึงออกอาการขยาดเล็กๆ แต่ทว่าเจี๊ยบยัง จึงกระตือรือล้นกว่าเพื่อน ดังนั้นเมื่อเรือแล่นเข้าไปถึงจุดที่จะถ่ายทำ เจี๊ยบจึงหย่อนตัวลงในน้ำแล้วว่ายเข้าจุดอย่างทะมัดทะแมง ขณะที่อีก 3 คนค่อยๆเกาะห่วงยางตามมา
เดี๋ยวเหอะมึง..เดี๋ยวรู้ แต๋งเหมือนจะเตือน
เฮ่ย..กูแข็งแรงกว่ามึงเยอะ กูเล่นกีฬา เจี๊ยบสวนทันควัน
คลื่นแรงกว่าเมื่อเช้าเนอะ เกี๊ยงช่างสังเกตเช่นเคย
ลิบ ( ชื่อเด็กชาวเล ) ดำไปดูซิ ลึกแค่ไหน? นกบอกเด็กให้ตรวจสอบ
เด็กชายลิบดำน้ำผลุบไปอย่างคล่องแคล่ว สักพักก็โผล่ขึ้นมายิ้มเห็นฟันขาว
หม่ายทึ้ง แปลว่าดำลงไปลึกมากก็ยังไม่ถึงพื้นนั่นเอง
เสียงผู้กำกับบอกให้เตรียมตัว ถ้าได้ยินเสียง แอ็คชั่น ให้เล่นน้ำกันเต็มที่ ก็ได้ตามสั่งจริงๆ เพราะสิ้นเสียงแอ็คชั่น 10 มือ 10 ตีนของพวกเราช่วยกันตีน้ำอย่างสุดแรง จนน้ำทะเลบริเวณนั้นก็แตกกระจาย
ตัด
..ห่วงยางมา
ทีมงานรีบเอาห่วงยางเข้ามาให้พวกเราได้เกาะพยุงตัวไว้
ขึ้นเลยเหอะ เจี๊ยบบอกผู้ช่วยสาวตัวเล็ก ( แต่ห่วงยางส่วนตัวขนาด XL )ที่ว่ายเอาห่วงยางมาให้ เจี๊ยบเริ่มหอบ ตาแดง
ยังพี่ เดี๋ยวเปลี่ยนเลนส์ เอาภาพใกล้ๆอีกที ผู้ช่วยบอก
ทำไมไม่เปลี่ยนมาจากบ้านวะ? เจี๊ยบพึมพำ
อีก 2 3 เทคถัดมา ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุม มีแต่เสียงหอบ สำลักน้ำทะเล ค้อกแค้กๆ เจี๊ยบแถกไปเกาะโคนหน้าผาที่เต็มไปด้วยตัวเพรียงเปลือกคม หน้าขาวซีดขนาดถ่ายรูปไม่ต้องใช้แฟล็ช
พี่มาเกาะห่วงยางดีกว่า นกเรียก เดี๋ยวหินบาดมือหรอก
ถ้ากูรอห่วงยางไหว กูไม่แถกมาหาหน้าผานี่หรอก
ถุย อันหลังสำลักน้ำทะเล
เป็นไงล่ะมึง
นักกีฬา แต๋งได้ที
กูตีแบด มันไม่เค็มหยั่งงี้นี่หว่า เจี๊ยบแก้ตัว
ก่อนที่จะเอาชีวิตมาทิ้งที่ทะเลกระบี่ เหมือนสวรรค์เป็นใจ ผู้กำกับก็สั่งพักพอดี 4 หนุ่ม ก็กลับขึ้นไปนอนหอบ ขณะที่เด็กชาวเล ยังดำผุดดำว่าย
ไอ้ลิบมันยังว่ายเล่นอยู่เลยพี่ นกฟ้อง
มึงไม่เห็นเหรอนก ตีนมันมีพังผืด เหมือนเป็ดน่ะ แต๋งหลับตาบอก
จริงเหรอพี่?
โอววววว
.ไอ้นก
ดีนะที่เลิกก่อน ถ้าอีกเทค กูดิ่งแน่นอน เหนื่อยชิบหา
..ย นักกีฬาเจี๊ยบพูดเหมือนชู่
เมื่อกี๊ ตอนเทคสุดท้าย กูบอกไอ้อู๊ด ( ผู้กำกับ รุ่นน้องที่ถาปัด ) ว่า กูทำท่าที่มันสั่งไม่ได้ แต๋งบอก
แล้ว
.?. เกี๊ยงอยากรู้
ให้ตัวมันลงมาทำให้ดูหน่อย
เท่านั้นแหละ
ผ่านเลย
.ยังมีต่อ
โดยคุณ :
พี่เจี๊ยบ - [10:15:32 24 ก.พ. 2545] |