Fw: ทำไมต้องแลกด้วยชีวิตเชียวหรือครับ
ผมผ่านการเสียเพื่อนรักไปครบ 9 วันนี้เองครับ
> > >
> >
> >อาจจะไม่ใช่เรื่องมงคลนักที่จะบอกเล่ากันแต่สิ่งที่ปราถนาอยบู่ในใจผมตอนนี้คือ
> > >
> > > >หากว่าเรื่องราวนี้จะเป็นบทเรียนหรืออุทาหรณ์แก่ทุกคนที่ผมสามารถบอกต่อได้
> > >
> > > >หากเพื่อนผมสามารถรับรู้ได้เค้าคงเป็นสุขอยู่ ณ
> > >
> >
> >ที่ใดที่หนึ่งเป็นแน่แท้และเค้าคงยินดีและเต็มใจกับสิ่งที่ผมจะฝากให้อีกหลายๆค
> > น..ครับ..........ผมกับเพื่อนรักคนนี้มีกลุ่มจักรยานด้วยกัน
> > > 6 คนเราออกกำลังด้วยการขี่จักรยานวันละประมาณ 30 ก.ม.
> > > ความเร็วประมาณ 27 ก.ม. ต่อ ชั่วโมง
> > > >บางคืนมีโปรแกรมพิเศษต่อกันบ้างโดยเฉลี่ยเพื่อนผมดื่มครั้งละประมาณ
> > > 3 ขวด..(เบียร์)
> > > แต่ในทุกวันปกติก่อนนอนเพื่อนผมจะต้องดื่มประมาณ 3
> > > กระป๋อง
> > >
> >
> >แม้ผมจะไม่ดื่มแต่ผมคิดว่าน่าที่จะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนผมปฏิบัติเช่นนั้น..
> > (หรือเปล่าครับ)
> > >
> > > >วันหนึ่งเมื่อประมาณ 2
> > >
> >
>เดือนก่อนเราขี่กันเป็นปกติตอนเย็นแต่วันนั้นมีสุนัขวิ่งตัดหน้าและเพื่อนผมโชคร
> >
>้ายชนเข้ากับสุนัขตัวนั้นจนข้อมือหักละเอียดต่อมาต้องเดินทางเข้ามารักษาด้วยการ
> > ผ่าตัดที่โรงพยาบาล...กรุงเทพ...(
> > > กรุณาจำนะครับ)...เนื่อิงจากต้องผ่าตัดใส่เหล็ก
> > >
> >
> >และบังเอิญที่..แพทย์...ตรวจสุขภาพพร้อมไปด้วยปรากฏว่าไปตรวจเจอ....โรคลิ้นหัว
> > ใจโต.....ขั้นอันตรายมากต้องรีบผ่าตัดหัวใจด่วนและเสนอค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
> > >
> > > >600000 บาท
> > >
> >เพื่อนผมตกใจมากและเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยนับตั้งแต่นั้นมา.....ด้วยอายุเพียง
> > > 36 ปีเท่านั้น
> > >
> >
> >แต่เนื่องด้วยทางครอบครัวคือบิดาของเพืาอนคนนี้เคยเสียชีวิตด้วยโรคนี้เช่นกันเ
> > มื่อ
> > > 10 ปีก่อน
> > >
> >
> >ทางครอบครัวตลอดจนพี่น้องทุกคนเห็นด้วยที่จะตัดสินใจส่งเพื่อนเข้าผ่าตัดตามที่
> > ...แพทย์...วินิจฉัย
> > >
> > >
> >
> >แต่ทางพี่น้องและครอบครัวได้ปรึกษาทางโทรศัพท์กับเครือญาติที่เป็นแพทย์แล้วว่า
> >
>...แพทย์...ที่วินิจฉัยบอกมา...น่าจะเป็นจริงตามนั้นหรือเปล่าปรากฏว่าทุกคนเห็น
> > ด้วยว่าให้รักษาด่วนตามที่...แพทย์...วินิจฉัย
> > >
> > >
> >
> >แต่สิ่งที่เพื่อนผมคาใจก็คือ...อาการที่จะต้องแสดงบ่งบอกว่าป่วยเป็นโรคนี้มันไ
> > ม่มีแม้แต่อย่างเดียวตามที่...แพทย์...วินิจฉัยมา
> > >
> > > >เช่น
> > >
> >
> >จะออกกำลังไม่ได้เลยเด็ดขาดเพราะจะต้องเหนื่อยมากจนทนไม่ได้...กลางคืนคุณจะนอน
> > ไม่หลับแน่นอนและจะต้องตื่นขึ้นมานั่งพักในช่วงดึกไม่ตำกว่า
> > >
> > > >5-6
> > >
> >
>ครั้ง...เครื่องดื่มของเมาจะแตะไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวเพราะจะแสดงอาการทันที..
> >
>.เหงื่อจะออกที่มือมากจนต้องตกใจ.........เชื่อเถิดครับว่าเพื่อนผมไม่เคยมีอากา
> > รเล่านี้เลยมาตลอด
> > > 3 ปีที่รู้จักกันมาจนเป็นเพื่อนรักกันมากกกกกกกก.......
> > >
> >
> >แพทย์...ออกปากว่าเพื่อนผมโกหกอย่ากลัวการผ่าตัดดีกว่า...เค้าจะโกหกทำไมครับ..
> >
>..ใครอยากตายบ้างครับ....เพื่อนผมท้าทาย...แพทย์...ว่าผมจะถีบจักรยานให้ดูเดี๋ย
> > วนี้มั๊ยครับหมอ....แต่หลังจากทำการฉีกสี...ตรวจแอ็คโค่...ตรวจ
> > >
> > > >เอ็มอาร์ไอ...(อุโมงค์)
> > >
> >
> >แพทย์...ยืนยันตามฟิล์มเอ็กซเรย์ว่ามันโตมากจนต้องรีบรักษาด่วน......รายละเอีย
> > ดคือเพื่อนผมมีลิ้นหัวใจที่รั่วมานานมากแต่ไม่แสดงอาการเลยตลอดมา
> > >
> > >
> >
> >คนเราตามปกติเมื่อหัวใจสูบเลือดเข้าลิ้นจะปิดพอจังหวะฉีดออกก็จะเปิดอีกที..(คง
> >
>พอนึกภาพออกนะครับ)...ลิ้นที่ว่าของเพื่อนมันไม่สามารถปิด..เปิดได้ทำให้หัวใจสู
> > บฉีดอย่างหนัก...และหนักมากกว่าคนปกติหลายเท่านัก
> > >
> > > >จนหลอดเลือดหัวใจบริเวณลิ้นมีเส้นรอบวงรวมถึง 6.5 ซม.
> > > ทั้งที่คนปกติจะมีประมาณ
> > > >2.5 ซม.เท่านั้น
> > > และพร้อมที่จะแตกเมื่อไรก็ได้.........เมื่อวันที่ 9
> > > ก.พ.
> > >
> >
>ได้เข้าเตรียมตัวที่โรงพยาบาลด้วยแรงใจที่จะไม่มีแล้ว...เพื่อนเหมือนรู้ตัวว่าจ
> >
>ะต้องตายแน่..(ทั้งๆที่มันไม่มีอาการน่ะนะครับ)....ก็พูดกับผมกับครอบครัวไว้หลา
> >
>ยอย่าง.....ขณะที่พักรอการผ่าตัดไม่ว่าจะเดินไปไหนทำอะไรจะทำเองทุกอย่างจนแพทย์
> > ต้องเตื่อนว่า...ทำตัวเป็นคนป่วยได้แล้ว...วันที่
> > >
> > > >12 ก.พ. 7 โมงเช้าการผ่าตัดเริ่มขึ้น
> > >
> >
> >เพื่อนผมขึ้นเตียงผ่าตัดด้วยการ..เดินเข้าห้องและก้าวขึ้นเตียงด้วยตัวเอง.....
> > แต่หลังจากดวงตาปิดลงด้วยฤทธิ์ยาสลบจนถึง
> > >
> > > >5 โมงเย็น
> > >
> >
> >...ดวงตายีเล็ก...รอยยิ้มที่พร้อมจะทักทายแก่ทุกคนที่รู้จักมักคุ้น...บัดนี้มั
> >
>นเลือนหายไปจากโลกวุ่นวายใบนี้เสียแล้วครับ....มันหายไปแบบไม่กลับมาอีกเลยครับ.
> >
>.................เพื่อนรักผมเสียชีวิตบนเตียงผ่าตัดครับ......ใครรับผิดชอบหรือ
> >
>???????....มันทดแทนด้วยอะไรได้หรือเปล่าครับ......................เพื่อนผมไม่
> > ได้ป่วยเลยครับ
> > >
> > > >
> > >
> >
> >แพทย์วินิจฉัยด้วยจรรยาบรรณทมี่ครบถ้วนหรือเปล่าครับ.......พี่สาวภรรยาเพื่อนผ
> >
>มเข้าต่อว่าแพทย์ที่ผ่าตัดว่าทำไมน้องเขยต้องตายด้วยหมอทำดีที่สุดหรือยังด้วยอา
> >
>รมณ์ที่สูญเสีย......มัน....ตอบอย่างไรรู้มั๊ยครับ......แพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพม
> >
>ันบอกว่า....ครั้งแรกผมคิดว่าจะลดราคารักษาให้นะแต่ตอนนี้ผมไม่ลดแล้วหละ....ไอ้
> >
>สัตว์ในคราบเสื้อกาวด์....มันคิดแต่เรื่องเงินเท่านั้นหรือ.........ที่ผมอยากฝา
> >
>กส่งต่อเรืองราวนี้ต่อให้มากที่สุดก็คือ....อยากให้เช็คให้ดีหลายๆที่หลายๆโรงพย
> >
>าบาวว่าป่วยจริงตามที่...มัน...วินิจฉัยหรือเปล่านะครับ...สมองหนึ่ง...หัวใจหนึ
> > ่ง...ระวังนะครับ
> > >
> > >
> >
> >คนรอบข้างเตือนเพื่อนและครอบครัวแล้วว่าเช็คที่อื่นก่อนดีกว่าอย่าผ่าเลย.....แ
> >
>ต่เพื่อนผมก็อยากหายนะนะครับไม่มีใครอยากตายหรอกใช่มั๊ยครับ.....จำไว้นะครับ..โ
> >
>รงพยาบาลกรุงเทพ...ชื่อนายแพทย์วิชัย....ที่ผ่าเพื่อนผมตายบนเตียงผ่าตัด.......
> > .....
> > > ........รังสฤษฏ์ อารีย์วงศ์..(คีรีบูนปีกบาง)
sources: forwarded mail โดยคุณ :
เขาว่าผมคล้ายโน้ต อุดม - [6:59:01 8 มี.ค. 2544] |