กระดานความรู้สึก


นั่งดู 'เฉลียง' ที่เฉลียง
เลือกหยิบขึ้นมาอ่านโดยบังเอิญในขณะปฏิบัติกิจกรรมยามเช้าในตอนเย็นที่บ้านเพื่อน พลิกไปพลิกมาก็เจอคอลัมภ์นี้ เลยขออนุญาตเอามาให้ยลกัน  แถมได้เดาด้วยว่าที่เจ้าของคอลัมภ์เขียนถึงเป็นเพลงอะไร
....................................................................................
จากนิตยสารรายปักษ์  พลอยแกมเพชร  ปีที่ 3  ฉบับที่ 58
30 มิถุนายน  2537
คอลัมภ์  ป้าจุ๊อยากเล่า  โดย คุณจุรี  โอศิริ
โดยคุณ : ไม่ประสงค์ออกนามต่างจังหวัด - [3:40:51  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 1
นั่งดู ‘เฉลียง’ ที่เฉลียง

พอข่าวแพร่สะพัดออกมาว่าวง เฉลียง ที่แยกวงกันไปทำงานอิสระเฉพาะตัว 10 กว่าปี  จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง  โดยจัดแสดงคนเสิร์ตฟอร์ยูนิเซฟขึ้น  ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
คอนเสิร์ตอย่างนี้ไม่มีวันเสียละที่คนอย่างฉันจะไม่ดู
แล้วยิ่งเป็น ‘เฉลียง’ เจ้าเก่าที่ฉันเคยชอบนักหนา ไม่ว่าจะเป็นแต่ละชีวิตของเฉลียง ซึ่งมีลักษณะไม่ซ้ำกัน ดูเป็นคนเปรื่องปัญญาที่บวม ๆ บอ ๆ ดูว่าหล่อแต่ไม่ถึงขีดสักคน ดูจะล้นแต่ก็ล้นด้วยคุณภาพ
สรุปแล้ว...เป็นวงที่น่ารัก เป็นกันเอง และเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน
เพลงของเฉลียงมีทั้ง คันทรี แจ๊ส ร็อค บลู เนื้อร้องเป็นธรรมชาติง่าย ๆ บางเพลงฟังพิลึก แต่แฝงปรัชญาอยู่ในความพิลึกนั้น
ฉันจึงต้องตะกายขึ้นไปนั่งบนเฉลียงบนชั้น 2 แถวหน้าของศูนย์วัฒนธรรมในวันนั้น
‘Concert For Unicef’ ของวง ‘เฉลียง’
หน้าศูนย์วัฒนธรรมวันนี้น คลาคล่ำไปด้วยเด็กวัยรุ่นใหม่ วัยรุ่นเก่า วัยรุ่นแก่ไม่กี่คนปะปน ใจจรดจ่อรอเข้าไปดูคอนเสิร์ตครั้งนี้
ที่ดูไปแล้วรอบแรก ไม่ยอมกลับ ยังเดินเตร็ดเตร่เผื่อมีตั๋วเหลือขาย จะได้เวียนเข้าไปดูอีกหน ใครที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้า จูงมือกันมาชะเง้อขอซื้อ เมื่อหมดหวังเพราะตั๋วหมดมาหลายวันแล้ว ขอนั่งฟังเสียงจากลำโพงที่ขยายออกมาก็ยังดี
ทุกคนยิ้มแย้มคึกคักมาด้วยใจศรัทธาที่จะร่วมบุญกับชาวเฉลียงเพื่อเด็กยากไร้
เฉลียงเปิดม่านการแสดงด้วยภูสิต ไล้ทอง  แต๋ง-เดินเป่าแซกโซโฟนคู่ใจขึ้นบันได้หน้ามาบนเวที
ม่านเปิดเห็นเวทีลึก วงดนตรี ‘อะลุ่มอล่วย’ อยู่ด้านหลังสุด ฉากโดยฝีมือสถาปัตย์จุฬาฯ ไม่ทำให้ผิดหวัง เรียบง่ายเก๋  บอกความหมายแห่งดนตรี ทางซ้ายมือเป็นห้องรับแขก ด้านขวามือมีแกรนด์เปียโนตั้งอยู่
ด้านหน้ามีไมค์ 5 ตัว และกีตาร์ตั้งอยู่อีก 4 ตัว
แต๋งเป่าแซกนำเฉลียงทั้ง 5 คน  ดี้-นิติพงษ์  ห่อนาค    เกี๊ยง-เกียรติศักดิ์  เวทีวุฒาจารย์   จุ้ย-ศุ  บุญเลี้ยง  และผู้ริเริ่มวง  เจี๊ยบ-วัชระ  ปานเอี่ยม
เฉลียงเปิดเพลงแรกด้วย  ‘รู้สึกสบายดี’  ตามด้วย ‘กล้วยไข่’ และ ‘เที่ยวละไม’
เสียงกรี๊ด เสียงปรบมือต้อนรับ ‘เฉลียง’ กึกก้องทุกเพลง
ดี้พูดทักแฟน ๆ อย่างชื่นใจ
“ไม่คาดหมายว่าการกลับมาพบกันของเฉลียงบนเวทีเพียง 2 รอบ หลังจากที่แยกตัวจากกันถึง 10 กว่าปี จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นถึงเพียงนี้”
แต๋งต่อคำดี้
“เมื่อรอบซ้อมใหญ่ ไม่นึกว่าคนจะขอเข้ามาดูมากมายจะตกใจ แล้วเราก็ปิดประตูล็อคคนไว้ข้างใน”
เกี๊ยงถาม
“ทำไมเหรอถึงต้องล็อคประตูขังคนดู”
“กลัวคนดูจะหนีออกน่ะซี่ ล็อคไว้ก่อน ถ้าไม่หนุกก็หนีไม่รอด”
จุ้ยรับมุข
“ถึงรอบนี้เราก็ล็อคไว้หมดแล้ว ยังไงก็ต้องทนดูละ”
แล้วหยิบกีตาร์ สปอตไลท์ส่องเฉพาะตัว  จุ้ยร้อง ‘สองเรา’ ในสไตล์ของเขาที่ไพเราะนัก ต่อด้วย ‘เข้าใจ’ ของทุก ๆ คน
เด็กสาว ๆ กรี๊ดกันสุดเสียง
เจี๊ยบ  วัชระ  พูดถึงใครคนหนึ่งที่ได้มาร่วมกับเฉลียงรุ่นแรกในระยะหนึ่ง เขาคนนั้นโผล่มาจากกลางพื้นเวที ทุกคนปรบมือต้อนรับ สมชาย  ศักดิกุล กับเพลง ‘อยากมีหมอน’ ของเขา
ทุกคนหยอกล้อถึงความหลังเรียกเสียงฮาได้ตลอด  จุ้ยมอบดอกไม้ให้สมชาย  ดี้มอบหมอนหัวใจสีแดง
“เอ้า...เอาไปกอดนอนไป บ่นอยากมีหมอนมานานแล้วนี่”
สมชายเดินกอดหมอนหายเข้าไปในหลืบ  5 เฉลียงชวนกันไปนั่งที่ห้องรับแขก
สมมุติว่าเป็นบ้านของนิติพงษ์  ห่อนาค  ดี้เป็นคนชอบถ่ายรูปเก็บความหลังไว้ดู  เขาฉายสไลด์ไปบนจอกลางเวที รูปความหลังครั้งยังเป็นหนุ่มรุ่นกระทงทั้งน่าเกลียดและน่ารัก ตอนรวมตัวรวมใจกันตั้งวงเฉลียง
พร้อมกับฉายวีดีโอเทปโชว์ผลงานเพลงที่เคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากงานสีสันอะวอร์ด โชว์ความสำเร็จในผลงานที่ได้รับแต่กล่อง ส่วนจำนวนจำหน่ายเทปกลับกระจ้อยร่อย จนวงต้องเลือนหายไปในที่สุดของกาลเวลา
เพลง ‘ไข่เจียว’ ของดี้  ห่อนาคมันมาก  ทุกคนปรบมือตามจังหวะอย่างสนุกสนาน
5 ชีวิตของเฉลียงหลังจากแยกตัวจากกัน  เจี๊ยบ  ดี้  แต๋ง  ได้แต่งงานมีคู่ชีวิต  เหลือแต่เกี๊ยงกับจุ้ย ที่ยังครองความเป็นโสดไว้อย่างสั่นคลอน   2 หนุ่มจึงได้รับเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ  ๆ  ๆ รุนแรงกว่าหนุ่มสละโสดแล้ว
เจี๊ยบถูกแซวจากเพื่อน ๆ
“แต่งงานมาจนป่านนี้แล้ว  ยังไม่มีผลิตผลมาหล่นโคนต้นอีกเหรอเพื่อน ยังไงมัทำงานทำเย็นนักหรือ”
“ข้ามันทำงานมากจนเครียดว่ะ หมอบอกให้หยุดไปพักผ่อนต่างจังหวัดเสียบ้าง ข้าเผ่นไปทันทีเลย ไปขึ้นเขาลงทะเลเที่ยวเกาะ 3 วัน  3  คืน  กลับถึงบ้าน เมียยังยืนหน้างอ ไม่ยิ้มกับข้าเลยว่ะ”
ทุกคนร้องขึ้นพร้อมกัน
“อ้าว...เอ็งไม่ได้เอาเมียไปด้วยเหรอไอ้เจี๊ยบ”
เจี๊ยบหน้าละห้อยตอบเบา ๆ  
“ข้าลืมว่ะ”
“เวรยังงี้นี่เล่า ชาติหน้าเอ็งก็ไม่มีลูก”  ฮาๆๆๆๆ
เจี๊ยบงอนเดินสะบัดหน้าเข้าไปข้างหลืบ แล้วอุ้มเด็กตัวเล็กนิดออกมา วางเด็กลงกับพื้นเวที
“เอ้าไป ไปหาพ่อของเอ็งไป”
เด็กน้อยสุดน่ารักวิ่งจี๋ไปหาพ่อ  แต๋งกางมือรับโอบกอดลูกไว้แนบอก
ถามลูกว่า
“ต้นไม้  ลูกมาที่นี่ทำไม”
“ต้นไม้จะมาร้องเพลงคับ”
พ่อพาลูกไปนั่งโซฟาใหญ่ ไฟดับลงเหลือไว้เพียงพ่อกับลูก ดรายไอส์ลอยขาวไปทั้งเวที คนดุในศูนย์เงียบกริบ
พ่อลูกกอดกันร้องเพลง  ทุกครั้งที่ต้นไม้ร้องต่อพ่อ เสียงช่างใสชัดเจนราวกับไม่ใช่เด็กอายุ 2 ขวบกว่า ลงจังหวะได้ถูกต้องตามดนตรี
นี่แหละ ‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’  จริง ๆ
จบด้วยเสียงปรบมือแทบถล่มทลาย
จุ้ยบอกท่านผู้ชม “รับรองว่าอย่างนี้เบิร์ด ธ.ธง ก็ทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะ ธ.ธงไม่มีลูก แต่พวกเรา ฒ.ผู้เฒ่า ทำได้แล้ว”
เฮ...กรี๊ด   กรี๊ด ๆๆๆ
ด.ช.ต้นไม้เก็บคะแนนเหนือเฉลียงเสียอีก  ทุกคนปลื้มชื่นใจกับทายาทของหนึ่งในเฉลียง
ทั้งเวทีมืดลง  มีไฟกระพริบตรงโน้นตรงนี้วิบวับ  ศุ  บุญเลี้ยง มากับเพลง ‘หิ่งห้อย’ จำนวนปีที่ผ่านไป จุ้ย บุยเลี้ยง ผู้มีดวงตาโศกวอนสาว รักอิสระเป็นชีวิต หลังงอลงเพราะปวดมาก แต่ลีลาน้ำเสียงยังคงเป็นของจุ้ยของเราเช่นเดิม
ช่วงกลางของวงเฉลียง  ดี้  จุ้ย ขอแยกตัวไปทำงานของตนอย่างอิสระ เขาจับมือจากกันด้วยความเข้าใจกัน
“แค่มี...”  “อื่น ๆ อีกมากมาย”...ที่ทุกคนจะต้องแสวงหา
สมาชิก ‘เฉลียง’ จึงเหลือเพียง 3 ชีวิต...
ไม่เป็นไร  เขาเสาะหากันต่อไป  เสาะหา ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’  
แล้วเขาก็เสาะหาจนพบสมาชิกใหม่  ฉัตรชัย  ดุริยะประณีต  นก  นกตัวใหม่ได้เข้ามาทานชุด  ‘แบ-กบาล’
และยังผลิตงานดนตรีแนวโฟล์คร็อคในชุด ‘ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า’ สุด ๆ ไปเลย
นกเล่าถึงการเดินเข้ามาสู่เวทีเพลงของเขา  ถ้าไม่ได้คนชื่อ  จิก  ประภาส  ชลศรานนท์   เขาจะไม่มีวันนี้ให้เขายืน
ประภาศ  ชลศรานนท์  เป็นอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่เบื้องหลัง ‘เฉลียง’
            จิกพูดถึงความในใจของเขา ในสูจิบัตร ‘เฉลียงแก้คิดถึง ฉลอง 10 กว่าปี’
            “แต่งเพลงให้เฉลียงตังแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้าย  นอกจากได้ปลดปล่อยวิญญาของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว ‘เฉลียง’ ยังเป็นคนดนตรีกลุ่มเดียวในโลกที่ผมทั้งรักทั้งหมั่นไส้ไปพร้อมกัน
            ยังคงอยากแต่งเพลงแบบนี้อีก ยังอยากแต่เพลงพิลึก ๆ แบบเฉลียงอีก
            ผมควรจะทำอย่างไรดี
            หนึ่ง...  แต่งเพลงแบบนี้ให้คนอื่นร้อน
            สอง...อย่าแต่งเพลงแบบนี้อีกต่อไป
            หากผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเฉลียง...ผมคงเป็นคนที่เหงาที่สุด”
            7 ชีวิตผู้ร่วม ‘เฉลียง’ ออกมร่วมขับขานเพลง
             - เร่ขายฝัน
             - เอกเขนก
             - ดึกแล้ว
             - สไตล์หลวม ๆ
             - หลายคน
             - ลงน้ำ...เป็นเมดเล่ย์
            เกี๊ยงร้อง ‘ฝากเอาไว้’ ซี่งเป็นเพลงสุดท้ายของเฉลียง และบันทึกเสียงเสร็จเป็นเพลงสุดท้าย
            ความหมายโดยนับของเพลง นอกจากเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติยังเป็นการบอกแฟน ๆ ของเฉลียง ถึงการแยกย้ายจากลา เป็นของฝากไว้ให้คิดถึงกันตลอดไป
แล้วก็ถึงเวลาที่วงเฉลียงต้องลาจากเรา  นิติพงษ์  ห่อนาค  ได้ประพันธ์คำร้องทำนองโดยเฉลียง ในเพลง ‘ไม่รักแต่คิดถึง’
ดังมีความตอนหนึ่งว่า
‘ไม่สำคัญว่าเธอมีใคร
ไม่ใช่กงการอะไรของฉัน
ต่างหนทางของต่างเรานั้น
ถึงแม้ว่าเราจะไกลสักเพียงไหน
ไม่รักแต่คิดถึง’

ม่านปิดลงแล้ว  แฟนเพลงยังไม่ยอมเลิกรา  ยังไม่ยอมจาก  ทุกคนกรูกันมาจนชิดขอบเวที  พร้อมทั้งตะโกนก้อง เอาอีก เอาอีก เอาอีก  พร้อมทั้งตบมือเป็นจังหวะ  เอาอีก เอาอีก เอาอีก
ม่านต้องเปิดตามเสียงตะโกนร้อง  เกี๊ยงออกมาร้อง ‘ยังมี’   ๆจุ้ยวิ่งขึ้นลงรอบ ๆ เวที  มีต้นไม้วิ่งตาม  ทุกคนพูดลา ทุกคนร้อง  จุ้ยตัดพ้อ  ที่เทปออกละไม่ซื้อ ที่ตอนนี้ เอาอีก เอาอีก
เมื่อทุกคนไม่ยอมกลับ  จุ้ยต้องคุกเขาขอร้อง
“โอย  เหนื่อยเต็มทีแล้วคร้าบ  ลาก่อน  อีก 20 ปีค่อยพบกัน”
ฉันลงจากเฉลียงชั้น 2 ของศูนย์วัฒนธรรมด้วยความสุข เต็มอิ่มในความรู้สึก  ความรู้สึกที่เฉลียงมีให้กับคนฟังเพลง  ความเป็นกันเอง  ความน่ารัก  เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน
ถึงเฉลียงจะเลิกรายุบวง  ลาจากแฟนเพลง  เพื่อดำเนินชีวิตของเขาแต่ละคน
ฉันก็ยังจะบอกว่า
“ฉันจะรักและคิดถึง  ‘เฉลียง’ ตลอดไป
โดยคุณ :ไม่ประสงค์ออกนามต่างจังหวัด - [3:55:06  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณ คนแปะ ค่ะ......

ยิ้มหวาน ให้ สิบที ^__________________^
โดยคุณ :เด็กน้อยไม่ยอมเรียน - [8:26:47  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 3
Thank you หลายๆ ^ ^
โดยคุณ :m&m - [8:35:25  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 4
ไม่ได้ไปดู แต่อ่านแล้วเหมือนได้ไปดูอยู่ด้วย ขอบคุณค่ะ
โดยคุณ :แม่น้องเอย - [8:42:26  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณคนแปะค่ะ คราวหน้าต้องไม่พลาดเด็ดขาดเลย  ฮือๆ
โดยคุณ :pasu - [10:10:29  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณมากๆค่ะ นั่งอ่านแล้วก็ยิ้มอยู่ในห้องคอมคนเดียว คนแถวนี้ต้องคิดว่าหนูบ้าไปแล้วแน่ๆเลยค่ะ ^_^
โดยคุณ :อิคคิว - [13:13:52  29 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 7
อ่านไปขนลุกไป
ไม่รู้ทำไมสิน่ะ
โดยคุณ :เนฌา - [8:30:21  30 ก.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 8
อ่านจบ แล้วรู้สึกอิ่ม...ใจจังเลย
โดยคุณ :มะลิ - [15:47:41  2 ต.ค. 2548]

ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วก็อยากดูจังเลย ยังมี VCD อีกไหมคะ
โดยคุณ :สาวขี้บ่น - [18:00:23  3 ต.ค. 2548]

ความคิดเห็นที่ 10
เฮ้อ ... กลับไปดู VDO เย็นนี้ดีกว่า
โดยคุณ :"คนหนึ่ง" ฯ - [14:42:24  25 ต.ค. 2548]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....