จดหมายเปิดผนึก ถึงคณะที่ปรึกษาฯ เรื่อง "ไอ้หมอนั่น"

ตามที่คณะที่ปรึกษาได้ให้คำแนะนำในการจีบ "ไอ้หมอนั่น" อย่างแนบเนียน
ด้วยการส่ง sms ไปหาทุกๆ วัน เปรียบดั่งการหยดน้ำลงบนหินให้หินกร่อนนั้น

หลังจากที่ลองทำตามมา 3 วันพบว่า ขณะนี้หมดเรื่องที่จะส่ง sms ไปซะแล้ว
จึง(จำใจ)ส่งจดหมายมาปรึกษาคณะที่ปรึกษาฯ ว่า ส่ง sms ไปอย่างไรดี
เพื่อให้ผู้รับไม่ออกอาการเหวอ รับมือการถูกจีบไม่ทัน และหนีหายไปจากชีวิตอย่างไร้ร่องรอย

ทั้งนี้ จากสถิติการส่งข้อความ 3 วันที่ผ่านมา
"ไอ้หมอนั่น" ติดต่อกลับมาเพียงครั้งเดียว T^T
นอกนั้น เหมือนหายสาบสูญไป เป็นที่สงสัยและข้องใจว่า ตกลงมันได้อ่านไหมฟะ

จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณาให้ความช่วยเหลือ


ป.ล. อนุญาตให้ใช้นามจอแฝงได้ในกระทู้นี้ หากท่านไม่ต้องการเปิดเผยตัว
ป.ล.2 หากท่านไม่ใช่คณะที่ปรึกษา แต่มีคำแนะนำดีๆ กรุณาแนะนำผู้น้อยด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

หากมีคำถามอื่นใดอีก โปรดทิ้งข้อความไว้แล้วจะเข้ามาตอบอีกทีขอรับ

โดยคุณ :

ขอตัวอย่าง sms ไปกลับ ทั้ง 3 วันที่ผ่านมาด้วยครับ

ถ้า...ไอ้หมอนั่น...ของคุณ  หายตัวไปก็ธรรมชาติสร้างมา...

ขึ้นอยู่ว่าคุณชอบเจอแบบไหนมั้ง???... แล้วแต่ชอบครับ...

คงไม่มีข้อแนะนำที่ดี...ขอให้สมหวังละกันครับ...

โดยคุณ :

หมอนั่นอาจจะจน..
แนะให้ใช้วิธีเจ๊คิ้ม เติมเงินให้ผู้ชาย แล้วให้ผู้ชายsmsหา
แต่หนูว่าเจ๊เติมให้มัน แล้วมันจะเอาเงินเจ๊ไปโทรหาสาวอื่นอะดิ!!

ปล. ใครแนะนำเนี่ย ส่งsmsหาทุกวันมันแนบเนียนตรงไหน!? แถวบ้านเรียกจีบโต้งๆ
ซึ่ง..หนูว่า ก็จีบโต้งๆไปเหอะ ไม่งั้นมันไม่รู้หรอกว่าจีบ บางเรื่องเพศชายก็ไอคิวต่ำ

โดยคุณ :

เรื่องส่ง SMS ไปแล้วเป็นที่สงสัยและข้องใจว่า ตกลงมันได้อ่านไหม
กรุณาลงทุนเช่นเดียวกับพี่
โดยการทำ Delivered Receive ให้มี SMS ตอบกลับว่าส่งถึงเครื่องทางโน้นแล้ว
(DTAC คิดครั้งละบาท เจ้าอื่นไม่รู้)

เคยกระทั่งโทรถาม AIS ว่าถ้าผู้รับอยู่ต่างประเทศ แล้วใช้ Roaming อยู่
Delivered Receive จะคำนวณยังไง
(นับที่ส่งถึงเครื่อง / ส่งถึง Provider ปลายทางในประเทศนั้นๆ / ??)

ส่วนตัวอย่าง SMS - MMS
บางทีใช้สมัคร DTAC Free Zone แล้วมันจะส่งมาให้เราใช้
.... ถ้าตอนนี้ไม่มีใช้เลย
เดี๋ยวพี่ FW ไปให้

....จาก คณะที่ปรึกษา และไม่ต้องการเปิดเผยนามจอ (ถ้าฉลาด แกจะแปลนามจอพี่กลับมาได้เอง อิอิ)

โดยคุณ :

ยุคสมัยเปลี่ยนไป .....

เราว่า มันจะไม่ได้ผลน่ะซีคะ ยิ่งเขาเงียบไป มันคล้าย ๆ กับว่าเขาจะไม่ชอบใจหรือเปล่า ลองเปลี่ยนวิธีเป็นวิธีแกล้งเจอแบบเนียน ๆ บ่อย ๆ จะดีกว่าป่ะคะ อิอิ ช่วยท้าวความหน่อยว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง เผื่อนึกวิธีออก -_-'

โดยคุณ :

เพิ่มเติมเรื่องราว

ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนที่เจอตอนไปเรียนภาษาค่ะ
ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่เพื่อนคนอื่นๆ ส่งคำถามมาบ่อยมาก
ว่าเราสองคนเป็นอะไรกันหรือเปล่า (แค่ "ไอ้หมอนั่น" นะคะ
เพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ ไม่เคยมีคำถามใดๆ มาเลย)
ก็เลยเริ่มเก็บมาคิดมาก (ถ้าเพื่อนไม่พูด เราก็ไม่คิด ฮา)

พอดีว่า เขาเป็นคนนิสัยค่อนข้างดี เวลาเราถืออะไรก็จะเอาไปถือให้
(บางที ไม่ยอมให้เราถือ บอกเราว่าถุงนี้หนักไปหาอย่างอื่นถือไป
แต่พอเพื่อนผู้หญิงคนอื่นถามว่าช่วยไหม เขาก็ส่งให้หน้าตาเฉย)
ไปกินข้าว ไปดูหนัง ก็ออกเงินให้ตลอด ให้เงินไปก็ไม่ยอมรับ
ถ้าทางบ้านเรามีงานก็พยายามจะมาร่วมงานตลอด (ให้เหตุผลมาว่า อาหารบ้านเราอร่อยดี)
อย่างเวลานัดเจอกัน ก็มักมีของติดไม้ติดมือมาให้ (บางทีมันก็เพิ่งซื้อจาก supermarket ชั้นล่างน่ะล่ะ)
ไปเที่ยวต่างประเทศเขาก็ซื้อของมาฝากเราคนเดียว (แต่... มันอาจเป็นเพราะตอนคุยกัน เราแซวว่า อย่าลืมของฝาก)

พอรวมๆ การกระทำของเขาแล้วมันสร้างความประทับใจให้เราพอสมควรค่ะ
เคยเอาไปถามเพื่อนผู้ชายดู มันก็บอกว่ามีแนวโน้มนิดหน่อย
แต่หลังจากรอมาสักระยะก็ไม่เห็นแนวโน้มมันจะพัฒนาไปไหน
ก็เลยกะว่าจะส่ง sms ไปลองกระตุ้นเขาดูสักหน่อยน่ะค่ะ
เผื่อยังไงแนวโน้มที่ว่าไว้มันจะได้กระเตื้องขึ้นนิดนึง

สำหรับคนที่ถามเรื่อง SMS มา
ครั้งแรกเป็นเมสเสจเล่าเรื่องความประทับใจในคอนเสิร์ตค่ะ
ส่วนครั้งหลัง มีคณะที่ปรึกษาหนุ่มบอกให้ส่งแบบคำถามปลายเปิดไป
ก็เลยเชื่อแล้วส่งไปถามว่าสนใจจะไปทริปด้วยกันไหม
แล้วเขาถึงโทรกลับมาถามรายละเอียด และคุยถึง SMS ก่อนหน้าด้วย
(แปลว่าเขาได้รับ แต่ขี้เกียจโทรกลับใช่ไหมเนี่ย)

มีอะไรถามอีกได้ค่ะ โฮะๆ

โดยคุณ :

ทีฯ

ไม่อยากจีบโต้งๆ อ่ะ
เดี๋ยวเขาไม่ได้คิดอะไรแล้วจะขาดคนเลี้ยงข้าว

โดยคุณ :

ชวนไปดูหนังกันสองต่อสองเลย
ชวนไปกินข้าวกันสองต่อสองเลย
ชวนไปเที่ยวเสม็ด เพราะไปเสม็ด ..ทุกราย 555

ทำเป็นฟอร์มเล่นตัวจริง ๆ ผู้ชายคนนี้ ถ้าเขาทำอย่างนั้นกับทุกคนก็ไม่แปลก นี่ทำกับคุณไม่กล้าฯ อย่างที่เล่าคนเดียว เก้าสิบเปอร์เซนต์กว่า ๆ เชื่อได้เลยว่ามีใจ แต่ฟอร์มเยอะ หรืออาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายที่จะเอ่ยคำรัก เพราะมันเขิน  (แต่อย่าลืมเผื่อที่เหลืออีกกว่า ๆ ของเปอร์เซนต์ด้วยนะ จะกลายเป็นเราคิดไปเอง)

โดยคุณ :

ไม่ได้บอกให้ส่งทุกวัน แค่บอกให้ลองส่งไปหาดู
จะส่งทำไมทุกวันฟะ เปลือง  2-3 วันครั้งก็พอ sms บางครั้งอาจไม่ได้เปิดอ่าน จนเวลาผ่านไปนานได้ (เคยเป้ฯอะ 2 วันเพิ่งเห็น)

ส่งไปทักทายตามประสา บอกเล่าชีวิตก็ได้ นานๆคุยที ก็ทำเหมือนเล่าเรื่องชีวิตอะ  เช่น

ทำงานเบื่อจังเลย  ... กทม ฝนตกอีกแล้ว ทางโน้นเป็นไงบ้าง

หนังเข้าใหม่หลายเรื่อง ดูเรื่องไหนดีละ (ถามไป เผื่อมันตอบ จะได้ดูหนังฟรีอีก)

ส่งไปแบบเหมือนเล่าเรื่องราว ธรรมดาอะ ส่งไปเรื่อยเปื่อยก่อน ดูปฏิกิริยาตอบรับ

อย่าลืมจิ มันทำงานเวลาไม่เหมือนชาวบ้าน เลยอาจยังไม่เปิดอ่านข้อความได้อะ


นึกอะไรออกจะมาอีกละกันนะ

โดยคุณ :

ตูเดาชื่อนี้ได้ล่ะ sa^r@i@n__

มืออาชีพมาตอบแล้วค่ะ.....

1. จากข้อมูลที่เล่ามา อืม...."มีใจ"....แน่นอน แต่...ที่เค้าไม่พลีพลาม คิดได้ดังนี้
- จากการอ่านดู และข้อมูลของคนที่เวียนวนในเวบนี้ อายุของทั้งคู่ ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วใช่ไหม วิเคราะห์ว่าชายคนนี้ เป็นคนใช่ได้ทีเดียว ใช่ ๆๆ ถูกใจเธอคนนี้ แต่ไม่ได้กระโตกกระตากบอกรักไปมั่ว ๆ แต่ทีเล่นทีจริง เลี้ยงไว้เพื่อดูนิสัยใจคอ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไปเด็ดขาด
- หรือ...มองโลกในแง่ร้ายหน่อย ๆ เค้ามีใครอยู่หรือเปล่า พูดง่าย ๆ มั่นใจแค่ไหนว่าเค้าไม่ได้มีแฟนอยู่แล้ว หรือ เค้าไม่ได้มีลูกมีเมียอยู่แล้ว อันนี้สำคัญมาก ๆ เช็คให้ชัวร์นะ เค้าถึงได้แค่ทีเล่นทีจริงอยู่นั่นแหละ

ถ้าเช็คข้อด้านบนว่า ยังโสดสนิทจริง ๆ ก็ยินดีด้วย คราวนี้มาเค้าเรื่องกันเลย

ผู้ชายแบบนี้ ผู้เชียวชาญแนะนำให้ใช้เทคนิคน้ำซึมบ่อทรายเช่นกัน

1. ผู้เชียวชาญไม่ชอบ sms อ่ะ เปลือง อิอิ ผู้เชียวชาญชอบเมลมากกว่า แต่ก็นะ แล้วแต่สะดวก เราว่า sms มันดูกระโตกกระตาก เหมือนจีบเกินไป อีเมล์มันเหมือนเพื่อน ๆ อ่ะ แล้วมันจะซึม ๆ ไปมากกว่าความว่าเพื่อนเอง อิอิ แต่ต้องดูลักษณะการทำงานของผู้ชายด้วยนะ เค้าเปิดเมล์บ่อยแค่ไหน ถ้าไม่ใช่คนนั่นหน้าคอม ไม่แนะนำ กลับไปใช้ sms ดีกว่า
2. ที่ว่าส่ง sms นี่... มีโทรคุยกันหรือเปล่า ปกติเวลาผู้ชายเค้าจะจีบหรือเค้าจะศึกษาสาว ๆ นี้ เค้าจะโทรหานะ นี่ไม่โทรกันเลยหรอ ประเด็นนี้สำคัญมาก ๆ นะ ถ้าไม่มีโทรคุย หมายถึงต้องผู้ชายโทรมาหาเรานะ อันนี้ต้องคิดหนักทีเดียว
3. กลับมาเรื่องอีเมล์ แนะนำให้เผลอเขียนคำว่า "คิดถึง" ลงไปท้ายจดหมาย หรือ sms ก็แล้วแต่ แล้วรอดูปฏิกิริยา
4. ถ้ามีโทรคุยกัน แนะนำให้บอกว่า "เฮ้ย...หนังเรื่องนี้หนุก อยากดู ไปดูกันไหม" กรุณาทำให้เนียน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าทำได้ ให้ดูเหมือนเพื่อนชวนเพื่อน (อย่าลืมว่าเราใช้เทคนิคน้ำซึมอยู่) แล้วก็ไปดูหนังซะ ระหว่างออกเดทนั้น มารยาหญิง เสน่ห์ทั้งหลาย ความสามารถพิเศษ กวาดดดด ออกมาใช้ให้หมดทีเดียว กรุณาเลือกชุดที่สวยที่สุดใส่ไป (ตามกาลเทศะอ่ะนะ)

5. อย่าลืมเผื่อใจไว้ด้วย เค้าศึกษาเรา ในขณะเดียวกัน เราก็ศึกษาเค้าไปด้วย ใช่จะรู้ ว่าเค้าศึกษาเราคนเดียวหรือเปล่า ถ้าเป็นคู่กัน มันก็คงไม่แคล้วกัน แต่ถ้าเราไม่ใช่คนที่เค้าต้องการ เราก็เผื่อ ๆ ใจไว้ด้วยนะจ๊ะ จากประสบการณ์ผู้ชายเยอะแยะออก ที่เค้าทำดีกับผู้หญิงโดยไม่คิดอะไรมากมายอ่ะ (เทียบดารา ก็ประมาณฟลุ๊ค แบบนั้นอ่ะ)

6. ให้เวลาตัวเอง เช่น 6 เดือน หรือมากกว่า ถ้ายังมาทำสนิทสนมกันอย่างนี้ แต่ปากหนักไม่พูดอะไรสักที ด้วยเหตุจะว่า เขิล หรือ ยังไม่ชัวร์ หรือ อะไรก็ตาม
ให้เริ่มเข้าโหมดนิ่ง......เลิกติดต่อ แล้ว ชายหนุ่มถ้าเค้ายังมีใจกับเรา จะเริ่มกระวนกระวายเอง ถึงตอนนั้นให้บอกไปเลยว่า เฮ้ย เราเริ่มชอบเธอแล้วว่ะ เราไม่อยากเจ็บ ถ้านายไม่คิดอะไรกับเรา เราขอถอนดีกว่า.....แล้ววันนั้น เราจะได้คำตอบว่าเค้าจะคิดอย่างไรกับเรา

ผู้เชี่ยวชาญระบุนามจอไปแล้ว ถ้า จขกท รู้จักผู้เชี่ยวชาญแล้ว
อยากเล่าอะไรเพิ่มเติม หรือ มีข้อสงสัยเพิ่มก็เมลมาแล้วกันนะจ๊ะ

โชคดีค่ะ

โดยคุณ :

เล่าเพิ่มแทนเจ้าของเรื่อง

ไอ้หมอนั่น (ฝ่ายชาย) นั่งรถจากต่างจังหวัดเข้ากรุง เพื่อมา "ขอ" ดูหนัง กะฝ่ายสาวเจ้า แล้วก็ตีรถกลับไปทันที
อยู่หลายครั้งหลายคราค่ะ
เพราะงั้น มุขชวนดูหนังท่าจะไม่ได้แล้ว

ถึงผู้เชี่ยวชาญ (เด็กน้อยไม่ยอมเรียน) :

ก็เพราะเขาไม่โทรมาจีบบ้างเลยน่ะสิคะ โทรมาก็เฉพาะตอนมีธุระเป็นส่วนใหญ่
ไปดูหนัง กินข้าว เราชวนเขาหลายรอบแล้วฮับ
แต่เวลาเขาชวนเราไม่สามารถไปด้วยได้ เพราะเขาชอบหนังสยองขวัญอ่ะ ฮือๆ

อีเมล์ เขาไม่ใช่คนนั่งทำงานหน้าคอมอ่ะค่ะ โอกาสตอบน้อยมาก


ถึงคุณป๋า :

ที่บอกมาทำไปหมดแล้วฮะ จริงๆ ถ้าไม่ได้ไปเสม็ดกันเนี่ย
เราคงไม่โดนเพื่อนถามจนเอามาคิดมากหรอกฮับ แหะๆ


เดี๋ยวส่ง sms ไปเรื่อยๆ ฮะ คุยมั่วๆ ไปเรื่อย สักวันเขาคงรับสารได้ซะที

โดยคุณ :

เอ้ย...อยู่ ต่างจังหวัดหรอ.....เช็คข่าวดียังอ่ะ โสดแน่อ่ะเปล่า

เนี่ย เธอรู้ไหมจ๊ะ...การดูหนังสยองขวัญมันเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะได้...แสดงมารยาหญิง...หัดไปดูซะ!!!!

เออ...แล้วเค้าไม่เคยหยอดคำหวานบ้างเลยหรอ
เพื่อนผู้ชายเราบางคนมันเป็นสไตล์นี้นะ คือ..ไปดูหนังด้วย ไปกินข้าวด้วย ไปเสม็ดด้วย (สองต่อสองด้วยนะ) กับเพื่อนผู้หญิงใด ๆ ก็ได้ โดยไม่คิดอะไรก็มีนะ มันสร้างข่าวได้กับทุกคน แต่สุดท้ายมันไม่คิดอะไรด้วยเลย

นี่เค้าไม่ได้มี ไซน์ อย่างอื่นบ่งบอกความพิเศษบ้างเลยหรอ

ถ้าไม่มีจริง ....อืม มีให้เลือกสองช้อยส์
1. หาจุดอ่อนให้ได้ เช่นเค้าชอบหนังสือประเภทไหน หรือมีปรัชญาชีวิตอย่างไร อันนี้ต้องล้วงมาให้ได้เพื่อวางแผนต่อไป
2. ถ้าไม่มีไซน์จริง ๆ ให้เริ่มทำใจ แล้วหาเป้าหมายใหม่ แต่ก็ต้องเลี้ยงคนนี้ไว้ก่อน เผื่อสักวันน้ำที่พยายามหยดมันจะได้ผล

โดยคุณ :

เขาชอบอ่านหนังสือแนววรรณกรรมเยาวชนแบบแฟนตาซี อ่านแนวสืบสวน
(ตามที่เขาส่งหนังสือมาให้นะ ฮ่าๆ) เดี๋ยวจะไปหลอกถามเรื่องอื่นมานะฮับ

ไซน์ที่ว่ามันประมาณไหนอ่ะค่ะ ซื่อบื้อค่ะ

มารยาหญิง - - คือ ไม่อยากจะบอกว่ายายนี่พลาดไปเยอะ
แอบแทะโลมหนุ่มอื่นต่อหน้าต่อตาเขาก็หลายครั้ง ><
สงสัยเพราะเหตุนั้นเขาเลยชิ่งหนีไปกระมัง

โดยคุณ :

บอกอาชีพ ของไอ้หมอนั่นไปเลย
ผู้เชี่ยวชาญจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น

โดยคุณ :

"ไอ้หมอนั่น" เป็น "หมอ" ฮับ

ส่วนเรื่องมีครอบครัวแล้วหรือไม่นี่
เท่าที่เคยเจอครอบครัวเขามาไม่มีนะคะ
แล้วเขาก็เพิ่งออกไปอยู่ต่างจังหวัดสักปีที่ผ่านมา

บอกไปขนาดนี้ มันจะมาอ่านเจอไหมเนี่ย

โดยคุณ :

แนะนำว่าลองไปร้านหนังสือ  จะมีแนว...บีบผู้ชายให้อยู่ในกำมือ...มากมาย

แต่รู้สึกว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่แนะนำ อ่านแล้วยอมรับว่า...โอเค... ว่าแต่ถ้าหมอ หมายถึง แพทย์

คิดว่าคุณน่าจะมีคู่แข่งไม่น้อย...ลองเพิ่มความถี่(โอกาส)ในการเจอกัน อาจต้องใช้เวลาแสดงความจริงใจหน่อย...

หรือไม่ก็รวบรัดตัดความไปเลย (ถ้ามั่นใจว่าเขาพอจะมีใจกะเราอยู่บ้าง)   ดูจังหวะ และให้เนียนนะครับ

คิดว่าคุณคงรู้ละเอียดมากที่สุดมั้ง???ไม่รู้ว่าคุณรักเขาจริงๆรึเปล่าเท่านั้นเอง...ไม่ล้อเล่นมั้ง?

คุณเด็กน้อยไม่ยอมเรียน...เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ...
แต่ถ้าเราเป็นผู้ชายคนนั้น...เราเองก็ไม่ค่อยชอบ
ผู้หญิงที่แสดงออกมากเกินไปน่ะ...ที่เค้านิ่งๆอยู่
คงรอดูท่าทีของเรารึเปล่า...

เอาในมุมมองเราละกันนะ...เราเองก็เป็นเหมือนกับ
"คุณหมอนั่น" นั่นแหละ...เราชอบที่จะดูแลเทคแคร์
ใครซักคน โดยที่ไม่ได้หวังว่าจะต้องเป็นแฟนกับเค้า
แค่ได้มีเพื่อนซักคน ไปดูหนัง ทานข้าว คลายเครียด
เท่านั้นก็พอ...อาจจะคิดอยากมีใครซักคนอยู่เหมือนกัน
แต่กลับรู้สึก...เสียดายความเป็นเพื่อน...ไม่อยากเปลี่ยนแปลง

เปรียบคุณหมอนั่นเป็นเหมือนผีเสื้อหล่ะมั้ง...ถ้าเราคิด
หรือพยายามแตะต้อง...มันก็จะบินหนีไป...เมื่อไหร่
ที่เราอยู่เฉยๆ...มันก็จะบินมาเกาะแกะอยู่ใกล้ๆ
ให้เรารู้สึกดีดี...แต่ห้ามแตะต้องนะ...มันบอบบาง
วู้ๆๆๆๆ....ขอโทษท่านอื่นด้วยนะ...บังเอิญเพลินไปหน่อย
เราเองก็เป็น "ไอ้หมอนั่น" ของใครบางคนอยู่เหมือนกัน
แต่เราก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้...

โดยคุณ :

ผมได้อ่านดูแล้วมีความเห็นว่า
หากเราอยู่นิ่ง เหยื่อจะไม่กินเบ็ดฉันใด
การชิงลงมือก่อนก็ควรจะได้เปรียบฉันนั้น
(ภาษิตประเทศใดหว่า)
และก่อนอื่นจะทำการใด ควรศึกษาเสียก่อน
มิเช่นนั้นจะเข้าภาษิต ลบร้อยครั้ง เขียนใหม่ร้อยครา
ส่ง sms ไปแล้วเขียนว่า...รอต่อภาคสอง
จะได้เพิ่มความตื่นเต้น ดีปะ

เป็นกระทู้ที่ทำให้มีคนมาตอบได้เยอะจริงๆ

เรื่องแบบนี้ ที่ปรึกษาเพียบ 555  

เจ้าตัว อ่านแล้วลองคิดดูเองนะว่า จะเลือกของใครดี

ลงชื่ออะไรดีเนี่ย ขี้เกียจคิดแล้ว

โดยคุณ :

เรื่องอย่างนี้ ลุ้นระทึกได้ทุกวินาที
ไม่มีอะไรจะบอก นอกจากส่งกำลังใจมาให้
แล้วก็...เพลงนี้

http://www.chaliang.com/Song.asp?ID=43

โดยคุณ :

" คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน "

อ่านไปอ่านมา คิดถึงพี่ "ศุราณี"

โดยคุณ :

เหมือนป๋าเมื่อก่อนเลยวุ้ย  แต่ป๋าไม่ชอบหนังสยองขวัญ

อันนี้แม่แฟนป๋าบอกแฟนป๋าเรื่องเช็คว่ามีครอบครัวอยู่หรือเปล่า คือจริง ๆ ป๋าก็ไม่มีครอบครัวจริง ๆ นั่นแหละ เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วการเช็คแบบนี้เช็คได้จริงได้แค่ไหน
คือคุยอะไรกันเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว เขาก็แกล้งไม่เชื่อ ป๋าก็เลยบอกว่าให้ไปถามแม่ป๋าว่าป๋าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาก็เลยมั่นใจเรามากขึ้นว่าไม่มีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดจริงๆ เพราะป๋ามักจะให้ไปถามแม่ป๋า (แฟนเคยเจอแม่ป๋า)  แต่แฟนป๋าก็ไม่เคยไปถามแม่ป๋าหรอก

ในฐานะที่ป๋าเป็นผู้ชาย บอกได้เลยว่าดีใจนะเวลาที่เห็น SMS หรือว่าได้พูดได้คุยเล็กน้อยกับคนที่เรามีใจ  แต่ว่ากับคนเป็นหมอนี่ เดาใจยากนะ เพราะว่าคนเป็นหมอนี่เรื่องจิตใจนี่สำคัญ  ส่วนป๋า แค่เห็นเลือดก็แทบเป็นลมแล้ว เอิ๊ก..

มีฮยู่เคสหนึ่งคือเพื่อนป๋าเป็นเภสัชแล้วมีแฟนเป็นหมออยู่ต่างจังหวัด สุดท้ายก็คอนเวิร์สกันไปอะ เคสนี้ก็อย่าเป็นอย่างนั้นเลย เนอะ

โดยคุณ :

โห...กระทู้คลับฟรายเดย์...

เอาใจช่วยเจ้าค่ะ

โดยคุณ :

หลังจากส่ง SMS ว่า...รอต่อภาคสอง... แล้วสิ้น 1 วัน
ให้ส่ง SMS ต่ออีกว่า ...อะไรเอ่ยมีหลายห้องแต่อยู่ได้ 1 คน....
แล้วตามด้วย...กรุณาติดต่อกลับด้วย....
ลงท้ายว่า....เพื่อรับคำตอบ....
ดีไหม

เราคงไม่เปลี่ยนชื่อละ

แต่จะบอกว่า

เราว่าคนนั้นเค้าได้รับทุกข้อความนะจ๊ะ

ต้องคอยดูท่าทีต่อไป ว่าเค้าจะทำยังไงต่อ

ลองส่งไปทุกวันสิ

สักระยะ

แล้วพอรู้สึกว่าเค้าคุ้นชิน ก็หยุดส่ง

ดูซิเค้าจะทำไง

ส่ง MMS เป็นรูปไปด้วยนะ เค้าจะได้รู้จักเราไง

ถ้าเค้ารู้สึกดีๆ

วันที่เราหายไป เค้าก็จะติดต่อกลับมาค่ะ

โดยคุณ :

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นฮับ
ได้ข้อคิดดีๆ เพิ่มเยอะเลย

คุณ ณรงค์เดช เดี๋ยวจะลองเอาความคิดคุณไปดัดแปลงส่งไปค่ะ

คุณ อ้อม ส่ง MMS ไม่ได้ค่ะ มือถือไม่ไฮโซพอทั้งคู่เลย

โดยคุณ :

โดยคุณ :อิคคิว (ไม่เชี่ยวชาญและยังโสด) - [21:12:45  12 ก.ค. 2551]

ทุกคนคะ ไอ้อิคฯแอบประกาศตัวว่าโสด

โดยคุณ :

อิคคิวมีวาระซ่อนเร้นหรือเปล่าเนี่ย
ฮุฮุ

5555
กระทู้เริ่มเบนไปทางอิคคิว แล้ว...

อืม มีคนช่วยตอบเยอะมาก ๆ เลย เห็นด้วยกับคุณ green อ่ะ
เค้าคงประมาณว่ามีใจ แต่ยังไม่อยากมีใคร....
แนะนำให้ทำตัวดี ๆ แบบที่เป็นอยู่ คิดว่าการที่เป็นตัวของตัวเองอย่างนี้คงถูกตาต้องใจเค้ามิใช่น้อยแล้ว ก็สมควรเป็นอย่างนี้ต่อไป

ที่สำคัญก็อย่าเพิ่งกระโตกกระตาก ... แนะนำให้ทำใจสักหน่อย
มันคาดเดายากจริง ๆ ผู้ชายฉลาด ๆ นี่ บางคนเค้าแยกระหว่าง
"ผู้หญิงที่ถูกใจ" กับ "ผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วย"  ออกจากกันนะ

แนะนำให้เผื่อใจ แต่ไม่ท้อแท้ มีเวลาก็ไปชมผีเสื้อตัวอื่นบ้าง
ถ้ามีโอกาส โดยไม่ทำให้ผีเสื้อตัวเก่ารู้ และเสียน้ำใจเกินไป

sms ก็ส่งไปเรื่อย ๆ แหละนู่นนี่ ๆ ไปเรื่อย ๆ
เดี๋ยววันนี้ตอนเย็นจะเจอเพื่อนชายที่เป็นประมาณว่า สร้างข่าวไปได้เรื่อยโดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีสามคนหนึ่งจีบมันติดแล้ว เดี๋ยวจะไปล้วงว่าสาวคนนั้นใช้เทคนิคอะไร

โดยคุณ :

ช่วยแก้คำผิดให้นะ คุณเด็กน้อยไม่ยอมเรียน...
" ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีสาวคนหนึ่งจีบมันติดแล้ว"
ต้องไปถามสาวใช่ไหม๊...ทำไมไม่ถามเพื่อนชายของคุณหล่ะ
ว่าประทับใจอะไร...ในหญิงสาวคนนั้น

รอใครซักคนมาตั้งกระทู้ใหม่ๆโดนๆดึงดูดสมาชิกที่นี่
ให้มีกิจกรรมร่วมกันอีก...อย่างน้อยก็อยากเห็นคอมเมนท์
คนละอันก็ชื่นใจแล้ว...

ขอบคุณคนที่ตั้งกระทู้นี้นะ...ใช้ได้เลยทีเดียว
อ่านซะเพลินเลย...หลายคนคงชอบเช่นกัน...
(ขออนุญาตตอบอีกทีนะ...)

โดยคุณ :

ตอบคุณ Green
จริงๆ อาจต้องถามทั้ง 2 ฝ่ายนะ
ฝ่ายหญิง อาจใช้วิธี A B C .....
แต่ฝ่ายชายไม่รู้ตัว กลับไปประทับใจเรื่อง ก ข ค .. ก็เป็นได้

    ทุกคนคะ ไอ้อิคฯแอบประกาศตัวว่าโสด

โดยคุณ :ทีฯ - [18:09:05  13 ก.ค. 2551]

อ่าว..... ไม่ได้เข้ามาแป๊บเดียว กลายเป็นงี้ไปได้ไงเนี่ย - -'

ป.ล. ทีฯ ผู้ชายที่ฉันกรี๊ด ส่วนใหญ่มีลูกสาวแล้วว่ะ
ฉันรอจีบลูกสาวพี่เค้าเลยดีมั้ยวะ

โดยคุณ :

หลังจากใช้ทุกที่ว่าส่ง SMS ไปได้สักหนึ่งชัวเพลา
ให้ดำเนินการแผนลับขั้นต่อไปก็คือ
ทำ miss call แต่อย่าบ่อยมาก
ให้พองามเล็กน้อย ถ้าหากเขาโทรกลับมาว่ามีอะไร
หรือจขกท.โทรไปเหรอ ก็ให้ทำเสียงงงๆ
(หน้าไม่ต้องงงก็ได้เพราะเขาไม่เห็น)
บอกไปว่าเปล่านิ สงสัยปุ่มมันไปโดน
พอหลายครั้งเขาน่าจะเอะใจว่าทำไมปุ่มโดนบ่อยจัง
ก็บอกไปว่าเราเซฟชื่อเขาเป็น speed dial
เพื่อความสะดวกและเป็นคนสำคัญ
ดีไหม

มีคนได้อานิสงส์มากกว่าหนึ่งแฮะกระทู้นี้

โดยคุณ :

ป.ล. ทีฯ ผู้ชายที่ฉันกรี๊ด ส่วนใหญ่มีลูกสาวแล้วว่ะ
ฉันรอจีบลูกสาวพี่เค้าเลยดีมั้ยวะ
โดยคุณ :อิคคิว (โสดก็สุขดีนะเออ :) - [20:04:17  14 ก.ค. 2551]

อิคฯ
ของฉันก็ลูกสาวเหมือนกัน
กำลังหาทางเข้าทางลูกอยู่

โดยคุณ :

อิค & ที ....เบี่ยงเบนแล้วน้อง....เบี่ยงเบน กลับมา ๆๆ

เมื่อวานที่ไปเจอเจ้าเพื่อนชายคนนั้นมา (เราถามจากเพื่อนชายเอเพราะเราไปรู้จักกับฝ่ายผู้สาวจ้า)
เฮ้อ...ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรเลยอ่ะ ลองอ่านดูนะ

(เรา)...เอ้ย แก...ทำไมถึงไปเที่ยวกับใคร ๆ ก็ได้ โดยไม่คิดอะไร
(เพื่อน)...อ้าวต้องคิดอะไรด้วยหรอ
(เรา)...อ้าว แล้วถ้าผู้หญิงเค้าคิดขึ้นมาละเอ็ง..เท่าที่รู้ก็เคยมีมิใช่หรึ
(เพื่อน)...ก็เค้าคิดเองไม่รู้จะห้ามยังไง...
(เรา)...แล้วแกทำไงให้เค้ารับรู้ได้ว่าแกคิด หรือ ไม่คิด
(เพื่อน)...ก็จะไม่ทำอะไรพิเศษด้วยมาก เช่นวันเกิด วาเลนไทน์
พวกอย่างนี้จะปฏิเสธ ๆ ไป แต่ถ้าไปเที่ยวดูหนัง ก็ไป
(เรา)...แม้ง....ไปเที่ยวไปดูหนัง ไปเสม็ด ผู้หญิงเค้าจะไม่คิดได้ไงว่ะ
(เพื่อน)...เอ้า ก็มาชวนเองนิ (ทำหน้าซื่อมาก ๆ)
(เรา)... แล้วกับคนนี้อ่ะ ทำไมโอเคด้วย
(เพื่อน)...ก็เค้าจู่โจมเร็วมาก เค้าพยายามเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเค้าให้ฟัง แล้วก็ขอเราเป็นแฟนก่อน
(เรา)...อ้าว แล้วทำไมตกลงกับคนนี้
(เพื่อน)...ก็เผอิญถูกใจพอดี แต่ก็คิดว่าเออ เร็วไปหน่อย แต่ถูกใจก็เลยโอเค
(เรา)...แล้วถ้าผู้หญิงไม่บอก สักวันแกจะบอกเค้าไหม
(เพื่อน)...ก็ถ้าชอบจริง ๆ ก็คงบอก...

จากนั้นเราเล่ากรณีศึกษาของพวกเราให้ฟัง
(เรา)...เพื่อนเรา(ขออนุญาติแทนว่าเพื่อนโดยมิได้ขออนุญาติ จขกท ก่อนนะคะ) ควรทำไงดี
(เพื่อน)...ก็บอกไปเลยก็ได้ หรือ ไม่ก็รอจนวันพิเศษ คงพอรู้ได้บ้าง
(เรา)...นี่เพิ่ง กค ต้องรอถึง กพ ปีหน้าเลยหรอ
(เพื่อน)...ก็ถ้าอยากรู้ก็ถามไปดิ
(เรา)...อ้าว แล้วสมมตินะ ถ้ามีคนไปบอกแก แล้วแกไม่คิด พอแกบอกปฏิเสธไป ต่อไปแกจะมาชวนเค้าไปกินข้าว ดูหนังอีกไหม
(เพื่อน)...ปกติไม่ค่อยชวนใครอยู่แล้ว มักมีคนมาชวน (เวรกรรม)
(เรา)...สรุปว่าไงเนี่ย
(เพื่อน)...อยากรู้ก็ถามไป...ก็แค่นั้น


เนี่ย...ไม่ค่อยช่วยอะไรเลยอ่ะ แต่ลืมถามไปว่า อะไรที่ทำให้ถูกใจคนนี้ แต่คิดว่าถามไป มันก็คนละคนอ่ะ ผู้ชายแต่ละคน คงมีความประทับใจไม่เหมือนกัน

แหง่ว ๆๆๆๆ เริ่มไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแล้วอ่ะ

พยายามต่อไปนะ แล้วคิดมุขอะไรได้จะมาบอกต่ออีกที

โดยคุณ :

อ่อ..............
เพิ่งคิดได้ ๆๆๆๆ
เนี่ย ก็เป็นเพื่อนตอนเรียนภาษาใช่ไหม หมายความว่าก็ต้องมีเพื่อนคนอื่น ที่รู้จักทั้งสองฝ่ายด้วย
มีเพื่อนที่ไว้ใจได้ไหม...
ให้เพื่อนคนนั้น โทรไปหา หมอนั่น แล้วก็แอบถาม
ย้ำ...ทำให้เนียนนะ...ต้องเนียน เดี๋ยวไก่ตื่น

ให้เพื่อนอีกคนไปถามให้สิ....ว่า หมอนั่น คิดไงกับเรา
อาจไม่ระบุชื่อก็ได้ ทำไปถามสาระทุกข์ ทั่วไป แล้วถามว่า
เอ้ย...มีแฟนยังฟ่ะ เอ้ย...ดูใครอยู่ป่ะว่ะ เอ้ย...เห็นพิเศษ ...กับคนนี้นิ คิดไรป่ะฟ่ะ..

อะไรประมาณนี่อ่ะ....ดีป่ะ ๆๆ

ปล. ย้ำ หาเพื่อนที่ทำเนียนได้เก่งที่สุด

โดยคุณ :

นี่คุณเด็กน้อยไม่ยอมเรียน...เรากับเพื่อนชายของคุณ เหมือนกันมากเลย
ถ้าเป็นเราก็ตอบแบบนี้น่ะ...มันเหมือนคำตอบในใจตัวเองเลย...
แต่ในความรู้สึกของเรานะ...เราอยากให้ฝ่ายหญิง อดทนรอเราก่อนได้ไหม๊
ถ้าเกิดว่าเรารู้สึกได้มากกว่า...แล้วเราจะบอกกับเค้าทันที...ถ้าเป็นตอนนี้
รู้สึกว่า...ไม่อยากเสียความรู้สึกดีดีไปน่ะ...

เราเองก็ไม่ค่อยชอบนักเตะหญิงที่เลี้ยงลูก,หลอกล่อ แล้วกิ่งยิงกึ่งผ่านบ่อยๆ
ไม่ทราบว่าผู้ชายคนอื่นเป็นอย่างเรารึเปล่านะ...ชอบผู้หญิงใสๆซื่อๆตรงๆ
จริงใจ ไร้เล่ห์เหลี่ยมใดๆ...บางครั้งก็รู้สึกชอบสาวบ๊องๆทำอะไรแปลกๆ
แต่แลดูแล้วจริงใจ...อะไรประมาณนั้น ถ้าเริ่มรู้สึกว่าใครบางคนกำลังเดินเร็วๆ
ดิ่งตรงเข้ามาหาเรามากไป...เราจะมีความรู้สึกอยากถอยหรืออยากหลบกระสุน
แบบพระเอกเดอะ เมทริกซ์

ในมุมมองของผู้ชายเพียงคนนึง...อยากถามว่า...คุณมีอะไรพิเศษที่ดึงดูด
ชายคนนึงให้ชอบคุณได้...และมองข้ามบางอย่างที่เค้าไม่รู้สึกชอบได้รึเปล่า
หากเราเป็นชายคนนั้น...เรากำลังยื่นมือออกไปในอวกาศ กำลังค้นหาสิ่งที่
ไม่เคยพบเจอมาก่อนและต้องการคว้าสิ่งที่มองไม่เห็นในตัวคุณ...เพื่อให้เจอ
"ความลับที่ซ่อนอยู่" และแน่ใจว่าคุณ..."ใช่"

ปล.ขออนุญาตตอบอีกที...อดใจไม่ไหว ที่จะตอบเมื่อเห็นอะไรบางอย่าง...
เป็นเพียงกรณีนึง...ที่ไม่อยากให้มองข้าม...

โดยคุณ :

งืม คุณ green บอกว่า ถ้าพุ่งไปแล้วเขาจะอยากหลบแบบพระเอกเมทริกซ์
งั้นถ้าเราทำตัวเป็นกระสุนวิถีโค้ง คุณ green จะหลบไหมคะ ^^
(ถามเอาฮาไปงั้น) แต่เท่าที่อ่านมา รู้สึกว่าเป็นมุมมองที่น่าสนใจค่ะ

ถามกลับนิดนึงนะคะ จากตรงนี้
"เราเองก็ไม่ค่อยชอบนักเตะหญิงที่เลี้ยงลูก,หลอกล่อ แล้วกิ่งยิงกึ่งผ่านบ่อยๆ
ไม่ทราบว่าผู้ชายคนอื่นเป็นอย่างเรารึเปล่านะ"

คือ เรางงอ่ะ เราได้ใจความว่า ถ้าไปตรงๆ คุณก็วิ่งหนี ถ้าแย้บๆ คุณก็ไม่ชอบ
ตกลงคือผู้หญิงห้ามทำอะไรเลยหรือเปล่าคะ ต้องรอให้ผู้ชายเลือกเหรอคะ
ทั้งๆ ที่ระหว่างนั้น คุณทำให้เราคิดว่าคุณมีใจ จนเราอาจจะตัดผู้ชายอื่นออกไป
แล้วถ้าสุดท้าย คุณไม่เลือกเรา เราจะทำไงอ่ะ
(แอบออกอาการสาวน้อยขี้งอนนิดนึง แหะๆ)


คุณเด็กน้อยฯ คะ
เพื่อนกลุ่มนั้นที่มีอยู่เนี่ย เป็นพวกไม่มีความลับต่อกันค่ะ
ถ้าคนนึงรู้ รับรองว่ารู้หมดแน่นอน กระซิกๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลย
แต่ว่า... เวลาจะนัดกันไปไหนเนี่ย เพื่อนเป็นต้องโทรมาหาเรา แล้วบอกให้เราโทรหาเขาเสมออ่ะ ทำไมฟะ เพื่อนแอบเชียร์กันอยู่เหรอ?

งง ... เง็ง

โดยคุณ :

คือ เรางงอ่ะ เราได้ใจความว่า ถ้าไปตรงๆ คุณก็วิ่งหนี ถ้าแย้บๆ คุณก็ไม่ชอบ
ตกลงคือผู้หญิงห้ามทำอะไรเลยหรือเปล่าคะ ต้องรอให้ผู้ชายเลือกเหรอคะ
ทั้งๆ ที่ระหว่างนั้น คุณทำให้เราคิดว่าคุณมีใจ จนเราอาจจะตัดผู้ชายอื่นออกไป
แล้วถ้าสุดท้าย คุณไม่เลือกเรา เราจะทำไงอ่ะ
(แอบออกอาการสาวน้อยขี้งอนนิดนึง แหะๆ)



นี่แหละจ้า....ชีวิตจริง!!!!!!!!

ถึงบอกไงจ๊ะ ถ้าจะให้แนะนำ
เผื่อใจไว้นิดหน่อย....แวะไปชมผีเสื้อตัวอื่นบ้าง...ถ้ามีโอกาส
โดยไม่ทำให้ผีเสื้อตัวสำคัญเรารู้ หรือเสียใจ

เมื่อใดที่เค้าพร้อม เค้าบอกเราอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นก็ถึงหยุดชม ถ้ายังไม่มีคำพูดที่ชัดเจน ผู้หญิงอย่างไรเอาอะไรกับแค่การกระทำแค่นี้ไม่ได้หรอก

นี่ยังน้อยนะ เพื่อนเราบางคน ผู้ชายเทคแคร์แบบเวอร์สุด ๆ
กลับบ้านเมื่อไรก็โทรรายงานตัว ตีสอง ตีสาม ก็โทร แลดูเหมือนเป็นคนพิเศษมั่ก มัก
อยู่มาวันหนึ่ง แจกการ์ด กับสาวอื่น.....
อึ้งค่ะ ผู้สาว ทำไรได้ นอกจากร้องไห้และอึ้ง

ส่วนเรื่องเพื่อน...เพื่อนให้เราโทร ก็คงเห็นว่าสนิทกว่า ก็แค่นั้น
จะเชียร์หรือไม่เชียร์ ก็แล้วแต่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ก็ช่างเพื่อนไป

ถ้าในกลุ่มเก็บความลับไม่ได้แน่ ก็แนะนำให้ "อย่าบอก" โบราณเค้าว่า "ถ้าบอกความลับกับต้นไม้ ก็อย่าหวังว่าต้นไม้จะไม่บอกกับสายลม"

สายสัมพันธ์ไปเรื่อย sms ไปเรื่อย ๆ ถ้าเป็นเรา เราจะให้เวลาตัวเองอ่ะ สักกี่เดือนก็ว่าไป หรือจนกว่ารู้สึกว่า อกจะแตกตายอยู่แล้ว

ระหว่างนี้ก็จะเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เป็นมา แอบหยอดคำหวานให้กระชุ่มกระชวยนิดหน่อย หาเรื่องเจอกันบ้างตามโอกาส แนะนำ หนังสยองขวัญ และการเดินดูไปในวันเฉลิม โรแมนติกดี

ขอให้โชคดีจ้า....

ปล. อย่าลืมชมผีเสื้อตัวอื่นไปพลาง ๆ

โดยคุณ :

เดินดูไฟวันเฉลิมฯ กินข้าววันเกิด ดอกไม้วันวาเลนไทน์ แถมวันคริสต์มาสด้วยเอ้า
ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาหมดล่ะ -*-
แต่...มันไม่ใช่อารมณ์กระหนุงกระหนิงง่า
หรือมันจะเป็นความผิดเรากันแน่เนี่ย (เริ่มสงสัยตัวเอง)
หึหึ แน่เลย เราต้องพลาดอะไรสักอย่างไปแน่ๆ

โดยคุณ :

ถ้าทุกอย่าง...ที่เคยผ่านมา มันชัดเจนมากๆสำหรับคุณ
แต่คุณยังสงสัย...และอยากแน่ใจ...สุดท้ายไม่ต้องอ้อมค้อม
คุณนัดเจอเค้า...แล้วถามสิ่งที่คุณอยากรู้จากปากตัวเอง
ไม่ต้องฝากถามหรอก...คุณกล้าพอที่จะยอมรับผลที่จะเกิด
หลังจากนั้นรึเปล่า...อาจจะทำให้คุณดีใจและเศร้าใจ
ถ้าคุณพร้อมแล้ว...ก็แค่ถามเค้าไปตรงๆ...

หากเป็นเรา...เราเองก็คงจะหลบเลี่ยงไปไหนไม่ได้เช่นกัน
แต่คำตอบบางอย่าง...ถ้ามันยังคงไม่ชัดเจนสำหรับเค้า
คุณอาจจะได้ยินเสียงลม...โลกเบลอๆ เสียงผู้คนอื้ออึง
แล้วคุณอาจจะจำไม่ได้แล้วว่าเค้าพูดว่าอะไร...ไม่รู้จักซ้าย
ไม่รู้จักขวา...

เข้ามาตอบบ่อยเกินไป...ก็เกรงใจเพื่อนๆสมาชิกที่นี่...
ต้องขอโทษด้วยนะ อินตามกระทู้...หากอยากรู้ อยากถาม
คำถามหรืออยากปรึกษา หามุมมอง ก็ลองเมล์ไปถาม
เบอร์เมล์ของ green ได้ที่เบอร์เมล์ของเจ้าของในกระทู้
ที่ 10830 นะ...จะเมล์ไปฝากเบอร์เมล์ไว้ที่คนนั้นแทน
จะได้ไม่เป็นการแจกเมล์เกลื่อนโลก

โดยคุณ :

เดินดูไฟวันเฉลิมฯ กินข้าววันเกิด ดอกไม้วันวาเลนไทน์ แถมวันคริสต์มาสด้วยเอ้า
ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาหมดล่ะ -*-
แต่...มันไม่ใช่อารมณ์กระหนุงกระหนิง

เอ้ย จริงดิ !!!!!!!!!

แล้วทำไมไม่กระหนุงกระหนิงหล่ะ...ไปสองคนหรือเปล่า
หรือไปเป็นกลุ่ม ถ้าไปเป็นกลุ่มนี่ไม่นับเป็นความก้าวหน้านะจ๊ะ

เป็นเราคงถามได้แล้วมั่ง..........แต่ยอมรับผลได้อ่ะเปล่าหล่ะ
อายุเท่าไรแล้ว ถ้าพอสมควรก็ถาม ๆ ไปเถิดจะได้ไม่เสียเวลา
แต่ถ้าอายุยังน้อย ไม่อยากรีบ จะเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ต้องแล้วแต่ จขกท อ่ะนะจ๊ะ

บางครั้งคนเราก็เหมาะจะเป็นเพื่อนมากกว่า เป็นคนรัก
ตอนนี้สถานะเป็นเพื่อน
ถ้าบอกไป อาจได้เปลี่ยนสถานะ...ซึ่งการเปลี่ยนสถานะนี้
ก็ต้องมาทำการศึกษากันอีกทีอยู่ดี...เราว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะ
ไม่ใช่เป็นเพื่อน ๆ อยู่อย่างนี้ อีกวันมาขอแต่งงาน แต่งไปอาจอยู่กันไม่ได้ แล้วต้องบอกนักข่าวว่า "จริง ๆ เราเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า" เอ๋...เราคิดไปไกลมากไปหรือเปล่า

ถ้าอายุอานามพอสมควรแล้ว และระยะเวลาที่เป็นเพื่อนสนิทอย่างนี้นานพอแล้ว แนะให้ถามค่ะ ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าเรารู้สึกอย่างไร  เพราะจะแลดูเป็นการอยากผูกมัด ไม่ดี ๆ
แต่ให้ถามว่าเค้ารู้สึกอย่างไรกับเรา เป็นเราคงเลือกทางโทรศัพท์เผื่อไม่ให้อีกฝ่ายกดดันเกินไป

โชคดีจ้า...^__^

โดยคุณ :

(1) พี่ว่าเจ้าของทู้ผ้ไม่กล้าเปิดเผยนามจอโทรคุยกะเจ้าเด็กน้อยฯเลยก็ได้นิ ดูมันสนอกสนใจจะเป็นที่ปรึกษาดี
แล้วมันก็ดูจะ Feminin สูงกว่าคณะที่ปรึกษาในวงอาหารวันนั้นทุกคนด้วย

(2) อายุอานามมันก็พอสมควรจะมีแฟนแล้วจ้ะ
เรียนจบ ทำงานทำการแล้วทั้งคู่ .... ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ก็ไม่ถึงขั้นรถไฟขบวนสุดท้าย ต้องรีบเอาให้ได้ ... เพราะแบบนั้นพี่ก็ไม่สนับสนุนเช่นกัน
การแต่งงานมีคู่ ไม่ใช่ ข้อสรุปของชีวิตนี่นา

(3) เรื่องชมหมู่ภมรอื่นไป อันนี้พี่เห็นด้วย เพราะเจ้าของทู้ก็มิได้ปักใจไปกะไอ้หมอนั่นแล้วซะเต็มที่ สามารถเผื่อใจได้ ^ ^
การปรึกษาครั้งนี้ เริ่มต้นจากไม่แน่ใจว่าฝ่ายไอ้หมอนั่นมีใจไหม และจะยังไงดี เพราะพอจะชอบๆ อยู่บ้าง (ย้ำ อยู่บ้าง)

(4) ส่วนเรื่องจะถามเข้าก่อนไหม อันนี้แล้วแต่แกนะ เจ้าของทู้
นิทานของพี่ ที่เล่าแลกสู่กันฟังวันนั้น พี่ไม่ถาม และไม่คิดถาม ... ไม่คิดบอก
ถ้าจะบอก ก็บอกด้วยการกระทำอย่างอื่นๆ .... ผู้ชายของพี่ไม่โง่ 3 ปีครึ่งแล้ว มันรู้อยู่แล้วล่ะ ^ ^
แต่ส่วนเรื่องทำใจไว้ไหม พี่ทำไว้ก่อนแล้ว
ยืนยันอีกครั้ง ถ้า "รักจริง" ไม่ได้แปลว่ามันจะต้องได้มา

โดยคุณ :

โห กระทู้นี้ ยิ่งอ่านยิ่งเอาจริงเอาจัง ..เอาเป็นเอาตาย ..ถึงลูกถึงคน ..ถึงลูกถึงเมีย มากๆ

โดยคุณ :

ไม่มีเบอร์เด็กน้อยฯ อ่ะค่ะ เดี๋ยวไถพี่เหมือนฯ แล้วกัน แหะๆ

ดูไฟดูกัน 2 คนค่ะ ก็แค่เห็นว่ามันไม่ได้หนุงหนิงเท่าคู่รักที่เห็นอยู่ข้างหน้าอ่ะค่ะ

สุดท้าย ยังไม่คิดจะถามเขาออกไปเลยค่ะ
อย่างที่บอกคือเราอยากแค่จะแย็บหมัดให้เขาทำอะไรสักอย่างถ้าเขาคิดอะไรอยู่
แต่ถ้าเขาไม่คิดอะไร เราจะได้หยุดและขีดเส้นความสัมพันธ์

คือเราเป็นพวกขีดเส้นความสัมพันธ์ในใจไว้ชัดเจนน่ะค่ะ
เรารักษาระยะห่างของความสัมพันธ์มาตั้งนานแล้ว

แต่เท่าที่รับฟังความคิดเห็นมาแล้วนี่ เราเริ่มคิดอะไรได้แล้วล่ะค่ะ

ขอหนีไปเที่ยวก่อนนะคะ ไว้กลับมาถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะเล่าให้ฟังค่ะ

โดยคุณ :

ขอแจมนิดนึง  ไม่รู้ว่าเจ้าของเรื่องจะได้กลับมาอ่านหรือเปล่า
เค้าเป็นหมอ  แถมอยู่ต่างจังหวัดด้วย ตรงนี้ลำบากนะคะ  เพราะว่าหมอเนี้ยไม่ค่อยว่าง  ต้องขึ้นเวร  และถ้าวันไหนอยู่เวรถ้าป็นโรงพยาบาลนอกเมืองหมอจะน้อย  บางที่แทบไม่ได้นอน  จากประสบการณ์ของเรานะ  ( เราไม่ใช่หมอ  แต่ทำงานต้องคู่กัน )  เวลาน้อย เช้าต้องตรวจคนไข้อีก นอนและ กินข้าวไม่ค่อยเป็นเวลา  ไม่มีเวลาออกกำลังกายด้วย  สังเกตว่าส่วนมากหมอมักจะเสียชีวิตด้วยมะเร็ง   เดี๋ยว ๆ เริ่มผิดประเด็น   คืออยากจะบอกนะคะว่า  ให้เวลาเค้าบ้าง  ถ้าเค้ายังไม่แฟนจริงๆ ก็ดี ส่วนมากจะมีกันมาตั้งเรียนแล้วก็พวกหมอด้วยกันแหละ  บางทีก็มาเจอพยาบาลหน้าตาสวย ๆ เดี๋ยวเยอะแยะ  
แนะนำ.....  ถ้าเค้ายังไม่มีแฟนจริง ๆ ไม่ควรนิ่งนอนใจ ปล่อยทิ้งไว้ให้เสียเวลา
จริงแล้วก็ไม่ค่อยชอบให้ผู้หญิงสาวสวยอย่างพวกเราต้องไปจีบผู้ชายก่อนหรอกนะ  แต่ถ้าเค้าเป็นคนดี  น่าคบหา ดูใจ  ก็อย่าปล่อยไว้
เดี๋ยวพยาบาล โฉบไป  จะเสียใจ  เห็นมาเยอะแล้ว  เอาใจช่วยนะคะ

โดยคุณ :

เพิ่งมาเห็นกระทู้นี้

ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ ของเหยื่อ เอ๊ย! บุคคลที่พาดพิงถึงในกระทู้นี้ ขอเสนอสถิติที่น่าสนใจบางอย่างครับ

ในชั้นปีของผม มีผู้ชายสามสิบกว่าคน
๗ คนเป็นนางฟ้า
๖ คนเป็นแฟนกับผู้หญิงในชั้นปีเดียวกันไปแล้ว
๙ คนมีแฟนอยู่นอกชั้นปี
๔ คนไม่สนใจจะมีคู่ ไม่แน่ว่าบางทีอาจเป็นเกย์

เหลือหนุ่มโสด ๙ คน
๓ คนเป็นบ้า
๓ คนมีผู้หญิงที่หมายปอง

สุทธิ เหลือผู้ชายที่ว่าง
๓ คน

ผมว่า Prognosis (การพยากรณ์โรค, แนวโน้มโรค)ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

กลับมาแล้วค่า

จากแนวโน้มข้างบนแล้ว ดูจะน่ากลัวจริงๆ ด้วยล่ะค่ะ
เฮ้อ...

ว่าแต่ ยังจะมีใครแวะมาถกกับเราอีกบ้างไหมหนอ

โดยคุณ :

คงหมดแล้วครับ

ไม่ทราบว่าคุณหมอท่านนั้นจบจากที่ไหนและประจำอยู่จังหวัดใดครับ

ไม่มีอะไรจะร่วมถกค่ะ เพราะไม่สันทัดเรื่องนี้เลยจริงๆ
แต่ยังแวะมาเอาใจช่วยอยู่เนืองๆ ค่ะ

โดยคุณ :

คุณพระยาขยายกำจายมูลมูก  อยู่ในจำพวกไหน สงสัยค่ะ

โดยคุณ :

จบจากจุฬาฯ แต่ทำงานที่ไหนไม่อาจตอบ
โลกของหมอมันแคบนัก เดี๋ยวหาตัวกันได้

โดยคุณ :

เรื่องนั้นเป็นความลับครับ

ทู้นี้ยาวจริง
เอาขึ้น แนะนำ ไหม

ตามมาดูความเคลื่อนไหว

โอ้ว...คุณพระยาฯ ชี้แนวโน้มได้น่ากลัวมาก ๆ

โดยคุณ :

ขอปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้วยคนค่ะ.........เรื่องคล้ายๆกันเนี่ยแระ
เราชอบผู้ชายคนนึงเค้าอายุจะสามสิบแระ เปงเพียงแค่คนทำงานโครงการเดียวกัน ตอนแรกเราก้อเฉยๆกะเค้า แต่พอได้รู้จักได้เจอกันบ่อยๆ รู้สึกว่าเค้าเก่งแระเปงผู้ใหญ่ เปงสุภาพบุรุษมากๆ รู้สึกว่คนนี้นะช่ายเรย เราเรยแอบถามอ้อมๆไปว่าเค้ามีแฟนหรือยังเค้าก้อบอกยังมะมีเพราะเค้าทำงานหนักมะเปงเวลาคงมะมีผู้หญิงคนไหนทนได้  เราให้หัวหน้าเราไปสืบกะหัวหน้าเค้าอีกทีเพื่อความชัว หัวหน้าเค้าก้อบอกว่าเนี่ยแระนิสัยผู้ชาย เราเรยคิดว่าเค้าอาจจะมีแฟนแร้วหรือไมก้อมีคนที่เค้าชอบดูใจกันอยู่  แต่เราก้อยังชอบเค้าอยู่นะ ชอบมากเรย เปงผู้ชายคนแรกที่เราคิดจะชอบเองอยากจีบให้ติดง่า แต่ก้อมะค่อยมั่นใจ เรยมะกล้าทำอะไรมากมาน แค่ส่ง sms ไปหาเค้าอาทิดละสองครั้ง เปงเวลาสักเดือนกว่าๆแระ แต่ก้อมะมีกานตอบกลับจากเค้าเรย (มีโทรมาเฉพาะเรื่องงานอย่างเดียว เราก้อคุยแต่เรื่องงานมะนอกเรื่องเรย แต่เค้าก้อจะชอบบ่นๆให้ฟังว่าจะไปทำงานต่างจังหวัดกลับมาวันโน้นวันนี้......จิงๆแร้วปกติถ้าเค้าส่งเมลเรื่องงานมาเค้าจะโทรมาบอกว่าส่งให้แร้วนะ แต่ช่วงหลังพอเราส่ง sms ไปให้เค้าส่งเมลมาก้อมะยอมโทรมาบอก เราเรยรู้สึกว่าเค้าแปลกๆไป นิ่งเกินไปหรือป่าว) ตอนนี้เสร็จสิ้นโครงการแร้ว มะได้เจอกันแร้ว เราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้เค้าชอบเราและรู้จักเรามากกว่านี้ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ

ปล. มีวันนึงที่จัดงานปิดโครงการ ปกติเค้าจะเปงคนคุยเก่ง friendly มากๆ แต่เค้ากลับไม่คุยกะเราสักคำ มะทักมะทาย มีตอนกลับที่เค้าหันมาโบกมือ บายบ๊ายให้เรา (เหตุเกิดหลังจากที่เราส่ง sms ไปแร้วนะ)

เรยอยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้วยคนค่ะว่า
1 เค้าจะมีแฟนแร้วหรือยังค่ะ
2 เค้าจะเกลียดเราไหม เพราะอยู่ดีๆ เค้าก้อดูแปลกไป
3 เราควรจะทำยังไงต่อดี อยากให้เค้าชอบเราจิงๆนะ(เราตั้งใจจะส่งเมสเสดไปให้เค้าจนถึงเดือน กพ นะ แร้วค่อยบอกว่าชอบ ถ้าเค้ามะชอบก้อกะจะหายไปเรย...ดีหรือป่าวค่ะ)
4 เค้าจะรู้สึกยังไงกะ sms ที่เราส่งให้ค่ะ (แต่มันเปงข้อความธรรมดานะ แต่ก้อแอบมีคิดถึง ขับรถดีๆนะ Mizz u, Mooyiss ไปบ้าง)

โดยคุณ :

คุณ Miisa คะ คือว่าเขียน ( พิมพ์ ) หนังสืออย่างนี้ไม่ถูกแล้วก็ทำให้อ่านยากมากเลย ( ไม่ใช่  เรย  เปง ก้อ จิง  มะ แร้ว ป่าว ฯลฯ )  
เข้าใจค่ะว่า  วัยรุ่น  แต่ภาษาไทย เราต้องเขียนให้ถูกนะคะ  
แล้วก็ ขอโทษจริง ๆ  ที่ต้องบอก อย่าโกรธนะคะ

โดยคุณ :

มีเรื่องปรึกษาค่ะคุนผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากว่านู๋เปนคนไม่เคยมีแฟน แล้ววันนึงเกิดปิ๊งรุ่นพี่ขึ้นมา แล้วก้อสารภาพกะเค้าตรงๆเรย ประมานว่าพี่คะๆนู๋ชอบพี่ค่ะแต่คำตอบที่ได้คือ อ๋อพี่รู้มานานแล้วจ่ะ แล้วนู๋เรยถามต่อไปว่า พี่จะว่าอะไรมั้ยถ้านู๋จะจีบพี่อ่ะ และคำตอบก้อคือไม่รู้สิไม่แน่ใจ พี่กลัวอ่ะ อยากให้ดูพี่ไปนานๆก่อนอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ และนู๋ก้อเรยต่อไปว่าถ้าพี่ไม่ชอบนู๋หรือพี่มีคนที่ชอบอยู่แล้วก้อไม่เปนรัยนะคะ แต่พี่เค้าก้อพูดต่อว่า ก้ออยากให้ดูพี่ไปก่อนอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ..จากนั้นนู่ก้อส่งsmsไปทุกวันประมานเดือนกว่าๆแล้วค่ะ แต่เค้าก้อส่งกลับบ้างเปนบางครั้งนานๆทีประมานอาทิตย์ละ 1-2 ข้อความ..นู๋อยากรู้ค่ะว่าเค้าให้ความหวังเราไปวันๆนี้เค้าจิงจังรึป่าว

เพราะสิ่งที่ทำให้นู๋ไม่แน่ใจก้อคือ นู๋รู้ค่ะว่ามีคนชอบพี่เค้ามาก และพี่เค้าก้อเปนไอดอลของหลายๆคน พี่เค้าคุยกับหลายๆคน..แต่บางทีพี่เค้าก้อทำเราหวั่นไหวโดยการซื้อไอติมให้เราบ้างทั้งๆที่อยู้ต่อหน้าคนที่ชอบพี่เค้าเหมือนกันหลายๆคน....

ขอพิจารณาให้ด้วยนะคะ

โดยคุณ :