เมื่อ ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’ วางแผง
การตอบรับครั้งนี้หลากหลายมากกว่าทุกชุดที่ ‘เฉลียง’ เคยทำ

      บางคนบอกดีใจเฉลียงออก รีบซื้อ นึกว่าจะฟังอะไรที่สบายๆ ที่ไหนได้ ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’ กลับเครียดหนักขึ้นไปอีก
      “มันอาจจะเป็นความคาดหวังของคนด้วยว่า ถ้าอยากฟังเพลงแบบนี้ต้องเฉลียง แต่ผมคิดว่าเราตอบสนองเขาอีกอย่าง ซึ่งไม่ใช่ของที่ไม่ดีนี่” ประภาสให้ความเห็น
      ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า เป็นเทปชุดแรกและชุดเดียวของเฉลียงที่ได้รับรางวัลทางด้านเพลง แม้จะได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์เพลงอย่างมากมายมาตลอดก็ตาม
      และแม้การได้รางวัลจะไม่ใช่แรงกดดัน ทว่าด้วยเรื่องราวของตัวเพลง ทำให้วัชระกล่าวว่า
      “เหมือนขึ้นไปขี่หลังเสือที่สูงมาก เฉลียงพูดถึงเรื่องโลก จักรวาลแล้ว ก็ไม่รู้จะร้องอะไรกันต่อไป จะมาฉันรักเธอ เธอรักฉันอีกก็คงไม่ได้”
      ทั้งที่พูดไว้เช่นนั้น แต่วัชระก็ไม่รู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นในเร็ววัน
      “มันก็ทำกันตามปกตินั่นแหละ ปกติมาก ปกติดี คีตาก็อยู่กับร่องกับรอย ไม่มีอะไรเป็นเหตุบอก ยังไปถ่ายมิวสิกวิดีโอกันเลย”
      แต่ ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’ คืออัลบั้มชุดสุดท้ายของเฉลียง
      งานประจำ ภาระส่วนตัว หน้าที่ต่างๆ ของแต่ละคน ทำให้กิจกรรมการตลาดเป็นเรื่องยากเย็น การรวมวงเพื่อไปแสดงคอนเสิร์ตตามที่ต่างๆ เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ทุกคนจึงตัดสินใจหยุดบทบาท ‘เฉลียง’ กันไว้เพียงแค่นั้น
      ซึ่งประภาสพูดถึงความรู้สึกของเขาไว้ว่า
      “ไม่รู้สึกถึงทางไม่ดี มันเหมือนกับเราเรียนจบ มันเป็นวิถีชีวิตของคนที่ต้องมาเจอกันแล้วต้องจากกันไป”

อ่านต่อ...