เด็ดหัว"จ่ายิ้ม กองปราบ" ตายคา"ทเวนตี้ผับ" ในโรงแรมหรูชื่อดังกลางกรุง สังเวยคมกระสุนของก๊วนสามลูกนักการเมืองชื่อคับประเทศ เหตุมาจากเรื่องเหยียบตีนกันระหว่างหาความสำราญ หลังก่อเหตุมาฟอร์มเดิมให้ลูกน้องรับบทแพะ ผบช.น.สอบที่เกิดเหตุลั่น มีหลักฐานวิดีโอวงจรปิดมัดจอมมารแน่น เตรียมสั่งปิดผับแบบไร้กำหนด

จ่อยิงตำรวจดับคาผับดังกลางกรุงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 29 ต.ค. พ.ต.ต.มนต์ชัย ประทีบพรศักดิ์ สวส.สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุตำรวจถูกยิงตายภายใน "ทเวนตี้ผับ" หรือ "ฟิวเจอร์ผับ" เดิม ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท. อนันต์ ภิรมย์แก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผช.ผบช.น พล.ต.ต.เผด็จ ทะละวงศ์ ผบก.น. 2 .พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผกก.1 ป. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผกก.2 ป. พ.ต.อ.ธัธชัย หงษ์ทอง ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง สว.สส. และกำลังจำนวนหนึ่ง


ภายในผับพบโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนนระนาดจากฝีเท้าของกลุ่มนักเที่ยวที่พากันหนีตายจากลูกปืน บริเวณเคาน์เตอร์หน้าเวที พบศพ จ.ส.ต.สุวิชัย หรือ "จ่ายิ้ม" ยอดวิมุต อายุ 35 ปี สังกัด แผนก 1 กก.2 ป.ช่วยราชการแผนก 1 กก.1 ป. สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าบู๊ตแบบคาวบอย ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับซ้ายกระสุนทะลุออกกะโหลกด้านบน นอนจมกองเลือดและมันสมองที่ไหลออกมานองพื้น ที่มือขวาศพพบกำเส้นผมอยู่กระจุกหนึ่งคาดว่าจะเป็นของมือปืน

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ตายมาเที่ยวกับนายตำรวจกองปราบฯระดับรอง ผกก. คนหนึ่งและกลุ่มตำรวจกองปราบปรามด้วยกันประมาณ 6 นาย ในวันนี้มีนักเที่ยวเข้ามาหาความสำราญกันหนาตา ต่อมามีก๊วนลูกชายนักการเมืองคนดัง 3 พี่น้องพร้อมสมุนอีกประมาณ 10 คน เข้ามานักดื่มกินที่โต๊ะติดกัน ทั้งสองฝ่ายเกิดเขม่นกันเนื่องจากมีการกระทบกระทั่งและมีการเหยียบเท้ากัน จึงเกิดท้าทายกันกัน ทันใดนั้น 1 ในกลุ่มของลูกชาย ส.ส.ชื่อคับประเทศ ชักปืนขนาด .38 ออกมาจ่อยิงเข้าที่ศีรษะของ จ.ส.ต.สุวิชัย 1 นัดแบบเผาขน พยานยังยืนยันอีกว่าก่อนที่ตำรวจเคราะห์ร้ายจะส.
ล้มลงสิ้นใจยังขยุ้มผมของมือปืนไว้แน่น

หลังจากที่สังหารศพแรกแล้วลูกชายนักการเมืองจอมแสบยังส่ายปากกระบอกปืนหาเป้าต่อไป แต่ขณะนั้นเกิดความชุลมุนขึ้นเพราะ นักเที่ยวต่างตกใจเสียงปืนวิ่งกันอลหม่านไปทั่ว ทำให้กลุ่มตำรวจที่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยไม่ได้พกปืนเข้าไปในผับ ต้องเผ่นกันอย่างไม่คิดชีวิต โดยเฉพาะนายตำรวจระดับผู้กอง ที่ถูกจ่อยิงเป็นรายต่อไปแต่ดวงยังไม่ถึงฆาตมีเหตุวุ่นวายมาช่วยชีวิตไว้

รายงานข่าวแจ้งว่าหลังลั่นกระสุน มีลูกน้องคนหนึ่งรับสมอ้างแทนลูกพี่โดยคว้าปืนไปกำไว้ แล้ววิ่งหนีออกจากผับ เพื่อแสดงตบตาว่าเป็นผู้ลงมือสังหารตำรวจชะตาขาดเอง โดยวิ่งออกมาขับรถแลนครุยเซอร์หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ส่วน 3 มารพร้อมลูกน้องก็ทำเป็นเดินใจเย็นอยู่กลางวงของสมุนปะปนกลุ่มนักเที่ยวออกมาก่อนจะเร้นกายหลบหนีไปลอยนวล สำหรับครั้งนี้ถือว่าโชคดีของกลุ่มจอมกร่าง ที่ฝ่ายตำรวจไม่มีใครพกปืนเข้าไปเที่ยว มิฉะนั้นอาจจะมีการนองเลือดด้วยกันทั้งสองฝ่าย ส่วน "จ่ายิ้ม" ผ่านงานสืบสวนมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่เริ่มงานที่สืบฯ 7 จากนั้นย้ายมาอ่ยว
ยู่ที่สืบฯ 4 จนล่าสุดย้ายมาอยู่ที่กองปราบปราม

ด้าน พล.ต.ท.อนันต์ เปิดเผยว่าขณะนี้รู้แล้วว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร สาเหตุการสังหารมาจากเรื่องการทะเลาะวิวาทในผับ ทางตำรวจได้หลักฐานจากกล้องวิดีโอวงจรปิดในผับที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ ซึ่งกำลังตรวจสอบในส่วนนี้อยู่ ส่วนในเรื่องที่มีนักเที่ยวอาวุธปืนเล็ดลอดเข้าไปนั้นอาจจะเกิดจากความบกพร่องของ รปภ. คาดว่าจะมีคำสั่งปิดผับแห่งนี้โดยไม่มีกำหนด.

p.s.: อย่าใช้นามจอที่ใช้อยู่ในweb (ผมไม่เกี่ยว ผมเปล่านะ.......)

จะใจร้ายไปไหมถ้าจะบอกว่า คนอย่างนี้น่าจะโดนวิสามัญ ทำตัวใหญ่กร่างมาหลายงานแล้ว

เห็นด้วยอ่ะ ตายไป ประเทศจะได้สูงขึ้น

เป็นคนดีจริงจริ๊ง . .ทั้งตระกูลเลย

เชื่อเถอะ! คดีนี้หลุดตายเคย มีคนช่วยเหมือนเดิมตายเคย เฮ้อ! คนอะไรก่อเรื่องได้เลวสารพัดแบบ เมื่อไหร่จะตายไปสักทีน่ะ

เมื่อคืนนี้ดูทีวีแล้วอยากจะทำลายทีวีเหลือเกิน ดันได้ดูข่าวลุงจิ๋ว สัมภาษณ์เข้าข้างหลานชายที่เลวระยำอย่างเห็นได้ชัด ทั้งกฏหมายนิรโทษกรรม และก็มีวี่แววว่าคดีนี้ก็หลุดตามเคย ถ้าจะพูกพันกันมาหลายชาติ ก็เข้าใจนะ คนมันรักเข้าแล้ว

คนอะไรก็ไม่รู้ โคตเลวเลย เกิดมาเป็นมนุษย์
ได้อย่างไร น่าจะเกิดเป็นอย่าอื่นดีกว่า!! เมื่อไหร่จะได้รับกรรมซักที

คนเรานี่แปลกนะ บอกว่าลูกหลานตัวเองไม่ได้ทำ แต่ดัน"เสือก"หายหน้า แค่นี้เขาก็รู้กันทั่ว 76 จังหวัดล่ะ ดีทั้งโคตรไอ้พวกนี้