กระดานความรู้สึก


ขอบคุณกองทุนเฉลียงที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้ไปเที่ยวทะเล ( บันทีกจากประธานมูลนิธิ )
บันทึกแห่งความสุขบนเส้นทางเที่ยวละไมดั่งใจฝัน
ระหว่างวันที่  20 – 23  ตุลาคม  2549

“ห้าปีแห่งการรอคอย  ความฝันก็เป็นจริงวันนี้  ดีใจจังเลย ดีใจจริงๆ”  ฉันได้แว่วยินเสียงของผู้พิการ  คนหนึ่งคุยด้วยสีหน้าแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขอันล้นเหลือกับกลุ่มเพื่อน ๆ   ผู้พิการด้วยกันเอง มันเป็นความจริงที่ฉันปฏิเสธไม่ได้เลย นานทีเดียวที่กว่าจะมีวันนี้ วันที่สมหวัง วันที่พวกเราทั้งผู้พิการ เด็กด้อยโอกาสลูกหลานผู้ป่วยโรคเรื้อน อาสาสมัครและทีมงานในนามมูลนิธิตะวันฉาย จะได้เตรียมตัวและพาหัวใจดวงแกร่งขึ้นรถบัสคันโตสองชั้นไปเที่ยวทะเล
หากมองย้อนกลับไปเมื่อเกือบ  5 ปีที่ผ่านมา  คุณแตง (บุญถนอม  ศรีแผ้ว)  ได้แนะนำให้พวกเราโดยเฉพาะอรพิน  สาวน้อยผู้น่ารักจากแม่สะเรียงได้รู้จักพี่จุ้ย (คุณศุ  บุญเลี้ยง)  และพี่จ๋า  วันเวลาผ่านไป         จากความรัก  ความเอื้ออาทร  กลายเป็นความผูกพัน  ไม่นานพวกเราก็ได้มีโอกาสเล่าความฝันให้พี่จุ้ยฟัง  พวกเราเป็นชาวเหนือที่ไม่รู้ว่าทะเลเป็นเช่นไร  พวกเราอยากไปเที่ยวทะเล  มันเป็นความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่และยากที่จะเป็นจริงได้   แต่ด้วยความรักที่พี่จุ้ยมีต่อพวกเรา  พี่จุ้ยได้แนะนำให้ทำโครงการขอรับการสนับสนุนเงินทุนจาก  กองทุนเฉลียง  จึงส่งผลให้มีวันนี้  แม้ว่าจะใช้เวลานานกว่าที่จะพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งนี้  แต่วันนี้พวกเราพร้อมแล้ว  พร้อมที่จะก้าวเดินและเก็บเกี่ยวความสุขบนเส้นทางเที่ยวละไมดั่งใจฝัน  ที่เกิดจากความรัก            อันยิ่งใหญ่ของทุกคน
วันแรกของเส้นทางเที่ยวละไมดั่งใจฝัน   พวกเราได้ตระเตรียมทั้งสัมภาระส่วนตัวและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของผู้พิการ  แล้วค่อยๆ ทยอยขนขึ้นรถบัสดังกล่าว  ช่วงที่ขนของขึ้นรถบัส  ฉันรู้สึกหวั่น ๆ  เหมือนกันว่าจะไม่สามารถขนของที่จำเป็นไปได้หมด  โดยเฉพาะรถเข็นของผู้พิการอัมพาตระดับคอ    ที่มีขนาดใหญ่ไม่สามารถบรรจุไว้ในช่องเก็บของดังรถเข็นคันอื่นๆ ได้  ท้ายที่สุดเราตัดสินใจยกขึ้นไว้ในช่องทางเดินภายในรถบัส  ซึ่งดูเกะกะมาก  แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเรา  เพราะว่ารถเข็นคันนี้จำเป็นมากสำหรับการไปเที่ยวทะเลในครั้งนี้
รถบัสเริ่มออกเดินทางเวลา  18:00 น.  ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้  โดยพนักงานขับรถของบริษัทจงเจริญทัวร์  ที่แสนสุภาพ  ใจเย็น  ขับรถดีเยี่ยม  พาพวกเราไปและกลับโดยไม่มีอาการเมารถเลยแม้แต่คนเดียว  ทั้งๆ ที่มันเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของการนั่งรถสองชั้นก็ตาม  ซึ่งช่วงแรกของการเดินทางพวกเราสนุกสนานไปกับกิจกรรมการถามตอบปัญหาชิงรางวัลและการร้องเพลงคาราโอเกะ  ภายหลังจากการรับฟังการชี้แจงที่มาที่ไปของการทัศนศึกษาครั้งนี้ร่วมกัน  จนกระทั่งเกือบ 4 ทุ่ม  พวกเราก็หลับพักผ่อนบนเก้าอี้อันแสนอ่อนนุ่มและอบอุ่น  ปล่อยให้พนักงานขับรถนำพาพวกเราสู่จังหวัดระยอง
การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  พวกเราถึงจังหวัดระยองเมื่อเวลาเช้าของวันเสาร์ที่  21  ตุลาคม  2549  แวะทำกิจวัตรส่วนตัวและรับประทานอาหารเช้าที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งก่อนเข้าที่พัก  ที่มีชื่อว่าบ้านพัก      ลมทะเลใกล้กับหาดพลาที่ได้ติดต่อจองไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง  โดยความช่วยเหลือของน้องปอ  บัณทิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และครอบครัว  ระหว่างทางก่อนถึงที่พักดังกล่าวผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสทุกคนตื่นเต้นกับการได้เห็นทะเลเป็นอย่างมาก  อย่างออกหน้าออกตา  หลายคนอยากลงทะเล  อยากสัมผัสรสเค็มของทะเล  ให้สมอยาก
เวลาสายของวันดังกล่าว  ทีมงานได้เรียกประชุมตกลงเรื่องกิจกรรมต่างๆ  ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันที่ใช้เวลาช่วงเช้านี้เที่ยวชม Rayong Aquarium  และชายหาดบ้านเพ   ก่อนที่จะกลับมาเล่นน้ำทะเลที่หาดพลาในช่วยบ่ายแก่ๆ  การไปเที่ยวชม   Rayong Aquarium  ผู้พิการตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลาที่มีปลาและสัตว์ทะเลหลายชนิด  หลากสีสันเป็นจำนวนมาก  ซึ่งพวกเราใช้เวลานานพอสมควรในการเที่ยวชมและเก็บข้อมูลตามที่ทีมงานแจ้ง เพื่อนำกลับมาเล่าสู่กันฟังอันเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้สึกร่วมกันในช่วงกลางคืน
เวลาประมาณบ่าย  4 โมงเย็น  ทีมงานได้พาผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสไปเล่นน้ำทะเล  ในขณะทีมอาสาสมัครกำลังขมักเขม่นเตรียมอาหารทะเลที่ผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสอยากรับประทาน
ที่ชายหาดผู้พิการหลายคนนั่งอยู่ริมชายหาดมองดูคลื่นที่พัดมากระทบฝั่งอย่างหวาดหวั่น เพราะนี่เป็นครั้งแรกของชีวิตที่ได้เห็น ได้สัมผัสทะเลจริง ๆ  มันช่างกว้างใหญ่ไกลสุดตาจนน่ากลัว  พวกเขาหลงคิดไปว่าหากลงไปในทะเลตัวเขาคงจะลอยตามน้ำทะเลไปไกล  ท่ามกลางความตื่นเต้นหวาดหวั่น  ทีมงานและเด็ก     ด้อยโอกาสได้ช่วยกันลุ้น  ช่วยกันผลักช่วยกันดันรถเข็นที่มีผู้พิการนั่งลงไปในน้ำทะเล  ให้ผู้พิการได้สัมผัส    กับน้ำทะเล  จนพวกเขารู้สึกคลายความวิตกและตัดสินใจลงไปเล่นน้ำทะเลกับเด็กด้อยโอกาสและทีมงานทุกคนอย่างสนุกสนาน ฉันเห็นรอยยิ้มของอรพินที่นั่งบนรถเข็นริมชายหาด  ฉันเห็นชูชาติชายหนุ่มผู้ไม่มีขาลอยก้น วายน้ำท่ามกลางเพื่อนผู้พิการอัมพาตเช่นแสนแก้ว  บุญมีและวิชัย  ในขณะที่สาวน้อยลูกครึ่งเมืองเหนือและใต้      นุชนารถ  และสาวคูสาวชาวม้งนอนแช่น้ำทะเลและรอคลื่นพัดมากระแทกตัวอย่างสนุกสุดเหวี่ยงท่ามกลางเด็ก ๆ ด้อยโอกาส  ฉันเห็นเก้าลิ่นและตะวันเล่นโยนบอลกับลูกหลานอาสาสมัครในทะเลลึกลงไป   แต่ดูเหมือนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว  พระอาทิตย์ดวงโตเริ่มคล้อยต่ำเตรียมลับสายตา ณ ขอบฟ้าฟากตะวันตกของชายหาดพลา  ที่พวกเรากำลังเล่นน้ำอยู่  มีเสียงตระโกนผ่านโทรโข่งเรียกร้องให้ทุกคนขึ้นจากน้ำทะเลและกลับไปเตรียมตัวเพื่อรับประทานอาหารเย็น
ค่ำคืนของวันที่แสนสนุก  สุขสม  เต็มไปด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมใจ  ทุกคนรับประทานอาหารทะเลกันอย่างอร่อยรส  รวมทั้งทำกิจกรรมร่วมกันท่ามกลางฝุ่นแป้งยี่ห้อ  Baby Mild  ที่ตลบอบอวลไปพร้อมกับเสียงเพลง  เสียงปรบมือ  เสียงพูดคุยถามตอบปัญหา    เสียงหัวเราะเคลียคลอไปกับเสียงคลื่นลมในทะเล   ฉันได้ยินอาสาสมัครที่มาช่วยงานครั้งนี้  ซึ่งไม่เคยสัมผัสชีวิตผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสมาก่อนหน้า  กล่าวชื่นชมผู้พิการและรู้สึกผูกพันแม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  อีกทั้งรู้สึกมีความสุขที่ได้มีโอกาสร่วมเดินทางมาในครั้งนี้             และได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับผู้พิการและเด็กด้อยโอกาส  ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่ทุกคนหลับไปพร้อมกับความฝันที่เป็นจริง
เช้ามืดของวันอาทิตย์ที่  22  ตุลาคม  2549  ฉันและทีมงานได้พาผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสไปดู        พระอาทิตย์ขึ้นตามคำร้องขอของอรพิน  สาวน้อยผู้น่ารักจากแม่สะเรียง  พวกเราได้เห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นที่ขอบฟ้ากว้างด้านตะวันออกของหาดพลา  ในขณะที่น้ำทะเลสงบเงียบ  ชายหาดทอดยาวสงบนิ่ง  เรือประมงหลายลำเริ่มออกหาปลา  แต่ชาวเราเดินเก็บเปลือกหอยริมชายทะเล  เพื่อนำไปฝากเพื่อนๆ ที่เชียงใหม่             ดวงอาทิตย์ลอยสูงขึ้น  พวกเราอาบแสงอาทิตย์ของวันนี้อย่างอบอุ่นขณะเดินกลับที่พัก
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย  น้องๆ อาสาสมัครจากนครชัยศรี  5 คน ที่เดินทางมาสมทบอาสาเป็นไกด์นำพวกเราไปเที่ยว  โดยกำหนดแผนจะไปเที่ยวที่เกาะลอย  แหลมแท่น  เขาสามมุก         และตลาดหนองมน  แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี  พวกเราออกเดินทางพร้อมกับติดต่อกับพี่จุ้ย   (คุณศุ  บุญเลี้ยง) และพี่จ๋า  ซึ่งตกลงนัดพบกันที่เกาะลอย  พวกเราเดินทางไปถึงเกาะลอยในขณะที่พี่จุ้ยและพี่จ๋ารอพวกเราที่นั่น  เราเริ่มทยอยลงจากรถบัสด้วยการอุ้มผู้พิการลงจากรถบัส  แม้ว่าผู้พิการบางคนจะตัวใหญ่       แต่ด้วยแรงใจที่มีร่วมกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่เดินทาง  พวกเราโดยเฉพาะแบงค์  นุ  เกษม  และฉัน                  ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนช่วยกันอุ้มผู้พิการลงจากรถบัสทุกครั้งที่ถึงสถานที่ท่องเที่ยว  พวกเรารู้สึกมีความสุขร่วมกัน  ต่างคนต่างมีใจให้กันและกัน  มีรอยยิ้ม  มีเสียงหัวเราะจากเรื่องเล่าแสนสนุกและขำขันจากพฤติกรรมคำพูดของพวกเราตลอดเส้นทางเที่ยวละไมดั่งใจฝันในครั้งนี้
ที่เกาะลอยพวกเราได้เห็นเต่าตัวใหญ่มาก มากๆ พวกเราสนุกสนานกับการให้อาหารเต่า ได้เห็น         ท้องทะเลที่แตกต่างจากทะเลที่หาดพลา  จังหวัดระยองที่เราพัก  เห็นผู้คนมากมาก  ได้ไหว้พระทำบุญ  ได้ถ่ายรูป  ได้ซื้อของที่ระลึก  ของกินเล่น  ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์และสถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม  สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล  มหาวิทยาลัยบูรพา
ณ.  ที่แห่งนั้น  พวกเราได้ตั้งวงถามตอบปัญหาชิงรางวัลร่วมกับพี่จุ้ย  พี่จ๋า  อย่างสนุกสนาน  พวกเราได้ทานไอศกรีมจากน้ำใจของพี่จุ้ย  พี่จ๋า  น้ำดื่มและอาหารจากการบริการของทีมอาสาสมัคร  ก่อนแวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์
ภายในพิพิธภัณฑ์  อาสาสมัครต้องทำงานอย่างหนักด้วยการยกรถเข็นของผู้พิการขึ้นและลงบันได  หลายขั้น เนื่องจากไม่มีทางลาด  แต่ภายในนั้นมีสัตว์ทะเลสวยงามมากมาย  โดยเฉพาะสัตว์ทะเลแปลกตา  เช่น  ปลาไหลทะเลตัวเล็ก ๆ  ม้าน้ำ  ปลาหนังคางคก  ปลาสิงโต  และอื่น ๆ  อีกมากมาย  ผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสใช้เวลาชมและบันทึกความรู้เป็นเวลานานมากก่อนเดินทางต่อไปยังแหลมแท่น  พวกเราได้แต่ชมทัศนียภาพ   จากรถบัสเนื่องจากคนเยอะมาก  แม้แต่ที่เขาสามมุกก็เช่นกัน  พวกเราจึงได้แต่นั่งรถเที่ยวและตัดสินใจเดินทางกลับที่พักเพื่อหวังจะเล่นน้ำทะเลกัน  แต่การเดินทางวันนี้มีอุปสรรคเนื่องจากปริมาณรถบนท้องถนนเยอะมาก  ทำให้เราเดินทางถึงที่พัก ค่ำมาก  ไม่มีโอกาสเล่นน้ำทะเลตามที่ตั้งใจ  จึงเปลี่ยนแผนเป็นทำกิจกรรมภายหลังจากรับประทานอาหารเย็น   โดยกำหนดให้เช้าวันที่  23  ตุลาคม  2549  ให้ทุกคนเล่นน้ำทะเลกันอย่างเต็มที่ตามแต่ใจใฝ่ฝัน  
ตลอดเส้นทางที่พวกเราเดินทางจากจังหวัดชลบุรีเพื่อกลับที่พัก  พวกเราได้รับโทรศัพท์จากพี่จุ้ย  พี่จ๋า  ตลอดเป็นระยะ ๆ  ด้วยความเป็นห่วง  พวกเรารับทราบว่าพี่จุ้ยและพี่จ๋าได้แวะไปรอพวกเราที่หาดพลาเพื่อร่วมกิจกรรม  แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากพวกเราเดินทางถึงที่พักค่ำมาก   เลยอดฟังเพลงเพราะ ๆ จากพี่จุ้ย  เสียดายแต่ไม่เสียใจ  เพราะเสียงเพลงเที่ยวละไมของพี่จุ้ยดังอยู่ในหัวใจพวกเราตลอดเวลา
ค่ำคืนของวันอาทิตย์ที่  22  ตุลาคม  2549  ทีมงานได้เตรียมเกมและการประกวดร้องเพลง โดยแบ่งกลุ่ม ผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสเป็น  4  กลุ่ม  แต่ละกลุ่มตั้งชื่อกลุ่มของตนเองและทำงานกันเป็นทีม  โดยมีอาสาสมัครเป็นกรรมการตัดสิน  ซึ่งทุกกลุ่มได้รับรางวัลอย่างถ้วนหน้า  ก่อนที่จะแยกย้ายเข้านอนหลับฝันดี
เช้าวันจันทร์ที่  23  ตุลาคม  2549  เป็นเช้าวันที่สดใส  ทุกคนลงเล่นน้ำทะเลอย่างชุ่มฉ่ำใจ  ผู้พิการเล่นอย่างไม่หวาดวิตกเช่นวันแรกที่เดินทางมาถึง  ผู้พิการอัมพาตครึ่งท่อนบอกกับฉันว่า  การลงไปในน้ำทะเลเหมือนกับตัวเองเดินได้อีกครั้ง  หลายคนนอนแช่น้ำริมชายหาด  หลับตา  ปล่อยใจล่องลอยไปตามจิตนาการ  หลายคนก่อกองทราย  หลายคนเก็บเปลือกหอย  หลายคนโยนลูกบอลเล่นกัน  หลายคนเต๊ะท่าถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน
พวกเราเก็บข้าวของเครื่องใช้ทั้งส่วนตัวส่วนรวมขึ้นรถบัสเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับเชียงใหม่  หลายคนมองทะเลช่วงสาย ๆ  ด้วยความรู้สึกผูกพันและสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาเที่ยวอีกให้ได้
พวกเราเดินทางถึงอำเภอศรีราชา  แวะรับประทานอาหารและซื้อของฝากก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่  ตลอดเวลาของการเดินทางกลับ  พวกเราใช้เวลาทำกิจกรรมหลากหลายในรถบัส  เริ่มจากการเล่าเรื่องชีวิตของตนคนพิการให้พี่ๆ  อาสาสมัครฟังผ่านระบบเสียงจากชั้นบนสู่ชั้นล่าง  จากชั้นล่างสู่ชั้นบน การร้องเพลงคาราโอเกะร่วมกัน  ตอบคำถามความรู้จากการทัศนศึกษาครั้งนี้เพื่อชิงรางวัลเงินสดจากพี่ๆ  อาสาสมัคร         การเขียนความประทับใจ  การเขียนข้อความถึงพี่จุ้ย พี่จ๋าและกองทุนเฉลียง  รวมทั้งเล่าเรื่องชวนขันกันตลอดทาง
สุดท้าย  ท้ายสุดแต่ละคนได้กล่าวความประทับใจจากความรู้สึกที่มีต่อกัน  ซึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเพราะมีเรื่องเล่ากระเซ้าเย้าแย่กับรอยยิ้มจากภาพอดีตในวันวานที่ผ่านมาอันเต็มไปด้วยความสุขสมหวัง        หยาดน้ำตาจากความปิติที่ผูกพันกัน  ระลึกถึงกันและกันเสมอของผู้พิการ  11  ชีวิต  เด็กด้อยโอกาส  10  ชีวิต  อาสาสมัครและลูกหลาน  13 ชีวิต  อาสาสมัครชาวเยอรมัน  1 ชีวิต  ทีมงานบ้านทักษิณ  4 ชีวิต  และทีมงานมูลนิธิตะวันฉาย  4 ชีวิต  ซึ่งพวกเราหวังว่าครั้งนี้มิใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะมีโอกาสร่วมทำกิจกรรม     และมิใช่เพียงพวกเรา ผู้พิการที่มาครั้งนี้เท่านั้น  พวกเราหวังว่าอนาคตอันใกล้จะมีกิจกรรมดีๆ เช่นนี้อีก  เพื่อเติมเต็มความฝัน  ความสุขให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคมและเพื่อเปิดโอกาสการเข้ามามีส่วนร่วมกันในการทำสิ่งดีๆ  เพื่อตัวตนและผู้คนรอบข้าง
ในนามมูลนิธิตะวันฉาย  ซึ่งเป็นแม่งานประสานผู้คนและเรื่องราวต่าง ๆ    ขอขอบคุณพี่จุ้ย                (คุณศุ   บุญเลี้ยง)  และพี่จ๋า  ที่เอื้ออาทรต่อพวกเรารักพวกเราเหมือนพี่น้อง  ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาโดยตลอด  ขอขอบคุณคณะกรรมการกองทุนเฉลียง  ที่สนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการนี้  ขอขอบคุณทีมอาสาสมัคร     ซึ่งเป็นบุคลากรของบริษัทเชียงใหม่ทัศนาภรณ์  จำกัด  พร้อมบุตรหลาน  ที่ช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินและ     ขนข้าวของเครื่องใช้  รวมทั้งร่วมทำกิจกรรมกับผู้พิการและเด็กด้อยโอกาสอย่างสนุกสนาน  ขอบคุณ              คุณแมรี่แอน  เวลแลนบล็อก  และทีมงานบ้านทักษิณ  ที่ช่วยดูแลผู้พิการตลอดการเดินทางและทำกิจกรรม   อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง  ขอบคุณในน้ำจิตน้ำใจที่มีให้กันตลอดเวลา  ขอขอบคุณทีมงานน้อง ๆ  จากนครชัยศรี   ที่นำพาเราเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นแรงแบ่งเบาภาระพวกเราตลอดช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกัน  ขอบคุณทุกคนทุกองค์กรที่อำนวยความสะดวกในการเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ  ตลอดวันคืนที่ผ่านมา  ขอบคุณคุณเอ  คุณโย  พนักงานขับรถบริษัทจงเจริญทัวร์  จำกัด   ที่นำพาพวกเราไปและกลับอย่างดี  มีความสุขและปลอดภัย
ขอชื่นชมในความเข้มแข็งและอดทนของผู้พิการ  แม้ว่าจะเดินทางไกลในครั้งแรกของชีวิต  ขอขอบใจในมิตรภาพที่น้อง ๆ  ลูกหลานผู้ป่วยโรคเรื้อนมีให้กับพี่ ๆ  ผู้พิการ  ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดสิ่งดีเช่นนี้  แม้จะไม่ได้เอ่ยนามในที่นี้  แต่ขอให้รับรู้ไว้ว่าทุกท่านอยู่ในใจพวกเราเสมอและขอบคุณอยู่ตลอดเวลา  

บันทึกจากความจำอันมีค่า
นายระธี   ไชยพรพัฒนา
ประธานกรรมการมูลนิธิตะวันฉาย
โดยคุณ : มูลนิธิตะวันฉาย - [18:54:45  9 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 1
อ่านแล้วดีใจจัง ที่กองทุนฯ ได้ทำฝันของใครหลายๆคนให้เป็นจริง
ขอบคุณพี่ๆกองทุนฯ ทุกๆคนค่ะ
โดยคุณ :arnis - [23:09:20  9 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณกองทุนเช่นเดียวกันค่ะ
โดยคุณ :picmee - [12:56:30  10 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 3
เหมือนสองคนข้างบน
................................................
ดีเนอะ
อยากเห็นรอยยิ้มสุขใจจัง
โดยคุณ :อดยฯ - [23:57:08  10 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 4
อ่านแล้วชื่นใจ
โดยคุณ :นิ่มนุ่ม - [21:22:50  12 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 5
เอารูปมาให้ดู...
โดยคุณ :นิ่ม - [17:18:54  14 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 6
ไปตั้งอีกกระทู้อีกกว่า...
โดยคุณ :นิ่มนุ่ม - [17:22:58  14 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 7
......................................
โดยคุณ :... - [17:00:46  3 ธ.ค. 2549]

ความคิดเห็นที่ 8
ภายหลังจากที่พวกเราได้รับโอกาสจากกองทุนเฉลียงแล้ววันนี้พวกเราได้รวมตัวจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเองสำหรับผู้พิการขึ้นเรียนเชิญทุกท่านเข้าชมการดำเนินกิจกรรมได้ที่ www.tawanchai.com
โดยคุณ :ระธี ไชยพรพัฒนา - [18:16:13  16 ส.ค. 2553]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....