เป็นประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ซึ่งผ่านมาเมื่อเสาร์ที่แล้วนี้เอง คือ มะหมี่ไปงานมาแล้วกลับบ้านค่อนข้างดึก ประมาณ 3-4 ทุ่ม...ด้วยความที่ว่าบ้านอยู่ชอยที่ไม่มีรถผ่านมีแต่มอเตอร์ไชด์รับจ้าง เราก็กลัวว่าดึกแล้วจะไม่มีรถเข้าบ้าน เลยตัดสินใจโบกรถTAXI พอขึ้นTAXI แล้วก็บอกคนขับว่าจะไปไหนแล้วเราบอกเค้าว่าจะแวะซื้อยาก่อนเพราะเราไม่ค่อยสบาย...นั่งไปได้สักพัก คนขับรถก็บอกว่า "น้องได้กลิ่นอะไรไหม" เราเองก็ไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรเพราะเราก็ไม่ได้เอาอะไรมามากมาย เราก็ตอบไปว่า "กลิ่นอะไรเหรอพี่...กลิ่น hotdog หรือว่า กลิ่นลูกตาล" (เราชื้อมา) เค้าก็บอกว่าไม่ใช่ เค้าบอกว่าเป็นกลิ่นสารเคมี แล้วเค้าก็ปวดหัวมาก เพราะกลิ่นนี้ แล้วเค้าก็ขอเปิดหน้าต่าง ส่วนเราไม่ได้กลิ่นอะไรเลย เราก็บอกเค้าว่า "พี่หนูไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลยนอกจาก กลิ่นของพวงมาลัยพี่อ่ะ" สักพักเค้าก็ขับรถเร็วมาก..โฉบไปมา เพื่อนเราโทรมาเราก็รับไม่ได้เพราะสัญญาณไม่ดี พอใกล้ถึงปากชอยบ้านเรา เราก็บอกให้เค้าเข้าซอย เค้าจอดรถหน้าซอยแล้วไม่ยอมเข้าซอย แล้วบอกให้เราลงตรงปากซอยนั้น แล้วจ่ายเงินเข้าซะ...พอดีเรามี แบงค์ 500 เราก็กลัวว่าเค้าจะไม่มีทอนเราก็กะจะไปแลกให้ เค้าก็ตะคอกใส่เราว่า ไม่ต้อง 500 ก็มีทอน แล้วเค้าก็ดึงแบงค์ไปส่อง(ประมาณว่ากลัวแบงค์ปลอม) แล้วก็ทอนเรา มา พอดีว่าเพื่อนเราโทรหาเราพอดี ก่อนเราลงจากรถ เค้าก็ว่า เราว่า คราวหลังอย่าไปปล่อยยาให้ใครดมอีก เราก็บอกว่า ยาอะไรอ่ะ..ไม่มีเลย เราลงมาแล้วเค้ากำลังปิดกระจกพอดีเราก็พูด กับเพื่อนว่า เนี๊ยะคนขับมันหาว่าเราปล่อยยาให้มันดม ไม่รู้ยาบ้าอะไร สงสัยคิดไปเอง เราคิดว่าเคนขับคงได้ยินเพราะเค้า หันมามองเรา แล้วเราก็เดินเข้าซอย รอมอเตออร์ไซด์ แต่เค้ายังไม่ไป เหมือนจอดรถรอดูเราอยู่ ..จนกระทั่งเราขึ้นรถไปแล้วเค้าก็ออกรถไป...เราก็นึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าเค้าคิดว่าเราปล่อยยาจริง ทำไมตอนผ่านป้อมตำรวจไม่ลงไปแจ้งความเลยอ่ะ...แล้วเราก็คิดได้อีกว่า หาก เข้าไปที่ป้อมแล้ว ถ้าเค้าเกิดโวยวาย...แล้วยัดยาใส่เรา...จะทำไงดี.....เรื่องนี้อ่ะ....เรากลัวมากเลย....แล้วก็คิดว่าหากต้องกลับบ้านดึกคงไม่ขึ้นรถคนเดียวอีกแล้ว.....เพื่อนๆ ระวังไว้ด้วยล่ะกัน.....อืม...อีกอย่างนะเราไม่แน่ใจว่าคนขับรถอ่ะ เป็น engineer man หรือ ว่า ไก่น้อย ปลอมตัวมาหรือเปล่าอ่ะ

เราว่า คนขับแท็กซี่ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ENGINEERMAN หรือไม่ก็พี่ไก่น้อยนั่นแหละ ระวังตัวด้วยนะมะหมี่ยิ่งตอนนี้ใครต่อใครต่างก็จับตามองท่าขูดมะพร้าวของมะหมี่อยู่....โอยน่ากลัว

น่ากลัวจังนะ

มะหมี่ใส่น้ำหอมอะไรฉุนๆหรือเปล่า ที่ตัวเองจะไม่ได้กลิ่น แต่คนอื่นได้กลิ่นหรือเปล่า อ่านดูแล้วเหมือนคนขับ taxi เค้ากลัวมะหมี่ มากกว่านะ หรือไม่เค้าคงจะแพ้ลูกตาลมั้ง แต่เห็นด้วยที่ดึกๆ ก็ไม่ควรนั่ง taxi คนเดียว

อ่ะ ..... นั่งแท๊กซี่อาจเกิดอันตรายได้
ถ้ามีมือถือหรือ PCT ควรโทรคุยกะใครก้อได้
พูดไปเลยว่าอยู่บนรถแท๊กซี่ทะเบียนอะไร?
สีอะไร?อยู่ที่ไหน?และจะถึงจุดหมายเมื่อไร?
เพื่อความปลอดภัยอ่ะ.. อย่างน้อยก้อกันไว้ก่อน
(คนขับที่คิดไม่ดี..จะได้ไม่กล้าทำอันตรายไงจ๊ะ)
พ่อสอนมา!!!

เพื่อนปรางก็เคยเจอแท๊กซี่นิสัยไม่ดีเหมือนกันค่ะ
คือวันนั้นเพื่อนปรางเค้ากลับบ้านดึกน่ะค่ะประมาณ 5 ทุ่ม บ้านก็ไกลด้วยอยู่แถวๆบางนา ค่อนข้างเปลี่ยว แถวๆที่เค้ามีข่มขืนกันบ่อยๆเลยน่ะค่ะ แล้ววันนั้นเค้าก็เป็นอะไรไม่รู้ดันไปนั่งข้างหน้าข้างๆคนขับ ตอนนั่งอยู่มือคนขับก็มาโดนขาหลายทีมาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิอว่าเค้าเข้าเกียร์เฉยๆคงไม่ได้เจตนา พอถึงแถวบ้านเพื่อนเค้าก็บอกให้แท๊กซี่เตรียมเลี้ยวเข้าซอย แต่แท๊กซี่ก็ยังขับเร็วเหมือนเดิมค่ะ เพื่อนก็ว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเข้าอีกทางข้างหน้าก็ได้ แต่แท๊กซี่ก็ยังไม่ชะลออยู่ดี ก็เลยบอกให้เค้าจอดเค้าก็ยังไม่ยอมจอด เพื่อนก็เริ่มทำอะไรไม่ถูกแล้วค่ะ ก็เลยตัดสินใจเปิดประตูจะลงแต่แท๊กซี่ก็ยังไม่ชะลอความเร็วอยู่ดีค่ะ จนเพื่อนต้องโดดลงมา หลังจากนั้นเพื่อนก็คอยโบกรถที่ผ่านมาอีกหลายคันมากก็ไม่มีใครจอดรับเลย ในใจก็กลัวแท๊กซี่คันนั้นจะย้อนกลับมาค่ะ ในที่สุดก็มีรถคันนึงมาจอดรับ น่าแปลกใจที่คนที่ขับรถคันนี้มาไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชาวเกาหลี วันนั้นเพื่อนรู้สึกแย่กับเหตุการณ์นี้มากค่ะ ไม่ใช่เฉพาะกับแท๊กซี่นะคะ กับน้ำใจของคนร่วมชาติเดี๋ยวนี้ด้วย ไม่รู้หายไปไหนกันหมด จะบอกว่าเพื่อนปรางน่ากลัวจนเค้าไม่กล้าจอดรับก็ไม่ใช่ เพราะเพื่อนก็ยังแต่งชุดนักเรียนอยู่เลย จะว่ารีบร้อนก็ไม่น่าดึกออกขนาดนั้นแล้ว
ยังไงฝากเพื่อนๆในเวบนี้ด้วยนะคะ ถ้าเห็นคนต้องการความช่วยเหลือ แล้วเค้าไม่น่ากลัวจนเกินไปก็ช่วยดูเค้าหน่อยนะคะ ว่าเค้ามีปัญหาอะไรเผื่อเราจะช่วยได้ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีคนเจอเรื่องแบบเพื่อนปรางซักกี่คน

อืม...เข้าใจนะคะ และก็เข้าใจคนที่ไม่จอดรถด้วย...เพราะสังคมเดี๋ยวนี้โหดร้ายเหลือเกิน...ถูกสอนมาค่ะ ขับรถคนเดียวไม่ควรจอดรับใคร ขนาดคนสอนเป็นผู้ชายยังไม่กล้าจอดเลยค่ะ เพราะมี ยา มีอาวุธที่จะทำอันตรายได้มาก ถ้านั่งมา 2 คนขึ้นไปจอดรับ1คนได้ ถ้าเป็นกระบะจอดรับได้ ให้นั่งข้างหลัง เฮ้อ ...เพราะพวกมิจฉาชีพ มันเอาหนทางใจดีของคนมาเป็นเครื่องมือเยอะมาก แล้วใครเลยจะกล้าวางใจ ถึงชุดนักเรียนก็เถอะค่ะ ตัวดีนักแล ไม่ได้ว่าเพื่อนเพลงนะคะ แต่หมายถึงอะไรก็ตามที่เอามาทำให้คนหยุดมาเป็นเหยื่อก็ทำกันหมด ... ก็เคยถามเหตุผล ว่า ทำไมล่ะเผื่อเขาเดือดร้อน เขาก็สอนว่าแล้วคุ้มไหมกับการช่วยเหลือ เพราะในทางเปลี่ยวๆ เขาไปทำอะไร มาได้อย่างไรคนเดียว อาจมีคนเดือดร้อนจริง แต่ไม่ได้มีกันง่ายๆหรอก ให้คนที่เขาช่วยได้ช่วยดีกว่า เราไม่พร้อมไม่ควร พวกที่ขับมา 2 คนอะไรอย่างเนี้ยค่ะ แถมโดนด่าอีก ว่า อย่านะ อย่าทำเป็นคนดีโดยไม่ดูตัวเอง คนที่รักและห่วงเราจะเสียใจถ้าเกิดอะไรขึ้น เจอประโยคนี้ก็อึ้ง...ค่ะ คิดๆ ก็เซ็ง

แง :~ ไม่ยุติธรรม พ่อเราก็ขับ Taxi นะ ขับออกจะดี อย่าเหมารวมดิ คนขับเขาก็กลัวคนนั่งเหมือนกันหน่ะแหล่ะ

เห็นชื่อน้องแล้วคิดถึงหนัง แม่เบี้ย อิ อิ
เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างระแวงค่ะ แท็กซี่ก็ระแวงเรา เราก็ระแวงเขา พี่เคยนั่งเข้าซอยบ้านแล้วพอดีดึกมากน้าชายเลยเดินมาดูกลางซอย พอเราเห็นเราก็บอกให้แท็กซึ่เขาจอดรับปรากฎว่าเขาจอดแต่เขาไปยอมปลดล็อคคงจะกลัวมากคิดว่าเราเป็นนางนกต่อ พูดกันอยู่ตั้งนาน นั่นล่ะน้าชายเราถึงได้ขึ้นรถกลับบ้านพร้อมเรา

เกิดมาเป็นผู้หญิงก็มีเรื่องให้น่าระวังตัวอยู่เหมือนกัน ยังไงก็รักษาตัวกันหน่อยนะครับ
......แล้วชายหนุ่มรูปงามอย่างเราจะมีอะไรให้กลัวบ้างมั้ยเนี๊ย

ไม่ได้ว่าใครค่ะ มันมีทั้งคนดีและคนเลวนั้นแหละ แต่ปรางแค่จะบอกให้ทุกคนระวังตัว และก็อยากให้ทุกคนเผื่อแผ่น้ำใจไปให้คนอื่นบ้างเท่านั้นค่ะ แต่จะเลือกทำอย่างไรแล้วแต่สถานการณ์ที่แต่ละคนจะพิจารณาค่ะ