เฉลียงเหมือนโปรเจ็กต์ทางดนตรี ไม่เหมือนวงดนตรี
รู้สึกเป็นทางเลือกอีกทางของดนตรีไทย

อย่างอันอื่นเขาอาจจะเป็นนักร้องเดี่ยว เป็นวงที่มีดนตรีในสไตล์ต่างๆ เฉลียงก็เป็นสไตล์หนึ่ง น่าฟัง มีความนุ่มนวล มีการสื่อความหมายในเนื้อหา มีลักษณะของนักคิดเยอะ
จุดเด่นของเฉลียงอยู่ที่บุคลิกของแต่ละคนที่แตกต่างกันแล้วก็การใช้เพลงที่เน้นถึงเสียงประสานจะมีเสียงนำของ วัชระ ปานเอี่ยม กับ ศุ บุญเลี้ยง รู้สึกว่าสองคนนี้จะเด่นกว่าคนอื่น และจะเป็นลักษณะประสานเสียง ซึ่งวงการดนตรีไทยไม่ค่อยมีลักษณะอย่างนี้สักเท่าไหร่
เพลงเฉลียงไม่ใช่ลักษณะเพลงของสังคมไทยที่ออกมาในลักษณะที่เข้มข้นและรุนแรงมาก แต่ใช้วิธีสื่อความหมาย ซ่อนความหมายไว้ อาจจะรับได้ยากหน่อยสำหรับคนที่ไม่ได้ฟังเนื้อหาจริงๆ

ส่วนตัวจะชอบเพลงที่หนักๆ หน่อย อย่าง ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า, โลกาโคม่า    ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’ นี่เป็นการสื่อถึงสภาพแวดล้อมอีกมุมหนึ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึง
   
 



ตอนวัยเด็กคลั่งไคล้วงนี้มาก พอถึงวัยรุ่น เฉลียงก็ยังอยู่ในดวงใจตลอด
เผลอๆ ก็ฮัมเพลงออกมา รู้สึกเบิกบาน อารมณ์ดี เพลงที่ฮัมมีเยอะ แล้วแต่อารมณ์ มีทั้งเพลงเศร้า เพลงซึ้ง ร่าเริง เบิกบาน นึกถึงเฉลียงจะเข้ามาทีทั้งอัลบั้ม แทบจะไม่มีเพลงที่ไม่ชอบ จุดเด่นของเฉลียงอยู่ที่แนวเพลงไม่ซ้ำใคร ไม่น่าเบื่อหน่ายไม่น่าจำเจ ไม่ย่ำเท้าอยู่กับที่ มุขกำลังดี ฟังแล้วรู้สึกสดใส เพริศพริ้ง พริ้งพราย ไม่ถึงขั้นมาตลกกันขำกลิ้ง มองว่าเขามาปลุกเร้ากระแสใหม่ๆ ของเพลงไทย ทำให้วัยรุ่นมาฟังเพลงที่มีเนื้อหาสาระ ฟังแล้วได้ความคิดไปตีโจทย์ของเพลง ไปบริหารสมองให้ได้ทำงาน ทำงานไปไม่เหลือตะกอน ฟังแล้วอารมณ์ดีค่ะ
   
 
  ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ยินเพลงเฉลียงคือแปลกและน่ารัก
ดนตรีดี เสียงร้องเข้ากับเพลง เนื้อเพลงดี ฟังง่ายก็ได้ ยากก็ดี เท่าที่ผ่านมาก็คิดดีทุกทีนะ คิดเก่งดี
   



เพลงของวงเฉลียงจำได้เกือบหมด เพราะเป็นคนในรุ่นนั้น
ชอบ กล้วยไข่, ต้นชบากับคนตาบอด, ไข่เจียว, หิ่งห้อย...เยอะแยะ เพราะความหมายมันตรงกับใจ   ตอนนั้น ก่อนจะมีวงเฉลียงก็มีเพลงซะแบบผู้ใหญ่เลย ไม่มีคนในมุมมองรุ่นเรา ชอบเพลง ‘เจ้าดอกมะลิ’ มาก    แต่ส่วนตัวก็รู้จักวงเฉลียงหมด รู้จักหมดเลย อย่างพี่จิกคนทำเพลง เพราะเคยทำงานร่วมกัน อย่างศุ, แต๋ง-ภูษิต ไล้ทอง ก็รู้จักกันทีหลัง พอยุคหลังๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใส ไม่เหมือนเดิม อาจจะเป็นเพราะเราโตขึ้นก็ได้  รู้สึกตั้งแต่ ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’ น่ะ เพราะเฉลียงเคยทำแบบมองโลกในแง่ดี แต่หลังจากนั้นมองโลกในแง่ร้าย

เฉลียงเปลี่ยนแปลงวงการเพลงไทยเยอะ เพราะยุคนั้นเป็นยุคเพลงผู้ใหญ่ฟัง ไม่ค่อยจะมีเพลงของคนหนุ่มสาว สะท้อนความคิดในสมัยนั้น เฉลียงเป็นวงดนตรีที่กล้าพูด แหม...ใครจะกล้าเอาระเบิดไปโยนใส่ครู แต่กลุ่มเฉลียงเขากล้าคิด กล้าทำ แต่ไม่ก้าวร้าวนะ  มีมิวสิก วิดีโอที่สวยมาก เฉลียงมาแบบน่ารัก ถ้าเป็นเด็กก็น่าเตะ น่าหยิก
   
 



เพลงที่ชอบ ‘โลกาโคม่า’
ถ้าเทียบกับพี่แอ๊ด คาราบาว จะออกมาแรง ตรงตัว แต่นี่เขาไม่ตรง เขามีวิธีการเขียนที่ต้องฟัง ต้องตีความ แล้วมันก็ออกมานุ่มนวล แล้วมันก็มีความลงตัว
   
 



เพลงแรกที่จดจำได้คือ ‘อยากมีหมอน’
เพราะว่าเนื้อร้อง มุมมองมั้งคะ มันแปลกออกไปจากยุคนั้น คือเพลงในยุคไหนๆ มันก็อยากมีเธออยากมีฉัน แต่ของเฉลียงนี่อยากมีหมอนไว้นอนเล่น ส่วนเพลงที่ชอบที่สุดเลยก็คือเพลง...ถ้ายังเห็นดอกไม้ก็ยังเห็นความชุ่มฉ่ำ...

คิดว่าเพลงของเฉลียงไม่เหมาะกับวงการเพลงไทย ไม่อย่างนั้นเขาคงขายได้ล้านตลับ สองล้าน แต่ว่าเหมาะกับคนบางกลุ่ม เหมือนอย่างคาราวาน มันเหมือนกับทางเลือกที่แปลกใหม่ ไม่ ว่ายุคไหนๆ คนไทยทั้งประเทศก็คงไม่ได้ชอบเฉลียง คงมีแค่คนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

เพลงของเฉลียงนี่ไม่ได้อยากฟังคนอื่นร้องนะคะ ยังนึกถึง ‘อยากมีหมอน’ ในเวอร์ชั่นของเจี๊ยบ นึกถึง ‘แค่มี’ หรือ ‘นิทานหิ่งห้อย’ ในเวอร์ชั่นของจุ้ย ที่ยังเป็นเฉลียงอยู่ดี ‘นายไข่เจียว’ ของดี้ ไม่นึกว่าคนอื่นเอามาร้องแล้วจะชอบ

เมื่อก่อนบ้าอัดวิดีโอ อัดไว้เฉพาะวงที่ชอบ มีสองวงที่อัดคือ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ชุด ‘เส้นขอบฟ้า’ แล้วก็เฉลียงนี่อัดไว้ 4 - 5 ม้วน แล้วห้ามใครลบเด็ดขาด
   



ผมว่าเขาแสดงสดได้เป็นธรรมชาติของตนเอง
มันไม่ใช่การเล่นดนตรี เล่นคอนเสิร์ตให้คนได้ฟังเพลงของเขา มันเป็นการแจมทัศนคติกัน ดูผ่อนคลายอะไรไปด้วย สอดใส่ทัศนคติของคนเล่น ไปด้วย นั่นคือจุดเด่นของเขา

ข้อด้อยของเฉลียงน่าจะเป็นเรื่องการประชาสัมพันธ์หรือการตลาด เฉลียงมีแฟนเพลงเยอะ แต่เป็นแฟนเพลงกลุ่มเดียวเท่านั้นเอง  ผมว่าไม่ใช่ผลงานเขาไม่ดี เป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์ หรืออะไรมากกว่า เฉลียงออกมา 5-6 ชุด  คนซื้อกลุ่มเดิมเหมือนเพลงเพื่อชีวิต มีคนใหม่ๆ เข้ามาไม่กี่คน
   
 



เฉลียงมีความพิเศษหลายๆ อย่างกว่าวงดนตรีทั่วไป
คือ เขาไม่ใช่วงตลาด ไม่ได้ทำเพลงฮิตให้ขายมากๆ แต่เป็นคนทำเพลงด้วยมันสมองมากกว่า ตัวเพลงถ้าฟังจะรู้เลยว่าเขาตั้งใจทำ
ผมรู้สึกว่าเฉลียงเขาทวนกระแสธุรกิจวงการเพลงไทย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นแกะดำในวงการเพลง  แต่ว่าเพลงของเฉลียงเหมาะกับผู้ใหญ่ ไม่เน้นว่าจะให้วัยรุ่นมากรี๊ดกร๊าดอะไรอย่างนั้น   เพลงจะออกมาระดับอินเตอร์มากกว่าเพลงไทยทั่วๆ ไป
   
 



‘นายไข่เจียว’ ประทับใจมาก
ร้องได้ด้วย ร้องง่าย เป็นเพลงพื้นๆ ง่ายๆ คนแต่งเพลงเก่ง ชอบ แต่งได้ไงแบบ...ไม่ควรมองข้ามอะไรง่ายๆ  ถ้าทำอะไรไม่เป็นก็ไข่เจียวนี่แหละ ง่ายที่สุด มีกล เม็ดเด็ดพราย

ตอนที่เฉลียงแยกวงก็เสียดาย เพราะไม่ได้ฟังเพลงสไตล์นั้นอีก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ถ้ามองในอีกมุมก็ดีเหมือนกัน  เพราะทุกคนในเฉลียงมีความเก่ง ความสามารถคนละอย่าง  พอแยกก็แตกแขนงความเก่งความสามารถของตัวเองให้คนฟังได้ฟังในหลายๆ แบบหลายๆ แนว  ถ้าจะมีวงแบบนี้ขึ้นมา ก็ไม่เป็นอมตะเหมือนเฉลียงได้ เพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนเฉลียง ความสัมพันธ์ ความกลมกลืน ไม่ได้เท่าเฉลียง ที่มีภาพทุกคนที่ดูกลมกลืน เป็นธรรมชาติ
   



ฟังหลายๆ เพลงแล้วสบายใจ
ฟังแล้วต้องยิ้ม ตั้งแต่เพลง ‘ถ้าโลกนี้มีเราเพียงสองคน’ หรือ ‘นายไข่เจียว’   แต่ที่ชอบที่สุดคงจะเป็น ‘นิทานหิ่งห้อย’ เป็นเพลงที่ฟังกี่ครั้งก็ยังมีแง่มุมให้เราคิดอยู่มาก เป็นเพลงที่เพราะ คนเขียนเนื้อเก่งมาก  ธรรมดาคนที่เขียนเพลงส่วนใหญ่เขาจะเขียนเรื่องความรัก คนอกหัก แต่นี่เป็นเรื่องของคนอารมณ์ดี  มองโลกในแง่ดี ถึงจะมีความรัก ก็มองความรักในแง่ของคนอารมณ์ดี

สำหรับอัยย์ วงเฉลียงเป็นวงเพอร์เฟ็กต์ที่สุดของเรา เป็นกลุ่มดนตรีที่ทำให้ดนตรีไทยมีการพัฒนาขึ้นเยอะมาก  เป็นกลุ่มที่ทำงานเพลงให้เพลงไทยมีความกระเตื้องขึ้น เกิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา จากกลุ่มเฉลียงนี่ออกไปสร้างขยายข่ายงานดนตรี ถ้าเป็นต้นไม้ อัยย์ คิดว่าก็คงแผ่กิ่งก้านสาขาได้เยอะมาก  เพลงเฉลียงเขาจะมีเอกลักษณ์ คือใครร้องก็ไม่ feel เท่ากับเฉลียง อย่างเช่น ‘นายไข่เจียว’ เนี่ย พี่ดี้ร้องไว้ได้น่าทานมาก ไม่เคยฟังใครร้องดีเท่านั้น    ‘ถ้าโลกนี้มีเราเพียงสอง คน’ ก็ไม่มีใครร้องได้ทะเล้นเกินพี่เจี๊ยบ ซึ่งถ้ามีคนมาร้องใหม่ก็คงจะยาก  เพลงรักอื่นๆ ทั่วๆ ไป คงร้องกันได้ แต่ถ้าเป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์ อัยย์คิดว่ายาก เฉลียงเป็นทั้ง entertainer ทั้งแสดง ทั้งแต่งเพลงที่เก่งกาจ อัยย์มี 10 ก็ให้ 10 เต็มค่ะ
   
 
  อยากเห็นเล่นคอนเสิร์ตอีก
จะตามไปฟัง ออกเทปก็ได้
   
 



เฉลียงเป็นปัญญาชนในด้านทำเพลง
ผมเชื่อว่าเฉลียงไม่ได้ทำเพลงเพื่อให้มันขายดีๆ มากๆ แต่ต้องการทำเพลงเพื่อสะท้อนความคิดเห็นต่อโลก ต่อชีวิต ต่อสังคมมากกว่า
ผมฟังเพลงเฉลียงตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น เด็กๆ หน่อย ก็รู้สึกว่าเพลงของวงดนตรีวงนี้มีเนื้อเพลงที่ไม่ธรรมดา  เนื้อเพลงจะมีลักษณะของการเล่าเรื่องอยู่ด้วย มีอยู่ในเพลงค่อนข้างมาก ผมคิดว่ามันมีลักษณะของเรื่องสั้นอยู่ในบทเพลงของเฉลียง แล้วก็มีความเป็นปรัชญา มีข้อคิดอยู่ในเพลงขณะเดียวกัน  ทำนองมันก็สามารถฮัมตามที่ไพเราะอยู่ในตัว มันเป็นเพลงที่แปลกๆ ดี น่าสนใจครับ

ความสำเร็จในระดับหนึ่งของเฉลียงก็พอจะแสดงได้ว่า คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ยอมรับเฉลียงแล้วก็ชื่นชมในสิ่งที่เขาแสดงออกมา ผมว่าอีกสิบปีเพลงของเฉลียงก็ยังฟังได้ เป็นเพลงที่อมตะไปแล้ว เช่นเพลง ‘อื่นๆ อีกมากมาย‘, ‘เที่ยวละไม‘, ‘กล้วยไข่‘, ‘หิ่งห้อย‘ เพลงพวกนี้สามารถเป็นตำนานได้เลย เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับยุคสมัยนี้อย่างเดียว  สิบปีข้างหน้าผมคิดว่าสภาพจิตใจคนก็คงไม่ต่างไปจากนี้  อาจจะบอกว่าเฉลียงทำเพลงล้ำยุคก็ว่าได้

เฉลียงก็เหมือนสีสันอย่างหนึ่งที่เข้ามาแทรกอยู่ในช่วงหนึ่งของวงการเพลงไทย ว่าการดีไซน์เพลงมันมีทางเลือก มันมีรูปแบบมากกว่า mainstream ที่เขาทำๆ กันอยู่   คิดว่าเฉลียงเข้ามาประกาศตัวตนอีกอย่างในวงการเพลง เป็นทางเลือกของคน เป็นอัลเทอร์เนทีฟที่แท้จริงของวงการเพลงไทย
   



ผมได้ยินเพลงเฉลียงตั้งแต่ ‘ปรากฏการณ์ฝน’
เป็นชุดแรกก่อนที่จะออกชุด ‘อื่นๆ อีกมากมาย’ เป็นเพลงที่มีมุมมอง เนื้อหาที่น่าสนใจมาก มีอารมณ์ขัน  แล้วดนตรีก็มีอะไรมากกว่าเพลงป๊อปธรรมดา   หลายครั้งที่ผมนึกถึงเพลงเฉลียง ผมจะหยิบเพลง ‘เข้าใจ’ ที่เขียนโดยคุณนิติพงษ์ ห่อนาค คือยุคหนึ่งเราผ่านมุมมองตรงนั้นมา ช่างเขียนได้ตรงความรู้สึกเหลือเกิน   ผมว่าหลายๆ คนที่ร่วมสมัยกับการฟังเพลงเฉลียง จะคิดคล้ายๆ กันว่าความรู้สึกของความเป็นเพื่อนกับความเป็นแฟนมันมีไอ้ความไม่เข้าใจอยู่ตรงนั้น  แต่ในอีกบางอารมณ์ ‘ต้นชบากับคนตาบอด’ ก็จะมาเป็นอันดับแรก อาจจะเป็นเพราะชื่อเพลง อีกอย่างคือเนื้อหาที่แฝงอะไรน่าคิดไว้เยอะ  แต่ตัวเองบางครั้งก็จะชอบอีกเพลงที่นกร้อง เพลงไม่คิดถาม... คิดก็ยังไม่เคย ...ไม่เคยคิดเลย

จริงๆ แล้วเพลงของเฉลียงฟังได้ทุกเพลง เพราะไม่บ่อยนักที่เราจะได้ฟังเพลงที่มีมุมมองเนื้อหาน่าสนใจ  ผมว่าเพลงของเฉลียงใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ว่าไม่ใช่ความเป็นป๊อป วัยรุ่นจ๋า  ตั้งแต่เฉลียงออกมาจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนหยิบเพลงของเฉลียงมาฟัง เพราะว่าเป็นเพลงที่น่าฟัง และฟังได้ตลอด

ผมมองว่าถ้ามีเฉลียงในยุคนี้ น่าจะทำเพลงเพื่อคนมีอายุสักหน่อย คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีเพลงไทยฟัง เด็กที่เบื่อๆ เพลงวัยรุ่นก็อาจจะสนใจลองฟังก็ได้
   
 



อยากอ่านอีก