กระดานความรู้สึก


ความสุขในวันนี้ ของ ศุ บุญเลี้ยง
ฉบับที่ 2459 ปีที่ 48 ประจำวันอังคารที่ 4 ธันวาคม 2544
สัมภาษณ์
โดย "ปริศนา"
ความสุขในวันนี้ ของ ศุ บุญเลี้ยง
ศุ บุญเลี้ยง คำจำกัดความของผู้ชายคนนี้ในสายตาผู้เขียนนั้นเรียกได้ว่า เป็นศิลปินเต็มตัวและหัวใจ แนวความคิดและวิธีการทำงานของเขา มีจุดยืนที่เป็นตัวของตัวเอง

ศุเป็นทั้งนักคิด นักร้อง นักเขียน นักธุรกิจ เจ้าของกิจการที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับสังคมอย่างร้านนมและขนมปัง “อิ่มอุ่น” และตอนนี้ยังเพิ่มงานให้ตัวเอง ในฐานะที่ปรึกษาปัญหาหัวใจในนาม “ศุราณี” ในเว็บไซต์ไทยมุงดอทคอม เราไปคุยกับเขาถึงแนวความคิด และวิถีทางในการทำงานของเขาอันเป็นเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจไม่น้อย

จุ้ยเป็นศิลปินแบบไหน เป็นศิลปินที่ทำงานเพื่อให้คนชื่นชม หรือเพื่อสมใจตัวเองคะ

“อยากให้คนชื่นชมครับ แต่ไม่ได้อยากให้ทุกคนชื่นชมเพราะคงเป็นไปไม่ได้ คือเราเป็นศิลปินที่ไม่ได้อยู่ในโลกอุดมคตินะ เพราะถ้าอยู่ในโลกอุดมคติจะถูกใจทุกคน จะเป็นที่รักของทุกคน จะอารมณ์ดีตลอดทุกวินาที แต่โลกในความจริงคือไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีคนชอบทุกคน คือถ้าคุณทำเหมือนเดิม เขาก็ว่า เฮ้ย...ทำไมอยู่เหมือนเดิม อยู่กับที่ไม่มีพัฒนาการ แต่พอเปลี่ยนแปลงก็ เฮ้ย...ทำไมไม่คุ้นหู เรียกว่าทำอย่างไรก็ต้องมีคนไม่ชอบ”

เป็นคนที่ร้องเพลงไม่เก่ง เล่นดนตรีไม่ดี พอออกอัลบั้มแต่ละครั้งจึงต้องไปเรียนร้องเพลง แล้วร้องดีขึ้นไหมคะ

“ต้องฝึกกำลัง อย่างบางคนกินเหล้า เที่ยว สูบบุหรี่ แต่ยังร้องเพลงดีจัง แต่ผมไม่ได้เลย ไม่ว่าจะอดนอนเอย กินเหล้าเอย เหล่านี้มันทำลายอย่างชัดเจน สูบบุหรี่ไม่ได้เลยเพราะไม่มีแรง ก็ต้องไปว่ายน้ำ ออกกำลัง ต้องใช้ความตั้งใจแต่ไม่ถึงกับต้องไปเรียนนะ ไม่ใช่ไม่อยากเรียน แต่ไม่รู้จะเอาเวลาตอนไหน อาจารย์ที่ไหน สอนกันได้อย่างไร คือมนุษย์มันมีความอยาก ความกระหาย ความปรารถนา ซึ่งจะมีระดับของมัน ถามว่าอยากเรียนร้องเพลงไหม ก็อยากแต่ไม่มีความกระหือรือ แต่ก็พยายามไม่ชุ่ยกับงาน เรารู้ว่าเราเล่นไม่เก่งปั๊บเราก็เอาคนที่เล่นเก่งมาเล่นให้ ต้องใช้เครื่องเป่าแพงๆ ก็ไปเอาเงินมาเพื่อให้ได้เสียงเป่าจริงๆ อยากได้กลองจริงๆ ก็ต้องไปตามคนเล่นมา ซึ่งคนอื่นก็บอกกลองจริง กลองปลอมเสียงคล้ายๆ กันแหละ คนฟังไม่รู้หรอกแต่เรารู้ แล้วเราก็เชื่อว่ามีคนอื่นที่รู้ด้วย เพราะกลองจริงฟังแล้วมันฉ่ำใจ อิ่มใจ เราก็จะยอมเสียเงินมากเพื่อตรงนั้น”

จุ้ยคิดว่าอะไรที่ทำให้เราเป็นคนที่คิดแบบนี้

“คิดว่าน่าจะเป็นการเพิ่มพลังใจให้ตัวเองในการดำรงชีวิต น่าจะเป็นการได้ทำอย่างที่เราชอบบ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ ยืนยันในความเชื่อ ในทัศนะ ก็อาจจะทำให้เรามีกำลังใจแข็งแรง และศรัทธากับตัวเองขึ้น”

ที่ผ่านมาเคยคิดว่าตัวเองพลาดอะไรไปไหมคะ

“ไม่ดูแลสุขภาพในตอนที่วัยคะนอง ใช้ร่างกายผิดประเภท ของไม่ควรแบกก็แบก ที่ไม่ควรนอนก็นอน ของไม่ควรกินก็กิน แล้วก็รื้อฟื้นกลับมายาก เหมือนกับเล่นตะกร้อ กระโดดเตะตะกร้อโดยที่ไม่รู้วิธีการลง มันน่าทุเรศนะ ความที่อยู่ในวัยคะนอง แบกเป้ ดื่มกิน ร่างกายก็เลยฟื้นยาก”

แต่ก็เป็นชีวิตที่ได้ใช้อย่างคุ้มค่า

“ใช้ชีวิตคุ้ม แต่ไม่ดูแล เห็นด้วยว่าคนเราควรใช้ชีวิตให้คุ้มแต่ต้องดูแลมัน ถ้าเราดูแลเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้า เราก็จะใช้มันได้นาน ทุกวันนี้จะมีปัญหา อย่างเราจะไปโบกรถไปเนปาล จะเอาเป้ขึ้นหลังแต่หลังเจ็บแล้วจะทำอย่างไรคือใจเราเดินไปแล้วแต่หลังยังงออยู่”

แล้วงานหนังสือใหม่ๆ ล่ะคะ

“นี่เป็นปัญหา ไม่ค่อยมีงานใหม่ ก็เขียนบ้างในเว็บไซต์ ในบทความต่างๆ แต่การเอามารวมเล่มคงยาก เพราะไม่มีคนที่จะมาช่วยรับใช้ความคิด คือหนังสือเขียนเสร็จแล้ว ก็ต้องเอาไปจัดรูปเล่ม ซึ่งมันจะมีปัญหากับการจัดรูปเล่ม ในส่วนของงานศิลปกรรม เวลาเขาทำมาให้ดูแล้วมักจะไม่ค่อยชอบ กว่าจะเจอที่ชอบๆ จะนาน”

ทำไมถึงอยากเขียนเรื่องการตอบปัญหาหัวใจคะ

“เคยทำหนังสือแล้วเห็นว่าหนังสือกับเว็บมีความคล้ายกันและต่างกัน ความต่างกันที่เห็นได้ชัดคือการโต้ตอบระหว่างผู้อ่านและผู้เขียน ก็ลองคิดดูว่าถ้าจะปรึกษาปัญหาหัวใจในหนังสือกว่าจะเขียนถาม เขียนตอบ แล้วส่งไปรษณีย์ไป กว่าจะอ่าน กว่าจะถึงรอคิวตอบ กว่าจะพิมพ์ลงในอีกเล่ม บางทีคลอดลูกแล้วมั้งกว่าจะตอบได้ แต่ขณะที่เว็บเปิดมาให้เห็นเลย แล้วจะตอบหรือเปล่าหรือจะคิดก่อน ตอบเสร็จถามต่อเลย ตอบไม่กระจ่าง สมมุติเราตอบในหนังสือแล้วไม่กระจ่าง ๙ เดือนผ่านไปกว่าคนนั้นจะเขียนถามกลับมาคงมีสามีใหม่ไปแล้วมั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่การตอบแบบเฉลยนะ เป็นการปรึกษาเฉยๆ คุณมีปัญหาเหรอ ผมก็มีปัญหาแบบนี้ ตอนผมแก้ปัญหาแบบนี้นะ ตัวคุณจะแก้อย่างไรเรื่องของคุณ คุณเล่ามาไม่กระจ่างผมก็ถามกลับไป ถามกันไปถามกันมา บางทีไม่ต้องตอบเขาก็อาจจะถามตัวเองจนไปเจอคำตอบ”

ต้องมั่นใจประสบการณ์ตัวเองมากพอที่จะรับปรึกษาปัญหาคนอื่นได้

“ประสบการณ์ก็เยอะเท่าที่มี ที่มั่นใจเพราะว่าไม่ใช่การให้คำตอบแต่เป็นการให้คำปรึกษา เรามั่นใจว่าเราเป็นคนที่มีจิตใจที่จะช่วยเพื่อนมนุษย์จริงๆ แล้ว แบบที่มาตอบนี้เราจะได้อะไร เพราะเขาไม่ให้เงินในเว็บ แล้วเราก็เสียค่าเว็บ แล้วตอบไปมันจะได้อะไร ก็มีทางเดียวคือตกลงกับเขาก่อนว่าผมไม่ได้เป็นเว็บอาชีพนะ ผมเป็นนักเขียนอาชีพ เพราะฉะนั้นถ้ามีประโยชน์ผมจะเอาไปขายนะ ทีนี้เราตอบเราก็รู้สึกว่าเราเป็นคนที่สนใจคนอื่นแล้วก็มีทัศนคติที่หลากหลาย เพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะรับเรื่องที่หลากหลายได้ เช่น ถ้าเราเจอผู้ชายชอบกับผู้ชายเราจะไม่ยี้ แต่ก็ไม่ได้ส่งเสริมแต่เราก็เห็นว่าธรรมชาติคุณเป็นอย่างนี้ใช่ไหม ถ้าคุณเป็นอย่างนี้ เราไม่อาสาเข้ามาตอบ แต่อาสาเป็นที่ปรึกษาให้ได้ ผมมีเจตนาที่จะช่วยคุณก็แค่นี้ เจตนาดี ประสบการณ์ก็อยู่ในระดับหนึ่ง ใครๆ ก็เรียกพี่กันหมดแล้วนี่ นักข่าวก็เรียกพี่หมดแล้ว”

ปัญหาหัวใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนี่คะ

“เราคิดว่าเราเป็นคนใจกว้าง ถ้าถามว่าทำไมถึงตอบ เราก็ไม่ได้อกหักมาหลายครั้ง เราคิดว่าเราใจกว้างพอที่จะเข้าใจว่าเด็กจะฟูมฟาย แต่บางทีเราก็ไม่รู้จะแนะนำว่าอย่างไรนะ ก็บอกให้หายใจไปเรื่อยๆ ก่อน เขาบอกเป็นคำตอบที่ดีมากเลย ปัญหาแบบรุมเร้ามาก อย่าเพิ่งหยุดหายใจนะ เขาก็บอกแค่พี่ให้หายใจไปเรื่อยๆ หนูก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว อีกอย่างเราคิดว่าเราเป็นคนที่สื่อสารด้วยภาษาได้ระดับที่ดี คือไม่ได้ชมตัวเองนะ แต่เราเชี่ยวชาญในการสื่อสารด้วยภาษาที่จะบอกว่าความรักก็เหมือนฟุตบอลนะ ก็ขนาดมันมีชื่อว่าฟุตบอล แต่ถามจริงๆ ว่าเขาเล่นด้วยเท้าเท่านั้นหรือเปล่า เพราะบางคนใช้มือได้ บางคนใช้หัวได้ เพราะฉะนั้นคุณลองคิดสิ ฟุตบอลยังใช้หัวได้ ทำไมคุณจะแหกกฎออกไปบ้างไม่ได้ ไปดึงกางเกงคู่ต่อสู้บ้าง เขาก็รู้สึกว่าการเปรียบเทียบทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น แล้วก็มีความจริงในการด่า คือเรื่องไหนด่าก็จะด่าแบบจริงๆ ด่าแบบเต็มๆ ด่ากันจะๆ”

ตัดสินใจนานไหมคะว่าจะทำเว็บนี้

“ไม่ได้ตัดสินใจเลย ทดลองทำด้วยความสนุก แล้วก็อยากเคลื่อนไหวไปกับกระแสไอที อยากรู้จักมันมากว่าที่คนพูดวาอินเทอร์เนตเป็นแหล่งข้อมูล เป็นแหล่งรวมภาพโป๊ เป็นดาบสองคม เป็นการให้นิยามที่ฉาบฉวยก็เลยเข้าไปใช้มัน”

ตัวเองได้อะไรกลับมาบ้าง กับการเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้คนอื่น

“ก็ทำให้หัวใจตัวเองดีขึ้น เวลานั่งทำงานก็ยิ้ม ไม่ได้โศกเศร้าไปกับเขา ยิ้มเหมือนเรากำลังช่วยใครก็ไม่รู้ ที่เราไม่รู้จัก แต่ก็ดีที่ได้ช่วยเขา ได้ผลจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เรามีเจตนาจะช่วยจริงๆ ก็คงเป็นความรู้สึกแบบเป็นกุศลจิต อย่างที่สองก็จะได้มีผลงานหนังสือออกมาบ้าง แล้วคิดว่าหนังสือที่ออกมาน่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านซึ่งไม่จำเป็นต้องมีปัญหาหัวใจก็ได้ แต่ทำให้มองโลกในหลายมุมขึ้น มองจากปัญหาของคนอื่น บางคนมองปัญหาของคนอื่นแล้วจะเห็นว่าปัญหาของตัวเองเล็กน้อย”

สนุกกว่าเขียนหนังสือไหมคะ

“ประหยัดกว่า สบายกว่า เป็นการทำงานที่ผ่อนคลายกว่าการนั่งเขียนหนังสือ เพราะได้อยู่กับตัวเอง ได้คิดอยู่คนเดียว แต่ได้ผลตอบรับเร็วกว่า เช่น พอเราตอบไปก็จะมีคำขอบคุณกลับมาทันที”

ทุกอย่างที่ทำอยู่บนพื้นฐานของความสบายใจตัวเองเป็นหลักหรือเปล่าคะ

“นี่คือข้อแรกนะ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง บางอย่างไม่สบายใจก็ต้องทำ เหมือนกับต้องดูแลลูกน้อง ต้องดุลูกน้อง ใครอยากจะดุ ความปรารถนาดีไม่ใช่การหยิบยื่นไมตรีนะ อยู่ที่การให้โอกาส บางทีการเข้มงวดกับเขา ตักเตือนเขาก็เป็นประโยชน์กับเขาเหมือนกัน หรือการออกจากบ้านก็ไม่ใช่เรื่องสนุก ถามว่าเราสะดวกไหม เราก็ไม่สะดวกหรอก แต่เราก็ต้องทำโดยความเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ มีหลายเรื่องที่ไม่สะดวกสบายแต่ก็จำเป็นต่อการดำรงอยู่ เพราะความเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ อันนี้เกิดไม่สะดวกแล้วแต่ถ้ายังไหวก็จะทำ”

ความสุขในชีวิตวันนี้ของจุ้ยคืออะไรคะ

“ความสุขในวันนี้คือตัวเองอาจจะรู้สึกว่าถ้าเมื่อไรชีวิตตัวเองพอดีๆ มันคือความสุข แต่ถ้าลึกกว่านั้นคือการที่ได้รับการยอมรับก็คือความสุขอันหนึ่ง แล้วก็การที่เรายอมรับตัวเองว่าเราทำได้แค่นี้แหละ หรือเราทำได้ขนาดนี้ ก็จะนำมาซึ่งความสุข”

ความสุขของผู้ชายคนนี้คือการได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักและยังมีประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น...ถ้าทุกคนทำได้อย่างนี้ สังคมเราคงมีความสุขได้ไม่ยาก...


โดยคุณ : http://www.sakulthai.com - [6:37:55  4 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ..ที่นำมาให้อ่านกัน
อิ่มอก--อิ่มใจ
โดยคุณ :huimin *L* - [10:00:51  4 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณากครับ อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลนครับ
โดยคุณ :ป.ล. - [16:36:26  4 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 3
^-^
โดยคุณ :ตะแบกบาน - [17:43:35  4 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 4
ดีค่ะ แต่ตินิดเดียว ที่พี่จุ้ยใส่เสื้อตัวเดียวกับตอนที่พาไทยรัฐ ทัวร์อิ่มอุ่น และ รัก คนอ่าน เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว เลยทำให้เหมือนกับ การสัมภาษณ์และพาเยี่มชมคราวนั้นเป็นงานต่อกัน
โดยคุณ :รักงมงาย - [19:10:12  4 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 5
:-)
โดยคุณ :134 - [21:13:48  4 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 6
:D
โดยคุณ :ม่อนฝ้าย - [19:55:27  5 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ รู้สึกดี ๆ ยังไงไม่รู้แต่ได้กำลังใจดี
โดยคุณ :byby - [21:30:52  8 ธ.ค. 2544]

ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณนะคะที่เอามาฝาก "ชื่นใจจังเลย" ค่ะ
โดยคุณ :opel - [15:52:48  9 ธ.ค. 2544]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....