กระดานความรู้สึก


พี่จิกกับซีดานโดยนิ้วกลม
ไปอ่านเจอมาในบอร์ดของพี่นิ้วกลม ชอบทั้งพี่จิกและนิ้วกลม
ลอกมาให้อ่านค่ะ


เพิ่งได้หยิบ ‘แมงกะพรุนถนัดซ้าย’ หนังสือรวมบทความ
‘คุยกับประภาส’ เล่มล่าสุดขึ้นมาอ่าน หลังจากซื้อมาวางไว้บนหิ้ง
ตั้งแต่งานหนังสือในเดือนตุลาฯ เมื่อปีก่อน

อาจเพราะเป็นผลงาน ‘ลำดับที่แปด’ ก็เป็นได้
ที่ทำให้ความตื่นเต้นอยากอ่านทันทีลดน้อยถอยลง
จำได้ว่า ตอนซื้อ ‘คุยกับประภาส’ ลำดับที่สองมาพร้อมกับหนังสือกองโต
แล้วหิ้วหอบมันขึ้นรถเมล์กลับบ้านนั้น ยังรีบเปิดอ่านตั้งแต่อยู่บนรถเมล์
เพราะชอบ ‘คุยกับประภาส’ เล่มแรกมาก และก็ใช่, เล่มสองก็ยังชอบมากอยู่ดี

หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่าน ความรู้สึกเมื่อได้หนังสือหมวด ‘คุยกับประภาส’
ติดไม้ติดมือกลับมาบ้านก็ไม่ตื่นเต้นเหมือนเดิมอีก อาจเพราะได้ทึ่ง
กับความคิดของพี่จิกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทึ่งแล้วทึ่งอีก จนสมองชา
กับอีกหนึ่ง ‘อาจ’ คือ อาจเพราะโหยหาอะไรที่มันสลับซับซ้อนมากขึ้น

อะไรที่มันอธิบายง่ายๆ ก็ได้ แต่ยิ่งอธิบายยากยิ่งชอบ

เหมือนช่วงหนึ่งที่เคยอ่านวรรณกรรมเยาวชนมากๆ
แล้วในที่สุดก็เลิกอ่านไป เพราะเริ่มรู้สึกว่า โลกจะอ่อนโยนเกินไปแล้ว

นี่ละมัง คือเหตุผลที่ ‘แมงกะพรุนถนัดซ้าย’ ถูกวางแช่ไว้ตั้งนาน

2.
พอเริ่มเปิดหน้าแรก ก็อ่านผ่านครึ่งเล่มไปแบบไม่กลัวเมื่อยแขน
เพราะช่างเพลิดเพลินเจริญสมองเสียเหลือเกิน กับความรู้ ข้อมูล
และมุมมองที่พี่จิกเอามาเรียงร้อยเข้าด้วยกันแบบ ‘ง่ายๆ’

หมายถึง ให้คนอ่านอ่านง่าย
แต่คนเขียนคงไม่ได้เขียนขึ้นมาง่ายๆ เป็นแน่

แล้วผมก็พบว่า หนังสือพี่จิกมีลักษณะบางอย่างเหมือนหนังสือธรรมะ
คือ ถ้าอ่านตอนไม่สบายใจจะสบายใจ อ่านตอนไม่สดใสจะสดชื่น
อ่านตอนเจอทางตันจะเจอทางออก อ่านตอนฟุ้งซ่านจะสงบ
อ่านตอนมีคำถามจะเจอคำตอบ และถ้าอ่านตอนจิตใจปกติจะเพลิดเพลินยิ่ง!

อีกอย่างคือ อ่านแล้วจะมีสติ
เพราะหนังสือเล่มใดก็ตามที่ชวนให้คนตั้งคำถามและครุ่นคิดหาคำตอบ
ย่อมนำมาซึ่ง ‘สติ’ เพราะคนอ่านย่อมได้หยุดคิดและไตร่ตรองกับตัวเอง
ในความสงบ

และในบางบทก็สามารถทำให้คนอ่านพบ ‘ซาโตริ’ ได้ในฉับพลัน!
เป็นการบรรลุ และตระหนักรู้เล็กๆ ที่เมื่อได้พบแล้วนำมาซึ่งความปิติ

3.
‘สุดเวหากับแค่คืบ’ คือบทนั้น
ขออนุญาตเล่าเรื่องย่อๆ จากเรื่องของท่านพี่

สุดเวหากับแค่คืบเป็นเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะแห่งหนึ่ง
ทั้งคู่เป็นยอดฝีมือที่ยากตัดสินว่าใครเก่งกว่าใคร

วาดดอกไม้ ก็เหมือนจนคนดูอยากก้มลงดมกลิ่น
วาดหญิงงาม ก็อ่อนช้อยจนอยากให้เธอร่ายรำออกมาจากภาพ
วาดชายหนุ่ม ก็หมดจดจนหญิงสาวที่มายืนดูต้องเขินอาย

แม้จะฝีมือเทียบเทียมกัน แต่นิสัยของทั้งสองต่างกันเหลือเกิน

สุดเวหา เป็นคนจริงจังมุ่งมั่น หากจะทำอะไรก็ต้องทำให้ถึงที่สุด
ต่อให้ต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาก็จะทำ ที่สำคัญ
เขาเป็นคนไม่ยอมคน ตลอดชีวิตเขาปรารถนาเป็นหนึ่งเพียงอย่างเดียว

ส่วน แค่คืบ เป็นคนพูดน้อยและมีรอยยิ้มพิมพ์อยู่บนใบหน้าเป็นนิจ
เขามักทำงานด้วยความผ่อนคลาย ราวกับว่างานเป็นอิริยาบถหนึ่ง
ของการดำรงชีวิต ไม่ต่างอะไรกับการกิน นอน หรือหายใจ
เขามักทำงานศิลปะอย่างสม่ำเสมอ ต่างจากสุดเวหาที่มักจะมุมานะ
ทำงานหนักเป็นช่วงๆ หยุดเป็นช่วงๆ

คนชอบถามว่า สองคนนี้ใครเก่งกว่ากัน?
ซึ่งทำให้สุดเวหารำคาญใจและอยากหาคำตอบ
จึงบอกอาจารย์ว่าอยากตัดสินให้รู้ๆ กันไปเสียที

อาจารย์ตั้งกติกาง่ายๆ ว่า จะวาดรูปอะไรก็ได้ ใหญ่แค่ไหนก็ได้
ให้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยให้ทั้งสองนั่งวาดอยู่ในห้องโถงเดียวกัน
ขอเพียงภาพที่วาดออกมานั้นต้องสามารถ ‘จู่โจมเข้าหาคนดูโดยไม่รู้ตัว’

สุดเวหาเริ่มวาดรูปตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ของวันแรก
เขามองออกไปที่กระจกหน้าต่างแล้วก็เริ่มร่างรูป
สายตาแดงก่ำของเขาจ้องเขม็งไปที่ผืนผ้าใบที่เขากำลังจรดพู่กันลงไป

แค่คืบมาถึงห้องโถงช้ากว่า เขานั่งมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย
ก่อนจะเริ่มจรดพู่กันลงบนผ้าใบ

เวลาผ่านไปครึ่งวัน

สุดเวหารู้สึกว่าแค่คืบแอบลอกรูปวาดของเขา จึงรีบคว้าผ้าดำ
มาคลุมผ้าใบที่กำลังวาดอยู่ในทันที แล้วก็หันไปตวาดแค่คืบว่า
ทำไมต้องมาลอกภาพของเขาด้วย ไม่มีสมองคิดเองหรือไง

แค่คืบออกปากขอโทษ ชวนไปกินข้าว เพราะเห็นนั่งวาดมาทั้งวันแล้ว
สุดเวหาไม่ไป เพราะคิดว่าแค่คืบจะมาชวนให้เขาเสียเวลา

เวลาผ่านไปหลายวัน

แค่คืบยังคงเดินเล่นบ้าง วาดบ้าง นอนมองท้องฟ้าบ้าง
จนบางคนนึกว่าแค่คืบยอมแพ้ไปซะแล้ว
ฝ่ายสุดเวหายังคงก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างไม่มีหยุดพัก

ครบหนึ่งสัปดาห์ ถึงกำหนดที่อาจารย์จะมาตัดสินว่า
ใครคือที่หนึ่งของโรงเรียนศิลปะ

ในห้องโถงแห่งนั้น มีขาตั้งผ้าใบวาดรูปสองอันตั้งอยู่กลางห้อง
ทั้งสองขาตั้งมีผ้าสีดำคลุมไว้ไม่ให้เห็นว่ารูปข้างในเป็นรูปอะไร

อาจารย์เดินไปดูที่รูปของสุดเวหาก่อน ทันทีที่ดึงผ้าคลุมสีดำออก
ผู้คนในห้องก็ส่งเสียงฮือในลำคอ เป็นภาพวาดใบหน้าของสุดเวหาเอง
เขาใช้เวลาทั้งอาทิตย์เพ่งหน้าตัวเองในกระจกหน้าต่าง
แล้ววาดภาพนี้ขึ้นมา ดวงตาของเขาในรูปแดงก่ำไม่ผิดกับตัวจริง

“มันจู่โจมคนดูโดยมิรู้ตัวไหม?” ใครคนหนึ่งพูดขึ้น
“รู้ตัวสิ ใครๆ ก็รู้ว่าสุดเวหาเป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว” อีกคนตอบ

อาจารย์ทำมือบอกให้ทุกคนเงียบเสียง แล้วเดินไปที่รูปของแค่คืบ
อาจารย์บอกให้แค่คืบดึงผ้าสีคลุมดำนั้นออก แค่คืบมองหน้าอาจารย์นิ่ง
“เปิดผ้าออกสิ แค่คืบ” อาจารย์ย้ำ
“เปิดไม่ได้ครับอาจารย์” แค่คืบพูดเบาๆ

นักเรียนทั้งหลายต่างนึกว่าแค่คืบยอมแพ้แล้ว จึงพากัน
แสดงความยินดีกับสุดเวหา ที่แค่คืบไม่กล้าแม้แต่จะเปิดผ้าออกมาสู้
สุดเวหาชูกำปั้นสุดเหยียดอย่างผู้มีชัย

อาจารย์มองแค่คืบด้วยความสงสัย แล้วเอะใจหันไปมองผ้าสีดำ
ที่คลุมผ้าใบอยู่อีกที จากนั้นรอยยิ้มของอาจารย์ก็ผุดขึ้น

“จู่โจมคนดูอย่างมิรู้ตัวโดยแท้จริง” ตาของอาจารย์จ้องเขม็ง

คงมีอาจารย์คนเดียวที่มองเห็นว่า ผ้าสีดำที่คลุมภาพวาดอยู่นั้น
มันไม่ใช่ผ้าสีดำแต่อย่างใด ที่แท้แล้ว ทั้งหมดมันคือรูปวาดผ้าสีดำ
ที่กำลังคุลมผ้าใบที่มีขาตั้งอยู่ต่างหาก

4.
การกลับมาอ่านหนังสือที่เขียนด้วยลีลาง่ายๆ อย่าง ‘คุยกับประภาส’ อีกครั้ง
ทำให้ผมรู้สึกเหมือนที่เคยรู้สึกเมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่จะพยายามล้อเล่น
กับลีลาและภาษาอันฉวัดเฉวียนชวนปวดหัว เหมือนนักฟุตบอลที่ขยัน
สับขาหลอก จนบางทีก็สะดุดขาตัวเองล้มคว่ำหน้าคะมำ

นักฟุตบอลนิ่งๆ ขยับตัวน้อยๆ แต่เกิดผลลัพธ์ใหญ่ๆ แบบซีเนอดีน ซีดาน
เมื่อเทียบกันกับไอ้หนูวัยรุ่นนักสับขาหลอกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำหรับคนดู มันก็เพลินตาไปคนละแบบ

แต่ผลลัพธ์อาจอยู่ที่การยิงประตู
เล่นง่าย หรือ เล่นยาก ถ้ายิงประตูได้ก็น่ายินดีทั้งนั้น

เด็กๆ อาจชื่นชอบที่จะใช้ลีลาหวือหวาเลี้ยงหลบกองหลัง
คนโตๆ แล้วใช้ประสบการณ์และความเก๋าส่งบอลเข้าตาข่าย

ซีดาน ขยับตัวนิดเดียวแต่มักจะจู่โจมฝ่ายตรงข้ามโดยมิทันตั้งตัว
เล่นเหมือนง่าย แต่จริงๆ ยาก

เล่นฟุตบอลเหมือนหายใจ

เหมือนทุกครั้งที่ดูทีวี ผมอยากเล่นฟุตบอลให้ได้อย่างซีดาน
และก็เช่นกันกับทุกครั้งที่ได้อ่านงานเขียนของประภาส ชลศรานนท์
ผมอยากเขียนหนังสือให้ได้อย่างพี่จิก.
โดยคุณ : เด็กชั้น3 - [11:56:47  13 มิ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 1
อันนี้พี่นิ้วกลมเค้าเขียนไว้ในบลอกนานแล้วนี่คะ..

แต่อ่านอีกทีก็ยังเพลินอยู่ค่ะ
โดยคุณ :นู๋แต๋ม - [13:12:13  13 มิ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 2
ผลรักซีดานสุดๆ เลย ขอบคุณซีดานที่ทำให้ผมมีความสุขกับการเล่นบอลและดูบอล ขอบคุณจริงๆ  จากใจเด็กสายบุรีคนนี้
โดยคุณ :เด็กสายบุรี - [16:48:33  30 มิ.ย. 2550]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....