ถึงพี่เจี๊ยบและทีมงาน จากแก้งค์เด็กเก็บขยะสวนลุมในวันนั้น
"ลองหลับตาดู แล้วฟังเพลงนี้กันนะครับ...." พี่เจี๊ยบพูดเข้าเพลงในคอนเสิร์ตสวิงสวายก่อนจะเริ่มบทเพลง "ต้นชบากับคนตาบอด"
มีเด็กคนนึงที่ "หลับตา" ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้ ก็คือยัยหนูปั้นหยา ลูกสาววัย 7 เดือนของผม
ทุกวันนี้ "ต้นชบากับคนตาบอด" กลายเป็นเพลงกล่อมลูกประจำตัวยัยหนูไปอีกเพลงนึง เหมือนๆกับพ่อกล่อมลูก, นิทานหิ่งห้อย, หมีแพนด้า (มาได้ไง 55)
คืนวันนั้นผมหลับตาฟังเพลงนี้ดูบ้าง แล้วภาพภาพนึงที่มันติดอยู่ในสมองผมมาทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้มันก็แวบขึ้นมา
ภาพที่คนกลุ่มนึง เพิ่งเจอหน้ากันวันนั้นครั้งแรก เธอคนนี้ถือถุงดำ นายคนนั้นคอยก้มเก็บขวดน้ำ พี่คนนั้นกำลังทิ้งฉลากลูกอมใส่ถุงดำ
เป็นภาพของการพบกันในสวนลุมของพวกเราครั้งแรกด้วยแรงยุของพี่ดี้ (แต่ไม่เจอวัตถุความเร็วสูงนะครับ)
ชื่องานในวันนั้น เราเลือกที่จะหยิบเพลงท่อนนึงขึ้นมาเป็นชื่อของมัน ก็คือ "สูดกลิ่นงามฟังเสียงวิไลร่มไม้บังเงา" ตามสถานที่ที่เราจะไป
หลายๆคนกลับบ้านพร้อมกับความชื่นใจ ที่ได้ทำกิจกรรมและรู้จักกับเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน ดอกชบาสำหรับคนทั่วไป อาจจะแทนความหมายเพียงแค่คนตาบอด แต่อย่างน้อยสำหรับพวกเรา มันคือ "มิตรภาพ" ที่เราต้องสัมผัสด้วยความรู้สึกกันมากกว่าการมองเห็น
เวลาดำเนินไป ดอกชบาอาจจะเหี่ยวเฉาบ้าง ดอกโน้นเหี่ยว ดอกนี้บานสลับกันไป แต่สิ่งนึงที่ไม่เคยหายไป คือ ต้นชบาของพวกเราโตไปพร้อมๆกัน แล้วต้นชบาของพวกเราก็ไม่เคยไร้ซึ่งดอกชบาเลย
คอนเสิร์ตของพี่เจี๊ยบ ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่แสดงให้เราเห็นแล้วว่า พลังของมิตรภาพมันยิ่งใหญ่จริงๆนะ
ใครจะไปรู้ว่าอีกเกือบ 10 ปีถัดมา ไอ้ 4-5 คนที่อยู่ในสวนลุมวันนั้น มันจะคิดการณ์ใหญ่ จัดคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการแบบนี้ขึ้นมา เดินเข้าหน้างาน ตามบูทต่างๆ ก็มีแต่เพื่อนๆที่มาช่วยกันด้วยใจ มองไปทางไหนก็คนสนิทฯด้วยกันทั้งนั้น
ขอบคุณทีหัว, Sunflower, หมีสมองเล็ก, pitsie, ปราง และเพื่อนๆที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงจัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ให้ทั้งคนสนิทฯและไม่สนิทฯอีกหลายๆคนได้ชมกัน เป็นงานที่สนุกมากและน่าจดจำทีเดียว ขอบคุณจริงๆครับ
พี่เจี๊ยบ ขอบคุณที่อิจฉาเพื่อนพี่นะครับ พี่ทำให้ตอนนี้ผมต้องอิจฉาเพื่อนของผมบ้างแล้วหล่ะ โดยคุณ :
ไก่น้อย+นู๋บิ๊ก - [15:29:28 7 มิ.ย. 2553] |