กระดานความรู้สึก


ไม่รัก ไม่บอก (ต่อ) นะ
เรื่องต่อไปนี้ รักใคร ชอบใคร ห่วงใยในสุขภาพของใคร
ก็อ่านไว้สักนิ๊ด แล้วเอาไปดูแลเค้านะคะ
สุขภาพ กับ โภชนาการ
> >
> >"ทุกคนขุดหลุมศพตัวเองด้วยปากและฟันทุกๆวัน"
> >
> >จากประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง
>
>ได้ตั้งข้อสังเกตว่าวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่แพทย์ส่วนใหญ่ปฏิบัติกันอยู่ในปัจ
จุบัน
> >ไม่ว่าจะโดยการผ่าตัด หรือการทำเคมีบำบัดนั้น  ไม่ใช่วิธีรักษาที่ถูกต้อง
> >เพราะวิธีการดังกล่าวไม่ได้ทำให้คนไข้หายจากโรค ในทางกลับกัน
> >คนไข้มะเร็งยังคงตายไปเรื่อยๆ
> >ในขณะที่จำนวนคนไข้ใหม่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
> >
> >วิธีรักษาโรคที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง หรือ โรคอื่นๆทุกโรค คือ
> >"โภชนบำบัด" เนื่องจาก
> >ร่างกายทุกส่วนของมนุษย์ถูกสร้างจากสารอาหารที่เรารับประทานเป็นอาหาร
> >ฉะนั้นร่างกายแต่ละส่วนจะทำงานสมบูรณ์แข็งแรงและ
> >สามารถต่อต้านเชื้อโรคต่างๆได้ จะต้องได้รับสารอาหารอย่างถูกต้อง เช่น
> >ข้อต่างๆ ของมนุษย์ถูกสร้างจาก โปรตีนและซัลเฟอร์
> >ฉะนั้นการแก้ปัญหาปวดข้อต่างๆ ในทางโภชนบำบัดจะแนะนำให้
> >ทานขิงวันละหนึ่งช้อนโต๊ะ ทานขมิ้นแคปซูล 2 เม็ดหลังอาหารทุกมื้อ
> >มะนาวหนึ่งลูกผสมน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ดื่มหลังมื้ออาหารทุกมื้อ
> >เพราะอาหารเหล่านี้มีซัลเฟอร์อยู่มาก
> >และจะต้องงดของหวานเพราะของหวานจะทำให้เลือดเหนียว ไม่สามารถนำสารอาหาร
> >ไปซ่อมแซมอวัยวะได้ดี
> >
> >"You are what you eat"
> >
> >ความสมบูรณ์หรือความผิดปกติในร่างกายล้วนสัมพันธ์กับสิ่งที่คนๆนั้นรับประทาน
> >เช่น การดื่มกาแฟเข้ม ในตอนเช้า จะทำให้เกิดอาการหิวจนมือสั่น ในเวลาประมาณ
> >11.00 น. ต่อมาประมาณบ่าย 14.00 น. จะรู้สึกง่วง งง มึน สมองตื้อ ปวดเมื่อย
> >หงุดหงิด นั่งไม่ติด  หรือหากรับประทานของหวานในตอนเที่ยง หลังจากนั้น 2-3
> >ชม.จะก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน  อีกตัวอย่างหนึ่งคือถ้ารับประทานของหวานมากๆ
> >หรือของมันมากๆ หลังจากนั้น 48 ชม. จะมีสิวขึ้นรอบปากในรัศมี 2 นิ้ว
> >
> >ร่างกายเราจะแปรปรวนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอาหารที่เรารับประทาน ภายใน 1 ชม. -
2
> >วันก่อนหน้านั้น
> >
> >
> >โรคที่เกิดจากการรับประทานผิด
> >
> >ไขมันในเส้นเลือดสูง ความดัน หัวใจ อัมพาต สมองเสื่อม ข้อเสื่อม ข้ออักเสบ
> >ติดเชื้อง่าย ภูมิแพ้ มะเร็ง
> >โรคเล่านี้ปัจจุบันยอมรับกันแล้วว่าเป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคอย่างเดียว
> >
> >อาหารอันตราย 4 ชนิด
> >
> >1. นมวัว
> >2. ของหวาน (ขนมหวาน น้ำอัดลม ผลไม้หวาน และน้ำผลไม้)
> >3. เนยเทียม (ขนมปัง เค้ก คุ้กกี้ ฯลฯ)
> >4. น้ำมันที่ทอดซ้ำๆ (ปาท่องโก๋ กล้วยแขก ไก่ทอด หมูทอด มันฝรั่งทอด)
> >น้ำมันไม่ควรใช้ทอดรับประทานเกิน 2 ครั้ง
> >
> >
> >ด้านมืดของนมวัว
> >
> >ปัจจุบันหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ มาเลเซีย สิงคโปร์
> >รณรงค์ให้คนเลิกดื่มนมอย่างจริงจัง การวิจัยพบว่านมทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
> >โรคเบาหวาน กระดูกผุ สมาธิสั้น เด็กปวดท้อง เด็กหูอักเสบ หอบหืด ฉี่รดที่นอน
> >เลือดกำเดา ปวดหัว ไซนัสอักเสบ ฯลฯ
> >
> >นม ทำให้ร่างกายสูงใหญ่จริง แต่ไม่ได้เป็นเพราะ แคลเซียม
> >สิ่งที่ทำให้ร่างกายสูงใหญ่คือ Growth Hormone
> >ของสัตว์หรือฮอร์โมนที่เกิดจากการกระตุ้นการเจริญเติบโตของวัว
> >
> >คนจะมี น้ำหนักเพิ่ม 3 กิโลกรัมโดยเฉลี่ย ในเวลา 3 เดือนหลังคลอด
> >แต่ลูกวัวนั้น น้ำหนักจะเพิ่ม 30 กิโลกรัม ในเวลาเท่ากัน
> >เพราะฉะนั้นสรีระโครงสร้างทั้งหมด
> >และความต้องการอาหารนั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
> >วัวเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักรวม 500 กิโลกรัมขึ้นไป
> >ในขณะที่คนจะมีน้ำหนักประมาณ 50-60 กิโลกรัม  การให้เด็กดื่มนมวัว
> >ก็คือการให้สารอาหารที่มีไว้กระตุ้นสัตว์ที่มีการเจริญเติบโตมากมายแกเด็ก
> >ผลคือเด็กมีโครงสร้างที่ผิดปกติไปจากที่เด็กควรจะเป็น และโดยปกติแล้ว
> >ลูกวัวรับประทานนมแค่ 1 ปี แต่ลูกคนรับประทานนมวัวต่อเนื่องเป็นสิบปี ฉะนั้น
> >Growth Hormone จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็กอย่างต่อเนื่อง
> >ทำให้ร่างกายสูงใหญ่ผิดไปจากเผ่าพันธุ์เดิมของตน และในที่สุด
> >โรคต่างๆที่กล่าวข้างต้นก็จะเกิดขึ้น แต่อันตรายนี้จะเห็นได้ช้า
> >ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จะไม่ตระหนักและคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี
> >
> >อันตรายจากนมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ออทิสติก หรือโรคสมาธิสั้น
> >เด็กจะไม่อยู่เฉย
เพราะถูกกระตุ้นในตื่นตัวเสมอจากสารกระตุ้นที่มีอยู่ในนมวัว
> >เพราะลูกวัวนั้นโดยธรรมชาติแล้ว คลอดออกมามันจะต้องวิ่งได้
> >เพื่อที่จะวิ่งหนีศัตรู เช่น หมาป่า เสือ สิงโต
> >ฉะนั้นในนมวัวจึงมีสารที่จะทำให้ลูกวัวตื่นตัวตลอดเวลา
> >เด็กที่ดื่มนมวัวจึงมีอาการตื่นตัว อยู่เฉยไม่ได้ เหมือนอยู่ในป่า
> >การถูกกระตุ้นเกินกว่าเหตุเป็นอันตราย ต่อสมองและพัฒนาการของเด็กและผู้ใหญ่
> >
> >ประโยชน์ที่คนส่วนใหญ่คาดว่าจะได้จากนมวัว คือโปรตีนและแคลเซียม
> >ความจริงที่ควรทราบก็คือโปรตีนจากสัตว์เป็นอันตราย ต่อร่างกายมาก
> >และแคลเซียมในนมก็ไม่ได้มีมากอย่างที่หลายคนเชื่อ นมวัว 3
> >แก้วให้ปริมาณแคลเซียมเท่ากับหัวปลาทูเพียง 1 หัวเท่านั้น
> >
> >นมวัวมีไว้ให้วัวกิน นมคนมีไว้ให้คนกิน
> >คนเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่กินนมข้ามสายพันธุ์ และกินอย่างต่อเนื่อง
> >จึงก่อให้เกิดโรคต่างๆมากมาย
> >ปัจจุบันพบว่าสาเหตุของโรคภูมิแพ้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่คือนมวัว
> >สาเหตุของโรคกระดูกผุ เวียนศีรษะในผู้สูงอายุ คือนมวัว
> >แพทย์พบว่าคนไข้ที่มีอาการดังกล่าว ถ้ามีประวัติดื่มนมอย่างต่อเนื่อง
> >หลังจากให้หยุดดื่มนมแล้ว อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
> >
> >สำหรับผู้หญิงนั้น นมถั่วเหลือง เหมาะที่สุด
> >เพราะในนมถั่วเหลืองนอกจากจะได้โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นโปรตีนที่ถูกต้องแล้ว
> >ในนมถั่วเหลืองก็มีแคลเซียม และที่สำคัญมีฮอร์โมนเอสโตรเจน
> >ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้ผู้หญิงมีผิวพรรณดี
> >โดยเฉพาะผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน
ซึ่งปริมาณเอสโตรเจนในร่างกายจะลดลงนั้น
> >การดื่มนมถั่วเหลืองจะช่วยเพิ่ม ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน
> >ทำให้โอกาสที่จะเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ในวัยใกล้หมดประจำเดือนลดน้อยลง
> >ปริมาณที่เหมาะสม สำหรับการดื่มนมถั่วเหลืองคือวันละหนึ่งแก้ว
> >และหากจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรดื่มในเวลาที่ท้องว่าง คือก่อนหรือหลังอาหาร
2
> >ชั่วโมง ควรดื่มในเวลาท้องว่าง
>
>เพราะในนมถั่วเหลือจะมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่แข็งแรงมากฉะนั้นถ้ากินพร้อมมื้ออาห
าร
> >จะทำให้การย่อย และการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้นๆตกลง
> >
> >อย่างไรก็ตามนมถั่วเหลืองอาจไม่เหมาะที่จะให้ผู้ชายดื่มทุกๆวัน
> >เนื่องจะการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง
> >ให้กับผู้ชายในปริมาณมากเกินไป จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศชายทำให้ผลิต
> >สเปิร์มน้อยลงและมีลูกยาก
โดยคุณ : talarlonrom - [11:49:44  20 ส.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ  กำลังสนใจเรื่องรักษาสุขภาพอยู่ทีเดียว
โดยคุณ :พิม - [0:18:11  21 ส.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 2
ดีม๊าก มาก
โดยคุณ :* - [8:32:23  21 ส.ค. 2546]

ความคิดเห็นที่ 3
มันก้อดีอะ แต่สรุปแล้วนมวัวมันไม่ดีจิงๆใช่ป่าวเนี่ย
โดยคุณ :ฉันเอง - [15:28:14  27 มิ.ย. 2551]

ความคิดเห็นที่ 4
เชื่อได้10%ไม่มีที่มาที่ไปของข้อมูลนะลุงว่า
ต้องมาถามลุงดีกว่าจะบอกให้ว่า..สุขภาพอายุร้อยกว่าปีเป็นอย่างไร..
อย่าลืมติดตามมาถามเด้อหลานเด้อ..
โดยคุณ :padam - [1:58:12  25 ก.ค. 2552]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....