เฮ้อ !!!!!    กลุ้มใจจริง ๆ ไม่รู้จะเลือกอะไรดี  ช่วยกันคิดหน่อยดิ เฮ้อ !!!

โดยคุณ :

ทำ thesis ค่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งลุ้นตอนสอบ compre
เพราะจะทำ IS หรือ thesis ก็เหนื่อยพอกัน (รึเปล่าคะ ??)

โดยคุณ :

is เป็นวิทยานิพนธ์น้อย เวลาสอบเหนื่อยน้อยกว่า เพราะความเข้มข้นต่ำกว่า thesis ... มหาลัยหลายแห่งอยากให้ นศ/นิสิต เขียนพวกภาคนิพนธ์ สารนิพนธ์มากกว่า เพราะสัดส่วนจำนวนอาจารย์ที่ปรึกษาต่อadvisee ถูกบังคับโดยเกณฑ์ของ สกอ. โดยถ้าเป็น อ.ที่ปรึกษ่วิทยานิพนธ์จะรับได้ไม่เกิน ๑๕ เล่ม ๑เล่มของวิทยานิพนธ์เท่ากับ ๑๐ เล่ม สารนิพนธ์อะ เพราะงั้นหลาย ม.เลยอยากให้ นศ/นิสิตทำพวกสารนิพนธ์/ภาคนิพนธ์มากกว่า...

อยากรู้ไรก็ถามมาละกัน

ถ้าให้แนะนำจากประสบการณ์ของผมนะ... ถ้าอยากจบไว ปัญหาน้อยให้ทำ IS แต่ถ้าอยากเป็นนักวิชาการที่ดีน่าทำ thesis มากกว่า เพราะโดยหลักการเนื้อหาจะเข้มข้นมากกว่า ซึ่งถ้าเรียนสายสังคมศาสตร์และศิลปศาสตร์ก็น่าทำวิจัยเชิงคุณภาพ เพราะจะได้เนื้อได้น้ำมาก

โดยคุณ :

picmee เรียนสายบริหารค่ะ ภาคพิเศษผู้บริหารต่างหาก
ไม่มีให้เลือก
ตามหลักสูตรเขาให้ทำ IS และสอบ Compre ค่ะ
ยากง่ายยังไง mail มาถามก็ได้

ตอนนี้อยู่ในช่วงทำ IS อยู่ ก็ว่าเหนื่อยแล้ว นี่ยังต้องมาเตรียมสอบ compre อีก
แต่มันไม่มีให้เลือกอ่ะ ก็เลยต้องทำ

ความละเอียดของเนื้อหา Thesis จะมากกว่า (อ.บอกน่ะ) ส่วน IS ก็จบง่าย (ถ้าขยัน)

เลือกเอาๆ

โดยคุณ :

แบบว่า โปรแกรมที่อิคคิวเรียน มันก็มีให้เลือกเหมือนกันค่ะ
(แต่เป็นเป็นรุ่นน้อง ไม่ใช่รุ่นเรา T_T)

แต่ก็เป็นที่รู้กัน ทั้งในหมู่เด็กและอาจารย์
ว่าทำ IS ไป ก็ไม่ใช่ว่าอาจารย์จะให้ผ่านไปได้ง่ายๆ อยู่ดี
แล้วข้อสอบ compre ก็ออกมาเพื่อให้เด็กตัดสินใจทำ thesis ด้วย
สุดท้าย ทุกคนก็จะถูกกวาดต้อนให้มานั่งทำ thesis อยู่ดี -_-'

แต่ตอนนี้ก็รู้สึกขอบคุณเค้าแล้วนะคะ ที่ให้เราทำ thesis
เพราะขนาดทำ thesis แล้ว ยังรู้สึกว่าเรารู้อะไรไม่เยอะเลย
ถ้าขืนทำ IS นี่ อาจจะเดินตัวลอยๆ ออกไปทำเสียชื่อคณะได้
(แต่ก็น่าจะขึ้นอยู่กับว่าเรียนสาขาอะไรด้วยมั้งคะ ??)

โดยคุณ :

เห็นด้วยกับข้างบนทั้งหมด
- IS เค้าลือว่าจบง่ายกว่า แต่อาจไม่รู้อะไรลึกซึ้งอย่างที่อิคคิวบอก

ทั้งนี้เราคิดว่าลองดูธรรมชาติตัวเองไหม เราใช้เกณฑ์ "บังคับตัวเองได้แค่ไหน" ถ้าคิดว่าตัวเองบังคับตัวเอง ให้รับผิดชอบทำงานได้ดีแนะนำให้เลือก ธีซีส  สำหรับเรานะส่วนตัวนะส่วนตัว เราว่า ธีซีสทำเสร็จแล้วมันภูมิใจดีอ่ะ ตั้งแต่ต้นจนจบ

แต่ถ้า!!!! บังคับตัวเองไม่ค่อยได้ แนะให้ลือก ไอเอส อ่ะ เพราะสังเกตจากพี่สาวเรา ชีประมาณ ขี้เกียจนิด ๆ อ่ะ ตอนเรียนครอสเวิรคแบบมีโปรแกรมสอบงี้ ยังไงมันก็ต้องอ่านหนังสืออ่ะ ผ่านฉลุย แต่พอธีซีส แม้นนนน กว่าจะปิดเล่มได้ เอ้อละเฮ้ย คิดไม่ออกอยู่หลายปีทีเดียว  ถ้ากลับไปได้ เราว่าพี่สาวเราน่าจะเหมาะกับแบบ ไอเอส มากกว่า

อ่อ อีกอย่าง ลองดูลักษณะงานในอนาคตไหม เช่น ลองคิดดูว่าสายงานที่เราจะไปสมัครในอนาคตเค้าต้องการคนที่เคยทำธีซีส หรือเปล่า เช่นพวกสายวิทย์นี้ ธีซีส อย่างเดียวเลย เพราะมันต้องถึงขั้นลงมือลงไม้
สายบริหาร อาจไม่ต้องการธีซีส เพราะ อาชีพอาจหลากหลายกว่าที่ต้องเจาะลึกเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

งงไหมเนี่ย เหมือนไม่ช่วยอะไรเท่าไร ยิ่งทำให้สับสนป่ะเนี่ย

ที่แน่  ๆตัดสินใจธรรมชาติตัวเราดี ๆ

โดยคุณ :

การศึกษาปักเจกผมว่ามันเบากว่าวิทยานิพนธ์ค่อนข้างเยอะฮะ
แต่เวลาการทำมันก็น้อยกว่าด้วยและมีการสอบ Compre ด้วย
รวมๆคงจะเบากว่าการทำวิทยานิพนธ์อยู่ สามสี่เส้นผม

วิทยานิพนธ์ถ้วได้ตัดสินใจทำแล้วเตรียมตัวอยู่กินกับมันได้เลยฮะ
ผมพูดเสมอว่าวิทยานิพนธ์...เธอคือปีศาจร้าย...
แต่การทำวิทยานิพนธ์จะได้เนื้อหนังเยอะมากเพราะเราต้องอยู่กินกับมัน
ผมทำอยู่เกือบสองปีนะ วิทยานิพนธ์

ถ้าเวลาไม่เยอะผมว่าเลือกการศึกษาแบบปักเจกดีกว่าฮะ
แต่ถ้าพอมีเวลาและไม่เป็นการรบกวนชีวิตมาก
เลือกวิทยานิพนธ์เถอะครับ

ป.ล. เด็กน้อยพูดรู้เรื่องนะ เรายืนยัน
ฮุฮุ

เห็นด้วยกะ ปล.
โดยเฉพาะข้อที่บอกว่า ทู้นี้ เด็กน้อยไม่ยอมเรียน พูดรู้เรื่อง และมีสาระ


ถึง ปล.
แกใช้ IE7 รึเปล่า

แหมมมมมมม พี่ปิ๊ก ก็!!!!!
เขิลนะเนี่ย......
แต้งกิ้วนะ ปล. ที่ให้กำลังใจ
เห็นโฆษณาพวกบริษัทน้ำมัน ปล. ต้องออกไปทะเลเหมือนในโฆษณา ป่ะ เทห์ดีอ่ะ หรือว่าต้องไปเดินทะเลทรายเลยอ่ะ



ไม่แปลกใจใช่ไหม ถ้าหนูจะบอกกว่าหนูอ่านทวนประมาณ เกือบ10 รอบเห็นจะได้ ก่อนกดส่ง

โดยคุณ :

IS คืออะไร ย่อมาจากอะไร เรียนสายวิทย์ ไม่รู้จักค่ะ ตอนเรียน จบ course work แล้วก็ต้องสอบ compre เหมือนกัน สอบทั้งข้อเขียนและปากเปล่า ถ้าผ่านก็จะได้เป็น Ph.D. candidate แล้วไปทำ thesis ยากมากเพราะต้องตีพิมพ์ใน journal ก่อนถึงจะจบได้ แค่ depend thesis ผ่าน ไม่จบค่ะ

อุ๊บ! พิพม์ผิด defend thesis ค่ะ

ของผมมีแต่ SP (Special Problem) อะครับ

แต่ก็ต้องไปสอบคอมพรี เหมือนกัน

เง้อ จะรอดมั้ย

โดยคุณ :

เพื่อนสนิทรุ่นน้องกำลังเรียนป.โท ที่ ม.ช.เศรษฐศาสตร์ เลือกทำหรือบังคับก็ไม่แน่ใจของสาขานี้ ทำ IS ครับ ส่วนตัวผมจบโทที่แม่โจ้สาขาการใช้ที่ดินและการจัุจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน(SLUSE) ทำ Thesis ครับ เมื่อได้รู้ความหมายของ IS จากการค้นหา ทำให้สบายใจระดับหนึ่งที่ต้องช่วยน้องทำ
ผมทำงานด้วยในขณะเดียวกันก็สร้างบ้าน(สำหรับรางวัลชีวิต) ผมเรียนตั้งแต่ปี 45 รับพระราชทานปริญญาบัตรเมื่อ 19 กพ.51 ปัญหาพอสมควรครับ 1.งาน-เงิน 2.บ้าน  3.เวลา 4.การเดินทาง
ถ้าทำ Thesis ถ้าจะให้สะดวกกับตัวเอง จากประสบการณ์ของผม
1.อาจารย์ที่ปรึกษาควรอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน (ของผมเป็นหลักสูตรร่วมไทย-เดนมาร์ก มี แม่โจ้, ม.ช., เกษตรบางเขน   อาจารย์ที่ปรึกษาต้องมีแม่โจ้กับม.ช. ดีนะครับที่ไม่เอาบางเขนด้วย   จะยุ่งยากมากครับเมื่อต้องขอลายเซ็น)
2.ข้อดีของสาขานี้ คือ เทอมแรก ก็จะให้คิดโครงร่างเลยครับ ผมรุ่น1 ในรุ่นหลังจะให้มีการเรียนระเบียบวิธีงานวิจัยในเทอมแรกเช่นกัน และนำเสนอในวิชาสัมมนา ซึ่งถ้าเรียนอย่างเดียวไม่ทำงาน เอาจริง ๆ 2 ปีก็จบได้ครับ
3.ข้อดีอีกประการหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความเข้มข้นจริง สาขานี้จะให้คำตอบเกือบทุกมิติของชีวิตก็ว่าได้ ผมจบสายทางด้านสังคมศาสตร์ ใน Thesis จะเป็นด้านสังคมเป็นหลัก แต่ต้องมีเรื่องของวิทยาศาสตร์รองรับด้วย เพราะการแก้ปัญหาต้องเป็นแบบบูรณาการครับ...เขาว่ายังงั้นครับ...ก็จริง...เพราะสังคมโดยทั่วไป ปัญหาและการดำรงอยู่ของชีวิต ก็มีเรื่องสังคมและวิทยาศาสตร์เป็นเหตุผลและปัญหาซึ่งกันและกัน ถ้าจบป.ตรีด้านวิทยาศาสตร์ เนื้อหาหรือชื่อก็ออกแนววิทยาศาสตร์เป็นหลัก...จบข่าวเท่านี้ก่อนนะครับ

โดยคุณ :

อยากให้ช่วยแนะนำ หัวข้อ IS  ตอนนี้เรียน ป.โท ด้านการตลาดกำลังหนักใจเรื่อง IS  อยากให้ช่วยแนะนำหัวข้อที่คิดว่าน่าสนใจ  ได้ตัวอย่างจะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยค่ะ  รบกวนด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

โดยคุณ :

ตอนแรกที่คิดศึกษาโท สนใจการทำวิทยานิพนธ์มากค่ะ เพราะคิดว่าตอนตรีเราจบด้านวิทย์-สถิติ การทำวิจัยไม่น่ายาก
แต่พอได้เริ่มเรียนโทระยะแรก โดนเพื่อนร่วมชั้นเป่าหูว่ายาก ตอนนี้เลยสับสนมาก
แล้วมาอ่านเจอกระทู้นี้อีก เริ่มจะคล้อยไป IS แล้วค่ะ
อ้อ ตอนนี้นู๋เรียนโทสาขาการจัดการวิสาหกิจสำหรับผู้บริหาร
ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน
....ใครก้อได้ชี้แนะนู๋ด้วยค่ะ
ว่าจะปักใจทำวิทยานิพน หรือเปลี่ยนใจเป็นสารนิพนดีค่ะ

โดยคุณ :

สวัสดีผู้รู้ทุกท่านค่ะ...ขอแจมด้วยคน..ขอเล่าประสบการณ์ตรงเลย เพราะเพิ่งไปสอบเข้าเรียน มรภ.แห่งหนึ่งแถวภาคอีสาน..เราจบ IS มาเค้าตีเรามากเลย..ว่าเราไม่จบ thesis ตอนประกาศก็ไม่เห็นแจ้งนะว่าสอบสัมภาษณ์..พอสอบข้อเขียนเสร็จ..วันต่อมา..บอกให้มาสอบสัมภาษณ์พรุ่งนี้...เราก็ไปสอบตามนัด..เราก็เป็นคนๆนึงทำงานการศึกษามานาน..ตอนนี้ชำนาญการพิเศษ..เคยเป็นผู้สอบสัมภาษณ์คนมาเยอะ..ช่วยน้อง ๆ ได้รับราชการมาไม่ถ้วน..พอเห็นท่าทางบุคคลที่เราคิดว่าอยากเข้าเรียนด้วย..แสดงออกแบบดูถูก(มาก)ด้วย..เราก็เคยเป็นศิษย์เก่าที่นี่นะ...ก็ออกไปฝึกวิทยายุทธ์มาจากหลายสถาบัน...But เราคิดว่าเราพร้อมที่จะเข้าหาความรู้ มาเพิ่มวิทยายุทธ์ระดับ ป.เอก เพื่อนำไปพัฒนาองค์กรทางการศึกษา..ซึ่งพร้อมที่จะหืดขึ้นคอ..ขึ้นที่ไหนก็ยอม...ใคร ๆ เขาก็ทราบว่าเรียน ระดับ ป.เอกน่ะ...ยากขนาดไหน..เราชอบความท้าทายง่ะ...อะไรๆ ที่ยากส์เราชอบ..ที่ได้ระบายมานี้นะ...คืออยากให้น้องๆ หลานๆ วางแผนในชีวิตดี ๆ ถ้าคิดว่าจะเรียนต่อ ป.เอก ก็เลือกทำ thesis เลยมีคนเรียนจบเราต้องจบครือกัลล์..But ถ้าเรามีข้อจำกัด..เราก็ต้องรู้ตัวเราเองนะ...คนอื่นก็เสนอได้ตามที่ประสบการณ์ตรง..แต่การทำทั้งสองอย่างก็อย่างที่เพื่อนๆ เล่ามา..เออ! พ่อบ้านเราก็จบงาน thesis บริการ กศ.มรภ.อีกที่นึ่ง...เราก็ช่วยเค้าทุกกระบวนการแหละนิ! แต่ที่เราเลือกเรียน is อีก ม.นึง เพราะสะดวก ใกล้ที่ทำงาน ใกล้บ้าน..เรียนหลังทำงาน..อาจารย์บินมาดูแลเยี่ยมมากมาย..น้องๆ เลขาฯอุ้ย! น่าร๊าก! ทุกคนจ้า! ทำ is ก็ทำกระบวนการวิจัยครบทุกขั้นค่ะ...เพียงแต่ใช้เวลาน้อยนะประหยัดดีออก...จบแล้วเราสามารถช่วยเป็นผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือวิจัยให้น้อง ๆ คุณครูทำผลงานวิชาการ ผู้บริหารรุ่นน้อง..จนเราตาลายแย้ว!!

โดยคุณ :

อยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ครับ ผมจบแบบ IS มา ตอนนี้มีปัญหามากเรื่องเรียนต่อ ป เอก มหาวิทยาลัยถามหา Thesis เค้าไม่รู้ว่า IS คืออะไร ก็เหมาเอาว่าผมจบ master of science มาได้ไงไม่มีงานวิจัย ซึ่งเค้าหมายถึง Thesis นะครับ ผมอาจต้องลงเรียนมากถึง 10 วิชา และภาษาเยอรมันอีก 1 ปี (ผมเรียนที่เยอรมนี) ก็คิดว่าจะไม่เอาแล้ว เฉพาะ take course รวมเรียนภาษาอาจต้องใช้เวลามากถึง 3 ปี หรือกว่านั้น แล้วถึงจะได้เริ่มทำแล็ป อีก 3-4 ปี รวมๆเวลาก็ 6-7 ปีเป็นอย่างน้อย

ฝากไว้ครับใครที่คิดจะเรียนต่อระดับสูงขึ้นไปควรทำ Thesis ไปเลยครับ

ส่วนใครที่ยังลังเลอยู่ผมก็แนะนำ Thesis ครับ เพราะงานวิจัยก็คืองานวิจัย จะมากจะน้อยก็งานวิจัย ถ้าทำวิจัยไม่เป็นถึงเลือกทำ IS มันก็จบยากอยู่ดีครับ

ส่วนคนที่มั่นใจว่าไม่เรียนต่อแน่นอน หรือเรียนเพื่อปรับวุฒิ แนะนำ IS ครับ งานน้อยกว่า  

โดยคุณ :

ผมว่านะครับ  ทำ IS หรือ Thesis  มันก็คืองานวิจัยเหมือนกัน
ข้อจำกัดต่างๆ มันอยู่ที่คนตั้งกฏเกณฑ์ขึ้น ถ้าสถาบันนั้นๆ เปิดแล้ว
ไม่มีการรับรองให้เด็กได้เรียนต่อเอก แล้วจะเปิดไปเพื่อไร

ผมคนหนึ่งที่เรียนทำ IS ไม่ได้ง่ายๆๆ เลยนะครับขอบอก
บ้างครั้งการทำ IS ของใครหลายคนดีกว่าการทำ Thesis ของบ้างคนด้วยซ้ำ

พูดแล้วเจ็บใจ  รู้ช้าไปเรียนแบบทำ IS ค่าเทอมก็แพง  แถมไปต่อเอกก็อยาก

แต่เรียนแบบไหนก็แล้วแต่ครับ  ทำความรู้ที่ได้เรียนมาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ก็คุ้มครับ

โดยคุณ :

ถ้าไม่คิดไปทางสายวิชาการหรือเรียนต่อรีบจบ เลือก is ค่ะ

โดยคุณ :