วันศุกร์ที่ 16 มีค. 44 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม 10 นาที ผมรับโทรศัพท์ซึ่งดู
จากเบอร์แล้วเป็นเบอร์ของเจี๊ยบ (แฟน) เมื่อผมรับสายก็ได้ยินเสียงเธอร้องไห้
ด้วยความตกใจและเสียขวัญอย่างสุดขีด เธอพูดด้วยเสียงอันสั่นจับใจความ
ได้ว่า พี่รุตหนูรถคว่ำรถยางแตกแล้วเธอก็ร้องให้อีก

พอได้ฟังผมตกใจมากรีบสอบถามอาการเธอว่าเป็นไงบ้างและตอนนี้อยู่ที่ไหน
เธอบอกว่าไม่ร่างกายไม่เป็นไรมากไม่มีแผลบาดเจ็บ แต่รถฟังหมด อยู่ถนนสาย
36 ลงสะพานโค้งจากชลบุรีประมาณ 1 กม. ผมบอกให้เธอรออยู่ที่นั่นและปิด
มือถือก่อน ซึ่งแบตเตอรี่เธอกำลังจะหมดบอกให้เธอวางสายก่อนเพื่อผมจะได้โทร
ไปบอกแม่ให้นำรถออกไปช่วยเหลือทันที จากนั้นผมรีบโทรไปที่บ้านและนำรถ
ออกทันที ระหว่างที่เธอรออยู่ที่นั่นหลังจากวางสายจากผมประมาณ 2 นาที ก็
มีหน่วยอปพร. ซึ่งขณะนั้นได้กำลังช่วยเหลือรถเก๋งอีคันหนึ่งซึ่งยางแตกเสียหลัก
ตกลงไปในคูระบายน้ำกลางถนนห่างออกไปไม่ถึง 200 เมตร รีบเข้ามาช่วยเหลือ
2 คน
เจี๊ยบติดอยู่ในรถซึ่งมีเข็มขัดนิรภัยรัดอยู่แน่นและประตูด้านคนขับซึ่งโดน
กระแทกอย่างแรงจนหักกลางอัดเข้ามาติดกับแขนของเธอ กระจกทุกบานแตก
ละเอียดไม่มีชิ้นดี เจ้าหน้าที่ อปพร.ช่วยเปิดประตูปลดเข็มขัดนิรภัย
นำเธอออกมา
จากรถ โชคดีมากไม่มีส่วนไหนของร่างกายแตกหักแค่มีรอยขีดข่วนที่แขนขวาลาย
ไปทั้งแขน จากนั้นจนท.อปพร. ก็ช่วยให้สัญญาณรถที่กำลังวิ่งผ่านมาและอีกคน
หนึ่งช่วยเก็บขอที่กระจัดกระจายอยู่บนถนน ขณะนั้นอีกไม่ถึง 5 นาที
ก็มีผู้ชาย
คนหนึ่งขับรถมาจอดใกล้ ๆ และพยายามเข้ามาพูดชักชวนให้นำรถไปซ่อมที่อู่เค้า
ซึ่งบอกว่าอยู่ไม่ไกลจากที่นัก
เจี๊ยบปฏิเสธบอกไปว่าเดี๊ยวแม่มาจะรอแม่ชายคนนั้น
ก็พยายามเข้ามาชักชวนอีกแต่เจี๊ยบก็ปฏิเสธและเดินหนีไปทาง จนท.อปพร. เมื่อ
ชายคนนั้นเห็นว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจเธอได้ก็ขับรถออกไปจากที่นั่น จากนั้นจนท.
อปพรก็นำรถยกมาลากรถผมไปที่อู่ปะยาง ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 100 เมตร และ
เปลี่ยนยางให้

สาเหตุที่เกิดที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้
เกิดจากขณะที่กลับมาจากกทม.ข้ามสะพานโค้ง
ที่ชลบุรีเข้าถนนสาย 36 ประมาณ 1 กม. ด้วยความเร็วประมาณ 110 กม./ชม.ซึ่ง
ใช้ในการแซงรถเก๋งอีกคันหนึ่งโดยแซงขึ้นทางขวามือ เมื่อแซงพ้นแล้วก็จะกลับเข้า
ทางซ้ายตามปกติขณะที่รถเข้ามาถึงเส้นแบ่งกลางถนน รถเกิดยางแตกเพราะ
เหยียบของมีคม (ซึ่งผมดูจากแผลที่ยางแล้วมีลักษณะเป็นรอยของมีคมตำที่แก้ม
ยางด้านใน) รถเสียการทรงตัววิ่งลงไหล่ทางด้านซ้ายซึ่งขณะนั้นมีพ่วงขวางอยู่บน
ไหล่ทางอีกคันหนึ่ง ด้วยความตกใจเธอจึงหักพวงมาลัยหลบขึ้นไปทางขวาและ
เหยียบเบรคอย่างแรงทำให้หมุนตกลงไปในคูรองน้ำซึ่งลึกประมาณเมตรกว่า ๆ
จากวามเร็วที่วิ่งมานั้นรถก็เกิดการพลิกหงายทำให้ประตูและเก๋งด้านคนขับ
กระแทกอย่างแรงกับขอบคูน้ำอีกด้านหนึ่ง รถกระเด็นขึ้นไปบนถนนฝั่งตรงข้าม
พลิกกลับมาตั้งอย่างสงบโดยหันหน้ากลับไปทางกรุงเทพฯ เธอคิดในใจว่าต้องคอหัก
ตายแน่ แต่พอเธอได้สติและรู้ว่ายังมีชีวิตรอดก็ค้นหาโทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ใน
กระเป๋าสะพาย และรีบโทรมาหาผม หลังจากที่ผมไปถึงที่เกิดเหตุ จนท.อปพร.
เล่าให้ฟังว่า เมื่อสองวันก่อนมีผู้หญิงคนหนึ่งยางแตกที่เดียวกัน
ขณะที่รถพลิกคว่ำ
เค้ากระเด็นออกมานอกรถเสียชีวิตทันที และในก่อนหน้านั้นอีก 2 วันก็มีรถยาง
แตกพลิกคว่ำไฟไหม้รถคนขับเสียชีวิตตรงจุดเดียวกัน
เมื่อกี้นี้ก็มีรถยางแตกตกลง
ไปในคูมีคนบาดเจ็บ ซึ่งจนท.อปพร.กำลังช่วยเหลืออยู่

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมมีข้อสังเกตว่า
1. อุบัติเหตุยางแตกรถพลิกคว่ำมักจะเกิดเวลากลางคืนสถานที่เกิดเหตุ
บริเวณเดียวกัน
2. ระยะทางเข้า กทม. ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุทำไมถึงมีอู่ปะยางตั้งอยู่เรียงราย
หลายอู่มาก
3. หลังเกิดเหตุเพียง 5 นาทีทำไปมีคนมาติดต่อให้นำรถไปซ่อมที่อู่ของ
ตนรวดเร็วมาก

อย่างไรก็ตามผมก็ต้องขอขอบคุณจนท.อปพร.ที่เข้ามาทันเหตุการณ์และ
ช่วยเหลือแฟนผมจนกระทั่งผมไปถึง โดยที่ไม่รับค่าตอบแทนที่ผมให้เลย
และยังบอกให้เราระวังชาวบ้านแถวนี้ด้วยว่า ให้ระวังของมีค่าเพราะพวก
ชาวบ้านที่มามุงดูมักจะหยิบฉวยของมีค่าแล้วก็เดินหายไปกับความมืด
เพรามีคนโดนกันมามากแล้ว

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ผมก็อยากจะบอกกับพี่ๆ เพื่อนๆ คนที่ใช้ถนนเส้นนี้
โดยเฉพาะเวลากลางคืนถนนสาย 36 จากกทม.มาระยอง ให้เพิ่มความ
ระมัดระวังอย่างมากและอย่าประมาทขับรถอย่างมีสติ ถ้าเกิดยางแตก
พยายามประคองรถให้อยู่บนถนน อย่าเบรคเป็นอันขาดจนกว่ารถจะหยุด
ได้เองจึงค่อยหาทางแก้ไขต่อไป
source: forwarded mail

ขอบคุณค่ะ

โชคดีครับที่ไม่เป็นไร มากนัก จำไว้เสมอว่า"ที่ความเร็วขนาดนนั้นน่ะ ห้ามแตะเบรคครับ ควรใช้เกียร์ต่ำแล้วประคองรถ(ดึงพวงมาลัยไว้นะ)ปล่อยให้มันจอดเองครับ
ถ้ายางหน้าแตก คุมยากหน่อย
ถ้ายางหลังแตก คุมง่ายๆครับ