คอลัมน์นี้ ไม่มีชื่อ สมจุ้ย เจตนาน่าสนุก
ได้มีโอกาส เปิด ๆ หนังสือเก่า ๆ นั่งอ่านอย่างเมามัน ก็เลยอยากแบ่ง ๆ ให้ได้อ่านกัน หรือคนที่เคยอ่านแล้วระลึกถึงงานเขียนสมัยนั้น ๆ บ้าง คงจะอ่านอย่างมีความสุขเหมือนผมนะครับ
คอลัมน์นี้ ไม่มีชื่อ สมจุ้ย เจตนาน่าสนุก
จากหนังสือไปยาลใหญ่ ปีที่ 3 ฉบับที่ 24 กุมภาพันธ์ 2532
พอมีข่าวออกมาว่า เฉลียงชุดใหม่ ไม่มีจุ้ย
ก็มีหลายคนสงสัย โดยเฉพาะเมื่อมีหนังสือพิมพ์เขียนข่าวในทำนองว่า เกิดการแบ่งค่าตัว ที่ไม่พอดี เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่ง แม่ผมเอง ก็สงสัยว่าทะเลาะกันแค่ไหน ถึงไม่ได้ แบ-กบาลด้วย
ผมขอตอบสั้น ๆ ก็แล้วกันว่า ที่ไม่ได้รวมออกเทปกับเฉลียง ก็เพราะ ในวันนี้ ผมไม่สอดคล้องกับแนวทางของเฉลียง ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องร้ายแรง แต่จริง ๆ แล้วไม่ร้ายเลย เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ส่วนที่ว่าไม่สอดคล้องยังไง ยังไม่พร้อมที่จะตอบให้สมบูรณ์ได้ ตอนนี้ผมนึกได้แค่คร่าว ๆ ว่า เป็นเรื่องของเวลา เรื่องของอารมณ์ เรื่องแนวคิด และอื่น ๆ อีก ซึ่งถ้าจะตอบให้เข้าใจกันเลย คงต้องแยกแยะอีกว่า เวลาเป็นยังไง อารมณ์มีแค่ไหน แนวคิดเป็นเช่นไร และ อะไรที่ว่า อื่น ๆ อีกนั้น อีกมากมายหรือเปล่า
เอาเป็นว่า วันนี้ตอบแค่นี้ แม่ถามก็คงตอบอะไรให้มากกว่านี้ยังไม่ได้
นอกจากจะเอาเรื่องเก่ามาคุยกันเล่น ๆ พอให้เห็นว่าที่ไม่ได้ร่วมงานกันนั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง หรือเรื่อง ผลตอบแทน
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นั้น เราไม่ค่อยมีปัญหานัก เพราะไม่ได้ทำเป็นอาชีพจริง ๆ จัง ๆ ทั้งเทปก็ขายไม่ดีมากขนาดที่จะมีใครร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำขึ้นมาจากส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ยอดขาย บอกให้ก็ได้ว่า เทปอย่างที่เฉลียงทำนั้น มันจะไม่ได้ขายดิบขายดีนักหรอก สู้หนุ่มเสก ไมโคร เรนโบว์ อะไรไม่ได้เลย แม่ผมกับแม่พี่แต๋งยังถามอยู่บ่อย ๆ ว่า ทำไมถึงไม่ทำเพลงที่มันเพราะ ๆ ฟังง่าย ๆ กันบ้าง ทีไปช่วยคนอื่นเขายังเพราะกินใจก็เห็นตอบเลี่ยง ๆ แม่กันไปคนละทางสองทาง
เรื่องค่าตัวเฉลียงถ้ามีปัญหา ก็ตรงที่ได้ส่วนแบ่งน้อย แบ่งได้ได้เท่าทำอย่างอื่น พอออกคอนเสิร์ตทางทีวี ไม่ได้เงิน ก็ขี้เกียจออกกัน พอจัดคอนเสิร์ตทีสองที ก็ไม่ค่อยมีมุข จะไปต่างจังหวัด ก็ติดธุระไปกันไม่ค่อยได้ งานผู้หลักผู้ใหญ่ ดนตรีการกุศล ก็ไม่ค่อยอยากไปช่วย เล่นในเธคก็ไม่อยากเล่น งานกินเลี้ยงสังสรรค์ก็ไม่ยอมเล่น งานรับน้อง ถ้าจัดกันอย่างมักง่ายก็ไม่อยากไปอีก จะรับโฆษณาก็เลือกสินค้ายังกะจะเลือกเมีย ให้ทำอย่างนี้ก็ไม่อยากทำ ต้องทำแบบที่อยากทำแบบที่ชอบเท่านั้น เจ้าปัญหากันจนคนอื่นเขาทนไม่ค่อยได้ พอมีเด็ก ๆ แฟนเพลงมาชอบ มาคลั่งไคล้ไหลหลงมาก ๆ ก็ว่าเขาเจ็บ ๆ ไม่รักก็อย่ารักแต่อย่ามาเว่อร์ ถ้ารักแบบเว่อร์อย่ารักดีกว่า นี่เฉลียงเป็นอย่างนี้มาหลายปี มีคนรู้จักขนาดนี้ก็น่ายินดีแล้ว ไม่ใช่เรื่องต้องเสียใจทะเลาะแตกวงกันให้เมื่อย
เวลาแสดงดนตรี ถ้าได้เงินมาก็ไม่มีปัญหา หล่อมากหล่อน้อยได้เท่ากัน
ปัญหาถ้ามี ก็ตรงที่ว่า เราไม่มีเวลามาสุมหัวหรือมาทะเลาะกันให้มากเท่าที่ควร อันนี้มีส่วนใกล้เคียงกว่า
เฉลียงครั้งอยู่ด้วยกัน คนที่ผมไม่อยากทะเลาะด้วยมีคนเดียวคือ พี่เจี๊ยบ เพราะทะเละกับแกทีไร แกมักตลกกลับ หามุขตลกให้หัวเราะ ว่าแกไม่ค่อยได้ เพราะมัวแต่หัวเราะแล้วแกก็ปากจัด กัดกลับเจ็บ ๆ
พอจะทะเลาะเป็นเรื่องเป็นราว เราก็เอาเรื่องดารานางเอกหนังฝรั่ง ผู้กำกับมั่ง มาคุยกันจนไม่เป็นอันได้ทะเลาะ บางทีกำลังจะหาเรื่องชวนแกถกปัญหา แกก็ชวนไปช่วยทำบทหนัง ชวนไปเที่ยวกองถ่าย บางทีก็ชวนไปเล่นหนัง จนไม่เป็นอันได้ถกเรื่องดนตรีกันให้เป็นเรื่องเป็นราว
พี่แต๋ง เจอบ่อยกว่าใคร ยิ่งแกเป็นโปรดิวเซอร์ให้นักร้อง ก็ยิ่งเจอบ่อยเพราะผมก็ป้วนเปี้ยน หาข่าวหาเงินอยู่กับพวกนักร้องอยู่ แต่แกก็ไม่ยอมทะเลาะ มีอะไรก็ เออ ๆ ขอบคุณครับ จะด่าแกเรื่องทำเทปห่วย ๆ ออกมา แกก็ว่าขอบคุณครับ เลยไม่รู้จะทะเลาะยังไงได้
คนที่น่ารำคาญที่สุดคือ เกี๊ยง รำคาญที่มันไม่ค่อยมีปากมีเสียง มันไม่ค่อยยอมทะเลาะกับผมหรือกับใคร มันไม่ค่อยพูดมันคิดอะไรของมันก็ไม่รู้จะชวนเที่ยวก็ไม่ว่าง จะชวนกินเหล้า ก็ต้องมีกำหนดการที่แน่นอน ต้องบุ๊คคิวล่วงหน้านาน ๆ ทำแต่งานอยู่นั่น ขยันจนไม่มีเวลาคุยกันเลย ล่าสุดโทรไปขอร้องให้ช่วยออกแบบปกว้าวุ่น พิมพ์ครั้งใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นศิษย์สถาปัตย์ รู้จักรักชอบกับ ปินดาอยู่ ก็ยอมวาดให้ แต่ชักช้า กว่าจะเสร็จเป็นเดือน นี่เลยแกล้งไม่จ่ายค่าวาด ทำเฉย ๆ ก็ไม่เห็นทวงมาสักแอะ
คนที่ผมอยากทะเลาะที่สุดคือ คุณนิติพงษ์ ห่อนาค พี่ดี้คนนี้ ทะเลาะกันแล้วมัน ได้อะไรดี ๆ จากการขัดคอแก และถูกแกขัดคอเสมอ จนรู้สึกว่า สมัยที่เจอกัน ถ้าวันไหนไม่ได้หาเรื่องแกล้งพี่ดี้กัน วันนั้นขาดอะไรไปบางอย่าง ทุกวันนี้ไม่เจอหน้าเจอตัว ฟังแต่เพลงที่แกแต่งออกมาเหมือนคนใช้เครื่องปั่น ฟังแล้วยิ่งอยากชวนแกทะเลาะ เบื่อเวลาฟังแกให้สัมภาษณ์แล้วชอบถ่อมตัวจนเกินความจำเป็น และถึงแม้เพลงที่แกแต่งจะได้รับความนิยมมาก แต่ผมมักไม่ค่อยชอบนัก ฟังแล้วรู้สึกวนไปวนมา แต่ใช้ทรัพยากรทางภาษาได้เก่งเหลือเกิน คนอะไรก็ไม่รู้ ภาษาไทยดีจริง ๆ ถ้าผมเป็นครูภาษาไทยคงดีใจมาก ที่มีลูกศิษย์ใช้ ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก หากินเป็นล่ำเป็นสันขนาดนี้ แต่ที่อยากทะเลาะกับแกก็ตรงที่ อยากรู้ว่า ทำไมแกไม่เขียนเพลงแบบ หมู่บ้านในนิทาน หรือเพลงแปลก ๆ เหมือนยุคแรกอีก
ผมรอฟัง ๆ อยู่ ว่าแล้วชวนแกหาเรื่องเสียเลย เผื่อแกโมโหขึ้นมา จะเขียนมาด่าผม ลงตรงคอลัมน์นี้ก็ได้ ผมอยากเสนอแกว่า ถ้ามีเงินจนรวยพอ น่าจะหาโอกาสเติมความคิดผ่านตัวโน้ตดนตรีให้มากกว่านี้ ผมรอพี่อยู่นะ และเชื่อว่าหลายคนก็รออยู่ รอคำที่นอกจากจะแทงใจดำแล้ว ยังสอดไปแทงสมองขาว ๆ ด้วย ถ้าไม่มีนักร้องยอมร้อง ก็ร้องเองเสียเลย ถึงขายไม่ดีนัก แต่แกรมมี่คงขาดทุนไม่เท่าไหร่หรอก ลองไหมพี่ ผมช่วยโฆษณาให้ด้วย ค่ายแกรมมี่หรือค่ายแรมโบ้ผมก็ไม่รังเกียจ
โดยคุณ :
KING- ลอกมาแปะ - [0:16:46 18 ธ.ค. 2544] |