กระดานความรู้สึก


เส้นทางสายไหม

...........................................

...บ้านหลังน้อยที่รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมปาดเหงื่อที่ไหลย้อยบริเวณหน้าผากสองสามที ก่อนรีบสาวเท้าเพื่อให้ไปถึงจุดหมายนั้นโดยเร็ว....

...ระหว่างทาง...

ใจผมก็หวนคิดไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้ผมต้องเดินมาถึงบ้านหลังนี้ พร้อมกับคำถามที่ผมมักจะได้ยินเสมอว่า ผมมีเหตุอันใดหรือ...ถึงได้เดินมาที่นี่ทุกวันและทุกวัน...

ผมสลัดหัวเบา ๆ ไล่ความคิดนั้น ก่อนจะมาหยุดยืนที่หน้าบ้านหลังนั้น ผมชะเง้อคอมองไปตรงที่หน้าต่างของบ้าน

...ด้วยหวังว่าจะได้เห็นใครสักคนยืนอยู่ที่นั่น...

นอกจากผ้าม่านที่ไหวด้วยแรงลม
ผมก็มองไม่เห็นอะไรเลย
ไม่เห็น...แม้แต่เงาของใครคนนั้น...

ผมหยุดยืนที่หน้าบ้าน ที่ ๆ มีตู้ไปรษณีย์ประจำบ้านตั้งอยู่ ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะสอดส่ายสายตามองไปทางซ้ายที ขวาที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นผมแน่

จากนั้น ผมค่อย ๆ เอื้อมมือไปในเป้สะพายใบย่อม หยิบเอาขนมสายไหมสีชมพูออกมา แล้วค่อย ๆ หย่อนลงไปในตู้ไปรณีย์นั้นอย่างช้า ๆ จากนั้นผมก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุ

ผมเลือกเอาเสาไฟฟ้าใกล้ ๆ กันนั้น เป็นที่กำบังตัว สายตาก็มองความเคลื่อนไหวบริเวณตู้ไปรษณีย์นั้น สักพักมีคนในบ้านเดินออกมา เปิดตู้และหยิบถุงขนมสายไหมนั้น ก่อนเดินกลับและหายลับไปในบ้าน

ผมถอนหายใจเบา ๆ รู้สึกโล่งใจที่กิจวัตรสำคัญประจำวันของผมเรียบร้อยไปอีกวันหนึ่ง

...............................

“แดงเอ้ย... เอ็งทำไมถึงขยันเดินไปท้ายซ้อยนักหนา...”

แม่มักจะถามผมทุกครั้ง เวลาที่เห็นผมเดินหายเข้าไปท้ายซอย

“...เอาของไปฝากเพื่อนน่ะแม่..” ผมตอบ

“เหรอ...ชื่ออะไรน่ะ ไม่เห็นรู้เลยว่าเอ็งมีเพื่อนอยู่ในซอยนี้ด้วย...”

ผมนิ่งไปสักพัก นั่นสิ…ผมไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของคนที่ผมเอาของไปฝากให้ด้วยซ้ำ

“..ชื่อเอ้อ.. ชื่อ....” ผมอ้ำอึ้ง

“แม่อย่ารู้เลย ชื่อเค้าอ่านยาก ตอนตั้งชื่อให้พระยังทักเลยแม่...”

ผมเฉไฉไปเรื่อย เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง พลางแกล้งชวนแม่คุยไปเรื่องอื่น แต่ใจผมกลับลอยไปถึงไหนต่อไหน

ผมกำลังนึกถึงผู้หญิงในบ้านหลังนั้น ที่ทำให้ผมต้องเดินเข้าไปที่นั่น พร้อมทั้งฝากขนมสายไหมสีชมพูไปกับตู้ไปรษณีย์สีฟ้าสดใสเป็นประจำ

ผมเจอเธอครั้งแรก ตอนที่ไปเดินเล่นแถว ๆ ท้ายซอยตอนเย็นวันธรรมดา ๆ วันหนึ่ง

วันนั้น... เธอออกมายืนอยู่ตรงข้าง ๆ หน้าต่าง
และไม่รู้อะไรมาดลใจทำให้ผมมองขึ้นไปบนนั้น

ภาพที่ผมเห็นคือ ...ผู้หญิงผมยาวสลวย แขนเรียวงาม วงหน้าดูสวยซึ้ง ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องมายืนอยู่ที่ข้างหน้าต่างนั่น หรือเธออาจจะกำลังคิดถึงใครอยู่ก็ได้...

ผมตกอยู่ในภวังค์อย่างบอกไม่ถูก วินาทีนั้น ผมอยากจะตะโกนเรียกให้เธอหันลงมามองผม แต่ที่ผมทำได้คือ ค่อย ๆ นั่งลงอย่างช้า ๆ กอดเข่า และมองไปที่นั่นด้วยความรู้สึกที่แสนจะรื่นรมย์ในหัวใจ

เธอคงกำลังมองหาใครอยู่
ผมไม่รู้

ผมรู้แต่ว่าผมก็แอบมองเธออยู่ที่ตรงนี้...เช่นเดียวกัน...

จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี

ตู้ไปรษณีย์ตู้นั้น จะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เพียรเอาขนมสายไหมใส่ตู้มาให้ทุกวัน โดยที่ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พูดหรือเห็นหน้าเธอใกล้ ๆ แม้แต่สักครั้งหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของผมลดน้อยหรือถอยลงแม้แต่นิดเดียว

วันนี้...ก็เหมือนกับทุกวัน

ที่ผมต้องเดินเข้ามาท้ายซอย เพื่อปฏิบัติภารกิจเหมือนอย่างเช่นทุกวัน และทันทีที่ผมหย่อนสายไหมลงไปในตู้ เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น

“จับได้แล้ว นี่ไง นี่ไง....”

พร้อมกับเสียงก็มีคนกรูออกมาจากในบ้าน

“จับได้แล้ว ไอ้นี่นี่เอง ที่ส่งของมา”

ผมเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก และก่อนที่จะตั้งสติได้ ผมก็รู้สึกว่ามีวัตถุแข็ง ๆ อะไรบางอย่างมาแตะที่หัวไหล่ผมเบา ๆ ผมค่อย ๆ เอี้ยวตัวหันไปมอง เจ้าวัตถุนั้นรูปร่างเหมือนไม้ตะพด แต่นั่นไม่ทำให้ผมรู้สึกขาแข้งสั่น เท่ากับได้เห็นเจ้าของของมัน

“ว่าไงไอ้หนุ่ม เอ็งนั่นเอง เข้าไปคุยกันหน่อยดีกว่า...”

เสียงอันทรงพลังสะกดให้ผมหยุดชะงัก ผมยิ้มแห้ง ๆ ในใจของผมห่อเหี่ยวลงอย่างน่าเศร้า พ่อของเธอรู้เรื่องแล้วจนได้หรือนี่

ผมเดินตามพ่อของเธอเข้าไปในห้องรับแขกของบ้าน

ขนมสายไหมสีชมพูถุงนั้น ยังคงวางอยู่นิ่ง ๆ บนโต๊ะกับข้าว ผมไม่เคยนับว่ามันเป็นถุงที่เท่าไหร่ที่ผมเพียรส่งให้

“ต่อไปไม่ต้องส่งมาแล้วนะ ไอ้สายมง สายไหมนั่นน่ะ...”

พ่อของเธอประกาศก้อง ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก ๆ ค่อย ๆ รวบรวมความกล้าถามในสิ่งที่ผมอยากจะถาม

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ สายไหมผมก็ซื้อของผมเอง เจ้านี้เขาอร่อยมากเลยนะครับ...”

ผมพยายามตะล่อม เอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่พ่อของเธอยังคงหน้าตาขึงขัง ในมือแกว่งไม้ตะพดไปมาเหมือนดรัมเมเยอร์ หนวดบนรีมฝีปากกระตุกเป็นจังหวะน้อย ๆ

“ไม่ต้องพูดมาก...บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ...”

ผมคอตกทันทีที่ได้ยินคำสั่งประกาศิต

“ผมอยากถามเธอด้วยตัวของผมเอง...ได้ไหมครับ...”

ผมยังคงยืนกรานเสียงหนักแน่น ในใจคิดแต่ว่าเป็นไงก็ให้มันเป็นกัน

ทันทีที่ผมพูดจบ ผมเห็นพ่อของเธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปบอกแม่ของเธอที่ยืนลุ้นอยู่ข้าง ๆ

“แม่...ช่วยไปตามนังหนูลงมาก็แล้วกัน...”

ผมใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ นี่ผมจะได้เจอเธอจริง ๆ แล้วหรือนี่ เพียงแค่คิด หัวใจของผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะ มือไม้เย็นเฉียบ ผมผุดลุกผุดนั่งอย่าง กระวนกระวายใจ นึกถึงคำพูดที่อยากจะพูดกับเธอ เอ…ผมจะบอกอะไรเธอเป็นคำแรกดีนะ

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ แต่สำหรับผม มันช่างเป็นการรอคอยที่ยาวนานเหลือเกิน

เสียงกุกกัก กุกกัก ดังมาจากชั้นบน ผมบีบมือตัวเองเสียแน่น ก่อนที่จะได้ยินเสียงนั้น ดังใกล้เข้ามา... เข้ามา

ผู้หญิงข้างหน้าต่าง...เจ้าของที่แท้จริงของขนมสายไหม กำลังเดินลงมาแล้ว

ผมค่อย ๆ มองไปที่บันไดนั้น ภาพที่ผมเห็นคือ หญิงสาวคนหนึ่ง ใช่ หญิงสาวคนหนึ่ง เอ่อ…ว่าแต่ นั่นใครกันน่ะ

ผมขยี้ตาสองสามที

“โอ้... เอ้อ....” ผมอุทานไม่เป็นศัพท์

มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอที่ผมเคยเห็น เพราะลำแขนที่เคยผอมเพรียว บัดนี้อวบอ้วนด้วยก้อนไขมัน ลำตัวเป็นปล้อง สองแก้มก็พองเป็นปลาทอง ลูกกะตาที่เคยสะกดใจของผมให้หยุดนิ่ง...ยามนี้ยิบหยีเป็นเส้นเดียว...

“เหอะ เหอะ...”

ผมหัวเราะแก้เก้อ นี่คงมีการเข้าใจอะไรผิดแน่เลย

“...ตูว่าแล้ว...” พ่อของเธอส่ายหน้า สีหน้าเซ็งจัด

“นี่แหละ คนนี้แหละ ไม่ผิดตัวหรอก ก็เพราะมันกินสายไหมเอ็งทุกวันน่ะสิ มันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ นี่ก็เพิ่งพาไปหาหมอ ให้เขาตรวจ หมอบอกน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป เมื่อก่อนหนักอยู่สี่สิบเจ็ด ...เฮอะ...”

พ่อของเธอทำน้ำเสียงประชดหนึ่งชุดใหญ่

“เป็นไงเล่า เตือนไม่ฟัง บอกอย่ากินทุกวัน มันหวานมันหวาน ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ...”

“แหม พ่ออ่ะ” เธอเถียงทันควัน

“สายไหมมันก็ต้องหวานน่ะสิพ่อ ไม่ใช่สายสะดือซักหน่อย...” สาวน้อยร้อยกิโลยังคงเถียงข้าง ๆ คู ๆ

ผมค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างช้า ๆ ในใจพยายามเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ ผมเดาเอาว่าพ่อของเธอคงคิดว่าผมจะผิดหวัง แล้ววิ่งเตลิดออกไปกับภาพที่ได้เห็น

พ่อของเธอเดาผิด !!!!

“...ผมยืนยันว่าจะส่งมาให้อีกครับ...”

ผมประกาศหนักแน่น ทำเอาเธอไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจ

“เย้ เย้ สายไหม สายไหม...”

แม่สาวน้อยของผมแลบลิ้นแผล่บ ๆ นัยน์ตาเป็นประกาย ผมแอบเห็นน้ำตาลติดอยู่ที่ริมฝีปากน้อย ๆ ของเธอ

“เอ็งกลับไปซะเถอะ แล้วพรุ่งนี้อย่าได้ส่งมาอีกเลย ข้าขอร้อง...”

“...พ่อครับ...” ผมเริ่มตีสนิท นับเป็นญาติขึ้นมาทันควัน

“แล้วถ้าสายไหมที่ผมจะส่งให้...ไม่ใส่ความหวาน ...แต่ผมใส่ความรู้สึกอื่นแทนได้ไหมครับ...”

ผมต่อรอง

“แล้วมันจะอร่อยไหมอ่ะ” เธอยื่นหน้ามาถาม ปากเป็นมันเชียว

เรา อันประกอบไปด้วยผม เธอ พ่อ และแม่ของเธอนั่งนิ่ง ผมไม่รู้ว่าแต่ละคนกำลังคิดอะไร

...แต่สำหรับผม... ผมคิดไปถึงวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง...

วันที่สายไหม...
อาจจะไม่หวาน

วันที่น้ำตาล...
อาจต้องเก็บเอาไว้

วันที่สายสัมพันธ์...
อาจปันจากน้ำใจ

วันที่สายใย...
อาจเกิดได้...ด้วยน้ำคำ...

......................................

โดยคุณ : ชมพูพันธุ์ทิพย์ - [20:14:23  7 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
น่ารักมาก...หวานแกมด้วยความเอื้ออาทร...
โดยคุณ :แอบอ่าน - [22:14:44  7 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
น่ารักที่สุด ^___^
โดยคุณ :ปุ๊กปั๊กปุ้ยป้าย - [23:24:42  7 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 3
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขำมาก
โดยคุณ :puiman - [1:16:02  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 4
วันที่สายใย...
อาจเกิดได้...ด้วยการกดแป้นพิมพ์...
^_^
โดยคุณ :เฌอ - [7:43:01  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 5
มิน่าล่ะ วันนี้มดเดินไปเดินมารอบๆ คอมเต็มไปหมด ^_^
โดยคุณ :เพื่อนเด็กน้อยสารภี - [13:33:05  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 6
ง่ำ... สายไหมอร่อยจัง =^O^=
โดยคุณ :ใบหม่อน - [15:01:17  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 7
นี่ขนาดปราศจากน้ำตาล ยังหวานซะ
@^o^@
โดยคุณ :นายละเมอ เพ้อพก - [16:13:29  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 8
ว้าน...หวาน
โดยคุณ :ว่าน - [17:13:13  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 9
@^-^@
โดยคุณ :akejung - [19:22:32  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 10
รู้สึกว่าวันนี้..สายใยจะเกิดขึ้นแล้วหนิ ^-^
โดยคุณ :ตะแบกบาน - [19:51:29  8 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 11
สายไหม ไม่หวาน จากินทามมายยยย..
โดยคุณ :กำแพง-กำปั่น-บันได - [15:46:08  9 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 12
สนุกดีครับ เป็นสายใยที่เกิดจากสายไหมนะครับ เอาไว้จะไปทดลองกับเพื่อนดู
โดยคุณ :ป.ล. - [16:48:57  9 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 13
มานั่งแล้วแอบยิ้มที่มุมปาก :)
โดยคุณ :sunflower - [18:14:13  9 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 14
พี่ชมพูฯ ซัดไปกี่ปีแล้วคะนั่น
แซวเล่นนะ ...คิดถึงค่ะ
โดยคุณ :หมีสมองฯ - [21:55:26  9 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 15
ขำหมีสมองฯอะ เราว่าสาเหตุอยู่ที่อย่างอื่นไม่ใช่สายไหมหรอก อิอิ ^_^
โดยคุณ :เฌอ - [8:47:25  10 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 16
พี่ชมพูฯคะ จะมีวันไหน ไม่หวานมั้ยคะเนี่ย
อยากรู้จังอ่ะ:)
โดยคุณ :นู๋บิ๊ก - [18:00:57  10 ต.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 17
: )
โดยคุณ :พุดซา - [21:33:39  15 ต.ค. 2544]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....