กระดานความรู้สึก


รักษาสิทธิแต่เสียประวัติ กับปล่อยผ่านไปแลกกับเจ็บใจตลอดชีวิต
มีเรื่องมาเล่าให้ฟังเรื่องนึงนะ ยาวไปนิด ว่างลองอ่านและแสดงความเห็นกันดู
เราอยากรู้ว่าถ้าเป็นคนที่นี่จะคิดกันยังไง

เราเริ่มงานที่ใหม่ในตำแหน่งการตลาด ดูแลในส่วนกิจกรรมพิเศษ ออกนอกสถานที่เป็นหลัก ตามมาด้วยคิดโปรโมชั่น ดูแลลูกค้าต่างชาติ (อันนี้เพราะความสามารถด้านภาษา ที่คนแถวนัน้มีจำกัดกว่านิดหน่อย) พร้อมทำฐานข้อมูลลูกค้าทั้งหมด
อย่าคิดไรมาก ฝ่ายการตลาดมีเราคนเดียว

ทำไปได้ 1 เดือน เพื่อนฝ่ายขายที่อยู่มานาน 10 ปี ตั้งแต่เป็นเด็กในสายการผลิต (สาวโรงงานนั่นแหล่ะ) จะลาออก
นาย(โยน)แบ่งงานของเพื่อนคนนี้ให้หลายๆ คนทำ เพราะจะไม่รับพนักงานใหม่
ฝ่ายขายเดิมมี 2 ก็จะเหลือ 1
เราได้รับงานเอกสารสั่งสินค้าต่างชาติมาทั้งหมด ซึ่งต้องทำตั้งแต่รับสั่งสินค้า ออกเอกสารยืนยีนการสั่งสินค้ากลับไปที่ลูกค้า เอกสารสั่งผลิตภายใน ไปจนถึงเอกสารเรียกเก็บเงิน และเอกสารส่งสินค้าออก (Shipping)

จากงานที่ได้รับ ทำให้เราไม่ได้ทำงานส่วนการตลาดของตัวเองเลยสักนิด
เว้นแต่เมื่อต้องออกนอกสถานที่ มีกิจกรรมพิเศษ ประมาณเดือนละ 3 ครั้ง ซึ่งต้องเตรียมของ เตรียมงาน เตรียมเอกสารล่วงหน้าเล็กน้อย
ประกอบกับเอกสารที่สับสนวุ่นวาย เพราะคนทำเดิมไร้ระบบ ทำแบบความเคยชินของตน มากกว่าจะมีเอกสารอ้างอิงรองรับการทำงาน
(เช่น การออกรหัสระบุสีสินค้า ระบุภูมิภาคของสินค้า ใช้จำเอาหมดเลย)
----------------------------------------
ในที่สุด เราทำงานไปได้ 2 เดือน
นายก็ออกนโยบายใหม่ ว่า "เลิกกิจกรรมพิเศษทั้งหมด ไม่เอาอีกแล้วตลาดในประเทศ เน้นแต่ต่างชาติส่งออกแล้วกัน"
เพราะฉะนั้น เราต้องไปทำเอกสารส่งออกไรพวกนั้นทั้งหมด

เราคิดอยู่พักนึง ก็ขึ้นไปเจรจากับนายว่า นี่ไม่ใช่ทางที่เราต้องการแล้ว หาคนใหม่มาทำแทนเราเถิด แล้วเราจะสอนงานต่อให้พักนึง ค่อยลาออก
เราบอกเขาเมื่อวันพฤหัสก่อนสิ้นเดือนมกรา

ต่อมาวันอังคารถัดมา เขาก็มีประชุม บอกว่าหาคนใหม่ได้แล้วนะ
โดยให้เด็กธุรการมารับงานตรงเราเพิ่ม (ไม่ได้รับคนเพิ่มเลยนะ)
เราจงเก็บของกลับบ้านได้แล้ว......

----------------------------------------

ต่อไปนี้เป็นประโยคสนทนา
เรา : จะจ่ายเงินเดือนให้ถึงสิ้นเดือนหรือเปล่าคะ
เขา : ไม่สิ ก็จ่ายให้เต็มวันถึงวันนี้
เรา : ไม่ได้นะคะ คือต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วันนะคะ หรือไม่ก็จ่ายค่าจ้าง 30 วัน
เขา : ไปเอามาจากไหน
เรา : กรมแรงงานค่ะ
เขา : ไปเช็คมาให้ดีนะ ยังอยู่ระหว่างทดลองงานอยู่เลย
เรา : กฎหมายนี้คุ้มครองผู้ที่อยู่ระหว่างทดลองงานค่ะ
เขา : ....สรุปว่าจะยังไง ผมจ่ายให้เท่านี้ล่ะ จะพอใจไหม
เรา : ไม่ขอรับปากนะคะว่าจะพอใจไหม ซึ่งอาจจะขอไปแจ่งที่ทางกรมแรงงานมาดูแลแล้วกัน
เขา : งั้นเอางี้ ผมถือว่าผมไล่ออกแล้วกันนะ

----------------------------------------

หมายเหตุ - ความอึดอัดนี้ ไม่รวมกับระเบียบเรื่องเวลาการทำงาน
ที่เดิมถ้าเราทำเสาร์-อาทิตย์ เราจะได้วันหยุดชดเชยแทนในโอกาสต่อไป
ก็เปลี่ยนเป็น ถ้าทำเสาร์ จะได้กลับเร็ว วันละ 1.5 ชั่วโมง ใน จันทร์-ศุกร์ ถัดมา
ถ้าทำอาทิตย์ จะต้องหยุดจันทร์รุ่งขึ้น
ถ้าทำเสาร์อาทิตย์ ก็เอาชดเชยที่ว่านั่นน่ะ มารวมในสัปดาห์เดียวกัน
โดยคุณ : คนแถวนี้ล่ะ ไม่อยากเอ่ยชื่อ - [0:05:01  14 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 1
เราอยากไปร้องเรียนกรมแรงงาน ตามสิทธิของเราที่พึงมีนะ
แต่คิดหลายอย่าง
เราต้องแลกกับประวัติที่อาจจะเสียไปไหม ในการหาสมัครงานต่อไป (ยังไงก็ต้องหางานใหม่ทำ เพราะต้องเลี้ยงชีพนี่นา)
เราต้องแลกกับเวลา เงินทอง อะไรไหม

แต่ถ้าเราไม่ไป
แล้ววันนึง เราย้อนมาคิดถึงเหตุการที่เราออกจากงาน
เราจะโทษตัวเองไหมว่าเราผิด
เราจะโทษตัวเองไหม ว่าเราไม่อดทนทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย
เราจะลืมไหม ว่าจริงๆ เราตั้งใจลาออก เพราะต้องการตามความฝันตัวเอง หลังจากพบมัน

หรือว่า เราจะโกรธตัวเองไหมว่าทำไมไม่ลุกขึ้นสู้

เราคิดกระทั่งว่า ถ้าเราไม่ลุกขึ้น
คนหลังเรา จะถูกเขาเอาเปรียบอะไรอีกไหม
เรายังมีหน้าคิดถึงคนอื่นอยู่อีก

สับสน คิดไปหลายอย่างนะ

วันนี้ ให้เพื่อน ถามเขาว่า สรุปว่าเขาจะจ่ายเงินถึงเมื่อไหร่
แล้วถ้าจะไล่ออก ก็เอาเอกสารมา ไม่รับปากเปล่า (เราจะเอาไปเป็นหลักฐานต่อ)
ดันตอบกลับมาสว่า ไม่ออกหรอกไม่เคยทำ
เอาไปทำไมอายเขาเปล่าๆ
(เรื่องของกรูเฟ้ย ได้ยินไหม)

เป็นเพื่อนๆ จะทำไงกัน ตอบหน่อยสิ
โดยคุณ :เจ้าของกระทู้ - [0:10:53  14 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าปล่อยงูพิษไป มันอาจได้ใจ ไปกัดคนอื่นที่ไม่มีทางสู้
แต่ถ้าเราคิดจะจับมันหักเขี้ยว ตัวเราเองอาจจะแย่
(ถ้าการฟ้องร้องมันทำให้พี่เสียประวัติข้อหา"แข็งข้อ"จริงๆน่ะนะ)

..ก็ต้องประเมินตน ว่ารับมือไหวไหม

ถ้ารอดมาได้โดยสวัสดิภาพก็คุ้ม
เผื่อไปเจองูพิษที่อื่นอีก จะได้จัดการกับมันง่ายขึ้น

..ถ้าเป็นเรา
เราจะปล่อยๆมันไป
การประกาศสงครามกับใครซักคนมันเหนื่อยนะ เสียเวลา เสียสุขภาพจิต
ถ้ายังมีภาระ มีสิ่งที่ต้องดูแลอยู่เยอะ จะยังไม่ลุกขึ้นโวย
เรายังต้องเดินอีกไกล คงยังไม่ตายวันนี้พรุ่งนี้ เก็บลูกบ้าไว้ก่อน
เอาเวลาและสมองไปคิดหางานใหม่
บริษัททำงานมั่วอย่างนี้ไม่นานก็เจ๊ง รอดูความพินาศก็แล้วกัน :P
( ไม่เจอกับตัวมันไม่แค้นไง  ถ้าเจอจังๆกับตัว แค้นถึงขีด อาจจะไม่เฉย)


ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดู
"ไม่ต้องห่วง ไม่ชนะก็แพ้"
โดยคุณ :ทีฯ - [1:40:01  14 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 3
เขา : งั้นเอางี้ ผมถือว่าผมไล่ออกแล้วกันนะ

เพิ่งได้ดูรายการ "คนหัวหมอ"มา

เขาว่า....

ถือว่าพูดปากเปล่า สนองอารมณ์เท่านั้น
ถ้าไม่ได้ออกเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร
ยังถือว่ามีสถานะเป็นพนักงานอยู่


ลองปรึกษาคนรู้กฏหมายดูก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรนะ
จะเป็นกำลังใจให้ .... อย่าท้อที่จะทำถูก

โดยคุณ :คนอ่านกระทู้ - [11:26:46  14 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเป็นเรา เราขอแนะนำให้ไปอ่านกฏหมายกรมแรงงานใหม่ หรือไม่ก็ปรึกษาผู้รู้กฏหมายอย่างที่คุณคนอ่านกระทู้แนะนำ
ถ้ามั่นใจว่าเราถูกแน่นอน ก็ให้แจ้งไปที่รายการ "ถึงลูกถึงคน"
เพราะเราคิดว่า อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล เรื่องแบบนี้ต้องสู้เพื่อสิทธิ (-_-')y
โดยคุณ :akejung - [18:15:06  14 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 5
สมมติเราเป็นระนาดเอก ไปแข่งกับคนไม่เป็นระนาด ถึงชนะก็ไม่สมศักดิ์ศรี
ถ้าเค้าเป็นฆ้องวง แต่เราไม่เป็น หัดจนเป็นแล้วไปแข่งกับเค้าแล้วชนะ อันนี้ดูน่าจะสะใจดี

แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ไม่ชอบตีฆ้องวง แถมขี้เกียจไปหัดเพื่อแข่งกะเค้า ก็ไม่ต้องแข่งก็ได้ มือมันถนัดกันคนละอย่าง เอามาประชันฝีมือกันไม่ได้ ก็เล่นกันไปตามความถนัดดีกว่า ถึงยังไงก็ดนตรีไทยเหมือนกัน
และเชื่อว่าถ้าวันข้างหน้าได้เป็นสุดยอดระนาดเอกแล้ว คงไม่เจ็บใจแน่ๆ ที่ไม่เคยได้ไปแข่งกะมือฆ้องวง

เอ้อ อ่านแล้วก็ยังงงๆ
โดยคุณ :(0_0)m_อุ้ม - [4:00:40  15 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าจะร้องทุกข์ก็ของไปติดต่อที่สายด่วนเพื่อผู้ใช้แรงงานเบอร์ 1546 ละกัน  ที่นี่เขาให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมายแรงงานได้ถูกต้องกว่าที่พวกเราเข้าใจกัน

จะให้ดี ถือหนังสือสัญญาว่าจ้างไว้ด้วยก่อนโทร จะได้อ่านรายละเอียดให้เขาฟังได้ บางบริษัทหัวหมอ เอาหนังสือสัญญาเอาเปรียบมาเป็นข้ออ้างว่าลูกจ้างยินยอม เช่น เรื่องการยอมให้บริษัทบอกเลิกจ้างได้เลยในกรณีที่ยังอยู่ในระยะเวลาฝึกงาน แต่ไม่ต้องกลัว กฎหมายจะถือสัญญาที่เอาเปรียบเกินกว่ากฎหมายกำหนดเป็นโมฆะ และถือตามพรบ.คุ้มครองฯเป็นหลักอยู่แล้วในการฟ้องร้อง

ถ้าปรึกษาแล้วเขาบอกว่ามีสิทธิ์ที่จะชนะคดี + อยากรักษาสิทธิ์ + ความสะใจเล็กน้อย ก็ฟ้องๆแม่..ไปเหอะ  ไอ้บริษัทพวกนี้ต้องเจอแบบนี้มั่ง

ขอให้โชคดีหว่ะเพื่อน
โดยคุณ :ไก่น้อย - [15:27:11  15 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 7
Good Luck  คะพี่  หนูเอาใจช่วย

(ที่ที่เราเรียนมาสอนไม่ให้เราจนต่อความไม่เป็นธรรม  หนูเข้าใจพี่ดี เพราะหนูก็เป็นอย่างพี่)

ปล.ตรงนี้หนูไม่เข้าใจว่า อะไรคือการเสียประวัติ ถ้าเราไปสมัครทำงานที่อื่นเราไม่ต้องกรอกไม่ได้หรอว่า ฉันไม่เคยทำงานที่บริษัทนี้ ไม่เคยโดนไล่ออก..ประมาณนี้อ่ะนะคะ แล้วบอกว่าช่วงที่เวลาตอนนั้น ไปช่วยกิจการที่บ้านหรือ ว่างงานเฉย ๆ อะไรทำนองนี้ ไม่หรอ....

ถามไว้เผื่อชีวิตการทำงานในอนาคตต้องเจอบ้าง

อย่างไรก็ตาม...Good Luck อีกทีคะ
โดยคุณ :เด็กน้อยไม่ยอมเรียน - [20:47:00  15 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 8
ลองปรึกษาพี่นางฟ้าสิฮะ
เป็นนิติกรนิ
โดยคุณ :ป.ล. - [21:26:18  15 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 9
หลังจากอ่านกระทู้นี้เมื่อวาน วันนี้ก็ขับรถไปนึกเรื่องนี้ไป
ขอตอบด้วยความคิดตัวเองนะ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน

1. ไม่รู้ว่าข้อมูลที่คุณให้มาไม่ชัดเจนหรือว่าเป็นความเขลาของผมเองก็ไม่ทราบได้ แต่เท่าที่อ่านทำไมผมเข้าใจว่าคุณเป็นคนลาออกเองไม่ใช่หรือครับ ?

2. เอาล่ะ ไม่ว่าเรื่องในข้อ 1. ผมจะเข้าใจถูกหรือไม่ก็ช่างมันไปก่อน
กรณีเช่นนี้ จากข้อมูลที่เคยได้จากการเข้าอบรม(โดยมากผมไม่ได้เข้าเองหรอก น้องสาวเข้าแล้วมาเล่ามากกว่า) ถ้า...ข้อกฎหมายที่คุณอ้างมาถูกต้องแน่นอน (ซึ่งผมไม่ทราบ) ไม่ว่าจะต่อสู้ฟ้องร้องกันอย่างไรอย่างไร...

90 % ลูกจ้างก็ชนะวันยังค่ำ

แต่...ฉันใดก็ฉันนั้น

90 % เหมือนกันครับที่นายจ้างใหม่จะไม่รับคุณเข้าทำงาน

ดังนั้น โปรดช่างใจเอาเถิดครับว่าจะเลือกทางไหน

(เดี๋ยวต่อภาคสอง ขอเข้าห้องน้ำก่อน)


ปล. เด็กน้อยไม่ยอมเรียนคะ ที่ว่าเสียประวัติน่ะไม่ใช่เรื่องโดนไล่ออกค่ะ แต่มันคือเรื่องลูกจ้างหัวหมอและสร้างความวุ่นวานให้กับนายจ้างหรือบริษัทค่ะ
โดยคุณ :ดุ๊ก - [23:36:08  15 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 10
ต่อๆๆ
จากนี้เป็นความคิดส่วนตัวของผมเองนะ

ไม่รู้เพราะว่าผมมักจะได้อยู่ในกลุ่มสนทนาของนายจ้างมากกว่าลูกจ้างหรือเปล่านะ ถึงทำให้ผมรู้สึกว่านายจ้างน่ะ กลัวลูกจ้างจะตายไป ยิ่งปัจจุบันมีกฎหมายคุ้มครองสารพัด เพราะเหตุนี้ถึงได้ไม่ค่อยกล้ารับใครซี้ซั้วไงล่ะครับ

แล้วส่วนตัวผมไม่คิดว่าถ้าคุณยอมเสียประวัติ จะทำให้นายจ้างเปลี่ยนไปหรอกนะครับ เพราะอย่างไรเขาก็ต้องทำอย่างนั้นครับ
หากมองในสายตาลูกจ้าง ก็เหมือนจะถูกนายจ้างเอารักเอาเปรียบ
แต่หากมองในสายตานายจ้าง เขานั่นแหละที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยคู่ต่อสู้ที่มีผู้พิทักษ์ที่น่ากลัว คือกฎหมาย

แต่ถึงผมบอกอย่างนี้ก็เถอะ เชื่อไหมว่า...
ถ้าผมเป็นคุณ ผมก็จะยอมเสียประวัติ (ถ้าผมต้องการและเรียกร้องเงินนั้นตั้งแต่แรก แต่ตามนิสัยแล้วผมจะไม่นะ)
แต่ถ้าผมเป็นนายจ้างคุณ ผมก็ยืนยันนะว่าผมไม่จ่ายเงินให้คุณ

จริงๆแล้วผมอยากให้คุณมาเล่ารายละเอียดให้มากกว่านี้นะ
ไม่อย่างนั้นผมก็ยังเข้าใจว่าคุณเป็นผู้ลาออกเองอยู่เหมือมเดิม
ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ
โดยคุณ :ดุ๊ก - [23:57:45  15 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 11
จากประสบการณ์(ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
1.คิดว่าทำงาน 2 เดือนถือว่ายังไม่พ้นทดลองงานรึเปล่า? ถ้าเราจำไม่ผิดเราบอกเลิกจ้างได้(แต่เรายังไม่ได้ดู กม.แรงงานใหม่นะ)
2.ส่วนมากกรณีของเราเป็นกรณีที่ทางบริษัทฯบอกเลิกจ้างเอง (ในกรณีที่เห็นว่าพนง.มีความสามารถไม่ตรงกับงานจริงๆ) ถ้าทำงานไม่ถึง3 เดือนเราให้ชดเชย 1 เดือนและถ้าทำงานเกิน 4 เดือนแต่ไม่ถึง 1 ปี เราให้ชดเชย 2 เดือน
3.ในความเห็นของเรากรณีของคุณเป็นการที่คุณไปแจ้งลาออก (เราไม่แน่ใจว่าในมุมมองของนายจ้างอาจคิดว่าคุณไม่อยากทำงานด้านนี้แล้ว เค้าจึงให้คุณลาออก)

4.คนงานที่บริษัทฯเคยออกแล้วไปฟ้องกรมแรงงานว่าเราจ่ายค่าจ้างไม่ครบ ส่วนมากกรมแรงงานจะดำเนินการค่อนข้างช่วยลูกจ้างให้ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด (ทั้งที่ในกรณีของเราเราไม่ได้จ่ายเค้าต่ำกว่า กม.แรงงาน แต่เราก็ยังต้องจ่ายเค้าเพิ่มตามที่เรียกร้อง เนื่องจากทางบริษัทฯ เราคิดว่าจำนวนเงินไม่มากและไม่ต้องการมีปัญหากับกรมแรงงาน) ดังนั้นเราคิดว่าถ้าคุณมั่นใจว่ากม.แรงงานคุ้มครองคุณที่อายุงาน 2 เดือน คุณก็น่าจะชนะแน่นอน
โดยคุณ :news - [1:01:08  16 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 12
โทรถามมาให้แล้วนะ

กรณีนี้ถึงลูกจ้างจะลาออกเองก็ยังคงได้เงินค่าชดเชย 1 เดือนอยู่ เพราะว่าตามกฎหมายถึงนายจ้างให้ออก ณ วันที่ยื่นใบลาออกเลยก็ยังคงต้องจ่ายเงินชดเชยเดือนสุดท้ายอยู่ดี เพราะกรณีนี้ถือว่าในเมื่อลูกจ้างบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือนก็แสดงว่าเขามีโอกาสในการทำงานเพื่อให้ได้เงินเดือนๆสุดท้าย  การที่บริษัทให้ออกก่อนไม่มีผลอะไรต่อการจ่ายเงินก้อนนี้ ยังไงก็ต้องจ่ายอยู่ดีเพราะกฎหมายรู้ทันบริษัทพวกนี้ ฟ้องยังไงก็ชนะ อีกอย่างในขั้นตอนการฟ้องร้อง บริษัทจะมาอ้างว่าไล่ออกก็ไม่ได้เพราะการไล่ออกปากเปล่าถือเป็นโมฆะ ใช้ในทางกฎหมายไม่ได้

ส่วนเรื่องเสียประวัติพูดกันตรงๆนะ .... ไปสมัครที่ใหม่ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เห็นต้องบอก เพิ่งจะทดลองงานไม่กี่เดือนบอกว่าว่างงานไปก็ยังไม่เสียหายเท่าไหร่
โดยคุณ :ไก่น้อย - [9:40:45  16 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 13
ตอบ น้องทีฯ
- ถ้าปล่อยงูพิษไป มันอาจได้ใจ ไปกัดคนอื่นที่ไม่มีทางสู้
พี่คิดงี้แหล่ะ ไม่รู้จะไปห่วงถึงคนอื่นทำไม
- การประกาศสงครามกับใครซักคนมันเหนื่อยนะ
แค่คิดก็เหนื่อยแล้วจ้ะ
- "ไม่ต้องห่วง ไม่ชนะก็แพ้"
"ไม่ต้องห่วง ไม่ชนะก็แพ้ แล้วจะมาบอกว่าจะเลือกเข้าสนามรบไหม"

ตอบ คนอ่านกระทู้
- ลองปรึกษาคนรู้กฏหมายดูก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรนะ
ตอบ Akejung
- ถ้าเป็นเรา เราขอแนะนำให้ไปอ่านกฏหมายกรมแรงงานใหม่ หรือไม่ก็ปรึกษาผู้รู้กฏหมายอย่างที่คุณคนอ่านกระทู้แนะนำ
ขอบคุณมากนะ... นี่ก็ปรึกษาตั้งแต่ก่อนมีเรื่องแล้วล่ะจ้ะ และคงจะยังปรึกษากับทุกก้าวที่จะเลือกเดินสู้

ตอบ (0_0)m_อุ้ม
มีคนเตือนว่า พิมเสนแลกเกลือ ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใครพิมเสน ใครเกลือ
ได้แต่คิดว่า ถ้าไม่ทำอะไรเลย เราจะกลายร่างเป็นเกลือไร้ค่าจริงๆ

ตอบ ไก่น้อย
ขอบใจว่ะเพื่อน สำหรับทุกอย่าง
แล้วจะมาเล่าความคืบหน้านะ ว่าเอาไง
ตอนนี้ ก็ยังตั้งหลักอยู่ แล้วก็จะเรียนต่อด้วย

ตอบ เด็กน้อยไม่ยอมเรียน
ขอบใจจ้ะที่เข้าใจคนอย่าง "พวกเรา" เขาถึงหาว่าเป็นพวกหัวหมอไง
ซุ่งบริษัทนี้ พนักงานมีแต่เด็ก ปวช ปวส เด็กในโรงงาน ไม่เคยเจอพรรค์อย่างพี่มาก่อน

ตอบ ปล.
ขอบใจจ้ะ แต่นางฟ้าฯ ไม่คุ้นเคย กฎหมายแรงงานจ้ะ

ตอบ ดุ๊ก
เราลาออกจ้ะ แต่ยังไม่ได้กำหนด effective date ซึ่งก็ไม่ใช่สัปดาห์ถัดมา เขาจะทำงั้นได้ด้วยเหมือนกัน งงไหม

ตอบ News
จากประสบการณ์(ไม่แน่ใจเหมือนกัน)
1.คิดว่าทำงาน 2 เดือนถือว่ายังไม่พ้นทดลองงานรึเปล่า?
อยู่ระหว่างทดลองงานค่ะ ที่นี่ทดลอง 180 วัน
ตามกฎหมายถือว่า ถ้าทำเกิน 120 วัน แล้วให้ออก ต้องมีค่าชดเชย 1 เดือน ค่ะ
แต่อันนี้ เรากำลัง ถามค่า ค่าบอกกล่าวล่วงหน้าค่ะ
2-3 แจ้งลาออก แต่ยังไม่ได้กำหนดวันค่ะ
4. ขอบคุณค่ะ

โดยคุณ :เจ้าของกระทู้ - [10:45:22  17 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 14
เคยรู้สึกมั้ยว่าอะไรๆที่เราเรียนมาจากโรงเรียน หรือในภาคที่สูงกว่า
ไม่เห็นเอามาใช้อะไรกับการทำงาน หรือหน้าที่รับผิดชอบในเนื้องาน
วิชานู้น วิชานี้... มากมาย... ไม่เห็นได้ใช้จริงๆเลย ไม่เป็นตามฝัน

ลองมามองดูอีกด้านหนึ่ง...

หลายๆอย่างที่เราเรียน อาจจะเรียนเพียงเพื่อฝึกให้เรามีความคิด
มีความรับผิดชอบ อดทน มีความเป็นผู้นำ และที่สำคัญที่สุด
ความสามารถในการเผชิญ และแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น...
ยิ่งมีอายุมากขึ้น เราก็จะเริ่มเข้าใจ ในความผิดพลาด ความถูกต้อง
และ เข้าใจในความเขลาที่เราเคยทำลงไป...

อย่าให้ความเป็นเด็กบดบังความสามารถที่เรามี...
อย่าให้อารมณ์บิดเบือนเป้าหมายที่เราตั้งไว้

ไม่มีงานไหน... ที่ไม่ให้ประโยชน์แก่คนที่ตั้งใจทำ
ทุกงานมีคุณค่าของตัวมันเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ลองทำอารมณ์เย็นลง คิดซะว่าชีวิตอยู่ในช่วงลำบาก
ต่อให้ร่ำรวยมีพ่อแม่ดูแล ก็นึกซะว่าเราจนกัดก้อนเกลือ
อย่าเลือกงาน อย่าลาออก จนกว่าจะมีที่ใหม่ที่ดีกว่า

ที่เราขอลาออก เค้าก็ต้องแก้ปัญหา หาคนมาแทน
เค้าหาคนมาแทนได้ เราก็ออกไปหางานใหม่ซะสิ
เค้าเองก็ต้องเริ่มฝึกคนใหม่... เค้าก็ลำบาก...
ทุกองค์กรไม่มีผู้บริหารคนไหนอยากให้คนเข้าๆ ออกๆ

เราอยากเอาข้อกฏหมายมาใช้เพียงแค่เรื่องเงินเดือน
เราก็ลองร้องเรียนดู แต่ผมไม่เชื่อว่าลูกจ้างชนะ 90%
เรื่องประวัติเสีย ยิ่งไม่เกี่ยวเลย ไม่ต้องกลัว เข้าๆออกๆ
มีเรื่องกับนายจ้างที่กรมแรงงานปีละหน ยังหางานใหม่ได้สบาย
ประวัติที่ไหน อย่าว่าแต่ตาม ใครจะบ้ามาบันทึก

ดังนั้นถ้าอยากฟ้อง อยากร้องเรียน อยากเล่นแง่... เอาเลย

ผมไม่ได้เข้าข้างบริษัทฯ... เพียงแต่อยากให้ลองนึกย้อนดู
ว่าเราทำทุกอย่าง ทุกหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายได้ดีพอแค่ไหน
ไม่ว่าจะตรงกับสายงานหรือไม่ ถ้าทำดีมากจนเป็นที่ยอมรับ
เป็นบุคคลที่มีความสำคัญ มีความจำเป็นต่อองค์กร
แล้วเค้าปฎิบัติต่อเราอย่างเอาเปรียบ ผมเองจะช่วยด่าเค้าด้วย

แต่... ชีวิตจริงในโลก ในสังคม ไม่หมูเลย...

เลิกฝันหางานที่เหมาะกับตัวเอง ลองทำตัวเองให้เหมาะกับงาน
ทำตัวเองให้เป็นที่รัก ทำตัวเองให้มีความสุขกับงานที่เราทำ
เราจะไปเป็นลูกจ้างปลูกถั่วงอกขาย... เราก็มีความสุขได้...
ลองทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ให้ดี ให้ประสพผล
จะมีสักกี่คนในโลกที่ได้งานถูกใจ งานตามที่ฝันไว้
เมื่อเริ่มงานใดๆ ลองตั้งใจทำดู ทำอย่างมุ่งมั่น อดทน
วันหนึ่งงานนั้นๆอาจจะพาเราไปพบกับได้สิ่งที่เราตามหา...

ก็คือ...งานที่เหมาะกับเรา...

ถ้าพี่เป็นนายเรา... พี่ก็ไล่เราออก ขึ้นศาลแรงงานก็ขึ้น...
อย่าน้อยเราเองก็จะไม่ทำอะไรตามอารมณ์อย่างนี้อีก
วันหนึ่งข้างหน้า คงอีกนาน เมื่อเราได้เป็นนาย
เราเองก็จะเข้าใจ...
โดยคุณ :พี่เฮฮา - [23:33:26  19 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 15
พี่เฮฮามีหลักการอย่างน่าตกใจ :P
โดยคุณ :ตะลึง - [10:31:18  20 ก.พ. 2547]

ความคิดเห็นที่ 16
แฟนเราก้อโดนเหมือนกันโดนไล่เกือบทุกวันเขียนจดหมายไล่ออกแต่ไม่มีลายเซ็นแฟนเราก้อยังไม่เซ็นเขาก้อฉีกของเขาทิ้งแต่ของเรายังอยู่เขาก้อยังทำอะไรไม่ได้ต้องบอกว่าแฟนอดทนมากเขาถึงขนาดเขาโวตออกโดยตัวเขาเองแต่ไม่มีใครโวตตามต้องบอกว่าให้อดทนแล้วใช้สติแล้วขยันทำงานเขาให้ทำอะไรก้อทำตามต่อไปคือหางานใหม่ให้เร็วที่สุดจากกันด้วยดีไม่จองเวรเดี๋ยวมันก้อเจ๊งไม่ได้แช่งแต่มันทำแบบนี้ไม่มีความเมตตาไร้ความปราณี
โดยคุณ :ก๊องแก็ง - [11:28:45  20 มิ.ย. 2554]

ความคิดเห็นที่ 17
รักษาสิทธิ
โดยคุณ :คนอยากรักษาสิทธิ์ - [10:21:23  18 ก.ย. 2554]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....