กระดานความรู้สึก


Harry Potter and the Fellowship of the Broom.
ไม่รู้ว่าเคยอ่านกันหรือยังนะครับ...ไปเจอมาจากwebboard อื่น ค่อนข้างยาว แต่สนุกดี

Harry Potter and the Fellowship of the Broom. : แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับ อภินิหารไม้กวาดครองพิภพ
ข้อความ : ก่อนจะอ่าน
“เรื่องราวนี้แต่งขึ้นเพื่อความเฮฮาเท่านั้น ผู้แต่งไม่ได้มีเจตนาลบหลู่นิยายเรื่องนี้แต่ประการใด ถ้าข้อความใดกระทบกระเทือนจิตใจแฟนๆท่านใด ผู้แต่งขออภัยมานะที่นี้ด้วย”
***********************************
นี่เป็นเรื่องราวที่กล่าวขานถึง การต่อสู้อันเป็นตำนาน
ที่เล่าขานกันไม่รู้จบในโลกของพ่อมดและแม่มด
เรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ของเหล่าเด็กๆผู้กล้าหาญ ต่อความมืดมิดอันชั่วร้าย
ยามเมื่อชะตากรรมของโลกแห่งเวทย์มนตร์ขึ้นอยู่กับไม้กวาดเพียงด้ามเดียว
Harry Potter and the Fellowship of the Broom
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับ อภินิหารไม้กวาดครองพิภพ


ภายในความมืดมิดแห่งพิภพมอร์ดอร์ เสียงแห่งบุคคลที่ผู้คนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยนามของเขาได้ดังขึ้น
“อำนาจของข้าฟื้นคืนเกือบสมบูรณ์แล้ว หนึ่งในสิ่งที่ข้าต้องการเพื่อการคืนชีพที่สมบูรณ์ก็คือ ไม้กวาดของข้า The One Broom” เสียงของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “จงไปเหล่าโหงพรายแห่งควิกดิกส์ทั้ง 9 จงไปยังฮอกวอต์ก จงไปแย่งชิงไม้กวาดของข้ากลับคืนมา”
ประตูของปราสาทแห่งความมืดเปิดออก เหล่าโหงพรายแห่งควิกดิกส์ทั้ง 9 ตน ขี่ไม้กวาดของตนพุ่งทะยานออกจากปราสาท มุ่งสู่โลกภายนอกอันสว่างไสว


เช้าวันเปิดเทอมใหม่ของโรงเรียนฮอกวอต์กที่แฮรี่รอคอยก็มาถึง หลังจากการคัดสรรเด็กนักเรียนที่เข้าใหม่เสร็จสิ้นลง เหล่านักเรียนต่างแยกย้ายไปยังบ้านต่างๆ แต่แล้วก่อนที่ชั่วโมงเรียนแรกของเทอมใหม่จะเริ่มขึ้น เสียงประกาศก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
“Attention Please, Attention Please นักเรียนของฮอกวอต์กทุกคนโปรดทราบ นี่คือเสียงจากศาสตราจารย์ มัลกอนากอน ขอให้นักเรียนทุกคนไปรวมกันที่ห้องโถงใหญ่โดยพร้อมเพรียงกัน และนักกีฬาควิกดิกส์ของทุกบ้าน ขอให้นำไม้กวาดของตนไปด้วย”
เมื่อได้ยินดังนั้น แฮรี่ก็รีบฉวยโฟรโบลต์สุดรักของตนไปสมทบกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น
“นี่เธอสองคนคงไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรอีกใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่ พูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าแฮรี่และรอน
“นี่ พูดแบบนี้ เห็นเราสองคนเป็นตัวก่อเรื่องหรือไง” รอน พูดอย่างฉุนๆ
“หรือว่าไม่จริงละ พวกเธอสองคนอยู่ที่ไหน เกิดเรื่องขึ้นที่นั้น จนคนอ่านเขาจะจับพวกเธอขึ้นทำเนียบตัวซวย ร่วมกับ คินดะอิจิ กับ โคนัน แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ ตอกกลับรอน ก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป
“ให้ตายเถอะ แฮรี่ ฉันอยากเห็นจังเลยว่าผู้ชายที่จะมาหลงชอบยายเฮอร์ไมโอนี่ได้นี่หน้าตาจะเป็นยังไง” รอน พูดอย่างโมโห
แฮรี่จ้องหน้ารอน แล้วเอ่ยขึ้น “ฉันคิดว่าฉันเห็นแล้วนะ” จากนั้นเขาก็เดินจากไป ปล่อยให้รอนยืนงงอยู่คนเดียว


เหล่านักเรียนของฮอกวอต์กทั้งหมดเข้าไปในห้องโถงของโรงเรียน จากนั้นศาสตาจารย์มัลกอนากอนก็เรียกให้นักกีฬาควิกดิกส์ของทุกบ้านออกมาข้างหน้า เมื่อแฮรี่เดินออกไปและมองไปรอบๆ เขาก็สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า ท่าทางลึกลับ เขาสวมเสื้อที่มีเครื่องหมายของบ้านฮัฟเฟิ้ลพัฟอยู่ แฮรี่จ้องมองคนๆนี้อย่างสงสัย แต่แล้วก็มีใครบางคนสะกิดหลังของเขา แฮรี่จึงหันกลับไปดูก็พบกับใบหน้าที่คุ้นเคย
“อ้าว พี่โอเวน เอ้ยไม่ใช่ พี่โอลิเวอร์ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ละครับ เอ๊ะ พี่เพอร์ซี่ กับ พี่เพนนี ด้วย“ แฮรี่เอ่ยทักทาย เหล่ารุ่นพี่ของเขา
“คือช่วงนี้พรีเมียร์ลีกปิดฤดูกาลนะ พอดีอาจารย์ดัมเบิ้ลดอร์แจ้งไปที่ผู้จัดการทีมพี่ ขอตัวมาช่วยงานบางอย่างที่ฮอกวอต์ก พี่ก็เลยมาที่นี่ได้ แต่จะมาคนเดียวมันก็เหงาๆ เลยชวนเพอร์ซี่กับเพนนีมาด้วย” โอลิเวอร์ วู้ด บอกกับแฮรี่


ทันใดนั้น อันบัส ดัมเบิ้ลดอร์ ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับกล่องเหล็กกล่องใหญ่ใบหนึ่ง มีโซ่อาคมพันโดยรอบอย่างแน่นหนา เหล่านักเรียนทั้งหลายต่างอุทานกันอื้ออึง
“เอาแหละนักเรียนทุกคน ที่ฉันเรียกพวกเธอมารวมกันก็เพราะมีเรื่องสำคัญมากจะแจ้งให้ทุกคนทราบ” ดัมเบิ้ลดอร์ กล่าวด้วยเสียงดัง จนนักเรียนทั้งหลายพากันเงียบ “ในขณะนี้ ได้มีวิกฤตการณ์อันร้ายแรงกำลังย่างกรายมาคุกคามโลกแห่งพ่อมดแม่มดของพวกเรา ฉันจึงอยากขอแรงพวกเธอเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์นี้”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่านักเรียนต่างมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก เพอร์ซี่ในฐานะอดีตประธานนักเรียนเดินออกมาถามดัมเบิ้ลดอร์ “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือครับ”
“คือเรื่องนี่ถ้าจะเล่าตั้งแต่ต้นมันยืดยาวมาก พวกเธอคงไม่อยากฟัง ดังนั้นฉันจะเริ่มเล่าละนะ” ดัมเบิ้ลดอร์ กล่าว ก่อนจะเริ่มเล่า “กาลครั้งหนึ่งมีพ่อมดคนหนึ่ง เขาชอบเล่นควิกดิกส์เป็นชีวิตจิตใจ แต่ฝีมือของเขาเข้าขั้นห่วยแตก ตกไม้กวาดเป็นประจำ ด้วยความคับแค้นใจเขาได้เดินทางไปรวบรวมต้นกกพันปีจากสยามประเทศ แล้วนำมาหล่อหลอมด้วยมนต์ต้องห้ามกลายเป็นสุดยอดไม้กวาดแห่งตำนาน ประมุขแห่งไม้กวาดทั้งมวล ผู้ใดครอบครองไม้กวาดด้ามนี้จะไม่มีวันเล่นควิกดิกส์แพ้เด็ดขาด และชื่อของไม้กวาดด้ามนั้นก็คือ…”
ดัมเบิ้ลดอร์ หันไปยังกล่องเหล็กที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่อาคม ก่อนจะเริ่มร่ายมหาเวทย์เพื่อปลดผนึกเวทย์มนตร์ขั้นสูงสุดที่ผนึกกล่องนั้นอยู่ “โอม มะลึกกึกกึ๋ย มะลึกกึกกึ๋ย มะลึกกึกกึ๋ย เอ้า โอมมมม…. เพี้ยง” (คำเตือน โปรดเต้นประกอบการใช้มหาเวทย์นี้ด้วย)
เมื่อร่ายมหาเวทย์จบ โซ่ที่พันธนาการกล่องเหล็กนั้นก็หลุดออก ฝากล่องเปิดออกมา พร้อมๆกับ ที่ดัมเบิ้ลดอร์ประกาศนามของไม้กวาดด้ามนั้น “นี่คือ ไม้กวาดประมุข The One Broom”


สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทุกคนก็คือ ไม้กวาดด้ามหนึ่ง เปล่งรัศมีเจิดจ้า ที่ด้ามจับมีอักขระสามประโยคสลักอยู่ ทันใดนั้นไม้กวาดของเหล่านักกีฬาควิกดิกส์ก็สะบัดตัวหลุดออกจากมือเจ้าของ พุ่งลงไปปักเบื้องหน้าของ The One Broom ไม้กวาดทุกด้ามโค้งงอลงราวกับโค้งคำนับให้ The One Broom
“โห นี่มัน เทพไม้กวาดแดนสวรรค์หรือนี่” รอน กล่าว เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า
เหล่านักเรียนทุกคนต่างตกตะลึงต่อภาพที่เห็น โอลิเวอร์ วู้ด เดินออกมาเบื้องหน้าพร้อมกับพูดอย่างลิงโลด “ยอดไปเลยครับ อาจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ แหมมีของดีแบบนี้ก็ไม่ยอมเอาออกมาใช้ตั้งแต่แรก ถ้ามีไม้กวาดด้ามนี้ ในการแข่งควิกดิกส์นานาชาติ ทีมควิกดิกส์ของฮอกวอต์กต้องชนะเลิศแน่ คราวนี้แหละ เจ้า Squall กับ เจ้า Sifer ของโรงเรียนบาลามการ์เด้นจากประเทศญี่ปุ่น มาเยาะเย้ยเราเหมือนเดิมไม่ได้แน่“
“เย็นไว้ก่อน โอลิเวอร์” ดัมเบิ้ลดอร์ กล่าวห้ามลูกศิษย์ “เราจะไม่มีวันใช้ไม้กวาดด้ามนี้เด็ดขาด มันจะต้องถูกทำลาย”
“ทำไมละครับ” โอลิเวอร์ วู้ด พูดอย่างเสียดาย
ดัมเบิ้ลดอร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตัดสินใจพูดขึ้น “เพราะผู้ที่สร้าง The One Broom ขึ้นมาก็คือ ทอม ริดเดิ้ล”
เมื่อแฮรี่ได้ยินชื่อของผู้สร้าง The One Broom เขาก็อุทานอย่างตกใจ “โวเดอร์มอล์ต”
สิ้นเสียงของแฮรี่ เหล่านักเรียนของฮอกวอต์กต่างแตกฮือวิ่งหนีออกห่างจากแฮรี่ มีเพียงรอนที่ยังยืนอยู่เคียงข้างแฮรี่
“ไม่ต้องกลัวหรอกพวกเรา ชื่อของเขาไม่น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิดหรอก” แฮรี่ รีบบอกกับทุกคน
นักเรียนทั้งหลายยังไม่มีใครยอมเข้าใกล้แฮรี่ แฮรี่พยายามพูดอีกครั้งก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งเฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น “ไม่มีใครกลัวชื่อของเขาหรอก แต่ที่พวกเราวิ่งหนีเธอนะ ก็เธอผายลมออกมาต่างหาก แฮรี่ นี่เธอไปกินอะไรมาน่ะถึงได้เหม็นนรกแตกแบบนี้”
ได้ยินดังนั้น แฮรี่ก็ดมไปรอบๆ พลันก็ได้กลิ่นสุดพรรณาตลบอบอวน “แหวะ นี่มันตดหลากกลิ่นเลยนี่นา กลิ่นแฮมเบอร์เกอร์ กลิ่นพิซซ่า แหวะ กลิ่นรักแร้แฮเกร็ดด้วย”
เพื่อนนักเรียนต่างพากันมองแฮรี่ด้วยสายตารังเกียจ แฮรี่รีบแก้ตัวพัลวันแต่ก็ไร้ผล ส่วนรอนยืนผิวปากไม่รู้ไม่ชี้
"เงียบหน่อย เงียบหน่อย” เสียงของอาจารย์มัลกอนากอน ดังขึ้นขัดจังหวะความวุ่นวาย เมื่อเหตุการณ์สงบลง หล่อนก็หันมาเฉ่งตัวต้นเหตุ “มิสเตอร์พ็อตเตอร์ บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เข้าห้องน้ำทุกเช้า แล้วกินผักมากๆ ท้องจะได้ไม่ผูก ไอ้ตดหลากกลิ่นนี่ คงมาจากไอ้ลูกอมหลากรสแน่นอน เอาแหละโทษฐานที่เธอสร้างมลภาวะทางอากาศแก่เพื่อนนักเรียน ตัดคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์ 20 คะแนน”
เสียงโอดครวญจากเด็กบ้านกริฟฟินดอร์ดังระงม ทั้งหมดจ้องมองแฮรี่อย่างกินเลือดกินเนื้อ แล้วคิดในใจ “เอาอีกแล้ว ไอ้ตัวซวยประจำบ้าน”
แฮรี่ ยืนก้มหน้าอย่างขมขื่น เอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ “ผมไม่ได้ตดซักหน่อย ฮือ อนาถจริงหนอชีวิตเรา ใครๆก็ไม่รัก”
“ว๊าก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า สมเป็นแฮรี่ พ็อตเตอร์ ผู้มีชื่อเสียงจริงๆ โดนตัดคะแนนเพราะตด นี่คงเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ฮอกวอต์กเลยนะนี่” เสียงเยาะเย้ยของมัลฟอยดังขึ้น
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกลับมาสงบเหมือนเดิมแล้ว ดัมเบิ้ลดอร์ก็พูดต่อ “เอาแหละ ทีนี้ทุกคนคงรู้แล้วนะว่าทำไมเราถึงใช้ไม้กวาดด้ามนี้ไม่ได้ ส่วนวิกฤตการณ์ที่ฉันพูดถึงตอนต้นก็มาจากไม้กวาดด้ามนี้นั้นแหละ ไม้กวาดด้ามนี้เป็นหนึ่งใน Item สำคัญที่ใช้ในการคืนชีพของเขา นี่ก็มีข่าวออกมาแล้วว่า เหล่าโหงพรายแห่งควิกดิกส์ทั้ง 9 ได้เดินทางออกจากดินแดนมอร์ดอร์ มุ่งหน้ามายังฮอกวอต์กเพื่อแย่งชิงไม้กวาดด้ามนี้”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ชิงทำลายไม้กวาดด้ามนี้ไปเลยสิครับ” เพอร์ซี่ เสนอแผนการ
ดัมเบิ้ลดอร์ยืนนิ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าทำได้ ฉันคงทำไปนานแล้วละ ไม้กวาดด้ามนี้ทำจากต้นกกพันปีของสยามประเทศ ทนทานยิ่งกว่ากระเบื้องตราช้าง แถมมันยังมีอาถรรพ์อีกด้วย”
“อาถรรพ์ยังไงหรือคะ” เฮอร์ไมโอนี่ ร้องถาม
“เอาแหละ ฉันจะแสดงให้ดู” ดัมเบิ้ลดอร์ พูด ก่อนจะเอื้อมมือไปจับ The One Broom
ทันใดนั้น ใบหน้าของดัมเบิ้ลดอร์ก็พลันไหม้เกรียม เขาชู The One Broom ขึ้นสองมือเหนือศรีษะ พลางตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “เทิดทูนทั่วหล้า The One Broom แม้นอิงฟ้าไม่ปรากฏ ใครหาญกล้าสัปประยุทธ์”
ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในห้องโถงก็คุกเข้าลงคาระวะ ดัมเบิ้ลดอร์ โดยพร้อมเพรียง ประสานเสียงกันดังลั่น “ท่านประมุขยิ่งใหญ่ เปี่ยมด้วยบุญญาธิการ ได้ครอบครองอาวุธวิเศษ ขอให้ได้เป็นเจ้ายุทธภพโดยไว”
ผ่านไปสักครู่ ทุกคนก็ตั้งสติได้ เฮอร์ไมโอนี่ เอ่ยขึ้นลอยๆ “ไม่ยักรู้ว่า ฮอกวอต์ก กลายเป็นพรรคฟ้าดินไปซะแล้ว”
ดัมเบิ้ลดอร์ และเหล่าอาจารย์ทั้งหลายพากันหน้าม้าน ดัมเบิ้ลดอร์ พูดอย่างกระดาก “ก็อย่างที่พวกเธอเห็นนี่แหละ ถ้าใครไม่มีบุญพอ ถ้ามาจับไม้กวาดด้ามนี้ก็จะบ้าๆบอๆไปเลย”
“อย่างนั้น ขอผมลองหน่อยสิครับ” เพอร์ซี่ รีบออกตัว ตามนิสัยชอบเอาหน้า
“เธอแน่ใจนะเพอร์ซี่” ดัมเบิ้ลดอร์ถาม เมื่อเห็นเพอร์ซี่พยักหน้า เขาจึงส่ง The One Broom ให้
เพอร์ซี่จับ The One Broom อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ชู The One Broom ขึ้นฟ้า แล้วตะโกนดังลั่น “กร็าก ด้วยอำนาจแห่งปราสาทสเกลตัน ข้ามีพลัง กร็าก ฮ่าๆๆๆๆ”
เมื่อเพอร์ซี่ได้สติ เขาก็พบว่าทุกคนต่างจ้องมองเขาอย่างสมเพช เพนาโลพี ร้องขึ้นด้วยความอดสู “ไม่นึกเลยว่าเธอจะเป็นพวกบ้ายอดมนุษย์แบบนี้ เพอร์ซี่ เสียสถาบันฟรีเฟคหมด”
จากนั้น เพนาโลพี ก็วิ่งร้องไห้เอามือปิดหน้าออกจากห้องโถงไป โดยมีเพอร์ซี่วิ่งตามร้องเสียงหลง “กลับมาก่อนเพนนีจ๋า ผมแค่เลอะเลือนชั่ววูบ ยกโทษให้ผมเถอะ Please”
“โห ร้ายกาจจริงๆ ไม้กวาดด้ามนี้ ขนาดทำให้เพอร์ซี่เก็กหลุดได้ กลายเป็น ฮีแมน ไปได้” รอน พูดอย่างแหยงๆ
“เชอะ เจ้าพวกวิลลีย์ ไม่มีบุญพอหรอก มันต้องเลือดบริสุทธิ์แบบผมซี่” มัลฟอย รีบเสนอหน้า แล้วเดินเข้าไปจับ The One Broom
หลังจากจับ The One Broom ได้สักครู่ แววตาของเขาก็ขวางเหมือนพวกติดยา หันมามอง เฮอร์ไมโอนี่ และ โชแชง ที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันอย่างหื่นกระหาย “ไอ้เธอมันคือนางแมวยั่วสวาท ไอ้เธอมันคือปีศาจหุ่นเซ็กซี่” จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่สองสาว “อย่างนี้ต้องโดน … อย่างนี้ต้องโดน ….. “
“พลัก บึ๊ก” เสียงของเข่าลอย และ ศอกกลับ ของแฮรี่และรอน กระแทกมัลฟอยกระเด็นไป เจ็บปางตาย ทั้งสองหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกัน “ผู้หญิงข้า ใครอย่าแตะ”
ทุกคนหันมามองสองหนุ่มเป็นตาเดียว ทั้งสองรู้ว่าผิดท่าเสียแล้ว รีบตีลูกขรึมกลบเกลื่อน “อืม ร้ายกาจจริงๆ ไม้กวาดด้ามนี้ ขนาดทำให้สัตว์เลือดเย็น อย่างมัลฟอย กลายเป็นไอ้หื่นบ้ากามได้”
“แกว่าใครเป็นสัตว์เลือดเย็น ไอ้หน้าตกกระใช้คาถาไม่เป็น ไอ้แว่นโอบาคอน” มัลฟอย พูดอย่างเจ็บแค้น หลังจากลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล แฮรี่ถูกพูดจี้ใจดำก็ใช้โฟรโบลต์กระแทกหน้ามัลฟอยจนเลือดกลบปาก
มัลกอนากอนเห็นมัลฟอยเลือดไหลก็ สั่งการไปยังนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ “จินนี่ มาทำแผลให้มัลฟอยหน่อยสิ”
เมื่อเห็นจินนี่เดินเข้ามา คำสอนของตระกูลมัลฟอยก็ผุดขึ้นในหัว “จำไว้นะเดรกโก พวกเลือดบริสุทธิ์อย่างเรา ต้องเท่ทุกท่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิง”
มัลฟอยรีบลุกขึ้น พลางกล่าวกับจินนี่ “ไม่จำเป็นหรอกน้องสาว สำหรับลูกผู้ชาย บาดแผลก็เหมือนเหรียญตราแห่งเกียรติยศ” ก่อนจะสะบัดตัวกลับไปด้วยมาดเท่สุดชีวิต
“พอกันที ฉันจะครอบครอง The One Broom เอง” เสียงของคนๆหนึ่งดังลั่นขึ้น พร้อมกับประตูห้องโถงเปิดผางออกมา อาจารย์สเนปเดินเข้าด้วยมาดสุขุม เสื้อคลุมสีดำปลิวไสว พร้อมกับอินโทรเพลง I don’t want to miss a thing ของแอโรว์ สมิทธ ดังกระหึ่ม
“แหม มามาดพระเอกมิวสิคเลยนะ เซเรวัส” ดัมเบิ้ลดอร์ พูด “ก็ดีเหมือนกัน บางทีเรื่องนี้อาจจะหนักเกินไปสำหรับนักเรียนก็ได้”
สเนป เดินเข้าไปจับ The One Broom อย่างมาดมั่น ท่ามกลางเสียงเชียร์ของนักเรียนบ้านสลิธีริน ผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกอย่างนิ่งเงียบจนทุกคนแทบหยุดหายใจ ทันใดนั้น สเนปก็ใช้คาถาเสกผมของตนจากดำยาวสลวย กลายเป็นทรง วี-คัท แดงเถือก แล้วหันมาพูดกับทุกคนด้วยมาดกวนโอ็ยสุดๆ “ ใครอม โอเล่ ”
จากนั้นสเนป เวอร์ชั่น GTO ก็เต้น แร๊ฟ อย่างมันสุดๆ ชนิด ริดกี้ มาร์ติน ต้องเรียกพี่ นักเรียนทุกคนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เวลาผ่านไป สเนป ก็ได้สติ แต่สายไปเสียแล้ว นักเรียนทุกคนมองเขาอย่างหมดศรัทธา เสนป ทนไม่ได้ ใช้คาถาเมกันเต้ ระเบิดตัวเองไปอย่างอดสู
"หมดกัน ขนาดสเนปยังถือไม้กวาดด้ามนี้ไม่ได้ คงไม่มีใครอีกแล้วมั้ง” เหล่านักเรียนพากันถกเถียงวุ่นวาย แฮรี่รู้แล้วว่าได้เวลาของเขาแล้ว
เสียงอินโทรเพลง “หลบหน่อยพระเอกมา” ดังขึ้น แฮรี่เดินฝ่ากลุ่มเด็กนักเรียนออกมาเบื้องหน้า ผลักแครปและกอยส์ที่ยืนขวางทางอยู่จนหัวทิ่ม
“ผมขอลองดูหน่อยนะครับ” แฮรี่ กล่าวกับดัมเบิ้ลดอร์ ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆแตกฮือด้วยความหวาดกลัว “เอ้ย เจ้าตัวซวย มันจะลองแล้วละ งานนี้จะมีคนตายไหมเนี่ย”
แฮรี่หันไปมองนักเรียนคนอื่นอย่างขวางๆ เมื่อดัมเบิ้ลดอร์อนุญาต เขาก็เอื้อมมือไปจับ The One Broom
ทันทีที่มือของเขากุม The One Broom เอาไว้ โลกรอบข้างก็พลันมืดสนิท The One Broom ในมือของเขาก็พลันมีชีวิต “ยินดีที่ได้พบกับท่านอีกครั้งครับเจ้านาย”
แต่เมื่อเห็นหน้าของแฮรี่ชัดๆ The One Broom ก็อุทานขึ้น “อ้าว ไม่ใช่ท่าน ทอม ริดเดิ้ล เจ้านายเรานี่หนา หน้าคล้ายกันก็จริง แต่เจ้านายเราไม่ดูซื่อบื้อแบบนี้หรอก แหวะ ใส่แว่นตาทรงโนบีตะ แถมมีรอยแผลทุเรศอยู่ที่หน้าผากด้วย ท่าทางเก็บกดลุงป้าไม่รักนี่ ดูเหมือนจะเป็นพวกชอบสาวอายุมากกว่าซะด้วย”
เมื่อโดนใส่เป็นชุด แฮรี่ก็ฉุนกึก “พอได้แล้ว ไม้กวาดบ้าอะไร ปากสุนัขแบบนี้ เอาแหละรีบให้ฉันใช้นายได้แล้ว ถ้าขืนเรื่องมาก ฉันจะให้ภารโรงฟลิกซ์ เอานายไปทำไม้กวาดห้องใต้ดินซะเลย”
“โอ้ว โน จะเอาไม้กวาดไฮคลาส อย่างฉันไปกวาดพื้นได้ไง เค้าไม่ยอมจริงๆด้วย ขืนทำแบบนั้นเค้าจะไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ป้า เจเค ห้ามแต่งแฮรี่ 5 ปีจริงๆด้วย” The One Broom โอดครวญ “เอาเถอะ ยังไงนายก็ดูคล้ายเจ้านายฉันมากทีเดียว สงสัยท่านทอม ริดเดิ้ล ไปปล่อยไข่ทิ้งเอาไว้ละมั้ง”
พูดจบ The One Broom ก็โค้งคำนับให้แฮรี่ พลางกล่าวอย่างนอบน้อม “ยินดีที่ได้พบท่าน เจ้านายคนใหม่ แฮรี่ พอตเตอร์”
เมื่อแฮรี่ได้ครอบครอง The One Broom นักเรียนทั้งหลายต่างเฮกันลั่น แล้ววิ่งเข้ามามุงดู The One Broom กัน
“โห งานปราณีตจริงๆ สงสัยเป็นช่างฝีมือชาววังของประเทศไทยแน่ ดูสิมีเครื่องหมาย Made in Thailand กับ Thailand Best ด้วย โฟรโบสต์ที่ว่าแน่ๆ ชิดซ้ายไปเลย” มาดามฮู้ด พูดอย่างประทับใจ
“เอ๊ะ ที่ด้ามจับมีตัวอักขระอะไรเขียนอยู่ด้วยนะคะ” โชแชง พูดขึ้น
“มันเป็นอักษรของปีศาจที่แสนชั่วร้ายนะ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะออกเสียงมัน แต่ถ้าแปลเป็นไทยจะได้ความว่า … “ ดัมเบิ้ลดอร์ กล่าวขึ้น
The One Broom เร็วสุดเดช เบรคอยู่ที่ใจ
The One Broom ใครแซงข้า ต้องปาดกลับ
The One Broom เร็วสุดใจ ตามใครไม่เป็น
สรุปความได้ว่า The One Broom พ่อทุกสถาบัน นั้นเอง
“สงสัย ทอม ริดเดิ้ล นี่เด็กช่างกลเก่าแฮะ” รอน พูดขึ้น “แล้ว The One Broom มาอยู่ที่อาจารย์ได้ยังไงหรือครับ”
“คืออย่างงี้ เมื่อ ทอม ริดเดิ้ล ได้สร้าง The One Broom ขึ้นมาแล้ว เขาก็กลายเป็นนักควิกดิกส์ที่เก่งกาจ ต่อมาเขาเกิดปิ้ง ลิลี่ พ็อตเตอร์ ขึ้นมา แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย เพราะมีแฟนแล้วก็คือ เจมส์ พ็อตเตอร์ ที่เป็นซีกเกอร์บ้านกริฟฟินดอร์” ดัมเบิ้ลดอร์ พูดถึงอดีต
จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “ดังนั้น ทอม ริดเดิ้ล จึงไปท้า เจมส์ พ็อตเตอร์ ดวล โดยมี ลิลี่ พ็อตเตอร์ เป็นเดิมพัน และ เจมส์ พ็อตเตอร์ ก็เอาชนะ ทอม ริดเดิ้ล ได้ ทอม ริดเดิ้ลจึงทอดทิ้ง The One Broom ไว้ที่นี่แล้วจากไป”
ได้ยินวีรกรรมของพ่อตน แฮรี่ก็พูดอย่างลิงโลด “พ่อผมขี่ไม้กวาดขับเคี่ยวกับ ทอม ริดเดิ้ล แล้วเฉือนเอาชนะ คว้าโกลเด้น สนิช ได้ก่อนแบบฉิวเฉียวใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่หรอก แฮรี่ พ่อเธอให้ ลิลี่ พ็อตเตอร์ แอบเอาน้ำส้มผสมสลอด ไปให้ทอม ริดเดิ้ล ดื่มก่อนแข่งต่างหาก” ดัมเบิ้ลดอร์ เฉลย “ทีนี้พอ ทั้งสองเร่งความเร็วสุดๆเพื่อไล่กวด โกลเด้น สนิช เธอคงเดาออกใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น นี่แหละทำให้ ทอม ริดเดิ้ล อับอายขายหน้าจนหนีออกจากโรงเรียน หันไปเรียนด้านมืดแห่งพลังจากลอร์ดดาร์ท เวเดอร์ จนกลายไปเป็น ลอร์ด โวเดอมอต์ล ยังไงละ”
แฮรี่ ฟังวีรเวรของพ่อตนอย่างคอตก ขณะที่นักเรียนคนอื่นจ้องมองมาที่แฮรี่เป็นตาเดียว พร้อมกับคิด “ที่เราต้องมาซวยกันอยู่นี่ ต้นเหตุมาจากพ่อแม่ของไอ้หมอนี่นี่เอง”
“เอาแหละ มาเข้าเรื่องกันได้แล้ว” มัลกอนากอน พูดขึ้น “เราต้องนำ The One Broom ไปทำลายที่ภูเขาไฟ Crack of Doom ที่ดินแดนมอร์ดอร์ ดังนั้นใครจะอาสาไปกับแฮรี่บ้าง”
นักเรียนทุกคนต่างนิ่งเงียบ สักพัก โอลิเวอร์ วู้ด ก็เดินมาที่เบื้องหน้าแฮรี่ แล้วชูไม้กวาดของตน “คลีนสวิฟ ของฉันจะปกป้องนายเอง”
“กรี๊ด พี่โอเวน” เสียงกรี๊ดสลบจากสาวๆบ้านกริฟฟินดอร์ ดังระงม พร้อมๆกับนักเรียนชายบ้านกริฟฟินดอร์ร้องประสานเสียงเพลง You will never walk alone ดังลั่น
“แต่พี่ต้องติดแข่งกับผีแดง ฤดูกาลหน้าไม่ใช่หรือครับ” แฮรี่ ถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ เบ็คแฮม กำลังฟอร์มตก ต้องนั่งยาว ปล่อยเป็นหน้าที่ของตัวสำรองก็ได้” โอลิเวอร์ พูดให้แฮรี่คลายกังวล
เมื่อได้ตัวแทนจากบ้านกริฟฟินดอร์แล้ว ต่อมาตัวแทนจากบ้านเรเวนคลอก็เดินออกมาหาแฮรี่
“โคเม็ต ของฉันจะเป็นกำลังให้เธอนะ แฮรี่” โชแชง พูด
เสียงเฮจากหนุ่มๆบ้านเรเวนคลอดังลั่นจนห้องโถงสะเทือน แต่น่าแปลกที่เสียงที่ดังที่สุดกลับมาจากหนุ่มบ้านกริฟฟินดอร์คนหนึ่ง ใครกันหนอ
ตัวแทนจากบ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟเดินออกมา เขาก็คือชายลึกลับสวมหน้ากาก ที่แฮรี่เห็นตอนแรกนั่นเอง
“ไม้กวาดนิรนามของฉัน จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเธอเด็ดขาด” ชายลึกลับจากบ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟ กล่าว
เสียงเชียร์จากนักเรียนบ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟ ดังลั่นขึ้น ขณะที่พวกเขาพากันถามกันเอง “หมอนั่นมันใครกันนะ”
เมื่อเห็นว่าบ้านตนถูกปล่อยเกาะเสียแล้ว มัลฟอยจึงจำใจเดินออกไปหาแฮรี่
“ดื่มคนเดียวเหงาจัง” มัลฟอย รีบใช้มุขเบียร์ช้าง “เอาเถอะ ฉัน กับ นิมบัส 2001 ในฐานะตัวแทนบ้านสลิธีริน จะไปกับนายด้วย”
ทันใดนั้น รอน ก็รีบวิ่งเข้าไปหาแฮรี่ “ฉันไปด้วย ฉันไปด้วย”
“แต่นายไม่ใช่นักกีฬาควิกดิกส์นะ แถมไม่มีไม้กวาดด้วย” แฮรี่ พูดขึ้น
“ไม่เอา เค้าจะไปด้วยอะ ไม่งั้นเค้าไม่ยอมด้วย แฮรี่ นายจะทิ้งเค้าหนีไปสวีทกับยายโช ใช่ไหมละ” รอน ดีดดิ้นอย่างอุบาทลูกนัยตา
“โอ๋ โอ๋ นิ่งซะนะคนดี เค้านะไปแค่แป็ปเดียว ก็กลับมาหาตัวได้แล้วละ มาโวยวายแบบนี้เดี่ยวคนอื่นเค้าก็รู้กันหมดหรอก” แฮรี่ ชักออกอาการหวาน
“พอได้แล้ว จะอ็วก รอน ฉันอนุญาตให้เธอไปได้” ดัมเบิ้ลดอร์ ทนความอุบาทไม่ไหว
เฮอร์ไมโอนี่ เดินเขาไปหาสองหนุ่ม มองตาขวางๆ แล้วพูดขึ้น “แหม ไม่ยักรู้นะว่าพวกเธอ มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งเกินเพื่อนซะแล้ว”
จากนั้น เฮอร์ไมโอนี่ ก็หันมาหาดัมเบิ้ลดอร์ “หนูขอไปด้วยละกัน ทีมนี้ยังขาดผู้จัดการทีมไม่ใช่หรือคะ”
ดัมเบิ้ลดอร์ นิ่งคิดแล้วอนุญาต ทันใดนั้นก็มีสองหนุ่มวิ่งออกมาสมทบ
“พวกเราไปด้วย พวกเราไปด้วย แหม เรื่องสนุกๆแบบนี้พลาดได้ไง” เฟร็ดและยอร์ช รีบมายืนข้างๆแฮรี่


ดัมเบิ้ลดอร์ เห็นเช่นนั้น จึงประกาศว่า “เอาแหละ เมื่อเราได้เหล่าผู้กล้าครบแล้ว ฉันขอประกาศแต่งตั้ง …กลุ่มพันธมิตรแห่งไม้กวาด… (The Fellowship of the Broom) นะบัดนี้”
และแล้ว กลุ่มพันธมิตรแห่งไม้กวาด ทีมควิกดิกส์ในตำนานของฮอกวอต์ก ก็ถือกำเนิดขึ้น โดยมีผู้เล่นดังนี้
แฮรี่ พ็อตเตอร์ ……….. ซีกเกอร์
โชแชง ……….. ซีกเกอร์ สำรอง 1
มัลฟอย ……….. ซีกเกอร์ สำรอง 2
โอลิเวอร์ วู๊ด ……….. คีพเปอร์
เฟร็ด และ ยอร์ช ……….. บีทเตอร์
ชายลึกลับจากบ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟ ……….. เชสเซอร์
เฮอร์ไมโอนี่ ……….. ผู้จัดการทีม
รอน ……….. เด็กเก็บลูก
เสียงเฮจากนักเรียนฮอกวอต์ก ดังถล่มทลาย ทุกคนต่างโห่ร้องอย่างยินดี “เฮ มีไอ้พวกโง่ไปตายแทนแล้ว”
“พยายามเข้านะ อย่าไปยอมแพ้เจ้า โฟรโด มันละ Lord นะมีแค่ 3 ภาค แต่เรามีตั้ง 7 สู้เขานะ” เสียงของคุณป้าคนหนึ่งดังขึ้นจากมุมห้อง ในมือถือ Harry Potter and the order of phoenix ที่แต่งค้างครึ่งเล่มอยู่
“เพ่ เพ่ ถามหน่อยเหอะ” รอน เข้าไปถาม ชายลึกลับจากบ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟ “ทำไม พี่ต้องใส่หน้ากากด้วยละ ชื่อแซ่ก็ไม่มี”
“ก็ คนเขียนนะ เขาหาข้อมูลไม่ได้นี่ ว่าจะให้บ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟเป็นใครดี เคยมา Post ถาม ไอ้คนที่ได้ก็ไม่ดังอีก เดี่ยวคนไม่รู้จัก ก็เลยตัดปัญหาให้เป็นบรุษลึกลับไปเลย แต่คอยอ่านตอนต่อไปนะ พี่เนี่ยแหละจะเป๊นอาวุธลับไว้แก้สถานการณ์คับขันละ” ชายลึกลับจากบ้านฮัฟเฟิ้ลฟัฟ เฉลย
“โห คนแต่ง เนี่ย อัจฉริยะจริงๆ” รอน พูดด้วยความทึ่ง
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกังวาลจากฟากฟ้า “พูดได้ดี รอน บ้านกริฟฟินดอร์เอาไปเลย 200 คะแนน”
เมื่อเห็นเช่นนั้น มัลฟอย เลยรีบประจบประแจงมั่ง “ว้าว คนเขียนนี่ช่างเก่งกาจฟ้าประทานจริงๆเลย”
แต่ผิดคาดเมื่อเสียงจากฟากฟ้าดังขึ้นอย่างเคืองๆ “ไม่เอาพวกสอพลอ หักบ้านสลิธีริน 100 คะแนน”
“ตุ๊บ พลัก” เสียงรุ่นพี่บ้านสลิธีริน รุมกระทืบ มัลฟอย ฐานจุ้นไม่เข้าเรื่อง ดังขึ้น
และแล้ว กลุ่มพันธมิตรแห่งไม้กวาด นำโดย แฮรี่ พ็อตเตอร์ ผู้ครอบครอง The One Broom ก็ออกเดินทางสู่ดินแดนมอร์ดอร์ที่มืดมิดและชั่วร้าย เบื้องหน้าของพวกเขายังมีอุปสรรคอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น เหล่าโหงพรายแห่งควิกดิกส์, ศึกชิงรักหักสวาทของเหล่าสมาชิกในทีม, The One Broom ไม้กวาดสุดกวนโอ็ย และ ความสัมพันธ์ลึกลับของเขากับ who you know

สู้เขาต่อไปนะ ………. แฮรี่
The End
โดยคุณ : puiman - [4:14:22  14 มี.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 1
โห....พี่ปุย ยาวมากเลยอ่ะ
โดยคุณ :หนูบิ๊ก - [12:33:02  14 มี.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 2
^/\^ หวัดดีจ้าพี่ปุย ไม่ได้เจอนานเลย สบายดีป่าวกั๊บพี่?

อันนี้ก็เป็นเรื่องแฮรี่เหมือนกัน
แต่เป็น Hairry ภาค The Weakest Link จ้า .. เชิญอ่านได้ .. หุหุหุ

แต่น แต่น แต๊น!!!!!!! (เพลงเข้ารายการ)

"เข้าสู่รอบสองแล้ว สำหรับรอบแรก ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นจุดอ่อนที่สุดก็ได้ออกไปจากการแข่งขันคนหนึ่งแล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องถามก็รู้ว่าทำไมถึงถูกคนอื่นเฉดหัวออกไป" สเนปพูดพร้อมกับปรายตาไปทางเนวิลล์ที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้างเวที

แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาเป็นเดือดเป็นแค้นมาที่สเนป ในขณะที่มัลฟอยยิ้มเยาะอย่างพอใจ

"เอาล่ะ ในรอบสองนี้เวลาจะลดลงเหลือ 40 วินาที กติกายังเหมือนเดิม เมื่อเวลาหมดลง พวกเธอต้องเลือกคนที่เป็นจุดอ่อนที่สุดออกมา และไม่สามารถเลือกคนที่ตอบถูกทุกคำถามออกได้" สเนปอธิบายกฏอีกรอบอย่างเบื่อๆ

"เริ่ม!" สเนปเริ่มการแข่นขันรอบสอง

การแข่งขันรอบสองก็ยังคงดำเนินไปเหมือนรอบแรก สเนปยังคงเข้าข้างมัลฟอยอย่างออกนอกหน้า เช่นคำถามที่ว่า "อาจารย์สอนปรุงยาที่ฮอกวอตส์คนปัจจุบันคือใคร" เป็นต้น ซึ่งทำให้มัลฟอยตอบได้ถูกหมดทุกคำถาม และสำหรับคนอื่นๆ สเนปเลือกถามคำถามที่ยากๆ มีแต่เฮอร์ไมโอนี่คนเดียวเท่านั้นที่ยังตอบคำถามเหล่านั้นได้ถูกทั้งหมด

"หมดเวลา!" สเนปตะคอกเมื่อเวลาหมดลง "เห็นได้ชัดว่าพอตเตอร์ผู้มีชื่อเสียงก็ใช่ว่าจะเก่งไปหมดซะทุกเรื่อง" เสนปหันมาพูดเย้ยหยันด้วยเสียงสะใจกับแฮร์รี่ เมื่อในรอบนี้เขาตอบคำถามได้ไม่ค่อยดีนัก

"เลือกคนที่คิดว่าเป็นจุดอ่อนได้!" สเนปตะโกน

แฮร์รี่นั้นคิดหนักในรอบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถเลือกมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่ได้(ซึ่งสำหรับกรณีของเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่รู้สึกดีใจ) ดังนั้นเขาก็จำเป็นต้องเลือกรอน

เขารู้สึกลำบากใจมาก เขาไม่สามารถทำใจให้เขียนชื่อรอนลงไปได้ "จริงซิ!" แฮร์รี่คิด "เราเลือกตัวเราเองออกไปก็ได้นี่นา" คิดได้ดังนั้นแฮร์รี่จึงเขียนชื่อตัวเองลงไปแทน

โชคร้ายนักที่ดูเหมือนว่ารอนและเฮอร์ไมโอนี่จะคิดแบบเดียวกับเขา รอนก็เขียนชื่อตัวเองลงไปเช่นกัน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็ตัดสินใจไม่เขียนอะไรลงไปเลย

มัลฟอยเขียนชื่อ รอน...

"ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอพยายามจะเล่นอะไรกันนะ..." สเนปพูดเรียบๆ แต่ยังคงกระแสความเยียบเย็นไว้ "แต่คนที่ต้องออกไปในรอบนี้ก็ต้องเป็นเธอ วีสลีย์ เพราะมีคนเขียนชื่อเธอสองคน อ้อ! รวมทั้งตัวเธอเองด้วย อย่างน้อยเธอก็ยังรู้ตัวเองว่าตัวเองเป็นเช่นไร" สเนปเหน็บแนม

รอนเดินลงจากเวทีเงียบๆ โดยส่งสายตาเป็นกำลังใจมาที่แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่

"เราคงต้องถามเหตุผลกันเสียหน่อยว่าทำไมถึงพวกเธอถึงเลือกวีสลีย์ อ้อ! สำหรับเกรนเจอร์และพอตเตอร์ เราคงไม่จำเป็นต้องถามพวกเขา เพราะเห็นได้ชัดว่าพอตเตอร์คิดว่าตัวเองโง่เง่าที่สุด และเกรนเจอร์ก็ไม่มีสมองพอที่จะคิดตัดสินใจได้ว่าใครควรจะออกไป..." สเนปพูดแดกดัน

รอนเกือบจะกระโดดกลับขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง เขารู้สึกอยากบีบคอสเนปให้ตายคามือ แต่จินนี่ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ดึงเขาเอาไว้

"เรามาถามเหตุผมของมัลฟอยกันดีกว่า ทำไมเธอถึงเลือกให้เขาออกไป" สเนปหันมาถามมัลฟอย

"ผมคิดว่าเขายากจนและต่ำต้อยเกินกว่าที่จะมายืนอยู่ข้างผมครับ" มัลฟอยพูดถากถางด้วยความสะใจ

"แม้ว่าจะเป็นคำตอบที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน..." สเนปพูดด้วยเสียงนุ่มนวลดุจใยไหม "แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธนะ" สเนปรับกับมัลฟอยได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

รอนกระโดดลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่มีอะไรบางอย่างลอยข้ามหัวเขาไปตกลงบนเวที มันเป็นวัตถุบางอย่าง และทันทีที่มันตกถึงพื้นข้างตัวสเนป มันก็ระเบิดและส่งกลิ่นรบกวนประสาททันที มันคือระเบิดเหม็นนั่นเอง

รอนหันขวับไปดูและทันได้เห็นเฟร็ดกับจอร์จกำลังนั่งลงด้วยสีหน้าสะใจสุดๆ พร้อมกับขยิบตามาให้

"ถ้าฉันรู้ว่าเป็นฝีมือใคร..." สเนปพูดกัดฟันช้าๆ เสียงเย็น "เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีเถอะในชั้นเรียนของฉัน" สเนปพูดพร้อมกับชำเลืองมองมาที่เฟร็ดกับจอร์จ จากนั้นเขาจึงโบกไม้กายสิทธิ์จัดการกับระเบิดเห็นนั่น จนทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าสุดของกองเชียร์ฝั่งกริฟฟินดอร์หันหลังไปส่งสายตาดุและมองหาตัวผู้กระทำผิด เมื่อสบตากับเฟร็ดและจอร์จ เขาทั้งสองคนก็ผิวปากทำเอาหูไปหน้าเอาตาไปไร่อย่างหน้าตาเฉย ศาสตราจารย์มักกอนนากัลถอนใจและหันกลับมา เธอไม่สามารถลงโทษพวกเขาได้เพราะไม่ได้เห็นกับตาว่าเป็นฝีมือใคร

แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ รวมทั้งกองเชียร์ของกริฟฟินดอร์(อาจรวมถึงกองเชียร์ของบ้านเรเวนคลอและฮัฟเฟิลพัฟด้วย) ต่างก็รู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก

"แม้ว่าจะมีสิ่งรบกวน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขเรื่องที่วีสลีย์ต้องออกจากการแข่งขันไปได้ ซึ่งนั่นก็สมควรแล้ว ตอนนี้เราเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 3 คน และก่อนที่จะพบกับการแข่งขันรอบต่อไป พบกับสิ่งที่น่าสนใจสักครู่ก่อน...แล้วก็อย่าให้ฉันรู้ว่าเป็นใครก็แล้วกัน..." สเนปยังคงกัดฟันด้วยความโกรธ พร้อมกับมองมาที่กองเชียร์กริฟฟินดอร์อีกครั้ง

แต่น แต่น แต็น!!!

กล้องแพนออก โลโก้รายการขึ้นอีกครั้ง.....พักโฆษณาจ๊ะ.....
แต่น แต่น แต๊น!!!!!!!!!!!! (เพลงเข้ารายการ)

"กลับเข้าสู่การแข่งขันในรอบที่สาม เราจะไม่อธิบายกติกาให้ยุ่งยากอีกนอกจากเวลาที่ลดลงเหลือ 30 วินาที เอาล่ะเริ่มได้" สเนปเริ่มรายการอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขายังคงหงุดหงิดเรื่องระเบิดเหม็นอยู่

และรอบนี้ก็ยังคงเป็นไปตามคาดหมาย นั่นคือสเนปยังคงขี้โกงเช่นเดิม แต่แล้วก็เกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่

เมื่อถึงคำถามที่ 5 สเนปหันมาถามเฮอร์ไมโอนี่ "การทำผิดกติกาในการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพเมื่ปี ค.ศ.1473 ทั้ง 700 ข้อมีอะไรบ้าง"

เป็นคำถามที่ขี้โกงที่สุดอย่างหาที่เปรียบมิได้แล้ว เพราะถึงแม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะรู้(ซึ่งเธออาจจะจำได้ทั้ง 700 ข้อ) แต่เธอก็ไม่สามารถตอบให้ครบทั้งหมดได้ในเวลาไม่กี่วินาทีหรอก

"ข้ามค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบในที่สุด

สเนปส่งสายตาเย้ยหยันมาให้เฮอร์ไมโอนี่ และหันไปถามคำถามง่ายๆ กับมัลฟอยต่อไป

"เอาล่ะ เลือกคนที่เธอคิดว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดได้" สเนปพูดขึ้นเมื่อเวลาหมดลง และผลที่ได้ตอนนี้ก็คือคนที่ตอบได้ถูกหมดทุกข้อมีเพียงมัลฟอยเท่านั้น

แฮร์รี่คิดหนักอีกแล้ว เขาคิดที่จะเขียนชื่อตัวเองลงไปอีก แต่เมื่อคิดว่าเฮอร์ไมโอนี่ก็อาจจะทำแบบเดียวกัน แล้วทีนี้มันก็จะเหลือแค่มัลฟอยที่จะกลายเป็นคนตัดสินว่าใครจะต้องออกไป

แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นและมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ เมื่อพวกเขาสบตากัน แฮร์รี่ก็พยายามขยิบตาและส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่าให้เฮอร์ไมโอนี่เขียนชื่อเขาลงไป เฮอร์ไมโอนี่ก็ส่งสายตามาที่เขาเช่นกัน และในที่สุดก็เหมือนเฮอร์ไมโอนี่จะเข้าใจ เธอพยักหน้านิดๆ เหมือนรับรู้

ปรากฏว่าทั้งแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ก็ต่างเขียนชื่อตัวเองลงไปอีก ส่วนมัลฟอยเขียนชื่อเฮอร์ไมโอนี่

"เธอคือจุดอ่อน เกรเจอร์! ไม่นึกว่ายายรู้มากน่ารำคาญอย่างเธอก็จะมีคำถามที่ตอบไม่ได้อยู่ด้วยนะ ลงไปได้!" สเนปตะคอกใส่

เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาเย็นชาให้สเนป และขณะที่เธอเดินผ่านแฮร์รี่ แฮร์รี่ก็กระซิบถาม

"ทำไมเธอไม่เขียนชื่อฉัน ฉันส่งสายตาบอกให้เธอเขียนชื่อฉันยังไง"

"อ้าว..ฉันก็ส่งสายตาบอกให้เธอเขียนชื่อฉันลงไปเหมือนกัน ฉันก็นึกว่าเธอจะเข้าใจ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างงงๆ

"ฉันเห็นเธอพยักหน้ารับรู้แล้วด้วย" แฮร์รี่กระซิบ

"ฉันพยักหน้าว่าให้เขียนชื่อฉันลงไปต่างหาก" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบตอบ "เอาเถอะ แฮร์รี่ ยังไงก็พยายามเข้านะ.." เฮอร์ไมโอนี่พูดให้กำลังใจก่อนเดินลงจากเวทีไปสมทบกับรอน

"เรามาถามเหตุผลของมัลฟอยกันดีกว่า ฉันว่าเราไม่ต้องถามพอตเตอร์หรอก เพราะเขาก็แสดงให้เราเห็นว่าเขาคิดว่าตัวเองไม่ได้เรื่องมาตั้งแต่รอบที่แล้ว" สเนปพูดขึ้นเมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินลงไปแล้ว

เสียงหัวเราะด้วยความสะใจดังขึ้นจากกองเชียร์ฝั่งสลิธิริน

"ผมไม่ชอบนิสัยรู้มากเกินไปจนน่ารำคาญของเขาครับ และเขายังตอบคำถามง่ายๆ อย่างการทำผิดกติกาในการเล่นควิดดิชไม่ได้อีก งี่เง่าจริงๆ ครับ" มัลฟอยตอบหน้าระรื่น

มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากกองเชียร์ฝั่งสลิธิรินอีก

"ฉันเห็นด้วยกับเธอในข้อนั้น" สเนปพูด "ฉันก็ทนเขาไม่ได้มาตั้งแต่เริ่มการแข่งขันแล้ว น่ารำคาญ..." สเนปพูดหน้าตายพลางชำเลืองไปทางเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้ชม

"เอาล่ะตอนนี้เราก็เหลือผู้เข้าแข่งขันแค่สองคนแล้ว และเรากำลังจะเข้าสู่....."

"ปัง!" เสียงประตูห้องส่ง(ซึ่งดัดแปลงคุกใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในฮอกวอตส์ทำเป็นห้องส่ง ถ่ายทอดสดรายการนี้ไปทั่วโลกพ่อมดแม่มด) ดังขึ้นขัดจังหวะการพูดของสเนป

ทุกสายตาหันไปมอง และเห็นคนๆ หนึ่งซึ่งมีขาข้างหนึ่งทำด้วยไม้ เดินกระเผลกเข้ามา เขาคือ แมด-อาย มู้ดดี้ นั่นเอง

สเนปหันมาตกตะลึง มองตาค้างอยู่

"ทำไมล่ะ สเนป! ดำเนินรายการต่อไปซิ ต้องตัดเข้าโฆษณาไม่ใช่รึ หึๆๆ!" มู้ดดี้พูดเสียงเย็น

"พบ...เอ่อ...พบสิ่งที่น่าสนใจ...สักครู่..หนึ่ง" สเนปพูดช้าๆ ตายังคงจ้องมองที่มู้ดดี้ ซึ่งเดินกระเผลกมานั่งที่นั่งข้างดัมเบิลดอร์

กล้องแพนออกหลังจากช่างกล้องหายตกตะลึงแล้ว และฝ่ายเทคนิคภาพก็หายตกตะลึงทันพอดีที่จะแทรกโลโก้รายการขึ้นมาและตัดเข้าโฆษณาด้วยความเงียบกริบของทั้งห้องส่ง

.....แม้แต่ช่างเทคนิคฝ่ายเสียงก็ลืมเปิดเพลงเข้าโฆษณา....................

...............ยังอยู่ระหว่างพักโฆษณา.................

"นึกยังไงมาที่นี่ล่ะอลาสเตอร์" ดัมเบิลดอร์ถามมู้ดดี้เสียงล้อๆ พร้อมกับยิ้มนิดๆ

"ฉันดูอยู่ที่ห้องทำงานตลอดนั่นแหละ" มู้ดดี้ตอบ "ยิ่งดูนานเข้าๆ ยิ่งรู้สึกทนไม่ได้กับพฤติกรรมของมันเข้าทุกที ถึงต้องลงมาถึงนี่"

"คุณหมายถึงเซเวอรัสน่ะรึ?" ดัมเบิลดอร์แกล้งถาม มีประกายวิบวับหลังแว่นตา

"ก็จะใครซะอีกล่ะ อ้อ! แล้วยังเจ้าเด็กผมบรอนซ์นั่นด้วย ไม่ไหวจริงๆ ทำไมคุณถึงปล่อยให้มันทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้ล่ะอัลบัส ผมคิดว่าคุณน่าจะจัดการอะไรไปตั้งนานแล้ว แต่คุณก็ไม่ทำอะไร ผมถึงต้องลงมาดูนี่ยังไงล่ะ" มู้ดดี้ตอบอย่างหงุดหงิด

"ผมคิดว่ามันเป็นแค่เกมน่ะอลาสเตอร์" ดัมเบิลดอร์ตอบด้วยเสียงสนุกสนาน "แต่ผมก็คิดว่ารอบสุดท้ายนี่ผมคงต้องเตือนเซเวอรัสเสียหน่อยแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นเขาคงถูกแฟนคลับของพอตเตอร์(และแดเนียล...^_^) รุมส่งจดหมายกัมปนาทมาหาเขาในเช้าวันพรุ่งนี้เป็นแน่"

"ให้ผมจัดการเองดีกว่าอัลบัส" มู้ดดี้พูดพลางล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุมแล้วหยิบม้วนกระดาษขึ้นมาอันหนึ่ง "ที่ผมลงมาช้าก็เพราะคิดไอนี่อยู่ด้วยนั่นแหละ"

มู้ดดี้คลี่ม้วนกระดาษออกให้ดัมเบิลดอร์ดู เขารับไปอ่านผ่านๆ แล้วยิ้มให้มู้ดดี้ "ดีเลยมู้ดดี้ ผมเองก็ว่าจะเปลี่ยนคำถามของเขาเหมือนกัน แต่คุณทำมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ใช้ของคุณละกัน"

มู้ดดี้ฉีกยิ้มที่ดูแล้วน่ากลัวมากกว่าเป็นมิตรให้ดัมเบิลดอร์ แล้วจึงเดินขโยกเขยกขึ้นไปหาสเนปบนเวที

"ใช้นี่แทนดีกว่านะสเนป!" มู้ดดี้พูดเสียงดัง "คงจะยุติธรรมกว่าคำถามของคุณเยอะเลย" มู้ดดี้ไม่พูดเปล่า แต่กระชากแผ่นกระดาษคำถามของสเนปมาและยัดกระดาษของเขาใส่มือสเนปแทน

สเนปรับกระดาษมาอ่านผ่านๆ แล้วเขาก็ต้องกัดฟันกรอด "ทำแบบนี้พอตเตอร์ก็ได้เปรียบน่ะซิ!" สเนปพูดโดยไม่ยอมมองตามู้ดดี้

"ไม่เห็นจะเกี่ยว" มู้ดดี้พูดเสียงดังอีกพร้อมกับใช้ตาวิเศษจ้องมองไปที่สเนป "ความรู้ทั่วไป สองคนนั่นก็เรียนมาเท่าๆ กัน เขาย่อมมีโอกาสเท่ากัน ส่วนคำถามอื่นๆ..." มู้ดดี้หัวเราะในลำคอ "นั่นก็เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ย่อมรู้ไม่ใช่หรือ?"

"ก็...ก็ได้!" สเนปตัดใจพูดโดยแทบจะไม่เผยอริมฝีปาก

มู้ดดี้เดินขโยกเขยกกลับมานั่งข้างดัมเบิลดอร์อีกครั้ง ทั้งคู่ส่งยิ้มให้แก่กัน

................................................

แต่น แต๊น!!!!! (เพลงเข้ารายการ สั้นลงกว่าเดิมเล็กน้อย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสียงเป็นคนขวัญอ่อน ยังไม่หายจากอาการตกใจดีนัก...^_^)

"กลับ...กลับเข้าสู่..." สเนปยังไม่หายหัวเสีย "...รายการ....ตอนนี้เป็นรอบสุดท้ายแล้ว เราจะได้รู้ว่า....ใครแข็งแกร่งที่สุด....แม้ว่าจะ...." สเนปหยุดพูดเมื่อหันไปสบตากับตาวิเศษของมู้ดดี้

"ช่างเถอะ...." สเนปตัดใจไม่พูดประโยคที่เหลือ "กติกาในรอบนี้จะเปลี่ยนไป ฉันจะถามคำถามเธอคนละ 5 คำถาม ใครตอบได้ถูกมากที่สุด คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ ถ้าครบ 5 คำถามแล้วเธอสองคนตอบได้ถูกต้องเท่าๆกัน
ฉันจะถามคำถามเพิ่มทีละคำถาม ถ้าใครตอบผิดก่อน โอกาสจะเป็นของอีกคนนึงทันที" สเนปอธิบาย และสะบัดเสื้อคลุมอย่างหงุดหงิดเมื่อพูดจบ

"มัลฟอย เธอจะเริ่มก่อน เพราะเธอตอบคำถามได้ถูกต้องมากกว่าในรอบที่แล้ว" สเนปหันมาพูดกับมัลฟอย

"คำถามแรก..." สเนปก้มลงมองดูกระดาษที่มู้ดดี้ให้มา ซึ่งเขียนลำดับไว้ด้วยว่าให้ถามเรียงตามลำดับ ห้ามเปลี่ยนโดยเด็ดขาด

"คาถาที่ใช้ในการเสกผ้าพนแผลคืออะไร" สเนปถาม

มัลฟอยอึ้งไปสักครู่ คาถานี้ศาสตราจารย์ฟวิตวิกเคยสอนในชั้นเรียน แต่นั่นก็นานมาแล้ว และยังเป็นคาถาที่ไม่ได้เอามาสอบและไม่ได้ใช้ประจำ ทำให้มัลฟอยต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการคิด

สำหรับแฮร์รี่นั้น เขานึกออกแทบจะในทันที เพราะเขาได้เห็นการใช้คาถานี้เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่ศาสตราจารย์ลูปินเสกผ้าพันแผลให้กับรอน

"เอ่อ...อืม..." มัลฟอยพึมพำ "อ๋อ! ใช่แล้ว เฟอรูล่า!" มัลฟอยตะโกนออกมาในที่สุดเมื่อนึกออกในนาทีสุดท้าย

"ถูกต้อง!" สเนปโล่งอก "เอาล่ะ ต่อไปก็พอตเตอร์..." สเนปหันมาที่แฮร์รี่ด้วยแววตาประสงค์ร้าย

"พ่อมดและแม่มดแอนนิเมจัสในศตวรรษนี้มีทั้งหมดกี่คน" สเนปยิ้มเยาะ เขาไม่นึกว่าแฮร์รี่จะจำเรื่องพวกนี้ได้หรอก

แต่สเนปคิดผิดเสียแล้ว เพราะการที่มีพ่อทูนหัวเป็นแอนนิเมจัสที่ไม่ได้ลงทะเบียนทำให้แฮร์รี่จำได้อย่างแม่นยำว่าในศตวรรษนี้มีแอนนิเมจัสอยู่กี่คน

"เจ็ดคนครับ" แฮร์รี่ตอบฉะฉาน

"ถูกต้อง....." สเนปพูดอย่างผิดหวัง "โชคดีมากนะพอตเตอร์..." ประโยคหลังสเนปกระซิบโดยไม่เผยอริมฝีปากกับแฮร์รี่

คำถามต่อๆ มา เป็นคำถามความรู้ทั่วๆ ไปที่ได้เรียนกันมาแล้ว ซึ่งมีความยากง่ายพอๆ กัน ทำให้ทั้งคู่ตอบถูกเท่ากัน จนต้องเล่นต่อหลังจากจบคนละ 5 คำถามแล้ว

"มัลฟอย...คำถามต่อไป ถ้าเธอตอบผิด ก็จะเป็นโอกาสของ..." สเนปหันมามองแฮร์รี่ด้วยแววตาไม่เป็นมิตร "...พอตเตอร์"

"ทีมใดในควิดดิชลีก ที่ชนะเลิศมากที่สุด และชนะเลิศทั้งหมดกี่ครั้ง"

"มอนโทรส แมกไพส์...ชนะทั้งหมด 32 ครั้งครับ" มัลฟอยตอบอย่างมั่นใจเพราะเป็นเรื่องที่ใครๆ ที่ชอบกีฬาควิดดิชย่อมจำได้

"ถูกต้อง" สเนปตอบพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ "พอตเตอร์..." สเนปหันมาทางแฮร์รี่ "คำถามต่อไป..."

"เทคนิคการเล่น มุขหลอกรอนสกี้เป็นอย่างไร" สเนปถามเสียงเย็นชา

แฮร์รี่จำได้ดี เพราะเขาประทับใจกับเทคนิคนี้ที่ครัมใช้เป็นอย่างมาก

"เป็นการหลอกให้ซีกเกอร์อีกฝ่ายบาดเจ็บ โดยแกล้งทำเป็นเห็นลูกสนิชและเชิดหัวขึ้นก่อนถึงพื้น ทำให้ซีกเกอร์อีกฝ่ายพุ่งชนพื้นครับ" แฮร์รี่ตอบ

"ถูกต้อง" สเนปพูดอย่างหงุดหงิด "ถ้าอย่างนั้นเราต้องเล่นกันต่อ....มัลฟอย" สเนปหันมาทางมัลฟอย "คำถามต่อไป...."

"ก่อนที่คอนีเลียส ฟัดจ์ จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ในปัจจุบัน เขาได้ดำรงตำแหน่งใดมาก่อน" สเนปตอบเสียงเครียด เพราะคำถามนี้ยากมากสำหรับเด็กที่เกิดในยุคหลังๆแบบนี้

มัลฟอยอึกอักเพราะเขาไม่รู้คำตอบ เด็กคนอื่นๆ ก็เช่นกัน เฮอร์ไมโอนี่นั้นถึงกับเผลอตัวทำตามสัญชาตญาณเดิมคือรีบยกมือขึ้นสูงทันที

"เธอจะบ้าหรือเปล่า..." รอนหันมาเตือนสติแล้วรีบดึงแขนเฮอร์ไมโอนี่ลง

เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดค้วยความอาย

"หัวหน้า...เอ่อ...กองความร่วมมือระหว่างประเทศครับ" มัลฟอยตัดสินใจตอบ

"....ผิด..." สเนปพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังอย่างมาก "คำตอบคือ หัวหน้ากรมการจัดการภัยพิบัติแห่งเวทมนตร์..." มีเสียงครางด้วยความผิดหวังดังมาจากกองเชียร์สลิธิริน

"ตาเธอ พอตเตอร์" สเนปหันมาที่แฮร์รี่อีกครั้ง แฮร์รี่รู้สึกตื่นเต้นมาก ถ้าเขาตอบข้อนี้ถูก เขาก็จะกลายเป็นผู้ชนะ และที่สำคัญคือชนะมัลฟอยต่อหน้าพ่อมดแม่มดที่ชมการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศอีกด้วย

แฮร์รี่มองหน้าสเนป เขามั่นใจว่าสเนปกำลังภาวนาให้เขาตอบไม่ได้อยู่แน่ๆ

"คาถาในการเสกผู้พิทักษ์คืออะไร" สเนปยิ้มเยาะเมื่ออ่านคำถามจบ เขามั่นใจว่าแฮร์รี่ไม่มีทางตอบคำถามนี้ได้เพราะเป็นคาถาชั้นสูงที่ไม่มีในตำรา

แต่สิ่งที่สเนปไม่รู้คือเมื่อปีที่แล้วแฮร์รี่ใช้เวลาฝึกคาถานี้ทั้งปี และได้ใช้มันหลายครั้ง เขาไม่มีทางลืมคาถานี้ไปชั่วชีวิตแน่ หัวใจของแฮร์รี่ลิงโลดขึ้นในทันที เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา

"เอ็กเปกโต พาโตรนุม!" แฮร์รี่ตะโกนก้องไปทั่วห้องส่ง พร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์ไปข้างหน้าตรงไปทางมัลฟอย

และทันใดนั้นก็มีกลุ่มควันสีเงินพวยพุ่งออกมาจากไม้กายสิทธิ์ กลายเป็นกวางตัวผู้สวยงาม และกลับวิ่งเข้าหาสเนปแทนพร้อมกับวิ่งวนไปรอบๆ จนเสนปต้องเอามือปัดเป็นพันวัล

คนทั้งห้องส่งและผู้ชมทางบ้านต่างพากันหัวเราะ ครู่ใหญ่ๆ กวางสีเงินตัวนั้นก็วิ่งกลับมาหาแฮร์รี่และหายไป ส่วนสเนปนั้นมีท่าทางโกรธมากขนาดอยากจะฆ่าแฮร์รี่ให้ตายเลยทีเดียว

ดัมเบิลดอร์เห็นว่าสเนปโกรธมากจนเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาจึงถอดเฮดโฟนที่สวมหัวออก(แบบที่ผู้กำกับรายการมักจะใช้) เปลี่ยนเป็นสวมหมวกพ่อมดแล้วเดินขึ้นไปบนเวที

"เป็นอันว่าเราได้ผู้ชนะในวันนี้แล้ว แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นผู้ชนะครับ!" ดัมเบิลดอร์ตะโกนก้อง พร้อมกับชูมือแฮร์รี่ขึ้น ตามมาด้วยเสียงปรบมือและโห่ร้องดังสนั่น

สเนปได้แต่ยืนโกรธจนตัวสั่นอยู่ ส่วนมัลฟอยยืนอึ้ง และยิ้มอย่างขมขื่นด้วยความเจ็บใจ

"พอตเตอร์จะได้รับรางวัลเป็นจำนวน 500 เกลเลียน และได้รับตั๋วรถเมล์อัศวินราตรีฟรีตลอดชีพครับ!" ดัมเบิลดอร์กล่าวต่อ

"สำหรับในวันนี้ พวกเราทุกคนที่ฮอกวอตส์คงต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสพิเศษครั้งหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ" ดัมเบิลดอร์กล่าวปิดรายการอย่างร่าเริงพร้อมกับโบกมือให้กล้อง

กล้องโคลสอัพไปที่แฮร์รี่ซึ่งยิ้มกว้าง จากนั้นจึงแพนออก แล้วขึ้นโลโก้รายการพร้อมกับเพลงปิดรายการ(แต๊น แต่น แต่น แต๊น!!!!!!) ก่อนจะตัดเข้าสู่รายการอื่นๆ ของทางสถานีต่อไป....

..................................................................

...............หลังจากรายการจบลงแล้ว...............

แฮร์รี่เดินลงมาหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ด้วยท่าทางรื่นเริงและสะใจที่เอาชนะมัลฟอยได้

"ยินดีด้วยแฮร์รี่! เธอทำได้!" รอนและเฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นพร้อมกัน

"ฉันดีใจที่เธอเอาชนะมัลฟอยได้" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างสะใจ

"แล้วยังผู้พิทักษ์ที่เสกใส่สเนปนั่นอีก" รอนพูดต่อ

แฮร์รี่หัวเราะร่วนและพูดขึ้น "จริงๆ แล้วฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมมันพุ่งเข้าใส่สเนปทั้งๆ ที่ฉันหันไม้กานสิทธิ์ไปทางมัลฟอย"

"มันคงเห็นว่าสเนปน่าเกลียดพอๆ กับผู้คุมวิญญาณล่ะมั๊ง" รอนตอบ แล้วทั้งสามก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน

ทั้งสามหารู้ไม่ว่าสเนปค่อยๆ เคลื่อนกายมาอย่างงียบๆ และมาอยู่ข้างหลังพวกเขาแล้วในตอนที่รอนพูดประโยคนี้.....

.....................The End........................
โดยคุณ :akejung เอามาให้อ่านด้วยคน - [12:42:29  14 มี.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 3
:)
โดยคุณ :ตะกร้ากล้วยไข่ - [13:48:29  14 มี.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 4
สะ-บาย-ดี-ฮับ

อืม แล้วจะมีภาคอื่นๆอะไรออกมาอีกนะเนี่ย
น่าจะเป็น Harry in concert (เฉลียง) นะ
โดยคุณ :puiman - [20:13:29  14 มี.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 5
อะเหอะๆ หนุกดี
โดยคุณ :ว่าน - [9:23:43  15 มี.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 6
ทำไมยาวจังค่ะ  แต่ก็หนุกดีค่ะ
โดยคุณ :nena - [12:27:26  1 ธ.ค. 2548]

ความคิดเห็นที่ 7
ยาวมากๆๆๆ จนเราไม่อยากอ่านอะ แต่ว่าเราก้อต้องอ่านเพราะเราอยากอ่านอะอิอิ
โดยคุณ :=^.^= - [18:20:41  1 ธ.ค. 2548]

ความคิดเห็นที่ 8
โช แชงน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอยากให้โชแชงเป็นแฟนกับแฮร์รี่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดยคุณ :บีม - [11:09:16  12 ธ.ค. 2548]

ความคิดเห็นที่ 9
เราอยากเปนแฟนกะโดรโกอ่ะ  เค้าน่ารักดี
โดยคุณ :ไอลีน มัลฟอย - [16:06:23  2 เม.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 10
สนุกจักเลย ฮามาก
โดยคุณ :kid - [20:09:51  16 ส.ค. 2549]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....