ความคิดเห็นที่ 1
เคยเจอปัญหานี้ถึงแม้ตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าปัญหามันหมดไปหรือยัง
ตอนที่รู้ตอนแรกก็คุยกับน้องถามเขาว่าติดไหม จะไปรักษาไหม แรกๆเขาไม่ยอมรับก้าวร้าว เถียง ไม่เชื่อฟัง โขมยเครื่องประดับและเงิน บางครั้งหายไปเสพย์ยาบางครั้งนานเป็นอาทิตย์ ช่วงนั้นทั้งครอบครัวเหมือนตกนรก เรากับแม่และน้องอีกคนนั่งร้องไห้เกือบทุกวัน บางครั้งขณะที่คุยเรื่องนี้กันพ่อก็น้ำตาซึม แอบลุกไปเช็ดน้ำตา
แต่ไม่ว่าจะโกรธโมโหหรือเสียใจกับการกระทำของน้องอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ทุกคนทำเหมือนกันคือ ยังคงแสดงความรักกับน้อง เขากลับมาก็ถามทุกข์สุขหาอาหารให้ทาน เวลาเตือนก็แสดงให้เขารู้ว่าเราเตือนเพราะรักและเป็นห่วง
บางคืนเรานั่งรอจนเช้าพอเขากลับมาถามว่าทำไมเราไม่นอนเราบอกน้องว่า พี่รอหนูอยู่
ทุกคนในบ้านทำแบบนี้ พ่อพยายามเอาน้องไปทำงานด้วย(เขาออกจากโรงเรียน)มีเวลาพยายามชวนเขาไปเที่ยว น้าและอาทุกคนแสดงความห่วงใย ทักทายพูดคุยกับน้องไม่มีใครรังเกียจ แรกๆแม่กับพ่ออายไม่กล้าปรึกษากับใคร ต่อมาเราก็ทราบว่าไม่มีใครจะใจดำพอที่จะซ้ำเติมเด็กที่ผิดพลาด เราเชื่อว่าน้องสัมผัสความรักและปรารถนาดีเหล่านี้ได้ หลังๆเขาอ่อนลง มีบางครั้งขอไปเลิกยาเอง แต่ก็กลับมาเสพย์อีกเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3 หรือ 4 ปี มีครั้งหนึ่งเขาถูกจับเรื่องมียาในครอบครองแม่กับน้าไปประกันออกมาตอนไปเขาร้องไห้เมื่อเห็นน้า( มาถามทีหลังเขาบอกว่าเห็นแม่ก็กลัวนิดๆ แต่พอเห็นน้าสาวแล้วเขารู้สึกตื้อๆรู้สึก ผิด ) แม่โกหกว่าใช้เงินของน้าประกันเพราะแม่ไม่มีเงิน ช่วงนั้นเขาต้องไปรายงานตัวกับศาลเยาวชนทุกเดือนซึ่งจะมีการตรวจปัสสาวะหาสารเสพย์ติดด้วยทุกครั้ง แม่บอกว่าถ้าช่วงนั้เขามีคดีแบบนี้อีกเขาจะริบเงินของน้า หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาเขาดีขึ้น จนถึงตอนนี้ผ่านมา 2 - 3 ปี ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรอยู่บ้านเฉยๆ ออกเที่ยวบ้าง เราเองยังไม่แน่ใจเลยว่าเขาเลิกหรือยัง แต่อย่างน้อยเขาก็ดีขึ้นไม่โขมยของ รู้จักห่วงแม่ห่วงพี่ เคยคุยกับแม่เวลาหงุดหงิดที่เขาเที่ยวบ่อยหรือดื้อมากๆ แล้วเราก็สรุปแบบปลอบใจตัวเองว่าช่างมันเถอะตอนที่เขาเลวกว่านี้เรายังเลี้ยงเขาได้ แค่นี้ก็ทนไป
ตอนนี้ก็ภาวนาว่าขออย่าให้เขากลับไปติด
ไอ้ยานรกนี่อีกเลย แต่เราก็ยังไม่แน่ใจเลย
ที่เขียนมานี่ก็อยากจะบอกว่าขอให้ทุกคนในครอบครัวอดทนค่อยๆปรึกษาหาวิธีแก้ไข
เรามาเป็นกำลังใจให้กันและกันนะ โดยคุณ
:... - [0:11:39 26 พ.ค. 2544] |