กระดานความรู้สึก


คุณมีนา..คะ (หรือใครก็ได้ค่ะ) ที่ไปฟังพี่จุ้ยเสวนาที่อักษรจุฬาฯ
เห็นคุณมีนาบอกไว้(ในกระทู้1109)ว่าไปฟังพี่จุ้ยเสวนาที่จุฬาฯมา ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ.. หรือมีเพื่อน ๆ คนอื่นไปดูมาเหมือนกัน รบกวนเข้ามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
โดยคุณ : ตะแบกบาน - [17:47:07  28 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
อยากเล่าเหมือนกันแต่ไม่ได้ไป .. เล่าเรื่องไปเที่ยวละไมได้ปะ ..
โดยคุณ :pavee - [23:13:08  28 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
มารออ่านด้วยคนค่ะ
โดยคุณ :น้องระเบียง - [8:53:55  29 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 3
เราก็ไปช้านิดหน่อยอ่ะนะ ได้ฟังท้ายๆ แล้ว
เนื่องจากติดภารกิจ อ่ะค่ะ
งานที่ไปเค้าชื่อ "งานกวีอ่านบนลานหญ้า"

ไปถึงก็เจอพี่จุ้ยที่ ลานสี่เสา(ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ อิอิ) แถวๆ คณะอักษรค่ะ งานนี้พี่จุ้ย ฉายเดี่ยว
เป็นกวี คนเดียวที่นั่งคุยบนเวที มีผู้ฟังประมาณ 30 คนส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กจุฬาฯ ค่ะ เห็นจดๆ กันใหญ่ท่าทางจะต้องส่งรายงาน
พี่จุ้ยนั่งประกบกับ พิธีกรสองคน นั่งสบายๆ ค่ะเห็นแล้ว รู้สึกสบายๆ ไปด้วย
เค้าก็ถามไปเรื่อยๆ นะคะ มีอยู่คำถามนึงที่เราชอบ คือถามว่า การเดินทางครั้งไหนที่พี่จุ้ยประทับใจมากที่สุด
พี่จุ้ยเล่าว่า เมื่อตอนเรียนที่ นิเทศฯ ตอนนั้นอกหัก เลยเดินจากคณะไปสยาม แล้วเดินอ้อมกลับมาที่ถนนอังรีดูนังต์ไปที่สภากาชาด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้นึกว่าจะไปรีดพิษงู เลยเดินเข้าไปถามเค้า เค้าบอกว่าไม่มี มีแต่บริจาคอวัยวะ กับดวงตา พี่จุ้ยก็เลยเลือกบริจาคดวงตา เมื่อบริจาคเสร็จแล้ว พี่จุ้ยก็เลยเลือกที่จะเดินหลับตาคลำทางมาตลอดเหมือนคนตาบอด จนถึงจุฬาฯ แล้วค่อยลืมตา พี่เค้าบอกว่าพอลืมตาแล้วรู้สึกว่าเหมือนคนตาบอดที่มองเห็นโลกใหม่ มันดูสดใสและน่าอยู่มาก(ทำให้หายอกหักไปเลย) ฮ่าๆ
หลังจากนั้น พี่จุ้ยก็ดีดกีต้าร์ ร้องเพลงให้ฟัง เพลงแรกพี่เค้าแต่งเอง เค้าบอกว่าเพิ่งเล่นที่นี่เป็นครั้งแรก อีกเพลงเป็นบทกวี ของรุ่นน้องพี่เค้าก็ร้องให้ฟัง เพลงหลังนี่ เพราะจับใจทีเดียว แต่เราก็จำเนื้อร้องไม่ได้หรอกนะ
หลังจากนั้นก็มีการแจกรางวัล เรื่องบทความต่างๆ ที่ชนะเลิศการประกวดค่ะ
และพิธีกรได้กล่าวปิดงาน เราก็เลยวิ่งจู๊ดไปหาพี่จุ้ย ขอลายเซ็นต์ค่ะ มีหลายคนเอาหนังสือเรื่องราว ฯ มาให้พี่จุ้ยเซ็น ด้วย แต่ที่เด็ดกว่านั้นเพื่อนเราเอา หนังสือคุยกับประภาส ไปให้พี่จุ้ยเซ็น พี่เค้ามี เซ็นต์ให้ ว่า คุยกับจุ้ยด้วย น่ารักจริงๆ

เสียดายเมื่อวันนั้นลืมเอากล้องถ่ายรูปไป จะหาโอกาสใกล้ชิดแบบนี้ยากจังแฮะ
แล้วเดี๋ยวจะเอาลายเซ็นต์ไป สแกนนะคะแล้วจะแวะมาแปะให้ดู อิอิ

ปล.ใครไปก่อนหน้าเราช่วยๆ เข้ามาเล่าเน้อ อ้อ อีกอย่าง ถ้าอยากดูรูปลองแวะไป
www.katikala.com น้าค้า
เพราะเราเห็นพี่จุ้ย ถือกล้องดิจิตอล ด้วยล่ะ(ทันสมัยจริงๆ) ท่าทางน่าจะเอาไป upload ลงที่ web นะคะ ไปครั้งนี้ถึงช้าไปหน่อย ก็ยังคงความประทับใจ อันอบอุ่นไม่หาย ถึงแม้ไม่ใช่วงใน ได้แค่ลายเซ็นต์พี่จุ้ยเอามาอวดเพื่อน ก็ดีใจจะตายแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ ^_^



โดยคุณ :มีนา - [10:16:48  29 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 4
เรื่องที่เล่ามาเราก็เคยได้ยินค่ะ พี่บัณฑิตเค้าเล่าให้ฟังตอนพี่จุ้ยมาพูดที่คณะ ไม่ได้ไปดูเสียดายจัง
โดยคุณ :พลอย - [14:01:17  29 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 5
:)
โดยคุณ :ทีหัว - [17:20:51  29 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 6
อิจฉาคุณมีนาจังที่ได้ไปฟังพี่จุ้ย ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะคะ (เดี๋ยวจะไปรอดูรูปใน katikala ค่ะ)
โดยคุณ :ตะแบกบาน - [0:04:05  30 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 7
คุณมีนาเป็นคนไหนกันหนอ
เราก็ไปนะแต่ไฉนเรามิได้เจอกัน
เราไปตั้งงานยังไม่เริ่มเลยนะ
โชคดีเหลือเกินที่เราไปนั่งกิน
ข้าวที่โรงอาหารอักษร
ได้เจอพี่จุ้ยกำลังเขียนอะไรเพลินๆ
ฉันกับเพื่อนๆอีก3คน
ทำใจกล้าเดินเข้าไปหาพี่จุ้ย
สวัสดีทักทายกันเป็นอย่างทางการแล้ว
ฉันและเพื่อนก็ทำการนั่งคุย
ถึงเรื่องหนังสือกับการเขียน
พี่จุ้ยแนะนำหนังสือดีๆให้ฉันหลายเล่ม
ดีใจจังเลย
พี่จุ้ยแปลกใจว่าทำไม
ฉันที่ไม่ได้เรียนที่จุฬา
มาทำไมที่นี่...แถมทำหน้าขำๆด้วย
ฉันก็เลยบอกว่ามาฟังพี่งัยล่ะ
งานนี้ชื่อ"กวีอ่านลานหญ้า"
งานดำเนินไปแบบสบายๆ
บรรยากาศเป็นกันเองดี
เพราะทางชมรมวรรณศิลป์
ให้บุคคลภายนอกเข้ามานั่งฟังได้
งานเริ่มด้วยการที่มี
นิสิตนักศึกษามาอ่านบทกวี
ฉันนั่งฟังด้วยความตั้งใจ
อ่านจบช่วงแรกพี่จุ้ย
ก็ขึ้นมาพูดคุยกับพวกเราคนมาฟัง
มีคำพูดหลายคำที่พี่จุ้ยพูดแล้วฉันชอบเหลือเกิน
พิธีกรถามอะไรคืออะไรคือแรงบันดาลใจในการเดินทางของพี่จุ้ย
พี่จุ้ยบอกว่ามันมีอะไรหลายๆอย่าง
เพราะคนเราไม่ใช่ต้นไม้น่ะ
ไม่มีรากทำไมถึงต้องหยั่ง
รากอยู่กับที่ด้วยล่ะ
เรามีเท้าไว้ให้ลองเดินทาง
ฉันก็เห็นด้วยกับพี่จุ้ยนะ
ว่าการเดินทางให้อะไรเรามากมาย
ถึงแม้นว่ามันอาจจะไม่สนุกเสียซะทุกครั้งไป
แต่มันก็ทำให้เราเห็นอะไรได้มากขึ้น
และคิดอะไรได้มากขื้นเช่นกัน(ว่ามั้ยค่ะ)
การเดินทางที่พี่จุ้ยประทับใจมากที่สุด
ก็คือครั้งที่คุณมีนาบอกแหละค่ะ
แต่ขอเพิ่มอีกนิดนะค่ะ
ก็คือเดินตามสาวสวยคนหนึ่ง
เพราะเค้าจะไปอ่านหนังสือ
พี่จุ้ยเลยถามว่าเค้าไปทำไม
ผู้หญิงคนนั้นเธอบอกว่ามาอ่านหนังสือ
พี่จุ้ยเลยเดินเข้าไปบ้าง
จนไปถึงห้องสมุดของคณะอักษรศาสตร์
เพราะการเดินทางครั้งนั้น
ทำให้ชืวิตของพี่จุ้ยเค้าเปลี่ยนไป
จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้มั้ยเนี่ย
ฉันได้นั่งฟังพี่จุ้ยเล่าเรื่องราวต่างๆ
อย่างสนุกสนานและได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่าง
มีอีกหลายคำพูดที่พี่จุ้ยพูด
และฉันรู้สึกประทับใจมาก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมั้ยที่พี่จุ้ยได้มางานนี้
ก็คงไม่บังเอิญหรอก...พี่จุ้ยบอก
แต่วันนั้นสำหรับฉันเป็น
เรื่องบังเอิญเสียเหลือเกิน
ที่ฉันได้พบและพูดคุยกับพี่จุ้ย
พี่จุ้ยมีมุขตลกมาเป็นระยะๆ
เล่าให้ฟังถึงตอนสมัยเรียนที่จุฬา
เรื่องที่พี่จุ้ยคุยกับแม่ของพี่
ว่าทำไมถึงไม่เอาใบปริญญา
พี่จุ้ยถามแม่ว่าทำไมต้องเอาใบปริญญา
แม่ของพี่จุ้ยบอกว่าเอามาติดข้างฝา
พี่จุ้ยเลยบอกแม่ว่าของพี่ๆก็มี
เอาของพี่ๆก็ได้
แม่ของพี่จุ้ยเลยพูดว่า
"ก็ได้ แม่ส่งเอ็งเรียนสูงแล้ว
แม่คงเถียงสู้เอ็งไม่ได้หรอก"
พี่จุ้ยบอกว่าตั้งแต่นั้นมา
พี่จุ้ยไม่เคยเถียงแม่อีกเลย
นี่..ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ฉันประทับใจ
เป็นเรื่องที่น่ารักมากในความคิดของฉัน
จากนั้นพี่จุ้ยได้ร้องเพลงให้พวกฉันได้ฟังกัน
ถึงจะมีแค่เพียงสองเพลง
แต่มันเป็นเพลงที่เพราะเลยทีเดียว
โดยเฉพาะเพลงสุดท้าย
เป็นเพลงที่มีรุ่นน้องคนนึงแต่ให้พี่จุ้ยเค้า
รุ่นน้องคนนี้เรียนคณะบัญชีนะ
ถ้าฉันจะได้ไม่ผิด
เพลงนี้ดัดแปลงเอาคำมาจากบทกวีของพี่จุ้ย
เป็นเพลงที่เพราะๆจริง
ผู้คนที่นั่งอยู่แถวนั้น
ทุกคนตั้งใจฟังตั้งแต่แรกจนจบ
รวมถึงตัวฉันด้วย
พองานเลิกทุกคนต่างวิ่งมาขอ
พี่จุ้ยถ่ายรูปบ้าง
ขอลายเซ็นต์บ้าง
สนุกดีวิ่งกันไปวิ่งกันมา
พี่จุ้ยถ่ายรูปผู้ฟังกลับบ้าง
ฉันไม่มีพลาด...
เอาหน้าไปโผล่อยู่ในกล้องของพี่จุ้ย
มีคนเอาหนังสือหรืองานเขียนของพี่จุ้ยไปให้เซ๊นต์เยอะมากทั้งหนังสือเรื่องราวบนแผ่นไม้
กว่าพี่จุ้ยจะได้กลับก็เริ่มค่ำๆ...
ฉันได้มีโอกาสถามพี่จุ้ยว่าจะไปไหนต่อหรือค่ะ
พี่จุ้ยบอกว่าจะขึ้นไปโคราช
จากนั้นจะไปเกาะสองไปร้องเพลง
อยากไปเหลือเกิน แต่คงไม่ได้ไป
ได้ถ่ายรูปกับพี่จุ้ยหลายใบเลยทีเดียว
งานนี้ต้องขอขอบคุณ
ช่างกล้องของชมรมวรรณศิลป์
ที่เอื้อเฟื้อถ่ายรูปให้เสียหลายรูป
พี่สาวอีกคนนึงที่ถ่ายรูปให้
และเพื่อนๆที่คณะอักษรศาสตร์
งานดีแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าไม่ได้ชมรมวรรณศิลป์
ขอขอบคุณมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
สุดท้ายแล้วจะเป็นใครเสียไม่ได้
พี่ชายที่น่ารักแต่ขี้รำคาญ
ผู้เป็นทั้งนักเดินทางและนักเขียน
ขอบคุณที่โลกนี้มีเธอ... :)







โดยคุณ :next - [2:43:25  30 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 8
อืมม
แวะมาอ่านของคุณ next ค่ะ

เราบ้านอยู่ไกล อีกอย่างก้อไม่ได้เรียน จุฬาฯ หรอกค่ะ วันนั้นที่ไปสาย เพราะเพื่อนเราเลิกเรียนช้าค่ะ กะว่าจะไม่ไปแล้วเพราะกว่าจะถึงงานคงเลิก แต่ไม่รู้ทำไมตัดสินใจว่าไปดีกว่าก็เลยได้เจอพี่จุ้ย ตามหวัง

พี่จุ้ยน่ารักนะคะ เป็นกันเอ๊ง กันเอง
ชอบอีกคำนึงที่พี่เค้าบอก
"การแข่งขันกับใครไม่สำคัญเท่ากับการแข่งกับตัวเอง"
เราเองอยากเป็นแบบพี่จุ้ย ในหลายๆอย่าง
อยากเป็นนักเขียน เขียนเรื่องดีๆ ซักเรื่องในชีวิต
อยากเป็นนักเดินทาง
อยากๆๆๆ อีกเยอะเลยค่ะ

พยายามแข่งกับตัวเองเพื่อความฝันจะได้เป็นจริงซักที
โดยคุณ :มีนา - [12:30:42  30 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 9
จะเอาใจช่วยคุณมีนานะค่ะ
ว่าแต่คุณมีนาเรียนที่ไหนเอ่ย
เผื่อจะเรียนที่เดียวกันนะค่ะ
อยากเป็นเหมือนกันเลยค่ะ
เรามาเริ่มก้าวไปพร้อมๆกันดีมั้ยค่ะ...
โดยคุณ :next - ICQ: 37758622 [21:19:19  30 ม.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 10
อืมม

มาคุยกันต่อเนาะ ก่อนกระทู้จะตกไปหน้าโน้น
เราเรียน ธรรมศาสตร์จ้า
มาเริ่มพร้อมๆ กันได้เลยจ้า
จะพยายามๆ ค้นหาตัวเองให้เจอซักที
อิอิ
เดี๋ยว add icq คุยกันเน้อ
โดยคุณ :มีนา - [13:25:40  31 ม.ค. 2544]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....