กระดานความรู้สึก


เมื่อหนุ่มเฉลียงสวมหัวใจพ่อ ( เอามาจากเวปข้างบ้านค่ะ)
ถึงจะเลยวันพ่อมาหลายวันแล้ว
แต่ว่าวันนี้ได้อ่านหนังสือ"บันทึกคุณแม่"(ฉบับธันวาคม 2544)(ของพี่สะใภ้ค่ะ..ไม่ได้ซื้ออ่านเอง)
เห็นมีสัมภาษณ์พี่ๆ เฉลียงเกี่ยวกับครอบครัว
คิดว่าเป็นหนังสือที่ชาวไทยมุงคงไม่ค่อยได้อ่านกันเท่าไหร่
เลยขอเอารูปน่ารักๆ กับบางส่วนของคำถาม-คำตอบมาฝากกัน ส่งท้ายวันพ่อค่ะ

โดยคุณ : bluecat - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:34:39 น. ]
โดยคุณ : พุดซา - [0:11:48  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1


ถ้าให้คุณนึกถึงผู้ชายอารมณ์ดีที่คุณรู้จัก คุณจะนึกถึงใคร?
แล้วเวลาคุณอยู่ใกล้กับผู้ชายอารมณ์ดีแล้วคุณรู้สึกอย่างไร?
แล้วถ้าให้นึกถึงผู้ชายที่มีสัญลักษณ์ของความอารมณ์ดี
ประมาณว่าเพียงแค่เอ่ยชื่อ รอยยิ้มก็ปรากฏอยุ่บนใบหน้าคุณแล้วล่ะ?
หนึ่งในความคิดของคุณมีกลุ่มนักดนตรีวงเฉลียงอยู่ด้วยหรือเปล่า

พวกเรามีเต็มๆ ..และนี่จึงเป็นจุดเริ่มของ"บันทึกคุณแม่" ในโอกาสพิเศษแห่งเดือนธันวาคม
เราขอยกพื้นที่ทั้งหมดเพื่อการกะเทาะเปลือกหัวใจ 5 หนุ่มใหญ่ผู้ชายอารมณ์ดี นักดนตรีวงเฉลียง ตอน
เมื่อหนุ่มเฉลียงสวมหัวใจพ่อ
..........................................................................................
1.ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค กรรมการผู้จัดการสังกัดแกรมมี่ แกรนด์ บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน)
และคุณพ่อหมาดๆ ของน้อง"เพียงออ" อายุ 5 เดือน
2.เกี๊ยง เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์ Executive Director บริษัทสถาปนิก49 จำกัด
จะมาเป็นตัวแทนของลูกที่พูดถึงพ่อ
3.แต๋ง ภูษิต ไล้ทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัททีวีธันเดอร์ และคุณพ่อของน้อง"ต้นไม้"อายุ 11 ปี
และน้อง"ต้นน้ำ"อายุ 5 ปี
4.นก ฉัตรชัย ดุริยประณีต Music Production coordinator Music Department ให้กับ
บริษัท BEC-Tero Entertainment Co.ltd. และคุณพ่อของน้อง"แก่นไม้"อายุ 10 ปี
5.เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยม นักแสดง พิธีกร นักเขียนบทละคร และเป็นเจ้าของบริษัทเฉลียงจำกัด
และคุณพ่อของ"พี่เพลงเอก" อายุ 5 ปี และน้อง"เพลงขวัญ"อายุ 2 ปี

(ตัดตอนจากบางส่วนของบทนำค่ะ)
โดยคุณ : แมวสีน้ำเงินแกมฟ้า - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:37:42 น.]
โดยคุณ :พุดซา - [0:15:36  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
บันทึกคุณแม่:ความหมายของคำว่าพ่อ
นิติพงษ์ : พ่อ คือคนที่ไปมีแม่แล้วได้ลูกขึ้นมา(หัวเราะ) พูดให้มันใหญ่กว่านั้นก็ได้
แต่จริงๆ แล้วมันก็คือแค่นั้น เพียงแต่ว่าใครจะทำตัวเป็นแบบไหน แล้วสัญชาตญาณคนและสัตว์
พอได้เป็นพ่อแล้วมันจะเป็นไปเอง เช่น จิตวิปลาศก็จะกลายเป็นพ่อที่ไม่ดี ถ้าสติสตางค์จิตใจเรียบร้อยดี
ได้เป็นพ่อเป็นบุพการีฝ่ายชายที่มีโอกาศทำให้ลูกได้เกิดมา
ฉัตรชัย : พ่อก็น่าจะเป็นคนที่เลี้ยงดูลูก ดูแลอบรมลูกให้เป็นคนดีและมีความสามารถ ต้องมีความสามารถด้วย
ถ้าเป็นคนดีอย่างเดียว อีกหน่อยก็จะอยู่ลำบาก
วัชระ : คือแม่ที่เป็นผู้ชาย คือไม่ว่าจะขาดพ่อหรือขาดแม่ลูกโตได้ แล้วมันเป็นธรรมชาติ
เพราะเด็กต้องโต พ่อต้องทำทุกอย่างที่แม่ทำ เหมือนกับแม่ต้องทำทุกอย่างที่พ่อทำ

โดยคุณ : แมวสีน้ำเงินอมเขียว - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:41:13 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:17:36  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 3
บันทึกคุณแม่:พ่อที่ดีเป็นอย่างไร
ภูษิต : เราต้องบอกว่าพ่อเราสิ จริงไหม แต่ว่าเป็นยังไงไม่รู้ บอกไม่ได้
ก็พ่อเราไม่เคยทำให้เรารู้สึกขาดพ่อ ไม่เคยรู้สึกว่าพ่อเป็นภาพที่ไม่ดีสำหรับเรา
ไม่เคยรู้สึกว่าพ่อทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือมาทำให้คนอื่นพูดกับเราว่า
พ่อเอ็งเป็นอย่างโน้นเป็นอย่างนี้ เสาร์อทิตย์พ่อจะพานั่งจักรยาน ขี่จักรยานไปเยี่ยมคุณย่า
ซึ่งห่างจากบ้านไปสัก 2-3 กิโล ขี่ริมแม่น้ำไปพี่มีพี่น้องสามคนก็ผลัดกันไปได้อาทิตย์ละคน
เพราะว่าจักรยานซ้อนได้คนเดียว วันไหนเป็นเวรเราก็ เฮ้ย! ดีใจได้ไปหาปู่หาย่า
เราก็รู้สึกดีกับภาพเหล่านี้ ก็จำมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันถ้าเราว่างก็จะชวนลูกไปหาปู่หาย่า
เราก็ทำตาม เรารู้สึกว่าลูกเราคงรู้สึกดีนะ ถ้าได้เจอปู่ แล้วพ่อพี่เขาจะเป็นคนอารมณ์ดี
นิติพงษ์ : จริงๆ แล้ว พ่อที่ดีคงมีแบบเดียว คือเป็นพ่อ (หัวเราะ) คือถ้าเป็นพ่อที่ไม่ดี
ไม่น่าเรียกว่าพ่อ ก็คือมันเป็นอัตโนมัตินี่ เราจะต้องทำให้เขาได้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา
ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาไม่ได้แปลว่าสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา บางทีพ่อแม่หลายคนเข้าใจผิดว่า
สิ่งที่ดีที่สุดของลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดของเรา บางอย่างไม่ใช่ ถ้าเรารู้เมื่อไหร่ว่าไอ้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของลูก
มันแปลว่าอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบก็ได้ อย่างนี้เป็นพ่อแม่ที่ดี
วัชระ : โอ้ย....(หัวเราะ)ก็ต้องเหมือนพี่แหละ มันอธิบายไม่ได้ คือไม่ได้วางกรอบให้ลูกต้องเป็นอย่างฉัน
คือเติมในส่วนที่ฉันขาดไป ไม่ใช่ หลายคนเป็นอย่างนั้น พอลูกโตขึ้นมา เฮ้ยกูเอ็นท์ให้พ่อว่ะ เอ็นท์ให้แม่ว่ะ
มันได้ประโยชน์อะไรต่อตัวเอง ทั้งครอบครัว ทั้งสังคม ทั้งประเทศ ไม่ใช่ สูญเสียหมดเลยทุกอย่าง
สิ่งที่ทำ คือถ้าอยากให้ลูกเล่นดนตรี เอ๊า ! เอาเครื่องดนตรีมาวาง เปิดเพลงให้ฟัง ให้เขาชอบดนตรี
ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ให้ลูกเป็นนักดนตรี แต่ดนตรีมันเป็นฐานจากการอ่านหนังสือของพี่ จากการดูไอ้โน่นไอ้นี่
มารู้ว่าสัดส่วนของดนตรี ของเพลง ของจังหวะ มีอิทธิพลต่อชีวิต มันทำให้เราทำอะไรมีจังหวะขั้นตอน
พี่เรนียนสถาปัตย์ คือศิลปะบวกวิทยาศาสตร์ คือศิลปะที่เป็นไปได้ ไม่ใช่งานการวาดภาพ ไม่ใช่งานจิตรกรรม
สถาปัตย์ทำแล้วสร้างเป็นระเบียบจากฐานรากขึ้นมา ไม่ใช่ทำหลังคาลอยขึ้นมาแล้วเอาเสามาค้ำ แต่มันค่อยๆ เป็นสเต็ป เป็นขั้นเป็นตอน


โดยคุณ : แมวสีน้ำเงินเข้มแกมเทา - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:47:21 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:18:58  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 4
บันทึกคุณแม่:คิดว่าเป็นพ่อเหมือนกับพ่อทั่วๆ ไปไหม
วัชระ :เหมือนชาวบ้านปกติทั่วไป แต่ตอนคลอดไม่เหมือน ไม่ตื่นเต้น ไม่มีน้ำตาคลอไหลพราก พี่ไม่มี
ไม่ดีใจจนออกนอกหน้า ท้องมาตั้ง 9 เดือน คลอดวันนี้ดีใจไหม คงดีใจเมียไม่เจ็บอีกนานแล้ว
เออพี่รู้ว่าสเต็ปมันต้องโต ต้องมีความคิด อยู่ที่เราเตรียมอะไรไว้ให้เขา ใส่อะไรให้เขาบ้าง
ตรงนั้นมันมากกว่า มีสติ ไอ้ช่วงไม่มีสติตอนไม่มีสตางค์
ฉัตรชัย :ผมว่าคนยุคหลังๆ มีการตื่นตัวเรื่องการศึกษา ผมคุยกับเพื่อนหลายคน คือจะมี 2 แบบ คือ แบบหนึ่ง จะต้องให้ลูกเรียนโรงเรียนดังๆ เสียเงินเยอะๆ ซึ่งพวกนี้ยังมีเยอะอยู่ประมาณ 70 % อีก 30 % คิดคล้ายๆ ผม คือคิดว่ามันต้องปลูกฝังอะไรหลายอย่างให้ดีก่อน แล้วก็ไม่ต้องรีบร้อนในการเรียน ผมคิดว่ามันก็พิสูจน์ออกมาแล้วว่า ประเทศเราที่เมื่อก่อนถือไม้เรียวแล้วกวดขันให้เด็กเรียนกันเก่งๆ ก็ไม่ได้เป็นมหาอำนาจ เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
หลายคนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เขามีอีคิวดีจริงๆ ถ้าไอคิวก็ระดับหนึ่งแต่ต้องคู่กันไป อย่างเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันที่จบเกียรตินิยมพวกไอคิวดีๆ ไปทำงานก็ไม่ได้ประสบความเสำเร็จ ถ้าบางคนที่มีทั้ง 2 อย่าง ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคน เท่าที่ดูมา
ภูษิต : มีทั้งเหมือน ทั้งแตกต่าง คือคนที่มาอยู่ในโลกของวัตถุนิยมก็จะพยายามผลักดันให้ลูกดีกว่าตัวเอง หรืออย่างน้อยก็เท่ากับตัวเอง อย่างเช่นพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษตลอดเวลา เพื่อให้ลูกเข้าใจภาษาอังกฤษไปไว้ใช้ตอนโต ตลอดเวลาต้องงี้ๆๆๆ ถามว่าวันนี้เขาจะมีความสุขเหรอ กว่าเขาจะโต กว่าเขาจะได้ใช้ภาษาพวกนี้ เมื่อไหร่ล่ะ
เขามีเวลาได้เรียนรู้อย่างอื่นหรือเปล่า คือถ้าแบบลูกมันโอเค มันสนุกด้วย อย่างนั้นไม่เป็นไร แต่พี่เคยเห็นบางคนเขาบังคับ เช่น บางคนสอนว่ายน้ำลูก ไม่ให้ครูสอนด้วย แต่โอโฮย..ดุกว่าครูอีก ลูกร้องไห้ ถามว่าเด็กคนนี้จะว่ายน้ำเก่งไหม พี่เชื่อว่าเก่ง แต่ว่ามีความสุขหรือเปล่า แล้วพอเขาโต เขาจะไปใช้สิ่งที่เขาเห็น เขาเห็นจนเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว การกดขี่คน เขาเห็นพ่อกดขี่เขาทุกวันๆ เชื่อไหมว่าเขาจะไปกดขี่คนอื่นต่อ ก็แน่นอน ถ้าเขาไปเป็นลูกน้องใครก็คงไม่ได้
ก็คงไม่มีใครรับเขาเป็นลูกน้อง แต่ถ้าเขาไปเป็นเจ้านายคนอื่นถามว่าลูกน้องจะรักเขาไหม เพราะเขามีแต่ กดขี่ๆ ต้องได้ๆ คุณต้องทำให้ได้ ลูกน้องก็ทำตอบสนอง ทำเพื่อเงิน ทำเพื่อค่าจ้าง ทำเพื่อให้มันผ่าน แต่ความสัมพันธ์ ความรัก ความยอมรับ เขาจะได้จากทางไหน มนุษย์ต้องการการยอมรับ
พฤติกรรมอย่างนี้เราไม่ทำเด็ดขาด นี่คือความแตกต่าง ลูกเราไม่ค่อยเก่ง ถ้าเขาโตเขาอยากเป็นแชมป์ว่ายน้ำ เขาจะทำเอง ไม่ต้องห่วงหรอก แต่ถ้าเขายังไม่รู้อะไรเลย เขาอยากว่ายเฉยๆ อย่างลูกคนโตพี่ ให้เรียนว่ายน้ำ ตั้งแต่อนุบาลเลย ไม่เรียน ไม่เอา ไม่ว่ายก็อย่าว่าย เรียนเปียโนก็เหมือนกัน ไม่เรียน เอ๊า ! ไม่เรียนก็ไม่เป็นไร พอเริ่มโตเข้าสู่วัยรุ่น
ต้องการการยอมรับแล้ว อยากเรียน อยากชนะ เอาเลย แล้วเขาจะปฏิบัติตัวของเขาเอง
นิติพงษ์: มันแล้วแต่จะแสดงว่าเหมือนหรือไม่เหมือนตรงไหน บางคนก็อาจจะเป็นพ่อที่เล่นกับลูกแรงๆ ทะลึ่งตึงตังหน่อย บางคนก็อาจจะเป็นพ่อที่เคร่งขรึมหน่อยก้แล้วแต่บุคลิกของคน แต่ว่าด้วยความเป็นพ่อแล้วก็คงไม่แตกต่าง ก็คือต้องรักเขา

โดยคุณ : แมวสีน้ำเงินเข้มอมน้ำตาล - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:52:35 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:21:17  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 5
ที่จริงยังมีคำถามที่น่าสนใจอีกหลายคำตอบเลยล่ะค่ะ
แต่ว่า..คืนนี้ง่วงนอนแล้ว( ก็..เกือบเช้าแล้วนะเนี่ย) เดี๋ยวถ้าขยันๆ แล้วจะพิมพ์มาแปะต่อแล้วกันนะคะ
ระหว่างนี้ก็ดูรูป(แก้คิดถึง) พี่ๆ เฉลียงไปกันก่อนแล้วกันค่ะ




โดยคุณ : แมวสีน้ำเงินฉาบประกายทอง..หุหุ - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:57:43 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:23:01  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 6


รูปนี้พิเศษสำหรับแฟนๆ พี่เกี๊ยงค่ะ

โดยคุณ : bluecat - [ 12 ธ.ค. 2544 , 02:59:11 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:24:48  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 7
ครอบครัวอันแสนอบอุ่นของพี่ดี้
โดยคุณ : แปะรูป - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:01:09 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:26:17  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 8


อีกรูปนึง
โดยคุณ : แปะรูป - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:02:39 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:27:32  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 9


และอีกรูป
โดยคุณ : แปะอีก - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:03:35 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:28:55  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 10


คุณพ่อมือใหม่
โดยคุณ : แปะอีก - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:05:37 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:30:12  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 11


ครอบครัวพี่แต๋ง
โดยคุณ : แปะอีกแล้ว - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:07:00 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:31:31  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 12


พ่อแต๋ง กับน้องต้นไม้ น้องต้นน้ำ
โดยคุณ : แปะอีกแล้ว - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:09:03 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:32:41  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 13
[img]http://www.thaimung.net/prapas/webboard/images/086

พี่เจี๊ยบกับครอบครัว
โดยคุณ : แปะแล้วแปะอีก - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:15:27 น.] 03-14.jpg[/img]
โดยคุณ :พุดซา - [0:34:02  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณมากค่ะ ^/\^
อ่านแล้วยิ้มแก้มแทบปริ
ชอบมากทั้งเนื้อหา และรูปที่เอามาแปะ (โดยเฉพาะรูปพี่ชายใจดีใส่เสื้อสีเหลืองคนนั้นน่ะ น่ารักจริงๆ :))
โดยคุณ :หนูบิ๊ก - [0:34:48  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 15


พี่เจี๊ยบกับครอบครัว(อีกรูป)
โดยคุณ : แปะมันเข้าไป - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:17:03 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:35:03  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 16


ทำไมคุณพ่อทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ
โดยคุณ : :) - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:18:19 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:36:07  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 17


คุณพ่อกับลูกชาย
โดยคุณ : :) - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:22:53 น.]
โดยคุณ :พุดซา - [0:37:17  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 18


คุณพ่อกับลูกชายอีกคู่นึงค่ะ
โดยคุณ : รูปสุดท้าย - [ 12 ธ.ค. 2544 , 03:27:27 น.]

โดยคุณ :พุดซา - [0:38:30  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 19
น่ารักมากเลย ขอบคุณจ้า รูปเยอะเลย
ว่าแต่ใครสอนแปะรูปเนี่ย :)
โดยคุณ :เฮอร์ไมโอนี่ ณ จ้ะ - [0:39:17  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 20
บันทึกคุณแม่ : พ่อในพ.ศ.นี้ควรเป็นอย่างไร
นิติพงษ์ : ก็ควรเป็นเหมือนทุก พ.ศ. เพียงแต่องค์ประกอบในรายละเอียดมันแตกต่าง เมื่อสัก 50 ปี
ไม่มีนมชง ต้องกินนมแม่อย่างเดียว ตอนนี้มันมีนมชงให้กิน มีเครื่องอำนวยความสะดวก และมีเครื่องอำนวยความไม่สะดวก
เพิ่มขึ้นคือ สิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดภูมิแพ้มากกว่าเมื่อก่อน พี่ว่ามันเป็น Balance เหมือนกัน คือมีความสะดวกมากขึ้น
ก็มีความยุ่งยากในการใช้ชีวิตของพ่อสมัยใหม่
ฉัตรชัย : ถ้าเป็นลูกผู้ชายยังดีหน่อย ถ้าเป็นคุณพ่อของลูกสาวค่อนข้างจะอันตรายมากเลย เพราะว่าสังคมค่อนข้างมีสิ่งชักจูงใน
ทางที่เสียหายได้มาก เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังมากๆ คิดว่าสังคมสมัยนี้ พ่อที่ดีต้องให้เวลากับครอบครัวมากขึ้นสักนิดหนึ่ง
หมั่นสังเกตสิ่งที่ผิดปกติมากขึ้นสักนิดหน่อย
ภูษิต :ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยก็ต้องทำให้อะไรเปลี่ยนไป อย่างเรื่องเวลาเป็นเรื่องที่เหมือนกับถูกตัดทอนไป
ซึ่งสังคมที่เราเข้ามาอยู่เป็นสังคมเมือง การแข่งขันเยอะ อาชีพที่เราทำมันห่างไกลจากผู้คน จากตัวเด็ก เมื่อก่อนเราเป็นเด็ก
เราเรียนหนังสือ พ่อรับราชการ แม่อยู่บ้านรับจ้างตัดเสื้อผ้า ก็ค่อนข้างใกล้ตัว แต่ทุกวันนี้อาชีพที่เราทำงานอยู่
อาชีพทำรายการโทรทัศน์ มีคนรู้จักน้อยมาก ทำยังไง ทำอะไร เห็นพิธีกรก็ไม่ใช่เราสักหน่อย เขาก็ไม่เข้าใจว่าเราทำอะไร
เพราะฉะนั้นโอกาสที่เราจะสื่อสารกับเขา ศึกษาในเรื่องของชีวิตกับอาชีพการงานมันค่อนข้างจะไกล เพราะฉะนั้น
การที่จะเรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตโดยธรรมชาติมันก็ยาก ก็ชีวิตเขาเรียนหนังสือ ชีวิตเราคือการทำงาน ค่อนข้างจะแยกกันอย่างสิ้นเชิง
แล้วมันก็มีอีกหลายๆ อาชีพที่เป็นอย่างนี้
เกียรติศักดิ์ : พูดยากเหมือนกันนะ อย่างเช่นว่า พื้นเพตอนเด็กผผมอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัด พ่อในสภาพแวดล้อมอย่างนั้น
กับพ่อในสภาพแวดล้อมเมืองกรุง เท่าที่คิดเองหรือประมวลเองคิดว่าต่างกันค่อนข้างเยอะ พ่อที่ต่างจังหวัดมีโอกาสเจอลูกบ่อยมาก
เพราะฉะนั้นปัญหาที่ไม่มีเวลาดูลูก มันก็ไม่เกิด เจอกันเกือบทุกวัน ฟ้ายังไม่ทันมืดเราก็เจอกัน สมมุติพ่อมีหน้าที่ไปทำงาน
ลูกมีหน้าที่ไปโรงเรียน 4-5 โมงเลิกเรียน เจอกันแล้ว มีโอกาสทานข้าวด้วยกัน ดูทีวีด้วยกัน แต่ว่ากรุงเทพฯ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เพราะผมเองก็ยังไม่เคยมีลูก แต่เท่าที่คิด แญหาก็คือพ่อหรือแม่กับลูก มีเวลาเจอกันอาจจะน้อยไปหน่อย
บางทีเราทำงานกลับไปลูกหลับแล้ว เจอกันเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ หรือบางทีเสาร์อาทิตย์ของลูกในกรุงเทพฯ เขาก็มีกิจกรรมอะไรเยอะมาก
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนกรุงเทพฯ ทำไมพยายามที่จะให้ลูกไปเรียนพิเศษ ไปโน่น ไปนี่ ยิ่งไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ผิดกับที่ต่างจังหวัด
เจอกันบ่อยมาก ความสัมพันธ์ ความผูกพันมันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ในกรุงเทพฯนี่ผมว่าเลี้ยงลูกยากนะครับ


โดยคุณ : อยากแปะเลยมาแปะต่อ - [ 12 ธ.ค. 2544 , 21:01:55 น.]
โดยคุณ :พุดซา - [0:39:20  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 21
บันทึกคุณแม่ :การเป็นศิลปินอารมณ์ดีมีผลต่อการเลี้ยงลูกไหม
นิติพงษ์ : มี คือถ้าพ่อแม่อารมณ์ไม่ปั่นป่วน ลูกเขาก็คงจะได้แบบอย่างที่ดี ที่บ้านพี่ก็ไม่ค่อยมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเสียงดัง
เช่น สุขภาพจิตเขาดี สุขภาพจิตเราดีด้วย ไม่ใช่เขาดีอย่างเดียว ถ้าเราอารมณ์ดี อารมณ์เย็น ค่อยพูดค่อยจากันในครอบครัว
เขาก็รับรู้ได้ตั้งแต่เด็ก เขาจะอบอุ่น ไม่รู้สึกอึดอัดหรือเครียดอะไร มันก็มีผลเยอะ
ภูษิต: คือพี่ไม่รู้ว่าคำถามเหล่านี้ต้องให้คนอื่นตอบเรา คนอื่นมองเรา พี่ไม่ชอบคนที่อารมณ์เสีย ไม่ชอบคนที่หงุดหงิด
ไม่ชอบคนที่เอ่ยปากพูดก็เป็นกฏ เป็นระเบียบ ทำไมอย่างนั้น ทำไมไม่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราก็จะคิดถึงลูกว่าตัวเรายังไม่ชอบเลย
ลูกจะชอบหรือ วิธีการปฏิบัติตัวของพี่ในแต่ละวัน ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เรารักคนที่อารมณ์ดี เรารู้สึกสบายใจเมื่อเราอยู่กับ
คนที่อารมณ์ดี เพราะฉะนั้นพี่จะเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ดีกับทุกๆ คน แล้วนี่กับลูก ลูกก็พิเศษกว่าคนอื่น
เราก็ไม่อยากทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับการที่ได้อยู่กับพ่อ ถามว่าช่วยได้ไหม ทำให้ลูกใกล้ชิดกับเราได้มาก ลูกรัก
อยู่บ้านแล้วลูกจะอยู่ด้วย ไม่ตะขิดตะขวงใจ เด็กบางคนเจอพ่อก็จะเลี่ยง ภาพพจน์ของพ่อบางคนต้องเป็นอย่างนั้น
ให้แม่เข้าใจ พ่อเป็นคนหนึ่งที่ลูกจะต้องกลัว ลูกจะได้เกรงใจสักคนหนึ่ง บางคนเขาก็ตั้งใจแบบนั้นนี่มันเป็นภาพพจน์ในอดีตสมัยก่อนของคนไทย
แต่ของพี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
ฉัตรชัย : เลี้ยงลูกจริงๆ แล้วเครียดทุกคน อารมณ์ดีก็เอาไม่อยู่ ด้วยความเป็นเด็ก ก็สะเปะสะปะไปเรื่อยในการปฏิบัติตัว
แล้วพ่อแม่ทุกคนก็ต้องคาดหวังกับลูก อยากให้ลูกทุกคนประพฤติดี อะไรอื่นๆ ดีต้องมีการขัดแย้งกันแน่นอนในแต่ละวัย
คือไม่ใช่ขัดแย้งแล้วสอนให้ดีแล้วจบยังคงมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆไปเรื่อยๆ
วัชระ : ผิดตั้งแต่ศิลปินอารมณ์ดีแล้ว ไม่มีผล ค่อนข้างดุด้วยซ้ำ เขาเรียกว่าอีโก้จัด รู้ตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เอามาตรฐานไม้บรรทัดของตัวเองใหญ่มากเป็นตัวตั้ง ต้องอย่างนี้ๆ ก็มีภรรยาคอยดึงๆ เอาไว้บ้าง
เฮ้ยเด็กต้องอย่างนี้แหละ อ้าว..เหรอ..

โดยคุณ : แปะแล้วแปะเล่าเฝ้าแต่แปะ - [ 12 ธ.ค. 2544 , 21:03:36 น.]
โดยคุณ :พุดซา - [0:39:50  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 22
บันทึกคุณแม่ : คิดว่าตัวเองเป็นสามีที่ดีหรือเปล่า
ฉัตรชัย : โอ้ย..พี่ดี เหล้าทานนิดหน่อย จริงๆ ก็คือย้อนไปในเรื่องความรับผิดชอบ อื้อ..ถ้าไม่รับผิดชอบซะอย่างก็จบทันที
สมมุติว่าเย็นนี้เพื่อนชวนไปกินเหล้า เราก็ไปช่างมัน ครอบครัวจะยังไงก็ช่าง เดี๋ยวภรรยาไปรับลูกพอเมากลับไปอาละวาด
เช้าขึ้นมาไม่ทำงาน เสียงาน ตกงาน คือทุกอย่างมันก็พังหมดถ้าไม่มีความรับผิดชอบ
นิติพงษ์ : เป็นเพื่อนกันมากๆ เลยทำอะไรก็ทำด้วยกัน ค่อนข้างจะตัวติดกัน โดยเฉพาะก่อนหน้าที่จะมีลูก
ยิ่งแฟนไม่ได้ทำงาน พี่ก็จะกลับบ้านเร็ว ทำอะไรกินด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันตลอด เป็นเพื่อนกัน ถามว่าเพื่อนสนิทของเธอคือใคร
ก็คือฉัน แล้วเธอก็คือเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน ที่สุดแล้วก็คุยกับคนที่บ้าน ภรรยาสามียืนอยู่ข้างเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน
ภูษิต : ก็มีหลายอย่างที่ไม่ดี หลายอย่างที่ดี อยู่ที่เขาพูด หลายอย่างที่ไม่ดี ก็บางทีเราก็ไม่อยากช่วยเหลือเขา
งานบ้านเนี่ย ขี้เกียจ นั้งอยู่เฉยๆ เขาคงไม่ชอบเท่าไหร่(หัวเราะ) หลายอย่าง ดูแลเขาน้อยไปไหม ในบางเรื่อง ถึงเวลาที่บางทีเราคิดเรื่องอื่นอยู่
ในขณะที่เขาอยากคุยเรื่องลูก เราไม่ได้สนใจเขา ไม่ดีแล้ว ในสายตาเขา เราอย่าบอกว่าเราดี 100% พี่ว่าไม่ได้ อยู่ที่เขา
ถามพี่ว่าเขาเป็นภรรยาที่ดีไหม มันมีทั้งดีและไม่ดี
เกียรติศักดิ์ : (หัวเราะ) วิจารณ์ตัวเองลำบาก ถ้าให้ผมตอบก็ต้องพยายามทำหน้าที่ให้เหมาะสมที่สุด แต่ว่าจะดีหรือไม่ดี
ผมพูดเองก็ประหลาด คือพยายามทำอะไรที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด แล้วก็เท่าที่ดูจากชีวิตของผมกับภรรยา เท่าที่ผ่านมาก็ค่อนข้างที่จะไปด้วยกันได้ดี
อาจจะมีบางทีงอนกันนิดๆ หน่อยๆ แต่โดยภาพรวมก็ไปด้วยกันได้ดี เราก็พยายามปรับตรงนี้ เขาชอบอย่างนี้ บางทีเราก็ต้องโอนไปทางนี้บ้าง
วัชระ : ดีไหมเหรอ ไม่รู้จะเทียบกับใคร บ้านนี้มีสามีคนเดียว ดี ถือว่าดี ไม่ถึงกับแฟมิลี่จ๋าตามตำรา ในหนังสือหรือครอบครัวคนดัง
ก็เลี้ยงลูกด้วย ช่วยภรรยาทุกอย่างเท่าที่จะช่วยได้ แบ่งหน้าที่ให้เขาเป็นใหญ่ ไม่ใช่เราเป็นใหญ่อยู่ตลอดเวลา
โดยคุณ : bluecat - [ 12 ธ.ค. 2544 , 21:04:26 น.]
โดยคุณ :พุดซา - [0:41:13  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 23
(คำถามสุดท้ายนี้ฝากแฟนๆ เฉลียงโดยเฉพาะค่ะ )
บันทึกคุณแม่ : วงเฉลียงมีโอกาสที่จะเล่นคอนเสิร์ตกันอีกไหม
เกียรติศักดิ์ : ประกาศว่าหยุดแล้ว
วัชระ : ใครตายล่ะ เล่นหน้าศพเหรอ มีๆๆ ถ้ามีคนตายก็เล่นกัน บอกเพื่อนไว้เฮ้ยใครตายเล่น ถ้ากูตายก่อนมาเล่นให้กู
ฉัตรชัย : คงยาก ไม่แน่แก่ๆ ไม่มีอะไรทำ อาจจะมารวมกันแล่น แต่โดยหลักการ ประกาศกันไปแล้วว่าไม่มีการรวม
นิติพงษ์ : ถ้ากลับมานั่งกินข้าว นั่งดื่มนั่งกินก็มีบ่อย เวลามีเทศกาลอะไรที ก็เฮ้ย มากินกันหน่อย ก็มาเฮฮา
แต่คิดว่าถ้าจะมาเล่นเป็นกิจกรรมอะไรพี่ว่าคงยากแล้วล่ะ หมด เมื่อหมดก็ต้องรู้ว่ามันหมด
ภูษิต : คำถามนี้ถูกถามเป็นเวลา 10 กว่าปี พูดถึงความตั้งใจดีกว่านะ คงไม่รวม แต่ถามว่ารวมกันแล้วมีความสุขไหม
ตอนเล่นมีความสุขมาก เพราะว่าเราเอง 1 คนไม่สามารถเป็นเฉลียงได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าเราจะเป็นสมาชิกวงเฉลียงก็ตาม
เราหนึ่งคนไม่สามารถบอกว่าฉันเป็นเฉลียงทั้งหมด ไม่ได้ คนเขาไม่รับ แล้วเวลาที่คนรับความเป็นเฉลียงมันยิ่งใหญ่กว่าเขารับตัวเราคนเดียว

โดยคุณ : แปะสุดท้าย - [ 12 ธ.ค. 2544 , 21:13:31 น.]
โดยคุณ :พุดซา - [0:41:50  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 24
น่านสิ ใครสอนแปะก็ไม่รู้ :P
โดยคุณ :พุดซา - [0:43:58  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 25
น่ารักจริง ๆ พุดซา คนขยัน
โดยคุณ :ใครก็ไม่รู้แอบอ่านอยู่ - [1:32:44  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณค่ะ ^____^
โดยคุณ :เฌอ - [7:37:26  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 27
ขอบคุณครับ ^^
โดยคุณ :ไก่น้อย - [8:23:55  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 28
ขอบคุณมากๆกั๊บ =^/\^=
โดยคุณ :ใบหม่อน - [8:54:04  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 29
@ ^___________^ @
โดยคุณ :picmee - [9:13:38  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 30
ขอบคุณฮับ
โดยคุณ :เนฌา - [9:23:30  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 31
ขอบคุณค่ะที่เอาอะไรดีๆมาให้อ่าน
โดยคุณ :mamarlade - [11:34:41  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 32
ขอปรบมือให้ในความขยันค่ะ
แปะๆๆๆๆ

ได้อ่านฉบับเต็มแล้ว เป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆๆ ค่ะ
น้องแก่นไม้น่ารักตุ้ยนุ้ยจริง

ว่าแต่พี่เกี๊ยงเมื่อไรจะมีน้องบ้างค่ะ :)
โดยคุณ :sunflower - [21:21:40  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 33
น่ า รั ก ม า ก
ข อ บ คุ ณ ม า ก ๆ เ ล ย จ้ า
@^______^@
โดยคุณ :akejung - [21:27:43  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 34
ขยันจริงๆ
ขอบคุณค่ะ ที่เอื้อเฟื้อ :)
โดยคุณ :gem_ - [22:55:14  13 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 35
น่ารัก มากกก
โดยคุณ :ปลายฟ้า - [10:58:29  14 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 36
:)) ขอบคุณด้วยค่ะ
โดยคุณ :เอ่เอ๋ - [21:32:44  14 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 37
ขอบคุณมากค่ะ
โดยคุณ :พู่ไหม - [23:00:49  14 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 38
อยากได้รายงาน
โดยคุณ :คณุปลายฝน - ICQ: 4536[19:33:43  17 พ.ย. 2548]

ความคิดเห็นที่ 39
พ่อคือผู้ที่มีพระคุณกับลูก พ่อก็เป็นคนที่คอยให้ความอบอุ่นอบรมดูแลเอาใจใส่ลูกไม่น้อยไปกว่าแม่เลยเพียงแต่บางครั้งพ่ออาจจะมีเวลาให้ลูกน้อยกว่าแม่แต่ลูกๆทุกคนก็รักพ่อไม่น้อยไปกว่าแม่แน่นอน อยากจะให้ลูกๆทุกคนให้ความสำคัญกับคนที่เป็นพ่อและแม่ของเรามากกว่าเพื่อนหรือแฟน
โดยคุณ :ลูกสาวของพ่อ - [12:55:40  9 ธ.ค. 2548]

ความคิดเห็นที่ 40
ซึ้งจังเลย
โดยคุณ :ใหม่ - [13:30:23  23 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 41
*-**+*
โดยคุณ :ใหม่ - [13:31:46  23 พ.ย. 2549]

ความคิดเห็นที่ 42
รายละเอียดก็ใช้ได้
โดยคุณ :คนสวย - [13:38:45  1 ธ.ค. 2550]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....