กระดานความรู้สึก


ซัมเมอร์สยอง..ภาคไทย...อ่านแล้วเซ็ง..เพื่อนๆคิดอย่างไร..
ระยะนี้แม้จะมีข่าวใหญ่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่กระนั้นก็เชื่อว่า พ่อแม่ผู้ปกครองหลาย ๆ ท่านคงจะได้รับทราบข่าวเล็ก ๆ ข่าวหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้น ณ ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อเร็ว ๆ นี้ และคงจะรู้สึกหวั่น ๆ อยู่ไม่น้อย...

เดนนรก "รุมข่มขืน" นักศึกษาสาวอาชีวะ !!
นักศึกษา ปวช. ชาย 8 หญิง 2 โรงเรียนอาชีวศึกษา แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พากันไปเที่ยวพักผ่อนค้างแรม ที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี คืนแรก ๆ ก็พักบังกะโล แต่ด้วยความที่อยากสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง จึงชักชวนกันไปกางเต็นท์ ก่อกองไฟ ณ มุมหนึ่งริมชายหาด ขณะที่กำลังเล่นกีตาร์ร้องเพลงกัน อย่างสนุกสนาน จู่ ๆ ก็มี 8 วัยรุ่นเดนมนุษย์ อาวุธครบมือทั้งมีด ไม้ ปืน เข้ามารุมทำร้ายนักศึกษาชาย แล้วลากนักศึกษาหญิงเคราะห์ร้ายคนหนึ่ง ไป "รุมโทรม" ริมหาดอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซ้ำยังรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าติดมือไปด้วย !!

นี่เป็นภัยที่พ่อแม่หลายคนกำลังหวั่นกลัวกัน !!
โดยเฉพาะในช่วง "ปิดเทอม" ที่บุตรหลานมักพากันไปท่องเที่ยวกับเพื่อน ๆ !?!

มูลนิธิเพื่อนหญิง ได้รวบรวมข่าวเภทภัยทางเพศตามหน้าหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ ในรอบปี 2543 และพบว่า มีข่าวการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้น 218 กรณี แยกเป็น ข่มขืน 149 กรณี, ข่มขืนและฆ่า 29 กรณี, อนาจาร 27 กรณี, รุมโทรม 12 กรณี, รุมโทรมและฆ่า 1 กรณี

ขณะที่สถิติคดีความผิดทางเพศรูปแบบต่าง ๆ ทุกเขตทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ของ ศูนย์ข้อมูลข้อสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้ว่า เมื่อปี 2540 มีคดีประเภทนี้เกิดขึ้นรวม 3,741 คดี, ปี 2541 มี 4,999 คดี เป็นคดีข่มขืน 3,516 คดี, ปี 2542 มี 7,936 คดี เป็นคดีข่มขืน 3,939 คดี ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้มีคดีอนาจารหรือข่มขืน เพิ่มขึ้นกว่า 100% และเฉลี่ยแล้วทุก 1 ชั่วโมงเศษ จะมีผู้หญิงและเด็กถูกข่มขืน ทำร้ายร่างกาย หรือทำอนาจาร 1 ราย ทั้งจากคนใกล้ชิดและคนอื่น โดยแต่ละวันมีเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปีถูกข่มขืนถึง 2 คน และสำหรับปี 2543 ที่ผ่านมา เฉพาะคดีข่มขืนมีถึง 4,037 คดี

สถานที่เกิดเหตุก็มีตั้งแต่ในบ้านตัวเอง ที่เปลี่ยว
หรือแม้แต่ "แหล่งท่องเที่ยว" ที่ผู้คนพลุกพล่าน
พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่นักเรียนนักศึกษาปิดเทอม ก็เป็นธรรมดาที่พ่อแม่ผู้ปกครอง มักจะพาลูกหลานไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ หรือไม่เด็ก ๆ นักศึกษาก็จับกลุ่มพากันไปเที่ยวกันเองกับเพื่อน ๆ

"แต่ในขณะเดียวกันสถานที่ท่องเที่ยวก็อาจเป็นสถานที่อันตรายได้เช่นกัน หากเราไม่มีการป้องกันระมัดระวังตัว การป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะสุภาพสตรีนั้น ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียวในยามวิกาล หากจะไปก็ควรจะมีเพื่อนไปด้วย ไปในที่ที่มีคนมาก ๆ และอย่าแต่งตัวที่ล่อแหลมหรือใส่เครื่องประดับที่มีค่า เพราะคนร้ายจะลงมือได้ง่ายมาก อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องคอยดูแลให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว"

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นที่ชะอำมีผลเสียต่อการท่องเที่ยว และต่อภาพลักษณ์ของตำรวจมาก ชะอำเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนไปกันมาก ซึ่งทาง พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้กำชับกำชาให้เข้มงวดกวดขัน ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจท่องเที่ยว โดยเฉพาะ ตำรวจท้องที่ ที่จะต้องถูกตำหนิมากที่สุด เพราะว่ารู้ข้อมูลดีที่สุด ว่าตรงไหนอันตรายหรือไม่อย่างไร

"ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตก ภูเขา ป่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการประชาสัมพันธ์ ติดป้ายประกาศบอกนักท่องเที่ยวว่าควรปฏิบัติตนอย่างไร ที่ไหนควรไปที่ไหนไม่ควรไป ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ต้องเชื่อฟ’งด้วย และหากสุภาพสตรี หรือเด็กหญิงคนใดประสบเหตุ โปรดอย่าอาย ขอความกรุณาให้มาแจ้งตำรวจ ผู้กระทำผิดจะได้ไม่ลอยนวล ซึ่งปัจจุบันทางโรงพักต่าง ๆ ก็มีพนักงานสอบสวนหญิงด้วย"

ก็เป็นแง่มุมจากฝ่ายผู้รักษากฎหมายที่ต้องรับฟัง...
ทางด้าน นิตยา พิริยะพงศ์พันธ์ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลและเผยแพร่ มูลนิธิเพื่อนหญิง ชี้ว่า สาเหตุที่เกิดกรณีข่มขืนกันมากในสังคมไทยนั้น เกิดขึ้นจากรากเหง้าเดิม ๆ ที่การมองเพศสองเพศไม่เท่าเทียมกัน เพศชายมองเพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า หรือใช้ในการ บำบัดความใคร่ ตอบสนองความรู้สึกทางเพศ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ อาทิ สื่อลามก เหล้า ยาบ้า ยาอี ฯลฯ ตรงนั้นเป็นปัจจัยเสริมมากกว่า ไม่ใช่ต้นเหตุจริง ๆ

"เวลาที่เกิดเรื่องขึ้นมา ใคร ๆ มักคิดว่าผู้หญิงเป็นสาเหตุ เช่น นุ่งกระโปรงสั้น ใส่เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก แต่งตัวล่อตาล่อใจ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน นั่นก็เป็นสิทธิที่เขาจะแต่งตัว เขาไม่ได้แต่งตัวเพื่อจะเชิญชวนให้มากระทำมิดีมิร้าย และประเด็นนี้ค่อนข้าง จะตรงกันข้ามกับเหตุการณ์ที่เกิดในปัจจุบัน เพราะเหยื่อที่ถูกข่มขืนทุกวันนี้มีตั้งแต่เด็ก เล็ก ๆ จนถึงคนแก่ และสถานที่เกิดเหตุก็เป็นทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน วัด แม้แต่ในตู้โทรศัพท์ก็มี"

กรณีที่เกิดขึ้นตามแหล่งท่องเที่ยว เช่น ที่ชายหาดชะอำนั้น นิตยาเห็นว่า มันเป็นสิทธิของเด็กนักศึกษาที่ต้องการไปพักผ่อน ท่องเที่ยวตากอากาศในช่วงปิดเทอม แต่ทั้งนี้ก็คงต้องระมัดระวังเรื่องเวลาและสถานที่ เป็นเรื่องที่ผู้หญิงก็ต้องระมัด ระวังเช่นกัน นอกจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องหมั่นคอยดูแลให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวด้วย เพราะหลาย ๆ แห่งก็ทราบกันว่า มี "มาเฟีย" คอยจ้องก่อเหตุร้ายอยู่

"ส่วนกรณีเด็กผู้หญิงหนีโรงเรียน หนีพ่อแม่ไปเที่ยว แล้วโชคร้ายไปประสบเหตุถูกข่มขืน แต่ไม่กล้าบอกผู้ปกครองเพราะกลัวถูกทำโทษ ไม่กล้าแจ้งความเพราะอายนั้น ตรงนี้ก็มี ซึ่งตัวเด็กเองก็รู้สึกผิด รู้สึกไม่ดี สังคมก็มักโทษว่า เด็กมันแส่หาเรื่องเอง สมน้ำหน้า แต่มันเป็นคนละประเด็นกัน ผู้ชายนั้นถูกสอนมาว่าต้องแน่หรือเจ๋งในเรื่องเพศ หากจะแก้กันตรงนี้ควรแก้ที่ทัศนคติ เด็กหนีโรงเรียน หรือโกหกผู้ปกครอง ก็ควรได้รับการทำโทษตามเหตุไป แต่ไม่ควรที่จะไปกล่าวโทษเด็กเมื่อเขาถูกข่มขืน เขาไปเที่ยว พวกนั้นไม่มีสิทธิไปทำร้ายเขา"

นี่ก็เป็นความเห็นจากฝ่ายผู้หญิงที่ต้องยอมรับเช่นกัน... !?!

...ยังไง ๆ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ "ปลอดภัยไว้ก่อน" พ่อแม่ผู้ปกครองถ้าบุตรหลานอยากไปเที่ยวพักผ่อน ช่วงปิดเทอมก็ควรแบ่งเวลาพาเขาไป เด็กสาว ๆ เองถ้าอยากเที่ยวกันแบบอิสระกับเพื่อน ๆ ก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีอย่าประมาท อย่านึกว่ามีเพื่อนชายไปด้วยหลายคนแล้วจะปลอดภัย ดีไม่ดีเพื่อนนั่นแหละอาจก่อเหตุเสียเอง

"มิจฉาชีพ-มาเฟีย" แอบแฝงอยู่แทบทุกแหล่งท่องเที่ยว
พวก "หื่น" มักมากในกาม ก็แฝงอยู่ทั่วไปในทุกกลุ่มชน
อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน...ขนาดในสภายังมีเลย !!!

source: เดลินิวส์

เพื่อนๆคิดอย่างไรกันคะ รู้สึกว่าอุกอาจกันจังเลย หรือเพราะกฏหมายทำอะำไรมันไม่ได้ เกิดอะำไรขึ้นกับสยามเมืองยิ้มคะ
ท่านผู้ชายและท่านผู้หญิงมีคำแนะนำอะไรให้กับเพื่อนๆ ในการดูแลตัวเองบ้าง..บางทีในบ้านตัวเองยังวางใจไม่ได้เลย....อ่านข่าวนี้แล้วเซ็งมากค่ะ
โดยคุณ : s กำลังสำนึกผิด - [4:14:51  17 มี.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
มือมันไวไปหน่อยคลิกโดนชื่อสำนึกผิด จริงๆแล้วไม่ได้ไปทำอะไรผิดมานะคะ ... แต่กำลังเซ็งคนไทย วัยรุ่นไทย อะไรทำให้คนกล้าทำผิดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะแก้ไข ป้องกันกันอย่างไรดี

เป็นเราก็คิดไม่ถึงมีเพื่อนเป็นผู้ชายถึง 8 คนไปด้วย จะเกิดเรื่องขึ้น แล้วทำไมปืนมันหาง่ายจังในเมืองไทย อ่ะ
โดยคุณ :s - [4:18:44  17 มี.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
เคยอ่านข่าวนี้แล้วเหมือนกันค่ะ
เศร้า ..
โดยคุณ :ปุ๊กปั๊กปุ้ยป้าย - [10:09:36  17 มี.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 3
อ่านแล้วก็สลดใจ แย่จริงๆ จิตใจคนทุกวันนี้ทำไมถึงยิ่งถอยหลังต่ำลงก็ไม่รู้ .. เฮ้ออ!! ...
เราว่าถ้าจะกำจัดมารสังคมพวกนี้ให้หมดไปได้ น่าจะเพิ่มโทษให้มากขึ้น ... พวกที่ฆ่าขมขื่นก็สั่งตัด...ซะให้หมด .. (ไม่ได้โหดนา เพื่อนๆ เราก็ลงความเห็นกันง่ะ) ..จะได้ไม่มีโอกาสไปทำร้ายใครอีกซ้ำสอง กฏหมายก็น่าจะเข้มงวดกว่านี้ ไม่เห็นแก่หน้าใครว่ามียศใหญ่แค่ไหน มีหน้ามีตาแค่ไหนในวงสังคม ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ..
...ที่สำคัญที่สุดนะ เราว่าน่าปลุกจิตสำนึกในเรื่องศีลธรรม...กฏแห่งกรรม ให้กันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก คนจะได้มีหิริโอตัปปะมากขึ้น มีความเกรงกลัวที่จะทำบาปมากขึ้น คนชั่วจะได้น้อยลง การที่ใครจะทำอะไรที่ผิดทำนองคลองธรรมก็จะได้รู้จักยั้งคิดมากขึ้น...สังคมคงจะน่าอยู่มากขึ้นกว่านี้เยอะเลยเนาะ ..
เฮ้ออ .. นี่เราเป็นเอามากขนาดนี้เลยเหรอเนี๊ยะ @- -@ ..
โดยคุณ :akejung เซ็ง - [18:20:15  17 มี.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 4
เวรกรรมของคนทำและคนถุกทำ..จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดครับสัตว์โลก
โดยคุณ :พิชัยนาท ภักดีเสนานฤนาท - [9:57:46  18 มิ.ย. 2550]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....