กระดานความรู้สึก


เอามาให้อ่านอีกแล้ว "คุยกับประภาส กับพลังสร้างสรรค์งานโทรทัศน์"

ที่มา http://www.julluj.com/?p=56

(ขอบคุณ google )

----------------------------


ในงาน "คม ชัด ลึก อวอร์ด ครั้งที่ 3" ที่ผ่านพ้นไป มีรางวัลหนึ่งที่เพิ่งจัดเป็นปีแรก
คือรางวัล "ผู้อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดีเด่น" ซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
ที่คณะกรรมการมีมติมอบรางวัลให้ "จิก" ประภาส ชลศรานนท์ หนึ่งในทีมผู้บริหารเวิร์คพอยท์
ผู้คิดและผลักดันรายการดีๆ มีคุณค่า พร้อมสาระบันเทิงนำเสนอสู่สังคม โดยเฉพาะรายการ
"คุณพระช่วย" "เกมทศกัณฐ์" "ชิงช้าสวรรค์" ฯลฯ
และเพื่อให้รู้จักผู้ชายคนนี้ดีขึ้น
จึงขอนำบทสัมภาษณ์คุณประภาส มาให้ได้ "อ่านความคิด" ของเขากัน


ทราบมาว่าคุณประภาสนิยมการตั้งชื่อรายการเป็นภาษาไทย
มีเหตุผลอะไรพิเศษไหม

คำถามนี้น่าสนใจ เราอยู่ประเทศไทยแท้ๆ แต่พอตั้งชื่ออะไรเป็นภาษาไทยกลับต้องถูกมองว่าเป็นของแปลก
ผมยอมรับว่าภาษาไทยเป็นภาษาที่ยาก แต่ในขณะที่ยากก็มีลูกเล่นมากด้วย คือมันยากแต่สนุก
ส่วนตัวผมรู้สึกท้าทายกับการต้องตั้งชื่อไทย นักสื่อสารมวลชนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ตั้งชื่ออะไรก็มักเป็นภาษาฝรั่งไปหมด
จะอ้างว่าเพราะหาความหมายอย่างภาษาอังกฤษไม่ได้ ผมก็ว่ามันเกินไป บนแผงหนังสือนี่แทบจะหาชื่อนิตยสารภาษาไทยไม่เจอแล้ว
ชื่อวงดนตรีเอย ชื่อชุดเอย คิดดูว่าน่าขวัญเสียแค่ไหน

จึงเป็นที่มาของชื่ออย่าง ทศกัณฐ์
ชิงช้าสวรรค์ คุณพระช่วย สู้เพื่อแม่ ฯลฯ พยายามจะสร้างกระแสเรื่องชื่อไทยๆ หรือเปล่า

ผมตั้งชื่ออย่าง เฉลียง ไปยาลใหญ่ เยื่อไม้
ชนบทบรรเลง เพลงผลัดใบ มาก็ยี่สิบปีแล้ว ไม่เคยคิดเรื่องสร้างกระแส แต่ถ้ามันเป็นกระแสได้จริงก็วิเศษเลย

เด็กรุ่นใหม่ๆ หลายคนมองเห็นว่าอะไรที่ชื่อเป็นไทยฟังดูเชย
ชื่อฝรั่งจะเท่กว่า

ผมกลับมองว่าโจทย์ยิ่งยากยิ่งสนุก ใครว่าชื่อไทยไม่เท่
เราต้องตั้งให้เท่ อันที่จริงถ้ามันอยู่ถูกที่ถูกทาง มันก็เท่เอง อย่างรายการเกมทศกัณฐ์
ครั้งแรกมีการเสนอกันว่า รายการนี้น่าจะชื่อ THE FACE เพราะมันเป็นรายการที่เล่นเกี่ยวกับใบหน้าคน
ผมก็คิดต่อว่าทำไมต้องเดอะเฟซ เป็นรายการที่คนไทยคิดเองแท้ๆ แต่จะยกให้เป็นของฝรั่งเสียแล้ว
ก็นึกตลอดว่ามันต้องคิดออกสิ ทีนี้พอมีการตั้งกติกาเรื่องสิบหน้าขึ้นมาผมก็คิดถึงยักษ์ทศกัณฐ์เลย
มีบางคนทักมันไม่ไทยแท้ไปหน่อยหรือ ฟังแล้วคิดถึงโขน คิดถึงดนตรีไทยนะ ผมก็ว่าดีแล้วถ้าเรานึกถึงอย่างนั้น
เอาที่เราว่าลงมาในรายการให้หมดเลย แล้วเล่นมันอย่างสุดโต่ง ใช้เพลงไทยดำเนินรายการเพื่อสร้างอารมณ์ร่วม
ใช้หน้าโขนเป็นฉาก ใช้กลองทัด ใช้กรับ ใช้โหม่ง เป็นเพลงเปิดช่วง และก็ต้องทำทั้งหมดที่ว่าให้ดูไม่เยิ่นเย้อ
ดูแล้วฟังแล้วต้องเท่อย่างที่คนรุ่นใหม่รับได้

รายการคุณพระช่วยมาจากแนวคิดอย่างเดียวกันใช่ไหม

คุณพระช่วยเป็นมากกว่านั้น ตัวรายการเกมทศกัณฐ์เป็นรายการตอบคำถามชิงรางวัล
คือมันมีความเป็นสากลอยู่ แก่นของมันเป็นแบบที่เขาเรียกกันว่าควิซโชว์ คือมันมีความสนุกตรงที่คนดูได้เล่นได้ทาย
แต่เราห่อหุ้มมันด้วยศิลปะไทย แล้วมันก็กลมกลืนอยู่ด้วยกันอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนที่คิดจะใช้ศิลปะไทยก็ค่อนข้างเชื่อมั่นนะว่าศิลปะไทยมีพลัง
แล้วผมก็พบว่าดนตรีไทยสามารถสร้างความรู้สึกให้ยิ่งใหญ่ ตื่นเต้น ลุ้น รอคอย หรือเร่งเร้า
ได้ไม่แพ้ออเคสตราของฝรั่งเลย

ส่วนคุณพระช่วยเป็นรายการอีกแบบหนึ่ง คือเราไม่ได้แค่เอาศิลปะไทยมาโอบอุ้มหรือแค่มาอวด
แต่เราตั้งใจทำรายการที่เอาศิลปวัฒนธรรมไทยมาเป็นแก่นเลย รายการโทรทัศน์มันสำคัญตรงเนื้อหา
บางรายการก็พูดถึงเรื่องข่าวทั่วไป บางรายการก็พูดเรื่องความสวยความงามของผู้หญิง
เรื่องสุขภาพ แต่รายการคุณพระช่วยนี่พูดถึงเรื่องไทยๆ พูดถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นไปมา
แล้วหน้าที่ของคนทำก็คือต้องทำให้เห็นว่าของไทยเรานี่งามจริงๆ

ทำรายการนำเสนอเรื่องไทยๆ แล้วจะตันไหม

ทุกๆ เรื่องมันเป็นวัฒนธรรมหมดนะ การเมืองก็เป็นวัฒนธรรม
การศึกษาก็เป็น ผมว่าวัฒนธรรมมันอยู่ในทุกส่วนของสังคม การกินการอยู่การนอน การเล่นการร้อง
การออกเรือนมีครอบครัว ล้วนมีวัฒนธรรมทั้งนั้น นึกขึ้นมาแล้วก็แทบจะสรุปได้เลยว่า
คุณพระช่วยนี่ก็คือรายการที่นำเสนอเรื่องวัฒนธรรมนั่นเอง ไม่ตันหรอกครับ วัฒนธรรมไทยมีตั้งแยะ
แหล่งความรู้จากผู้รู้ก็เต็มใจช่วยกันเต็มที่

คุณพระช่วยน่าจะเป็นรายการทีวีรายการเดียวที่พิธีกรไม่ใส่รองเท้า

ตรงนี้สนุกที่สุด พอเราคิดจะทำรายการเกี่ยววัฒนธรรมไทย
ทีมงานก็สนุกกับความคิดตรงนี้ ตั้งแต่ฉาก เพลงประกอบ การแต่งตัว การเลือกพิธีกรก็สำคัญมาก
สามคนนี้ถือว่าลงตัวที่สุดแล้ว คุณธงชัยเขาทำหน้าที่พิธีกรนำแล้วก็สรุป เป็นคนบ้านนอกที่ฉลาด
แม้จะเรียนน้อยแต่ก็ใฝ่รู้ คุณเท่งทำหน้าที่แทนคนไทยที่อยู่ใกล้กับวัฒนธรรมมากๆ
แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปตัวจริงเขาเลยครับ เล่นลิเกมาแต่เด็ก ลำตัดฉ่อยเฉ่ยรู้หมด แต่รู้ไม่ลึกและอยากรู้แบบซนๆ
ซื่อๆ คุณทอดด์ทำหน้าที่แทนคนต่างชาติที่สนใจวัฒนธรรมไทย แล้วก็พยายามเชื่อมไปถึงวัฒนธรรมโลก
ตัวจริงเขาก็เป็นอย่างนั้น เขาเป็นนักดนตรี เป็นนักเดินทาง

แล้วก็สนุกกับความคิดมาถึงฉาก เราคิดถึงพื้นไม้กระดานก่อนเลย
เราเคยเห็นที่โรงละครแห่งชาติ แล้วก็คิดถึงความสูงของโถงในโบสถ์ในวัด ที่ทำให้มนุษย์ดูตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
สังเกตฉากในรายการได้ว่าจะเน้นความสูง ทีนี้พอเราใช้พื้นไม้กระดานแล้ว เราก็เริ่มคิดต่อแล้วว่าคนไทย
ไม่ใส่รองเท้าเดินบนพื้นไม้ มันก็เลยเป็นชุดพิธีกรอย่างที่เห็น คือถอดรองเท้า แล้วมันก็ได้ความรู้สึกดีมากทั้งคนที่อยู่บนนั้นและคนดู
พอถอดรองเท้าแล้วก็ต้องนุ่งโจงกระเบนสีแดงอย่างนักเรียนโขนเลย เพราะจะว่าไปพิธีกรเราก็เหมือนนักเรียนที่อยากเรียนรู้เรื่องราวจากผู้รู้นั่นเอง
สีรวมๆ ที่อยู่บนฉาก ตัวผู้กำกับเขาก็ละเอียดมากถึงขนาดคุมโทนให้อยู่ในกลุ่มสีร้อนๆ
ของแถบอุษาคเนย์ ชื่อช่วงต่างๆ ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะคำว่าผู้มีชัยในประชัน คุณพระย่ำกรุง
มันตามมาเป็นขบวนจากการพยายามเล่นกับภาษาเก่าๆ เพื่อให้รู้สึกว่าภาษาไทยนั้นเท่

สิ่งที่อยากเห็นในอนาคตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม

ทุกวันนี้ศิลปวัฒนธรรมไทยถูกมองด้วยสองความเห็น
นั่นคือหนึ่งเป็นของสูงที่อยู่บนหิ้ง ห้ามแตะต้อง อีกความเห็นหนึ่งก็คือเป็นของเชย
เก่าคร่ำครึ ซึ่งทั้งสองความเห็นทำให้ศิลปวัฒนธรรมไทยอยู่ไกลตัวเราออกไป ที่ถูกแล้วเราต้องนำมันมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ถ้ามันเป็นต้นไม้ นอกจากเราจะต้องดูแลมันแล้ว ดอกผลที่ผลิออกมาเราก็ควรจะได้ชื่นชม
ร่มเงาเราก็ควรได้พักพิง




ที่มา :: หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

โดยคุณ : เมล็ดฝัน - [22:02:34  5 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 1
ครับ คนแรกซะงั้น
โดยคุณ :คนกันเอง - [1:54:25  6 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 2
"เราอยู่ประเทศไทยแท้ๆ แต่พอตั้งชื่ออะไรเป็นภาษาไทยกลับต้องถูกมองว่าเป็นของแปลก"

ฟังแล้วก็รู้สึก ทึ่ง ปน เศร้า นะครับ
นี่ใช่ไหม คือ สังคมของคนกรุงเทพฯ ที่ผมเกิด-เติบโต-คลุกคลีมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ...
โดยคุณ :หมงครับ - [17:56:55  6 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 3
เริ่มที่ตัวเอง มาตั้งชื่ออะไรๆเป็นภาษาไทยอย่างที่พี่จิกบอกกันเถอะ
โดยคุณ :เมล็ดฝัน - [23:15:05  6 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 4
.......................................................

ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกียวข้อง

........................................................
โดยคุณ :ติดดิน - [16:18:21  7 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 5
สมควรแล้วที่ได้รับรางวัล
ขอคาราวะ
โดยคุณ :สันทรายน้อย - [20:13:42  7 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 6
มีคนบอกว่าทำอะไรหลายอย่างระวังจะไม่ได้ดีซักอย่าง ประโยคนี้ใช้กับคุณประภาศไม่ได้ครับ ...พี่เค้าเป็นนักคิด นักเขียน แต่งเพลง บทละคร ครีเอทีฟรายการทีวี  เล่านิทาน แนะแนว บางทีก็นักจิตวิทยา  บางทีแกอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวครับ
โดยคุณ :copy cafe - [12:19:03  9 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 7
พี่จิกคะ
ช่วยตอบคำถามเรื่องเวอร์คพ้อยท์เบี้ยวเงินเด็กแชมป์นักเต้นด้วยค่ะ
เรื่องนี้สั่นสะเทือนศรัทธาที่มีต่อพี่มากนะคะ
โดยคุณ :ริมข้างฝา - [11:02:32  10 พ.ย. 2550]

ความคิดเห็นที่ 8
ไรวะ สาดเอย
โดยคุณ :ควย - [20:35:17  9 ม.ค. 2551]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....