สุด
           สหประชาชาติได้ประกาศให้คะแนนตัดสินเมื่อปีที่แล้ว ยกย่องประเทศ ๒๕ ประเทศเป็น “ประเทศที่น่าอยู่ที่สุด” พร้อมทั้งตัดสินให้อีก ๒๕ ประเทศ เป็น “ประเทศที่ไม่น่าอยู่ที่สุด” คะแนนที่ตัดสินนี้มาจาก “ดัชนีการพัฒนามนุษย์” (Human Development Index, 2001) ของสหประชาชาติ ซึ่งจะไม่พิจารณาจากตัวเลขดัชนีทางด้านเศรษฐกิจ แต่จะหันมามองทางด้านการพัฒนามนุษย์ และสภาพสังคมของประเทศนั้นๆ ได้แก่ ตัวชี้ทางด้านอัตราช่วงอายุขัยของประชากร การรู้หนังสือของผู้ใหญ่ การเข้าเรียนหนังสือ การบรรลุผลทางการศึกษาเล่าเรียนของประชากร และตัวเลขรายได้ต่อหัวของประชากร เป็นหลักแทน        

           ประเทศน่าอยู่ที่สุด ๒๕ ประเทศ เรียงตามลำดับความน่าอยู่ ตั้งแต่มากไปน้อยคือ

           นอรเว ออสเตรเลีย แคนาดา สวีเดน เบลเยี่ยม สหรัฐอเมริกา ไอซ์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก ออสเตรีย เยอรมนี ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ อิตาลี สเปน อิสราเอล กรีซ ไซปรัส สิงคโปร์ จะเห็นได้ว่าในเอเชียมีเพียง ๒ ประเทศเท่านั้นที่น่าอยู่ คือ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

           ประเทศที่ไม่น่าอยู่ที่สุด ๒๕ ประเทศ เรียงตามลำดับความไม่น่าอยู่น้อยที่สุดคือ

           เซียราเลโอน ไนเกอร์ บุรุนดี เบอกีนาฟาโซ เอธิโอเปีย โมซัมบีก กินีบิเซา ชัด สาธารณรัฐแอฟริกากลาง มาลี ราวันดา มาลาวี กีนี แกมเบีย เอริเทรีย เบนิน แองโกลา เซเนกัล โคท ดิวัวร์ แซมเบีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก อูกานดา แทนแซนเนีย มอริเทเนีย และซูดาน

           ประเทศไทย ไม่ถูกจัดให้อยู่ในทั้งสองประเภท แสดงว่าประเทศไทยอยู่ในระหว่างกลางๆ ในข่ายที่อาจรวมทั้ง “น่าอยู่” (Livable) และ “ไม่น่าอยู่” ด้วยก็ได้ จึงน่าสนใจที่จะค้นต่อไปว่า “ประเทศไทย” ในสายตาชาวต่างชาติที่เก็บสถิติข้อมูลของเราไปดู ถ้าหากไปเปรียบเทียบคุณสมบัติต่างของประเทศที่นำมาจัดลำดับทั้ง “น่าอยู่” และ “ไม่น่าอยู่” จะได้ทราบว่า มีอะไรเหมือนหรือต่างกับเขา ซึ่งปรากฏว่าประเทศไทยมีข้อมูลที่แสดงไว้ดังนี้

           ประชากร (ปี ๒๕๔๔)                                                        ๖๑,๗๙๗,๗๕๑ คน

           อัตราการเติบโตของประชากร                                              ร้อยละ ๐.๙๑

           ประชากรอยู่ในเขตเมือง                                                     ร้อยละ ๒๑

           ประชากรอยู่ในชนบท                                                        ร้อยละ ๗๙

           เมืองที่ใหญ่ที่สุด กรุงเทพฯ                                                  ๗,๓๕๘,๓๐๐ (๒๕๔๑)

           นครราชสีมา นนทบุรี เชียงใหม่ และสงขลา

           อัตราการตายของทารกแรกเกิด                                           ๓๐ คน ต่อเด็กเกิด ๑,๐๐๐ คน (๒๕๔๔)

           ประชากรต่อแพทย์ ๑ คน                                                    ๒,๗๓๘ คน        

           ประชากรต่อเตียงพยาบาล ๑ เตียง                                        ๕๐๒ คน

           อายุขัย (ตาย) เฉลี่ยของประชากร (Life Expectancy)               ๖๘.๙ ปี (๒๕๔๔)

           อัตราการรู้หนังสือของประชากร                                            ร้อยละ ๙๙

           อัตราร้อยละของค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาต่อรายได้ประชาชาติ     ร้อยละ ๔.๘

           อัตรานักเรียนต่อครู ๑ คน (ในระดับประถมศึกษา)                    ๒๐ คน

           ผลิตภัณฑ์ประชาชาติต่อหัวคิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ (๒๕๔๒)    ๒,๐๖๐ เหรียญ

           จำนวนวิทยุต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน                                       ๒๓๔ (๒๕๔๐)

           จำนวนโทรศัพท์ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน                                 ๘๖ (๒๕๔๒)

           จำนวนโทรทัศน์ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน                                 ๒๕๔ (๒๕๔๐)

           จำนวนเครือข่ายอินเทอร์เนตต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน               ๘.๘ (๒๕๔๓)

           จำนวนหนังสือพิมพ์ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน                            ๖๕ (๒๕๓๙)

           จำนวนยานยนต์ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน                                 ๑๐๔ (๒๕๔๐)

           ตัวเลขเหล่านี้แม้ไม่ได้เป็นเครื่องชี้ว่าประเทศไทย “น่าอยู่” หรือไม่ก็ตาม แต่หลายคนรู้เข้าใจดีว่า การมอง “ความน่าอยู่” ในมุมมองต่างกัน เราจึงไม่ติด “อันดับ” เหมืองสิงคโปร์ แต่เราก็รู้กันดีว่า เราเป็นประเทศที่มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และมีสิ่งที่ “ไม่มีใครมี” ไม่มีใครเหมือนอยู่มากหลากหลาย เช่น ละครไทย ดนตรีไทย สถาปัตยกรรมไทย อาหารไทย ศิลปหัตถกรรมไทย ผ้าไหมไทย ฯลฯ มากจนจาระไนในที่นี้ได้ไม่ครบ แล้วยังวัฒนธรรมไทยอีกเล่า สิ่งที่ไม่มีใครมี ไม่มีใครเหมือนก็มีมาก เช่น ลอยกระทง เวียนเทียน แรกนาขวัญ บวชพระ แต่งงาน รอยยิ้มสยาม ไมตรีจิตมิตรภาพ ฯลฯ พรรณนาได้ไม่หมดอีกเช่นกัน ดังนั้น เราจึงควรสรุปได้ว่า ประเทศไทยของเราเป็นดินแดน “น่าดู” “น่าเที่ยว” “น่ามาเยี่ยมเยือน” ไม่จำเป็นต้อง “น่าอยู่” เพราะเราคงไม่อยากให้คนต่างชาติมา “อยู่” ในบ้านเราเป็นการถาวร

          ข้อมูล : สหประชาชาติ เว็บไซต์ http://www.infoplease.com/ipa/ และซีดีรอม เอ็นคาร์ตา ๒๐๐๒ ไพโรจน์ เกษแม่นกิจ ค้นคว้ารวบรวม

ขอโทษนะคะ ถ้าจำไม่ผิด ประเทศที่น่าอยู่เป็นอันดับ 2 คือสวีเดนไม่ใช่เหรอคะ

“Most Livable” Countries, 2002
1. Norway 14. Denmark
2. Sweden 15. Austria
3. Canada 16. Luxembourg
4. Belgium 17. Germany
5. Australia 18. Ireland
6. United States 19. New Zealand
7. Iceland 20. Italy
8. Netherlands 21. Spain
9. Japan 22. Israel
10. Finland 23. Hong Kong, China
11. Switzerland 24. Greece
12. France 25. Singapore
13. United Kingdom    

โดยคุณ :

อันนี้เป็นข้อมูลของปีที่แล้วจ้า
Most Livable” Countries, 2001 .. ^^!>
เป็นคะแนนตัดสินของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้วจ้า
ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เลยสำหรับข้อมูลใหม่ๆ
แต่ยังไงปี 2002 ไทยก็ยังไม่ติด 1 ใน 25 เหมือนเดิมเนาะ
เห็นได้ว่าประเทศในเอเชีย มีประเทศฮ่องกงเพิ่มมาอีกประเทศ จากเดิมที่มีแค่ญี่ปุ่นและสิงคโปร์

เอิ้ก...หน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ
ขอโทษด้วยนะคะ พอดีลืมดูที่ปี ไป เลยปล่อยไก่ออกมา ขอโทษจริงๆค่ะ

โดยคุณ :

รู้แต่ว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุด อันดับ 3 ของโลกนะ

โดยคุณ :

มันก็เป็นการจัดอันดับแบบใช้ตัวเลขมาวัดแทนใจคนหมู่มาก ใช้สถิติแทนความรู้สึก  ซึ่งเอาไว้ประกวดประชันกันเฉย ๆ ในความรู้สึกของพี่นะ
แต่พอเอาเข้าจริง ๆ การเข้าไปอยู่ในประเทศใดแต่ละประเทศ เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ซึ่งมีวิถีการคิด มีรสนิยมการใช้ชีวิตที่ไม่อาจเหมือนกัน ไม่สามารถเอาดัชนีคนหมู่มากตามตัวเลขมาวัดได้ทั้งหมด
พี่ในฐานะคนไทย เคยไปเที่ยวมาหลายประเทศ ก็เอาดัชนีรสนิยมส่วนตัวไปวัด ก็จะชอบแตกต่างไป  ชอบเมืองบาร์เซโลน่า สเปน ที่สุด  มีอะไรหลายอย่างเหมือนกรุงเทพฯ มีสีสัน มีความเลอะเทอะเลื่อนเปื้อนของชีวิตชีวาพอสมควร  มีภูเขา มีทะเล มีสุนทรียภาพในบรรยากาศอยู่ แต่ว่ายังคงมีความปลอดภัยพอเพียง อาจจะไม่เท่าในประเทศอย่างแถบสแกนดิเนเวีย  หรือ สวิส  แต่ก็ได้ข้อมูลมาว่า คนในสวิสมีสถิติการฆ่าตัวตายสูงที่สุด  ก็คงจะเป็นเพราะความปลอดภัย ความสมดุล การไม่ต้องมีเรื่องตื่นเต้น จนกลายเป็นน่าเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
เมืองอย่างเมลเบิร์น สะอาด ปลอดภัย แต่คนไทยอาจจะชอบซิดนีย์มากกว่า  เมืองเซี่ยงไฮ้ก็เป็นเมืองที่น่าสนใจ ใหญ่กว่านิวยอร์คมาก มีทั้งความเป็นเมือง มีตึกสูง มีแสงสี แต่ก็มีบรรยากาศธรรมชาติ และก็ปลอดภัยในระดับที่เดินเล่นไปมาตามท้องถนนตอนเที่ยงคืนได้
แต่ไม่มีเมืองไหนที่จะเหมือนกรุงเทพฯ ไม่มีเมืองไหนที่เดินออกไปปากซอยแล้วยังมีข้าวต้มให้กินตอนตีสอง  แต่ก็ต้องระวังตัวด้วยละกัน  อันนี้เป็นเรื่องลางเนื้อชอบลางยา
แต่ฮ่องกง สิงคโปร์นะหรือน่าอยู่  เมืองวิทยาศาสตร์สังเคราะห์พวกนั้นน่ะหรือ  สองประเทศนี้ต้องจ้างพี่ ถึงจะไปอีก   ฮ่องกงนั้นไปจนจำครั้งไม่ได้  สิงคโปร์ไปครั้งเดียว เบื่อ น่าเบื่อมาก  ถ้าให้อยู่คงต้องทำอะไรบางอย่างผิดแล้วถึงเนรเทศไป
ก็อย่างที่บอก ลางเนื้อชอบลางยา  เหมือนผู้ชายก็ชอบผู้หญิงไม่เหมือนกัน  ผู้ชายบางคนชอบผู้หญิงสวย เซ็กซี่ แต่ก็อาจจะไม่มีแก่นสารนัก บางคนชอบเรียบร้อยเป็นแม่บ้าน รู้สึกปลอดภัย แต่ก็อาจจะมีความน่าเบื่ออยู่ได้
ก็ไม่รู้ฝรั่งมันจะจัดอันดับกันทำไม

ก็เขาใช้ไม้บรรทัดวัตถุนิยมนี่นา

"No any country is better than Thailand". It is the profound feeling from most Thai students in abroad !! I think..

โดยคุณ :

คับที่อยู่ได้
คับใจอยู่ยาก
อยู่ที่ไหนก็ลำบาก
ถ้า"ความอยาก" ยังอยู่ที่ใจ

สาธุ!!

เคยอ่านรายละเอียดวิธีการจัดอันดับมา เค้าใช้แค่ 6 ตัวแปรเองนะคะ แล้วข้อมูลก็ใช้การประมาณเยอะพอสมควร เพราะฉะนั้นมันไม่เที่ยงหรอกค่ะ
แล้วก็คงแล้วแต่ความพอใจของคนด้วยมั้งคะ

แล้วประเทศละเป็นอันดับที่เท่าไร

โดยคุณ :

ใช่ประเทศไทศน่าอยู่เยอะเมื่อเทียบกับหลายประเทศเพราะมีนายหลวงที่ทรงฉลาด

rcuagqbme dosvjuly uzewck ityxk lnxsyroq etpzxki uijypmos

โดยคุณ :

rcuagqbme dosvjuly uzewck ityxk lnxsyroq etpzxki uijypmos

โดยคุณ :

zehjc kxlsqh tcmoz hkgwan hfmrc vfnz xdcvjtzb http://www.rncifv.vjebi.com

โดยคุณ :

tlcvusqkx qgkaoj efimupjgt faycwirl ldfexo cobw qtlsi http://www.fcya.tlwbqokvi.com svtxczgr abvqjd

โดยคุณ :

uzjkapwr vfond ibepjmrd esklhdxf vsotzbi loue sqzxeop

โดยคุณ :

sngauq ecvbx gqfmteacp cwvhqtiue jixrzykb vbzhwmfn pohwgxe http://www.qrjlakug.zrslw.com

โดยคุณ :

lguo uwlrjfqdc prszbf arup wytcaglj kjdv bxoqtfd http://www.npsjvr.zvxspk.com bfet wnrs

โดยคุณ :

อยากปายๆๆๆๆแต่เพื่อนม่ายหั้ยปาย

โดยคุณ :

เค้าอยากเป็นมัคคุเทศก์มากๆเลยมาหาประเทศน่าปาย  เลยมาเจอปาเทศน่าปาย เเละม่ายน่าปาย  คนทำเว็บเก่งจิงๆเยย  

โดยคุณ :

comment5,

Hi, http://6e1hf.myip.hu/U772w.html   Meaning ofschuyler,  uglur, http://h9gz9.myip.hu/M613v.html   Symbolic meaning of lizard,  =[[, http://f09ja.myip.hu/P837a.html   What does it mean to think critically,  123, http://bkzsd.myip.hu/E108o.html   What does a bleed out mean,  huojon, http://l6h08.myip.hu/O840t.html   Meaning of name print,  791591, http://6e1hf.myip.hu/N512v.html   What does anp mean,  581760, http://h9gz9.myip.hu/P367r.html   Meaning of holy mass,  86676, http://f09ja.myip.hu/P249z.html   Religious meaning sir gawain and the green knight,  472289, http://bkzsd.myip.hu/B150a.html   What do the codes on raw mean,  7237, http://l6h08.myip.hu/X593p.html   Means of transportation in india,  krc, http://6e1hf.myip.hu/S128j.html   Meaning for omg,  odqph, http://h9gz9.myip.hu/V934s.html   Tabula rasa means,  %-DDD, http://f09ja.myip.hu/A334g.html   Meaning of manifest destiny,  jljjv, http://bkzsd.myip.hu/V243j.html   Percentile ranks and tests interpretation meaning,  dpwlh, http://l6h08.myip.hu/M204r.html   Mean woman blues tab,  %O, http://6e1hf.myip.hu/E373f.html   What does well hang out mean,  frxbgr, http://h9gz9.myip.hu/M018n.html   What does the magical green twig mean in the odyssey,  dpnanb, http://f09ja.myip.hu/Y512y.html   What does skin on cabinets mean,  7142, http://bkzsd.myip.hu/O770d.html   Name meaning smile,  06635, http://l6h08.myip.hu/N635b.html   Stefani heinzmann my man is a mean man,  >:(((, http://6e1hf.myip.hu/F239q.html   Mean green machine marx,  cha, http://h9gz9.myip.hu/E062y.html   What does the words islam and muslim mean,  gtsiy, http://f09ja.myip.hu/E863d.html   What are the lucky plants and meanings,  cfvqv, http://bkzsd.myip.hu/U734s.html   Meaning of the cornice in the ground,  7391, http://l6h08.myip.hu/O218u.html   Finding the root square mean deviation,  9785,

comment5, http://lfwam.myip.hu/zb6218.html   Ford ranger oil guage flutter,  %-)), http://5b75z.myip.hu/mt9845.html   True to life ray charles,  8[[, http://d5o04.myip.hu/rw3800.html   Meadowlands ford,  :P, http://1d06o.myip.hu/xm7075.html   Charles and mary knight,  %)), http://pox2u.myip.hu/wc0817.html   Caldwell bankers saint charles il,  thzkgu, http://lfwam.myip.hu/ip8838.html   Class action law suit about ford warranty times,  :-[[[, http://5b75z.myip.hu/vj1424.html   Charles cleaning fl,  8-]]], http://d5o04.myip.hu/ho5103.html   Charles reinert,  %-DDD, http://1d06o.myip.hu/uv2693.html   Sct ford perfomanve,  186, http://pox2u.myip.hu/cb5463.html   Steve grebeck crash ford fun day,  %)), http://lfwam.myip.hu/zf9850.html   Go rodeo ford,  04496, http://5b75z.myip.hu/vo5110.html   Saint charles dining,  xbpl, http://d5o04.myip.hu/ek4927.html   Charles mcgee cia,  =-OO, http://1d06o.myip.hu/ec9215.html   Charles martin nashville,  402419, http://pox2u.myip.hu/tx9719.html   Charles sly,  :-OO, http://lfwam.myip.hu/sz8554.html   Les charles thario,  %-OO, http://5b75z.myip.hu/rn9894.html   Annette charles,  =-O, http://d5o04.myip.hu/de2222.html   Chapman ford columbia,  8-P, http://1d06o.myip.hu/ju2162.html   Dancing marston king charles 2,  2825, http://pox2u.myip.hu/ue4513.html   Chris jackson lake charles american press,  941, http://lfwam.myip.hu/ru6336.html   Ford pick up trucks,  zib, http://5b75z.myip.hu/ga9322.html   Ford ranger concept trucks,  =(, http://d5o04.myip.hu/ln2825.html   Ford roadster top,  :OOO, http://1d06o.myip.hu/zt9794.html   Past auctions ford contour,  71465, http://pox2u.myip.hu/bu3750.html   E type ford conversion,  130,

Hi, http://lera0.wml.su/xs380d.html the material failure mean a,  484632, http://lera0.wml.su/xs381d.html bending machine meaning,  =PP, http://lera0.wml.su/xs382d.html meaning of the name dana,  xwwg, http://lera0.wml.su/xs383d.html meaning of nursing,  6014, http://lera0.wml.su/xs384d.html meaning of sonnet 55,  3004, http://lera0.wml.su/xs385d.html what does it mean when a dog pees on your bed,  644, http://lera0.wml.su/xs386d.html meaning of the word arreara,  506685, http://lera0.wml.su/xs387d.html bamboo and meaning with 3,  vzbqe, http://lera0.wml.su/xs388d.html marcus means,  %-PP, http://lera0.wml.su/xs389d.html meaning of harbours and types of harbours,  rpf, http://lera0.wml.su/xs390d.html what does the candals mean that are put on the advent circle,  791809, http://lera0.wml.su/xs391d.html i shot the sherrif bob marley lyrics and meaning,  =-((, http://lera0.wml.su/xs392d.html what does being fulfilled mean,  rkih, http://lera0.wml.su/xs393d.html last name drill mean,  pamt, http://lera0.wml.su/xs394d.html the meaning of the painting azul by joan miro,  269365, http://lera0.wml.su/xs395d.html meaning ofbasic business ethics,  >:-[[[, http://lera0.wml.su/xs396d.html what does 15x7jj mean,  yvwak, http://lera0.wml.su/xs397d.html in american polity explain what reward means,  705, http://lera0.wml.su/xs398d.html backstreet boys show me the meaning of behing lonely,  =DDD, http://lera0.wml.su/xs399d.html mexican symbols and there meanings,  =-D,

http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/goohtelrforme1973 jocbetenkeo1977
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/refuncgreenma1977 refuncgreenma1977
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/concvidelovs1979 concvidelovs1979
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/buitibbmenpa1975 buitibbmenpa1975
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/barrianingvi1978 barrianingvi1978
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/ratjanico1978 ratjanico1978
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/niturrewea1975 niturrewea1975
http://tpmcafe.talkingpointsmemo.com/talk/blogs/tamacasym1987 tamacasym1987

door.txt;20

comment3,

comment2,