เราไม่ควรเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจริงหรือ
ตอนนี้เครียดมากเลยมาเรียนภาษาที่ตปท. แล้วหางานทำเพื่อนที่มาพร้อมกันหาได้เป็น1000เหรียญแล้วส่วนผมหาได้ไม่ถึง100เหรียญเลย ค่าใช้จ่ายก็สูงมาก มาเรียนก็เพื่อหวังจะได้ภาษามากขึ้น เก่งภาษามากขึ้นแล้วก็ทำงานเก็บเงินไปด้วย

อยู่อเมริกาครับ นึกแล้วท้อยังไงไม่รู้ เพื่อนหาได้เยอะกว่าผมตั้งเยอะ งานเขาก็ได้ก่อนผม ผมเพิ่งได้ไม่นานเอง เขามาได้ประมาณเดือนเดียวก็ได้งาน ผมเกือบ3เดือนเพิ่งจะได้งาน

สู้ต่อไป คิดว่ามาหาประสบการณ์

ตั้งแต่เล็ก พ่อสอน(กรอกหู)เสมอว่า "อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย"

มีคำแปลที่เขียนไว้ตาม web แล้ว picmee จอมขี้เกียจ ไปหามาแปะ ตามนี้ค่ะ

http://aenetwork.spaces.live.com/blog/cns!28384AA32A90031F!541.entry?wa=wsignin1.0&sa=683378518


" นอนสูงให้นอนคว่ำ นอนต่ำให้นอนหงาย "

เป็นคำโบราณของไทยคำหนึ่ง มีค่ามากต่อชีวิต การทำงานของคนเรา ทำไมคนโบราณจึงสอนไว้อย่างนี้
เรามาเริ่มจาก "นอนต่ำให้นอนหงาย " กันก่อน นอนต่ำในที่นี้ไม่ได้แปลว่าไปนอนอยู่ใต้ถุน หรือไปนอนอยู่ชั้นใต้ดินอะไรความหมายที่ควรเข้าใจคือ คนที่เริ่มต้นการงานทั้งหลาย จะต้องเริ่มจากงานเล็ก ๆ งานที่เป็นความรับผิดชอบเฉพาะตัว ใครที่อยู่ตรงนี้ควรจะนอนหงาย ก็เพราะการนอนหงาย ทำให้สามารถหมายตาไปอยู่ที่สูงได้ นั่นหมายถึงว่า คนเราควรมองไปที่ทางข้างหน้า ว่าจะก้าวเดินไปสู่ที่หมายอะไรซึ่งสูงกว่าปัจจุบัน หมายถึงการมองให้รู้ ดูให้เห็นว่า เช่นถ้าต้องการจะก้าวจากนักขาย ไปเป็นผู้บริหารงานขาย ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง จะต้องวางแผนการขายเป็น จะต้องมีสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้า ต้องสามารถจูงใจเพื่อนร่วมงานได้ ต้องรู้จักสรุปบทเรียนในการขาย หรือเช่นการเล็งเห็นว่าถ้าเป็นหัวหน้าแผนกอยู่แล้ว ควรมองเห็นว่า ผู้จัดการฝ่าย เขาต้องมีคุณสมบัติอย่างไร อย่าเพียงแต่ทำงานไปวัน ๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นดูว่า คนที่อยู่สูงกว่าเรา เขาจะต้องทำหน้าที่อะไร มีวัตรปฏิบัติประจำวันอย่างไรบ้าง ที่ให้มองไปข้างบนก็เพื่อเรียนรู้ว่า หากตนเองจะก้าวไปสู่จุดนั้นบ้าง จะต้องทำอย่างไร ไม่ใช่มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ หนึ่ง โดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ว่า ผู้บริหารนั้นจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง

ส่วนที่ว่า " นอนสูงให้นอนคว่ำ " เป็นการเตือนสติคนที่อยู่ในตำแหน่งสูง คนเป็นผู้บริหาร คนที่มีเงินเดือนมาก ว่าเมื่ออยู่ดีกินดี มีเกียรติแล้ว อย่าหลงลืมตัวต้องรู้สึกนึกเห็นว่า คนที่อยู่ต่ำกว่าคือ คนที่เป็นลูกน้องเป็นผู้ปฏิบัติงานระดับล่าง เขามีชีวิตอยู่กันอย่างไร การทำงานที่เป็นจริงของเขา เดือดร้อนแค่ไหน จะได้มีโอกาสลงไปช่วยเขาได้เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ลูกน้องที่อยู่ข้างล่างนั้นเอง เป็นฐานรองรับให้เรา ขึ้นมาอยู่ข้างบนเป็นผู้บริหารได้ ไม่มีลูกน้องก็ไม่มีฐานะ ความเป็นผู้บริหารของเรา มองอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องลงไปสัมผัสแก้ไขปัญหาด้วย คนเป็นผู้นำนั้น จะต้องไม่แยกตัวออกจาก ความทุกข์สุขของลูกน้อง นี่เองคือสิ่งที่เรียกว่า " นอนสูงให้นอนคว่ำ " เพราะถ้านอนสูงแล้ว ยังมัวแต่นอนหงาย ก็จะไม่เห็น ไม่รู้ว่าลูกน้อง เดือดเนื้อร้อนใจอะไร ผู้นำที่มีคลื่นความถี่ แตกต่างห่างไกลกับลูกน้อง อาจถูกเรียกว่า ผู้นำที่นั่งอยู่บนหัวคน จะเป็นผู้นำที่นั่งอยู่ในหัวใจคนไม่ได้



http://www.esanclick.com/news.php?Category=&No=13272
อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย  

* สุภาษิตดังกล่าวแม่นคำสั่งสอนที่ปู่ย่าตายายของลาวเฮาปะไว้(-บันทึกไว้)ให้ คนรุ่นหลังได้นำไปค้นคว้าเป็นคติประจำใจสืบต่อกันไปโดยมีเนื้อในสั่งสอนทุก คนที่ฮั่งมีหรือมียศถาบันดาศักดิ์ที่สูงส่ง ควรมีน้ำใจช่วยเหลือเบิ่งแยง(-สอดส่อง) และ ก่อสร้างคนที่บ่ทันมีความก้าวหน้า เพื่อแก่ดงเขาเจ้า(-คนทั้งปวง)ให้มีความบุกบึน(-เข้มแข็ง)กลายเป็นคนที่ สามารถยืนอยู่ในสังคมได้โดย บ่ คิดน้อยคิดสั้น หรือนำตนเองเข้าไปในกลุ่มของพวกอันธพาล พวกทรยศกบฎ เพื่อก่อความวุ่นวายหรือก่อกวนความสงบของสังคม หรือว่ากลายเป็นพวกปรปักษ์ต่อผู้ที่มีผลสำเร็จในชีวิตมาแล้ว ถ้าผู้ที่อยู่สูงแล้วพัดนอนหงายก็จะกลายเป็นคนที่หันหลังให้ผู้ที่ด้อยโอกาส หรือว่ายังทุกข์ยากลำบาก ก็จะกลายเป็นคนทะเยอทะยานฝันหาแต่สิ่งสูงศักดิ์ เพราะเห็นแต่เดือนกับดาว บ่เห็นดินส่วนหลายยังยุ่งยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือจากตนเองแต่อย่างใด

สำหรับผู้ที่อยู่ต่ำให้นอนหงายนั้น ก็หมายความว่าบุคคลใดก็ตามที่บ่ทันมีความสำเร็จในชีวิตในหน้าที่การงาน ควรได้ศึกษาเบิ่ง(-มอง)บทเรียนของผู้ที่อยู่สูงว่า เพิ้ม(ท่าน)มีการพัฒนาตัวเองดีอย่างใดจึงได้รับผลดีแนวนั้น พร้อมกันนั้นก็ต้องรู้ซอก(-ค้นหา)ถอดถอนบทเรียนจากผู้ที่ฮั่งมีเป็นดี หรือมีความก้าวหน้า เพื่อนำไปปฎิบัติตั้งหน้าพยายามให้ตัวก้าวขึ้น บ่แม่น(-ไม่ใช่)ว่าตนต่ำต้อยแล้วมีแต่หมดหวังท้อถอย และเฮ็ด(-ทำ)แต่แนวบ่ ดี อันซึงจะพาชีวิตของตนตกต่ำลงไปอีก. การเปรียบเทียบกับผู้ที่สูงกว่า แม่น(-ที่จริงคือ)วิวัฒนาการของสังคมซึ่งต้องพัฒนาให้ก้าวหน้าทันสมัยทีละ ก้าว ถ้าเราอยู่ต่ำแล้วนอนคว่ำ ก็จะเห็นแต่สิ่งต่ำต้อยเป็นดินเป็นห้วย หรือว่า บ่ มีกำลังใจเพื่อบุกบึนต่อสู้แก่ตนเองเลย

รวมความว่าคำสุภาษิตดังกล่าวแม่นตักเตือนสั่งสอนให้พวกเรามีสติ ช่วยเหลือเกื้อxxxลซึ่ง กันและกันบนพื้นฐานต่างฝ่ายต่างให้โอกาสตัวเอง และคิดว่าก็แม่นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าสังคมก้าวหน้าตนเองก็จะก้าวหน้าไปนำ(-ด้วย) ตรงกันข้าม ถ้าสังคมล้าหลังแต่ตนเองก้าวหน้าคนเดียว สังคมก็บ่น่าอยู่ เพราะส่วนหลายจะมีแนวคิดที่อิจฉาบังเบียด เฮ็ด(-ทำ)ให้ตนอยู่ยากไปนำ(-ด้วย)อีก.

อ้างอิงจากคุณน้ำใส www.reurnthai.com




ช่วงนี้อาจจะดูเลวร้าย อาจจะดูทดท้อ ทรมาน แต่แล้วมันก็จะผ่านไปนะคะ (อันนี้บอกตัวเองด้วย)

วันไหนรู้สึกเหนื่อย ไม่ไหว ก็แวะมาพักที่เว็บเฉลียงนี่ล่ะค่ะ
ทุกคนยินดีนั่งคุยเป็นเพื่อน

โดยคุณ :

ถ้าเอาตัวไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แล้วทำให้เราท้อใจ หมดกำลังใจ
ไม่ควรทำค่ะ นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังเกิดโทษด้วย
ถ้าจะเปรียบเทียบกับคนอื่น ต้องเปรียบเทียบเพื่อให้ทำให้ได้อย่างเค้าค่ะ
แต่ถ้าเราเก่งไม่เท่าเค้า ทำไงก็สู้เค้าไม่ได้
เหมือนเค้านั่งรถยนต์ไป แต่เราขี่จักรยานไป
อาจจะไปได้ช้ากว่า แต่ก็ไปถึงได้
แบบนี้น่าภูมิใจกว่านะคะ
เพราะเรามีความอดทน และความพยายามมากกว่าค่ะ

ขอให้คุณ อ อย่าเพิ่งท้อ หมั่นสร้างกำลังใจที่เข้มแข็งให้ตัวเอง
ถ้ามองไปข้างหน้า เห็นตัวเองอยู่หลังคนอื่นแล้วทำให้ท้อ
ก็ลองมองดูคนที่เดินอยู่หลังเราบ้าง เพื่อเพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง
ยังมีคนอีกตั้งหลายคน ทำไม่ได้อย่างที่คุณ อ ทำ
ถ้ายังเหลือทางอีกไกลกว่าจะถึงที่หมาย
ให้หันกลับไปดูทางที่ได้เดินมาแล้วตั้งเยอะ
ถ้าไม่เดินต่อ มันน่าเสียดายนะคะ

เราคงเป็นได้แค่กองเชียร์ข้างสนาม
ส่วนกำลังใจ และความอดทน คุณ อ ต้องสร้างเองค่ะ
แต่ก็จะคอยเชียร์เรียกขวัญกำลังใจ
ขอให้คุณ อ ทำสิ่งที่ตั้งใจได้สำเร็จนะคะ
ใจสู้ ชูสองนิ้วค่ะ

Don't give up na ka. If you're tired, you can take a break, but don't give up. You can look at your friend and what he did, so that you can find a way to improve your strategy. Just don't take it personally. Think of it as another life lesson you're here to learn. In the end, money is not the most important thing in the world anyway. I hope you find what you are looking for na ka.

The lessons learnt from toughful experiences will strengthen your heart and soul. Soon, you'll gradually become a greater man.

โดยคุณ :

ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นการเปรียบเทียบ
น่าจะเรียกว่า ดูคนอื่นแล้วหันมาดูตัวเอง

คนอื่นหากจะก้าวหน้ากว่า คงต้องดูว่า เขาทำอะไร อย่างไร และเมื่อไหร่
แล้วหันกลับมามองตัวเอง ว่าเราทำอะไร อย่างไร และเมื่อไหร่

การมองความก้าวหน้าของคนอื่นเพื่อเป็นแนวทาง
และนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาตนเอง
คนเราสุดท้ายแล้วก็ต้องแข่งขันกับตัวเอง
คนที่ประสบความสำเร็จ ทุกๆวันนี้ก็ยังคงต้องแข่งขันกับตัวเอง
เว้นเสียแต่ว่า พอใจ ยินดีกับสิ่งที่มีแล้ว จึงจะพอเพียง

คนยังหนุ่มสาว มีความรู้สึกท้อแท้เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติ
เพราะความที่ยังมีความฝัน ที่จะเป็น ที่จะได้อยู่มาก
ขอเพียงอย่าท้อแท้นานเกิน และอย่ายอมแพ้กับตัวเอง
อย่าหาเหตุอ้างมาหักล้างความฝันของตัวเอง
ชีวิตย่อมประสบความสำเร็จ

* ชีวิตคนเราจะเครียด จะท้อแท้ เต็มที่ไม่น่าจะเกิน 3 วัน เดี๋ยวก็ตั้งหลักได้ *

โดยคุณ :

สู้ ๆ นะคะ  อย่าเพิ่งท้อ อย่ายอมแพ้  ถ้าไม่ทุกข์แล้วไม่รู้ว่าสุขได้อย่างไร

โดยคุณ :

คุณเป็นผู้ชาย...พอเวลาผ่านไปคุณจะดีขึ้นเอง...
ขนาดผู้หญิงตัวเล็กๆ(Lookaew) ยังอยู่ได้เลย
ฉะนั้นอย่าท้อนะครับ...มองคนอื่นเพื่อที่เราจะได้พยายามให้มากขึ้น
แรกๆอาจจะท้อๆ..ที่อะไรก็ได้มายากๆ...ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน
คงจะดีขึ้น...(อันนี้บอกตัวเองด้วย)

โดยคุณ :

อยากได้ภาษาต้องพูดเยอะ ๆ ฟังเยอะๆ เขียนเยอะๆ ถ้าฝันเป็นภาษาอังกฤษได้ เป็นสัญญาณที่ดี

เรื่องงาน ตอนไปต่างประเทศใหม่ ๆ ผมเดินหางานอยู่ตั้งเกือบครึ่งปี เชื่อไหมว่าไม่มีที่ไหนรับเลย กว่าจะได้ทำงานทำ  

สู้ ๆ นะครับ อย่าท้อไปเลย คนเราจะให้เหมือนกันทุกอย่างเป็นไปไม่ได้หรอกครับ