คำพิพากษา
เรื่องนี้.........โดย พิง ลำพระเพลิง
เขาหาว่าไอ้ฟักมันบอมบ์ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
"ไอ้ครูใหญ่มันโกงกู ไอ้ครูใหญ่มันโกงกู"
ฟักเดินพึมพำหนีบขวดเหล้าเข้าง่ามจั๊กกะแร้
นั่นเป็นภาพที่ชาวบ้านเห็นอยู่เป็นประจำ
ไม่รู้ว่ามันกินเหล้าทางรักแร้ได้หรือยังไง
"ไอ้ครูใหญ่มันเลวจริงๆนะฟังชั้นสิป้า เชื่อข้าสิลุง"
แต่ไม่เคยมีใครฟังคำพูดของไอ้ฟัก ครูใหญ่ใจดีคนนั้นนะเหรอ
จะเป็นคนเลวไปได้
มีแต่เขาจะช่วยเหลือคนทั้งโลกน่ะสิไม่ว่า
ไอ้ฟักยามนี้เหมือนอยู่ตัวคนเดียว มันนั่งมองผืนทรายเวิ้งว้าง
ที่ครั้งนึงเคยเป็นของบรรพบุรุษ
กำลังถูกไอ้ครูใหญ่มันใช้อุบายครอบครองเอาซึ่งๆ หน้า
โดยเรียกสิทธิอันชอบธรรมนั้นว่า สัมปทานขุดเจาะน้ำมัน
พี่สาวแม่ของไอ้ฟักที่ชื่อ เลสไตล์ มันมักจะเรียกเธอว่า ป้าเลสไตล์
เคยเล่าให้ฟังว่า
"ไอ้ครูใหญ่มันคอยถือหางไอ้อิสราอยู่"
ป้าเลสไตล์หมายถึงคนในลูกหลานตระกูลเอล
มันคือไอ้อิสรา เอลนั่นเอง "ครูใหญ่มันกลัวว่าพวกเราจะรวมกันติด
มันก็เลยสนับสนุนให้อิสราฟาดปากอยู่กับป้าเลสไตล์ทุกวัน ทุกคืน
มันไม่ยอมให้สงครามสงบหรอก มันขายอาวุธสงครามได้"
ไอ้ฟักต้องทนนั่งมองป้าเลสไตล์กับอิสรา เอล รบพุ่งกัน ทั้งๆ
ที่เป็นวงศาคณาญาติเดียวกันแท้ๆ
ครูใหญ่มันเริ่มเข้ามามีอำนาจในดินแดนแถบนี้ตั้งแต่หลังสมัยสงครามโลกครั้งที่
สองพอมันชนะสงคราม
มันก็ถือสิทธิจัดระเบียบแบ่งโฉนดให้คนที่มันสามารถควบคุมได้เข้ามามีบทบาทในแถบนี้แทน
เพราะมันไม่สามารถมาปกครองได้เองตามกฎหมาย
นางรัก เองก็เช่นกัน ไอ้ครูใหญ่มันไม่ค่อยชอบนางรักเท่าไหร่
"อีรัก" ครูใหญ่เรียกมันจิกกระบานอยู่บ่อยๆ
"ผืนดินของเอ็งแบ่งให้ครูเวตมันดูแลบ้างก็แล้วกันนะ"
ความที่ผืนดินของอีรักมีน้ำมันมาก
ครูใหญ่มันก็เลยเถือผืนดินแบ่งโฉนดเป็นสองประเทศ ให้ครูเวตดูแล
ครูเวตเป็นครูชั้นผู้น้อย
พอครูใหญ่บอกจะเลื่อนให้เป็นอาจารย์ประจำชั้น
ครูเวตก็รีบเอาทันที ยังความเจ็บแค้นให้กับอีรักอยู่เนิ่นนาน
ครั้นพยายามที่จะทวงสิทธิคืนเอากับครูเวต
ครูเวตก็รีบแจ้นไปฟ้องครูใหญ่
ครูใหญ่ก็เลยส่ง รปภ.ประจำโรงเรียนมายำอีรักซะน่วม
ความทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาไอ้ฟักมาโดยตลอด ทุกเมื่อเชื่อวัน
ชนชาติศาสนาเดียวกันแท้ๆ แต่ต้องถูกปัน ถูกแบ่งแยก
เพียงเพราะผลประโยชน์แค่หยิบมือที่ไอ้ครูใหญ่มันปันให้
ไหนจะน้องพ่อของไอ้ฟักที่ชื่อ อุ นั่นอีกล่ะ
ไอ้ฟักรักที่จะเรียกน้องพ่อมันว่า
อาอุ แต่ไอ้ฟักเคยมีเรื่องผิดใจกับอาอุ จนอาอุโกรธจัดออกปากว่า
"มึงไม่ต้องมาเรียกกูว่าอา"
"แต่อาเป็นอาของชั้นนะ" ไอ้ฟักพยายามทวงสิทธิในสายเลือด
"น้องพ่อมึงมีตั้งหลายคน อยากเรียกใครว่าอาก็เรียกไป กูเป็นอาคนที่สาม
แต่ห้ามเรียกอา"
"คนที่สาม" ไอ้ฟักทวนคำ นับนิ้วเป็นภาษาจีน "งั้นชั้นเรียกอาว่า ซาก็แล้วกัน"
จากนั้นไอ้ฟักจึงเรียก อาอุ ว่า ซาอุ มาโดยตลอด
ซาอุเอง เคยเป็นชนเผ่าเร่ร่อนในดินแดนแถบผืนทรายนี้
ไอ้ครูใหญ่มันก็เลยสถาปนาจัดตั้งขึ้นเป็นฝ่ายปกครองซะเลย
มอบตำเเหน่งให้นิดหน่อย ซาอุก็พูดอะไรไม่ออก
มักจะต้องให้ความร่วมมือกับครูใหญ่อยู่เสมอ
ไม่ว่าครูใหญ่จะต้องการความร่วมมืออะไรก็ตาม งานบุญ งานบวช
ขอพื้นที่จัดตั้งฐานทัพก็ไม่ขัด
ซาอุมีฐานะดีวันดีคืน เพราะสามารถผลิตน้ำมันได้เป็นอันดับสามของโลก
ซึ่งไม่ต้องแปลกใจเลยว่า
สัมปทานขุดเจาะน้ำมันทั่วผืนแผ่นดินของไอ้ฟัก
จะเป็นของครูใหญ่เกือบทั้งสิ้น
ความสงบไม่เคยมีในแผ่นดินของไอ้ฟักเพราะใคร...พิจารณาดูเอาเอง
ไอ้ฟักเฝ้ามองดูทรัพยากรธรรมชาติถูกดูด
ถูกสูบออกไปอย่างถูกต้องด้วยกฎหมายที่ครูใหญ่เป็นคนกำหนด
เพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่กลับคืนมาเพียงน้อยนิด
คล้ายกับเรานั่งเฝ้าดูคนต่างชาติมาขนข้าวจากผืนนาของเราขึ้นเกวียนไป
เกวียนแล้วเกวียนเล่า เกวียนแล้วเกวียนเล่า มาตลอดชีวิต
แล้ววันหนึ่ง บ้านของครูใหญ่ก็โดนบึ้ม มีคนตายเจ็บมหาศาล
ไม่มีใครรู้ว่าไอ้ฟักทำจริงหรือเปล่า
แต่เมื่อครูใหญ่ชี้นิ้วว่าไอ้ฟักทำ
ทุกคนก็พยักหน้าตาม ก่นด่าประณามสาปแช่งไอ้ฟัก
ด้วยเหตุผลที่ทุกคนอยากอยู่ฝ่ายพระเอก
น้อยคนที่จะมองเหตุผลของคนร้าย มีใครอยากเลวบ้าง
คนที่ตายในตึก กับคนที่ตายกลางผืนทราย ค่าแห่งความเป็นคนมีเท่ากัน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถูกถ่ายทอดผ่านซีเอ็นเอ็นก็ตาม
ย้ำอีกครั้ง...เขาหาว่า ไอ้ฟัก มันบอมบ์ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
โดยคุณ :
picmee - [12:23:32 1 ต.ค. 2544] |