กระดานความรู้สึก


เรื่องฝากจากเขาใหญ่
หายหน้าหายตาไปนานแสนนาน... หวังว่าเพื่อน ๆ คงยังจำกันได้นะจ๊ะ
เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้ไปเที่ยวเขาใหญ่กับเพื่อน 2-3 คน ก่อนที่จะไปเราก็เตรียมเสาะหาข้อมูลให้พร้อมเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่า และปลอดภัย อ่านในหนังสือท่องเที่ยวฉบับหนึ่ง ซึ่งเขียนแนะนำการท่องเที่ยวโดยรถยนต์บนเขาใหญ่ โดยผู้เขียนก็แนะนำว่า เวลาที่เราขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็เปรียบเสมือนเราเป็นแขกที่มาเยือน สัตว์ป่าต่าง ๆ ไม่ว่า กวาง เก้ง ลิง ชะนี ฯลฯ คือเจ้าของบ้าน เพราะฉะนั้นเราควรจะขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะตลอดเส้นทางอาจมีสัตว์ต่าง ๆ ออกมา ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กม/ชม ซึ่งคณะของเราก็ปฏิบัติกันอย่างดี แต่เหตุไฉนรถคันอื่น ๆ พยายามบีบแตรไล่ หรือ กระพริบไฟใส่ จี้ตามก้น (ไม่รู้จะหาอะไรจากท้ายรถเราเนอะ) จนเพื่อนที่เป็นคนขับต้องชลอเข้าข้างทางให้คุณ ๆ ทั้งหลายแซงไปซะ อีกอย่างหนึ่งที่ในหนังสือแนะนำก็คือ จะมีลิงหางหมู ออกมาเพ่นพ่านเต็มถนน เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้งหลายจะคอยให้อาหาร เพราะคิดว่ามันน่ารักดี แต่ความจริงแล้ว การทำเช่นนั้น จะทำให้วงจรชีวิตของสัตว์ป่าเสียระบบไป เนื่องจากลิงจะไม่รู้จักหาอาหารกินเองตามธรรมชาติ แต่จะมารออยู่ริมทางเพื่อรออาหารจากนักท่องเที่ยว แทนที่ลิงจะเก็บผลไม้ จากต้นไม้ ซึ่งจะทำให้มีลูกไม้ต่าง ๆ หล่นลงมาจากต้น เป็นอาหารของ เก้ง กวาง และสัตว์กินพืชอื่น ๆ อีกมากมาย ก็ไม่เหลือแล้วล่ะซิทีนี้ นอกจากนี้ ลิงอาจจะติดเชื้อจากอาหารที่คนนำมาให้ ถ้าหากระบาดก็อาจตายทั้งฝูง ในหนังสือเขาเขียนว่า "ไม่ทราบนักท่องเที่ยวเหล่านี้คงแยกไม่ได้ว่า ระหว่างลิงที่เขาสามมุก กับ ที่เขาใหญ่ต่างกันอย่างไร" ระหว่างทางจริง ๆ แล้วก็มีป้ายเตือนตลอดเกี่ยวกับการใช้ความเร็ว และอย่าให้อาหารสัตว์ (ซึ่งป้ายเก่ามาก) ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ไ้ด้จัดทำป้ายใหม่แล้ว แต่นำมาติดตั้งไม่ทัน ที่เห็นแล้วสลดที่สุด ก็คือ พวกเราเห็นลิงถูกรถชนนอนตายอยู่กลางถนน และก็มีแม่ลิง ที่มีลูกลิงตัวเล็ก ๆ (เล็กมาก) คอยวิ่งตาม รถบางคันก็แทบจะไม่ชลอความเร็วเลย เฮ้อ!
นอกจากนี้ ทางอุทยานฯ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และมีหอสำหรับดูนก และสัตว์ป่าต่าง ๆ ในหนึ่งวันของการท่องเที่ยวในครั้งนี้ เราได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ว่าถ้าอยากจะดูนกต่าง ๆ ให้ไปช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็น (ประมาณ 4-5 โมงเย็น) วันนั้นเราจึงพากันไปตามคำแนะนำ แต่เมื่อถึงหอดูสัตว์แล้วก็ไม่น่าจะแปลกใจเลยว่าจะมีตัวอะไรออกมาให้เห็น เพราะมีเสียงคน และเสียงเด็ก ที่มาเที่ยว วิ่งไล่ ตะโกนคุยกัน เราก็เข้าใจนะว่าเด็ก ๆ เขาไม่รู้หรอกว่า เขาดิน กับเขาใหญ่ต่างกันอย่างไร แต่ผู้ปกครองที่พาไปก็น่าจะสอนหรือแนะนำให้เด็ก ๆ ได้รู้จักการดูสัตว์ตามธรรมชาติ ด้วยความเซ็งของเรา เราเลยใช้่เวลาอยู่ที่นั่นเพียง 20 นาที เนื่องจาก ทนเสียง "มนุษย์" ไม่ไหว แล้วคุณ ๆ เจ้าถิ่นล่ะเขาคงหลบไปพักดีกว่า สบายหูกว่ากันเยอะ...

งานนี้ขอฝากต่อไปกับเพื่อน ๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบ Eco-tourism ก็ช่วยบอกต่อ ๆ กันด้วยนะจ๊ะ เราจะได้มีป่า มีธรรมชาติ และสัตว์ป่า ที่อยู่ในถิ่นของมัน ไม่ใช่อยู่ในกรงขังของสวนสัตว์เพียงอย่างเดียว
โดยคุณ : English Teacher to be - [1:26:44  16 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 1
อืมมม อันนี้ต้องปลงมากเลย เคยเห็นคนจอดรถให้อาหารลิง ก้อไม่รู้จะไปสั่งสอนเค้าว่าอะไรดี เพราะไม่ใช่พ่อแม่เค้า
แต่เราขับรถเร็วนะ เพราะไปบ่อยแบบชินทางมาก แต่ถึงชินทางยังงัยก้อมีหลายจุดที่ไม่สามารถขับเร็วได้ และถ้ามีรถขับช้าก้อต้องช้าตามกันไป บางทีกว่าจะถึงทางที่แซงได้ก้อนานโขอยู่ ไม่เห็นด้วยกับการบีบแตรไล่กัน เพราะไม่มีหลายเลนให้วิ่งช้าวิ่งเร็ว โดยเฉพาะในป่า การบีบแตรไล่ถือว่ามารยาททรามมาก
ขอยืนยันว่าป่าเขาใหญ่ ถึงจะถูกทำลายและบุกรุกอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวอึกทึกครึกโครมทุกอาทิตย์ แต่สภาพภายในตัวป่ายังดีอยู่ มีสัตว์ป่าหลายชนิดมาก ตอนเย็นๆ ดึกๆ มีสัตว์ป่าออกมาเพ่นพ่านบนถนน เราเคยขับรถไปเจอช้างเดินอยู่กลางถนนเกือบ 10 ตัว จึงอยากขอให้ช่วยกันรักษาผืนป่าแห่งนี้ไว้ ไม่ใช่แค่ไม่ทำลายแต่ไม่ควรไปรบกวนเค้ามากเกินไปด้วย อย่างที่ English Teacherฯ บอกนั่นแหล่ะ
การศึกษาวิธีเที่ยวป่าและลักษณะป่าที่เราจะไปก่อนแบบ English Teacherฯ นี่น่ายกย่องและสนับสนุนให้ทำกันมากมากเลย ถ้าเราจะไปป่าไหนที่ไม่รู้จักมาก่อน เราจะหาข้อมูลก่อนทุกครั้ง
โดยคุณ :ชายตาบอด -_- - [7:34:01  16 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 2
กำแพงฯ เคยถูกช้างแม่ลูกอ่อนวิ่งไล่ บนเขาใหญ่นี่แหละ.. น่ากัวแต่ก็อยากไปอีกจัง
โดยคุณ :กำแพง-กำปั่น-บันได - [11:10:57  16 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 3
ให้อาหารลิงที่ตามข้างถนนที่เขาใหญ่
กับให้อาหารช้างตามข้างถนนที่กรุงเทพฯ
เหมือนกันมั้ยอะ
โดยคุณ :จอมยุทธ์น้อย - [14:22:33  16 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 4
เราเคยจัดค่ายศิลปะ-สิ่งแวดล้อมที่เขาใหญ่ช่วงปิดเทอมเด็ก ๆ เมษา,ตุลา มา 2-3 ปี ได้ไปใช้ชีวิตบนเขาใหญ่ ครั้งละเป็นเดือน ก็เลยรักและผูกพันกับที่นั่นมาก เหมือนเป็นบ้านของเราเองก็ไม่ปาน ........ รู้สึกโกรธและไม่พอใจทุกครั้งที่เห็นขยะ, คนจอดรถให้อาหารลิง
เวลาเราพาเด็ก ๆ เดินป่า ทุก ๆ ครั้ง จะมีขยะติดมือออกมาจากป่าถุงโตทีเดียว .....
ไอ้เราก็พยายามสร้างจิตสำนึกดี ๆ ให้กับเด็ก ๆ ให้รักและหวงแหนธรรมชาติ ....ซึ่งเด็ก ๆ ก็ให้ความร่วมมือในการเรียนรู้เป็นอย่างดี
แต่ได้เห็นผู้ใหญ่ "บางคน" ที่ทำอะไรขาดจิตสำนึกซะเหลือเกิน...เหนื่อยเหมือนกันเนอะ
ถ้ายังมีคนทำลาย "มาก" ขนาดนี้ คนดูแลรักษา
ก็คงจะสู้ไม่ไหว...... แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้หรอก
ยังไงธรรมชาติก็ต้องมีคนดูแล.......... อย่างน้อยพวกเราที่นี่ก็สำนึกดีอยู่แล้วเนอะ...
เจอคนรักเขาใหญ่แล้วดีใจจังเลย .....
ว่าแล้วก็ต้องหาเวลาขึ้นไปเยี่ยมเยียนซะหน่อย คิดถึงป่าจังเลย ป่านนี้คงเปลี่ยนไปพอดู
โดยคุณ :ผู้นำค่ายเขาใหญ่ - [11:36:29  18 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 5
ว่าแต่ว่าปีนี้ คุณผู้นำค่ายเขาใหญ่ จะจัดอีกเมื่อไรล่ะ แล้วถ้าไม่เด็ก จะขออาสาไปด้วยคนด้วยมั้ยเอ่ย :D
โดยคุณ :English Teacher to be - [14:53:03  19 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 6
คอนเสิร์ทศิลปินอนุรักษ์..อนุรักษ์อะไรไม่ทราบ จะไปจัดที่"เท้า"เขาใหญ่ ทำได้งัยอ่ะ??
ปล. "เท้า"เขา นี่มันไม่หยาบนะ ไม่ให้ใช้เหรอ???
โดยคุณ :ชายตาบอด -_- - [8:03:19  21 ม.ค. 2545]

ความคิดเห็นที่ 7
เขาใหญ่เป็นปอดของเราชาวไทยครับถึงเขาใหญ่หายใจให้เต็มปอดนะครับทุกๆคนใครไปเขาใหญ่ขอให้ขับรถเจอกับเจ้ารถถังนะครับแต่ขอให้อย
ในสติอย่าตื่นเต้นแล้วคุณจะรู้ว่าเจ้าช้างที่น่ากลัวจะน่ารักน่าชังสังเกตุการดํารงณ์ชีวิตของเค้ามันน่ารักอุ๊ยอ้ายๆผมคนนึงที่ชอบไปแอบถมายภาพเจ้ายักษ์ใหญ่เสมอเมื่อมีเวลาว่างจากการงานมีหลายภาพมากเห็นแล้วนึกถึงญาติผู้ใหญ่ที่บ้านจริงๆครับช้างบางตัวเนี้ยอายุเท่ากับยายผมเลยเจอเนี้ยแท้บยกมือไหว้เลยจริงๆนะคุณใครไปเที่ยวมาก็เล่าให้ฟังบ้างเน้อขอบคุณครับ
โดยคุณ :bass man - [15:52:21  5 พ.ค. 2551]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....