กระดานความรู้สึก


วาระซ่อนเร่นสังคมไทย
วิถีแห่งผีเสื้ออาร์ซีเอ
> >
> > วาระซ่อนเร่นสังคมไทย
> >
> >
> สถานบันเทิงนับสิบแห่งที่เรียงรายในย่านที่ถูกเรียกว่า
> อาร์ซีเอ
> > สว่างไสวด้วยแสงไฟ ระยิบระยับ
> ที่นี่...คือสถานที่สำหรับเฮฮา
> > ปาร์ตี้ของหนุ่มสาวออฟฟิศ...วัยรุ่นวัยจ๊าบขาโจ๋
> หนุ่มสาวขี้เหงา
> > นักเรียนระดับมัธยม ไปจนถึงชั้นประถม
> > นิยามคำว่า เฮฮาปาร์ตี้ ที่นี่
> หมายถึงกระบวนการที่เริ่มต้นด้วยการ ดื่มเหล้า
> > เต้นรำ คละเคล้าการเสพยา และสำหรับเด็กสาว
> ไร้เดียงสา
> > บทสุดท้ายมักจบด้วย “วาระซ้อนเร้น”
> ทุกเสี้ยวอณูบรรยากาศ
> > ดูจะจงใจยั่วยุให้เกิดการมีเซ็กซ์เสรี
> > ภาษาวัยรุ่นที่นี่สื่อกันสั้นๆ “ถ้า WANT ก็ไป WORK”
> ทุกเวลา
> > ไม่ว่าจะเป็นลานจอดรถ บันไดหลังร้าน
> กระทั่งในห้องน้ำ
> >
> > ชีวิตของวัยรุ่น-หนุ่มสาวเหล่านี้
> > ถูกบันทึกลงในรายงานภาคสนามของนิสิตชั้นปีที่ 3
> คณะครุศาสตร์
> > จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
> > น.ส.อภิรดี บัวสมบูรณ์ น.ส.สลักจิต พรหมพ้วย
> น.ส.ดลฤทัย สีบุญเรือง
> > น.ส.สุพรรณิกา เชี่ยวเฉลิมศรี น.ส.วีรณา ผังนิรันดร์
> น.ส.จุฑามณี
> > ทัตติยพงศ์ โดยการควบคุมของ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ
> > ผอ.ศูนย์วิจัยนโยบายการศึกษา
> >
>
กลุ่มสาวน้อยนักศึกษา...ใช้เวลานานพอสมควรในการสำรวจกึ่งวิจัย
> > โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการรู้พฤติกรรม
> > ของวัยรุ่นที่มาเที่ยวในย่านอาร์ซีเอ โดยเฉพาะ
> ในราตรีแห่งแสงสีพร่างพราย
> > พวกเธอเปรียบให้เหมือนสวนดอกไม้
> แหล่งโบยบินของหนุ่มเหน้าสาวน้อย
> > ตั้งแต่วัยไร้เดียงสา จนถึงวัยรู้เดียงสา
> ซึ่งพวกเธอจงใจเรียกว่า ผีเสื้อ
> >
> > ต่อไปนี้ เป็นบางส่วนจากบันทึกอันน่าระทึกใจ
> บันทึกผีเสื้อ อภิรดี
> > บัวสมบูรณ์
> อธิบายภาพรวมที่ได้จากการสำรวจโดยใช้แบบสอบถามว่า
> > เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยม
> มาเที่ยวที่อาร์ซีเอเพราะอยากรู้
> > อยากลอง บางรายถึงกับหนีผู้ปกครองออกมา
> เมื่อมาแล้วก็ติดเหมือนติดยาเสพย์ติด
> > มาแล้วก็ต้องมาอีก วัยรุ่นเด็กมัธยมต้น
> มักจะมาเพื่อเต้น
> > สนุกสนานบันเทิงมากกว่าจะมาเพื่อดื่มเหล้า
> > อาจจะเป็นเพราะราคาเหล้าถูกที่สุดประมาณ 500 บาท
> ในขณะที่เป๊ปซี่ หรือโค้ก
> > ราคาขวดละ 30 บาท
> >
> > วัยรุ่นเหล่านี้จะมีสไตล์การเต้นของแต่ละคน
> บางคนโยกตัวจนถึงขนาดกับว่า
> > ชิ้นส่วนของร่างกายแทบจะหลุดออกจากกัน
> แต่ก็มีท่าเต้น
> > และการร้องเพลงเนื้อร้อง
> ท่อนสร้อยของเพลงแต่ละเพลงเหมือนกัน
> > จนดูจะเป็นวัฒนธรรม
> เปิดเพลงนั้น...ถึงท่อนสร้อยท่อนนั้น
> > ทุกคนก็จะเต้นและร้องได้ราวกับซ้อมกันไว้
> บางรายก็คิดท่าเต้น
> > ออกมาเฉพาะกลุ่มตัวเอง
> >
> > คราวนี้ ก็มาถึงจุดสำคัญ การสื่อสารระหว่างหนุ่มสาว
> แน่นอน...โดยธรรมชาติ
> > มักเริ่มจากฝ่ายหนุ่ม จึงต้องใช้คำว่าจีบสาว
> วิธีการจีบสาว
> > แตกต่างกันไปตามลีลา
> เมื่อถูกใจกันก็จะมานั่งโต๊ะเดียวกัน
> > ร้านปิดอาจจะไปต่อที่อื่น ค่านิยมใหม่
> สำหรับผีเสื้อหญิงที่ไปถึงอาร์ซีเอ
> > แล้วไม่ได้แจกเบอร์โทรศัพท์
> หรือเบอร์เพจเจอร์ให้หนุ่มใด ใครสักคน
> > เธอสารภาพในแบบสอบถามว่า “อายเค้าแย่เลย”
> ก็เพราะค่านิยมเป็นเช่นนี้
> > จึงไม่มีใครแปลกใจ เมื่อเห็นคู่หนึ่งคู่ใด
> > กอดจูบกันอย่างโจ่งแจ้ง ไม่แปลกใจ
> ไม่ว่าคู่นั้นจะเป็น เด็กระดับมัธยมต้น
> > หรือมัธยมปลาย หรือเป็นเพียงเด็กประถม
> อภิรดีสำรวจจนพบระดับความถ
> > ี่ในการเที่ยว ประมาณเดือนละ 2-4 ครั้ง รูปแบบการไป
> > มักจะไปเป็นกลุ่มรวมหญิงและชาย
> มากกว่ากลุ่มเพื่อนหญิงล้วน หรือเพื่อนชายล้วน
> > บรรยากาศโดยทั่วไปในย่านอาร์ซีเอ นิสิตจุฬาฯ
> > กลุ่มนี้สำรวจพบสิ่งที่น่าตกใจก็คือ
> มีการพูดจาที่ยั่วยุ
> > ให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ มากที่สุด
> >
> > ตัวอย่าง
> ที่พวกเธอยกมาเล่า...ในร้านยอดนิยมร้านหนึ่ง
> ในช่วงแข่งขันฟุตบอล
> > คู่สำคัญ ทันทีที่ฝ่ายหนึ่งยิงประตู
> อีกฝ่ายหนึ่งก็มีการโห่ร้อง
> > ดีเจก็บรรยายเสริมว่า “บอกแล้ว เล่นบอลมีแต่เสีย
> กลับบ้านไปเล่นเมียมีแต่ได้”
> > บางบรรยากาศ ดีเจก็พูดว่า
> “ขอต้อนรับสุภาพสตรีไม่มีนมทุกคน”
> > แล้วก็อาจเติมต่อว่า “วันนี้อากาศดี
> เหมาะแก่การมีเซ็กซ์เป็นอย่างยิ่ง”
> > เมื่อเก็บข้อมูล เจาะลึกลงไป อภิรดีพอจะแยกแยะได้ว่า
> รูปแบบการมีเพศสัมพันธ์
> > มีทั้งแบบเสรี “ฟรีเซ็กซ์” และแบบ “ขายบริการ”
> >
> > วัยรุ่นมองการเพศสัมพันธ์กับแฟน เป็นเรื่องธรรมดามาก
> > ทุกคู่ที่มาเที่ยวพอเมาได้ที่แล้ว ก็จะกอด จูบ
> ลูบคลำกันในที่สว่าง
> > หรือในมุมมืดของสถานบันเทิง ไม่อายสายตาใคร
> “วัยรุ่นหญิงที่มีพฤติกรรม
> > ในการขายบริการ
> มีน้อยกว่ากลุ่มวัยรุ่นหญิงแบบฟรีเซ็กซ์
> > นี่เป็นอีกข้อมูลที่น่าสนใจ
> กลุ่มขายบริการทำโดยสมัครใจ
> > เนื่องจากต้องการเงินมาเที่ยวครั้งต่อไป
> ส่วนกลุ่มที่ฟรีเซ็กซ์
> > ทำโดยสมัครใจเช่นกัน เมื่อถูกใจกัน ชอบพอกัน
> ก็มีเพศสัมพันธ์กัน
> > แต่ก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราว
> แค่ข้ามคืน
> > สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า กลุ่มนิสิตจุฬาฯ
> สำรวจพบคำพูด “ผู้หญิงของเรา”
> > “ผู้ชายของเรา” ซึ่งก็หมายความว่า
> ผู้หญิง/ผู้ชายคนนั้น
> > เป็นของสาธารณะสำหรับกลุ่มๆ นั้น คือ
> เขา/เธอมีเพศสัมพันธ์ได้กับทุกคนในกลุ่ม
> > ไม่ใช่เป็นของของใครเพียงคนเดียว
> หรืออาจเป็นความสัมพันธ์แบบร่วมด้วยช่วยกัน
> > หรือที่เรียกว่าเซ็กซ์หมู่
> >
> > สิ่งที่น่าแปลกใจต่อไปก็คือ
> ข้อมูลจากการสำรวจครั้งนี้
> > ยืนยันว่าไม่มีแม่เล้าเป็นเอเยนต์บริการนักศึกษา
> ฉากต่อไป
> > เป็นฉากหลังสถานบันเทิงปิดตัว
> > เป็นฉากที่กลุ่มผู้สำรวจใช้คำว่า...วาระซ่อนเร้น...
> > อภิรดีบรรยายให้เห็นภาพหนุ่มสาวที่เมามาย
> เดินโซซัดโซเซ เป๋ไปเป๋มา
> >
>
แต่ที่น่าติดใจ...คือสภาพของหญิงสาวที่นุ่งผ้าน้อยชิ้นเหมือนใส่เสื้อยกทรงตัว
> > เดียว เมามายไม่ได้สติ มีผู้ชาย 2 คน คอยหิ้วปีก
> หิ้วไปก็จับไป จับโน่น
> > จับนี่ จับหมดทั่วร่าง
> > หิ้วกันแล้ว ไปกันที่ไหน...จากการสำรวจพบว่า 80%
> จะไปต่อกันที่โรงแรม
> > หรือไม่ก็ห้องของผู้ชาย แท็กซี่ที่ถูกตามสัมภาษณ์
> บอกกับกลุ่มนิสิตว่า
> > วัยรุ่นส่วนใหญ่จะไปต่อกันที่โรงแรมเอวัณ
> เนื่องจากอยู่ใกล้
> > หลายคู่อดทนไม่ไหว กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันในรถ
> แล้วก็มาถึงยาเสพย์ติด
> > ส่วนเสริมสำคัญ ใช้กันด้วยเป้าหมายเดียว
> คือเพิ่มดีกรีความมัน
> > ในขณะอารมณ์รักอารมณ์ใคร่ กำลังจะได้ที่ฮอตฮิตที่สุด
> > สำหรับวัยรุ่นที่เบี้ยน้อยหอยน้อย คือยาบ้า
> > ขายกันในราคาเพื่อน คือ 60 บาท ราคาคนอื่น 80 บาท
> > ส่วนกลุ่มที่มีฐานะดีเลือกใช้ยาอี เม็ดละ 500-600
> บาท
> > สำหรับแฟนเก่าเจ้าจำนำอาร์ซีเอ
> จะรู้เองว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหน จากใคร
> > ของแบบนี้สำหรับคนนอกอาจเป็นเรื่องยาก
> แต่หากสำหรับคนใน มองตาก็รู้ใจกันแล้ว
> > “น้องป๊อป”
>
หนุ่มน้อยผู้ช่ำชองบอกว่า...เขาคิดว่าเรื่องเที่ยวกลางคืน
> > เป็นสิ่งที่ไม่ผิด
> เมื่อไปถึงก็ต้องจ่ายค่าเปิดดริงก์ ครั้งละประมาณ 300
> บาท
> > ไปกันประมาณ 10 คน ก็หารกันคนละ 30 บาท
> ถามถึงยาเสพย์ติด
> > ป๊อปบอกกับนิสิตจุฬาฯว่า เขาไม่ได้ติดยา
> แต่เพื่อนหลายคนเสพยา เช่น ยาบ้า
> > ยาอี ยาเสพย์ติดพวกนี้ ขายกันลับๆ ใส่ซองพลาสติก
> ขายกันเป็นเม็ด
> > ราคาแตกต่างกัน
> ขึ้นอยู่กับว่ายา...ผลิตจากเมืองนอกหรือเปล่า
> ประสบการณ์
> > ทำให้ป๊อปได้บทเรียนสำคัญว่า
> เวลาเต้นหรือจะเดินไปไหน ให้ระวังแก้วน้ำ
> > เพราะจะมีคนแอบใส่ยาลง ไปเมื่อไหร่ก็ได้
> และหากเป็นผู้หญิง
> > เมื่อขึ้นต้นด้วยการโดนมอมยา
> > ก็มักลงท้ายด้วยการถูกข่มขืน
> >
> > ป๊อปมีประสบการณ์ลุ่มลึก
> ถึงขั้นรู้จักมาเฟียหรือพี่ใหญ่ในอาร์ซีเอ
> > เมื่อเจอเขาต้องแสดงความเคารพ
> จึงจะได้รับการคุ้มครอง
> > ป๊อปเผชิญเหตุการณ์มากมาย เช่น
> อยู่ในเหตุการณ์ที่กลุ่มคนยกพวกตีกัน
> > หลายครั้งมีคนบาดเจ็บ ถึงขนาดเสียชีวิตเลยก็มี
> ประเด็นของเหตุวิวาท
> > ตรงกับปากคำของแท็กซี่ในพื้นที่ว่า
> ทะเลาะกันตีกันมีทุกวัน บางคืนฆ่ากันตาย
> > รถพยาบาล รถตำรวจมากันเต็มไปหมด แต่สำหรับอาร์ซีเอ
> > เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องปกติ
> > ในฐานะผู้เรียนรู้ รู้ลึกรู้จริง
> จากประสบการณ์การทำรายงานบันทึกผีเสื้อ
> >
> > อภิรดีทิ้งท้ายให้บทสรุปว่า การเที่ยวกลางคืน
> ไม่ว่าจะที่อาร์ซีเอ หรือที่ไหน
> > มีอันตรายรอบด้าน
> หากไม่รู้จักระวังหรือควบคุมตนเองให้ดี
> > ภัยอาจจะมาถึงตัวได้ง่าย
> สำหรับผู้หญิงต้องมีสติตลอดเวลา รู้ว่าสิ่งไหนควรทำ
> > สิ่งไหนไม่ควรทำ แต่งกายให้มิดชิด ไม่ล่อแหลม
> ระมัดระวังเครื่องดื่ม ของตนเอง
> > ที่สำคัญ ใครที่ไม่รู้จักมาตีสนิท ชวนไปเที่ยวต่อ
> ควรระวังตัว อย่าไว้ใจ.
โดยคุณ : เขาว่าฯ - [10:39:12  2 เม.ย. 2544]

ความคิดเห็นที่ 1
น่าสงสารวัยรุ่นไทย
น่าเห็นใจคนเป็นพ่อเป็นแม่
โดยคุณ :พริกขี้หนู - [16:19:04  2 เม.ย. 2544]

ขอเชิญร่วมเสนอแนะความคิดเห็นครับ
จาก :
email :
icq :
รูปภาพ :

รายละเอียด

อาการ :



กรุณาคลิก "ส่งข้อมูล" เพียงครั้งเดียวครับ....