กระดานความรู้สึก


โดนปฏิเสธไม่ให้บริจาคเลือด !!!
เมื่อวันอังคารที่ 4 picmee พยายามจะบริจาคเลือดครั้งที่ 29
กรอกเอกสารเรียบร้อย ตอบใช่/ไม่ใช่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง
แต่พอไปตรวจสุขภาพเบื้องต้น หมอ(ดัน)ถามซ้ำว่ามีโรคประจำตัวไหม
ไอ้เราก็ดันลืมอีกว่าต้องโกหก ..เห็นหมอหล่อ ... ลืมตัว ตอบไปว่า "เป็นลมชักค่ะ"

ซวยสิ เขาก็ไม่ให้บริจาคเลือดดิ
ต้องไม่มีอาการแล้ว 2 ปี เราก็เป็นมาตลอด ...แล้วก็บริจาคเลือดมาตลอดนี่ล่ะ
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ เอาคัมภีร์มายันซ้ำว่า ต้องไม่มีอาการมาแล้ว 5 ปี หรือมีเอกสารจากแพทย์ผู้รักษามายืนยันว่าอนุญาตให้บริจาค
เราก็เถียงกะหมอพักใหญ่ว่าหมอที่รักษาเราไม่ว่าไร
เพราะเราถามหมอแล้วจริงๆ
ในที่สุด ตาหมอหล่อนี่ก็ดีดออกมา ไม่ยอมให้บริจาค
แง่ง!!

ระหว่างรอเพื่อนอีก 2 คนนอนบริจาค
หมอก็กวักมือเรียกไปคุยอีกครั้ง... บอกว่าเห็นตั้งใจจะบริจาค (หมอคงสงสาร หรือเวทนานี่ล่ะ)... ครั้งนี้หมอให้บริจาคก็ได้
แต่ครั้งหน้า ต้องมีเอกสารจากหมอที่รักษามานะ ว่าอนุญาตให้บริจาคเลือดจริงๆ
โอ้ เย้!!!

ด่านต่อไป คุณภาพเลือด
ปกติเราได้ทุกอย่าง เลือดคุณภาพดีสุดๆ
เคยบริจาคตอนกำลังมีประจำเดือนด้วยซ้ำ ความเข้มข้นยังดีกว่าคนทั่วไปเลย
เจ้าหน้าที่ถาม "ทานยาไรไหมคะ"
(โกหกไม่ได้ล่ะ เพราะหมอเมื่อกี้เขียนไว้ในเอกสาร) "ตามใบนั้นเลยค่ะ"
คราวนี้ เขาเอาเลือดเข้าเครื่อง B-Hemoglobin ได้ค่า 11.4 เขาบอกผู้หญิงต้องได้ 12
เจ้าหน้าที่เลยส่งธาตุเหล็กเม็ดมา 5-6 ซองให้ไปกิน
"บริจาคไม่ได้นะคะ"

โอ้ย ทำไมเป็นงี้อ่ะ
ไม่ใช่วันของเรา ทำบุญไม่ขึ้นเหรอ
ปีนี้ตั้งใจจะให้ครบ 4 ครั้งซะหน่อย....
เดี๋ยวสัปดาห์หน้า หนีไปบริจาคที่ภูมิพลดีกว่า
ต้องให้ได้ ต้องให้ได้
โดยคุณ : Picmee - [17:59:02  8 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 1
บริจาคไม่ได้ ไม่ใช่เค้าไม่ให้แกทำบุญซะหน่อยหนิไอ้ปิ๊ก
ทำไรคิดถึงผลที่อาจจะตามมามั่งก็ดีนะ เกิดมึงเป็นไร หมอเค้าจะซวยไปกะมึงด้วย
ทำไม่ได้ก็ไปหาบุญอย่างอื่นทำเหอะ

เคยเห็นคนพวกนี้มาแล้ว พวกอยากเสียเลือดจัด
ไปหลอกหมอ/ปกปิด/(ทำเป็น)ลืมบอก/อายุไม่ถึง/นอนไม่พอ
ขึ้นเตียงบริจาคได้ไม่ทันไรแม่งหน้าเขียว หมอเค้าวุ่นวายต้องหามมันส่งโรงพยาบาลจริงๆอีก นอนซีดไปหลายวันลำบากคนใกล้ชิดอีก

เตือนด้วยความหวังดีหว่ะ กลัวแกตายก่อนหาสามีได้หว่ะ :P
โดยคุณ :ไก่น้อย - [19:17:26  8 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 2
"ต้องให้ได้ ต้องให้ได้" เนี่ย แปลว่าอะไรคะพี่
โดยคุณ :อิคคิว - [20:07:58  8 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 3
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าปิ๊กเป็นโรคลมชักเหมือนเราเลย
เรากินยาdilantinมา15ปีแล้ว หมอบอกว่ามีโอกาสหาย
แต่มันเมื่อไหร่นะ เมื่อก่อนเราก็บริจาคเลือดนะ
แต่ตอนนี้ไม่ได้บริจาคแล้ว เค้าไม่รับอ่ะ
โดยคุณ :โอ๋นครปฐม - [20:10:51  8 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 4
.........................................

โห! บุญท่วมบอร์ด

........................................
โดยคุณ :ติดดิน - [21:22:27  8 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าเขาไม่ให้บริจาคเลือด เราก็ทำบุญอย่างอื่นก็ได้มั้งคะ พี่ปิ๊ก

หม่อนก็อยากบริจาคเลือดแบบคนอื่นๆ เขาบ้างอ่ะ
แต่บริจาคทีไร ภูมิแพ้อาการหนักขึ้นทุกที เลยต้องตัดใจ

หนูว่าเราไปรับเลี้ยงเด็กกันดีกว่านะคะ พี่ปิ๊ก ^^
โดยคุณ :ใบหม่อน - [23:52:15  8 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 6
ลำบากนักก็อย่าเลยวะ เดี๋ยวแกจะตายก่อนได้เจอหนุ่มคนนั้น
ช้านจะไปพรุ่งนี้ จะได้บริจาคมั๊ยเนี่ย อาทิตย์ที่แล้วไปมารอบ คิววัดความดันอีก 155 คน เลยยอมแพ้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปใหม่
โดยคุณ :arnis - [1:11:03  9 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 7
ไปอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟังดีกว่ามั้ยค่ะ?  หนุกกว่าอีก.... ได้บุญเหมือนกัน
โดยคุณ :หลานแม่เภา - [12:24:17  9 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 8
นอกจากคิดถึงสุขภาพตัวเองแล้ว คิดถึงสุขภาพของคนที่ได้เลือดคุณไปด้วยสิครับคุณ Picmee ถ้าเกิดหมอเค้ายอมให้คุณบริจาคเอาเลือดจางๆไปใช้ คนที่ได้เลือดคุณไปเค้าก็ได้ของที่คุณภาพไม่เต็มที่นะครับ(ไม่ได้ตั้งใจจะว่าว่าเลือดของคุณไม่มีคุณภาพนะ)

ผมบอกวิธีโกงให้ค่าHemoglobinสูงขึ้นให้เอาไหมล่ะ วันก่อนไปบริจาค ทานน้ำน้อยๆครับ ให้ร่างกายขาดน้ำ เลือดก็จะข้นขึ้น

ดีใจครับที่มีคนอย่างคุณ Picmee เพราะว่าไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนๆ เลือดก็ไม่เคยพอซักที ขาดแคลนกันประจำ การบริจาคเป็ฯการช่วยเหลือเรียกว่าให้ชีวิตแกเพื่อนมนุษย์เลยครับ ผมเคยเห็นมาแล้ว คนไข้อุบัติเหตุที่รอดมาได้เพราะมีเลือดสำรองให้เค้าเป็นสิบๆถุงน่ะ

ส่วนเรื่องโรคลมชัก ถ้ากินยาจนไม่มีอาการมาแล้วสองปี หมอก็น่าจะลดขนาดยาลงให้แล้วนี่ครับ แล้วก็ถ้าไม่มีชักอีกก็เลิกกินได้ ก็มีชีวิตเหมือนคนปกติได้ครับ

แต่ถ้ากินDilantinแล้วยังชักอยู่บ่อยๆ ลองบอกคุณหมอให้ปรับขนาดยาเพิ่มขึ้น หรือลองเปลี่ยนยาเป็นตัวอื่นๆก็ได้ครับ อย่างDepakin ก็นิยมใช้กันนะครับ
โดยคุณ :พระยาขยายกำจายมูลมูก - [13:53:38  9 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 9
คุณ picmee ใจเย็น ๆ ค่ะ
เราเองก็มีโรคประจำตัว กินยามาโดยตลอด
ทำให้บริจาคเลือดไม่ได้มาหลายปีแล้ว
เสียดายอยู่เมหทอนกัน แต่ทำยังไงได้ค่ะ
เข้าใจว่าเลือดเรา คงมีทำตัวยา และโรคประจำตัว ทำห้ไม่สมควรที่จะไปบริจาค
ยังไงเราว่า ทำตามที่คุณหมดสั่งนั้นดีที่สุด ถึงแม้ว่าเป็นการห้าม เราทำบุญ
แต่เราก็ทำบุญด้วยการให้อย่างอื่นจะดีกว่านะคะ
โดยคุณ :balcony - [17:02:19  9 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 10
แหม ไม่ได้บริจาคเลือดก็ใช่ว่าจะหมดสิ้นทางทำบุญนี่ครับ อีกอย่างเกิดบริจาคไปแล้วไม่สบายขึ้นมาเดี๋ยวจะยุ่งแล้วคนในบอร์ดนี้จะคิดถึงเอาเสียเปล่าๆ
โดยคุณ :Dog_Temple - [9:37:26  10 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 11
พี่ปิ๊ก....ในฐานะที่น้องอยู่วงการนี้

ถ้าเลือดพี่ปิ๊กไม่พร้อม ก็อย่าดันทุรังเลยพี่ เพราะพอพี่บริจาคไป หลังจากนั้นเค้าก็ต้องเอาเลือดไป แมช กับคนไข้ และตรวจคุณภาพ อื่น ๆ อีกมากมายยยยยยยย

แค่ด่านแรกพี่ก็ไม่ผ่านแล้ว ด่านต่อไปก็คงไม่พ้นต้องทิ้งเลือดพี่อยู่ดี เพราะมันเอาไปให้คนไข้ไม่ได้อ่ะ....จะเป็นการเสียถุงบริจาคเลือด (ซึ่งแพงมาก) และค่าตรวจคัดกรองซะเปล่า ๆ

สาธุกับความใจบุญของพี่ด้วยอีกคนค่ะ ฟิตร่างกายใหม่ แล้วค่อยไปบริจาคอีกทีเนอะ เลือดจะได้ไปถึงคนไข้จริง ๆ
โดยคุณ :เด็กน้อยไม่ยอมเรียน - [10:50:39  10 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 12
รู้จักกับแกมาก็นานอยู่.... เพิ่งจะรู้ว่าแกมีโรคประจำตัว

รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าฝืนเลยว่ะปิ๊ก ยังมีอีกหลายคนเป็นห่วงนะเว้ย
เราคิดเหมือนที่ทุกๆคนบอก..ว่าคนเรายังทำความดีได้อีกหลายทาง
แค่มี"ใจ"ที่คิดจะทำก่อน แต่จะทำได้ทางไหนก็หาทางที่เหมาะสมกับตัวเองเถอะนะ

จากอีกหนึ่งความหวังดีที่มีให้แก
โดยคุณ :เป็ดขาว - [11:32:45  10 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 13
เห็นด้วยกับไก่น้อยและใบหม่อน
ดูแลตัวเองให้ดีก่อน และช่วยคนอื่นเท่าที่กำลังอำนวย
ถ้าตัวเองเป็นไรไปก่อน ก้อไร้กำลังจะช่วยคนอื่นจ้ะ
โดยคุณ :ชายตาบอด -_- - [12:06:11  10 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 14
ได้เห็นความตั้งใจของ Picmeeนับถือๆแค่นี้ก็ได้บุญแล้วครับ
โดยคุณ :คนแอบชอบ - [17:29:06  10 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 15
ทำบุญด้วยวิธีอื่นเป็นการชดเชยดีกว่าครับ...
อย่างที่เพื่อนๆหลายคนแนะนำ ถ้าร่างกายไม่พร้อม อาจได้บาปแทนบุญนะ
โดยคุณ :บิ๊ก - [21:47:16  10 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 16
ผมเห็นคนดีๆ สามคนในเรื่องของคุณ Picmee

คนแรก

- หมอก็กวักมือเรียกไปคุยอีกครั้ง... บอกว่าเห็นตั้งใจจะบริจาค (หมอคงสงสาร หรือเวทนานี่ล่ะ)... ครั้งนี้หมอให้บริจาคก็ได้


คนที่สอง

เจ้าหน้าที่ถาม "ทานยาไรไหมคะ"
(โกหกไม่ได้ล่ะ เพราะหมอเมื่อกี้เขียนไว้ในเอกสาร) "ตามใบนั้นเลยค่ะ"
คราวนี้ เขาเอาเลือดเข้าเครื่อง B-Hemoglobin ได้ค่า 11.4 เขาบอกผู้หญิงต้องได้ 12
เจ้าหน้าที่ เลยส่งธาตุเหล็กเม็ดมา 5-6 ซองให้ไปกิน
"บริจาคไม่ได้นะคะ"

คนดีคนแรก ตั้งใจดี คือคุณ Picmee
คนดีคนที่สอง ทำดี คือคุณเจ้าหน้าที่ๆ ส่งธาตุเหล็กให้
ส่วนคนดีคนสุดท้าย...

- ในที่สุด ตาหมอหล่อนี่ก็ดีดออกมา ไม่ยอมให้บริจาค

หน้าตาดี คือคุณหมอ

คนคิดดีมักจะแวดล้อมไปด้วยคนดีๆ อย่างนี้เสมอๆ คุณ Picmee ไม่ต้องเสียดายหรอกครับ เพราะความตั้งใจทำดีของคุณมีส่วนทำให้คนอื่นๆ อย่างเจ้าหน้าที่ได้ทำดีไปด้วย

โดยคุณ :แขก - [13:31:59  11 ก.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 17
พี่ปิ๊ก
หนูเองก็เพิ่งไปบริจาคเลือดมา
โดนเอาเลือดเข้าเครื่องตรวจค่าอะไรของพี่ปิ๊กเหมือนกัน...
ตอนยืนรอผลก็ลุ้นว่าจะผ่านหรือเปล่า..12.4..รอดหวุดหวิด
พักหลังๆมานี่ เลือดไม่ค่อยจม
ต้องลุ้นกะเครื่องที่ว่า..ได้บริจาคมั่งไม่ได้มั่ง
ไอ้ที่ได้..ก็อิ่มเอมใจ
ที่ไม่ได้ก็เซ็งทุกที แต่ก็ต้องเชื่อและฟิตตัวเองใหม่

พี่เองก็ห่วงใยสุขภาพบ้างเน้อ
อะไรที่ไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืน
อย่าเอาสุขภาพของอนาคตมาตะบี้ตะบันใช้..มันไม่คุ้ม
โดยคุณ :นิ่มนุ่ม - [10:38:47  14 ก.ย. 2550]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....