เขาลืม !
...............................................
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
.กริ๊ง
กริ๊งงงงงงงงงงง
.
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนบ่ายของวันหนึ่ง ผมสลัดความง่วงงุน นี่ใครโทรมาหาผมแต่เช้าเลยนะ.....
ฮัลโหล สวัสดีครับ
ผมยกหูโทรศัพท์ ก่อนกรอกเสียงลงไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด พี่คเชนทร์..
ปลายสายแผดเสียง เหมือนเจอสิ่งลึกลับยังไงยังงั้น ยังไม่ทันที่ผมจะเรียกสติสัมปชัญญะ ให้กลับคืนมา เสียงนั่นก็ใส่มาอีกชุด
นี่ตุ้มนะ
ตุ้มเองพี่ ตุ้มเอง
.
เสียงห้าวหาญสมกับเป็นหญิงไทย ระรัวบอก
ดีใจจังที่เจอพี่ นี่ตุ้มกลับมาแล้วนะ เนี่ยหายไปนานหลายเดือน คิดถึงพี่คเชนทร์จังเลยยยยยยยยย
(การเบิ้ลคำตอนท้าย แสดงให้เห็นถึงว่าคิดถึงมากจริงจริง ผู้เขียน)
อ้อ ตุ้ม ผมรู้แล้วว่าเธอชื่อตุ้ม แล้ว เอ่อ ใช่ ผมชื่อคเชนทร์ แต่ผมไม่รู้จักเธอนี่นะ
เอ่อ
ขอโทษครับ.. ผมปฏิเสธเสียงนุ่ม แสดงออกถึงความเป็นลูกผู้ชายไทยอย่างเห็นได้ชัด
ผมคิดว่าคงมีการเข้าใจอะไรผิดบางอย่าง
ต่อผิดรึปล่าวครับ
แหม
แหม มุขเหรอพี่ คิก คิก ทำเป็นจำตุ้มไม่ได้ อย่าเลย อย่าเลย...
เธอทำน้ำเสียงที่สนิทกว่าญาติ มาตามสาย ผมเกาหัวแกรก ๆ
ไม่ได้มุข แต่จำไม่ได้จริงจริง
. ปลายสายเริ่มเงียบไป
หรือตุ้มจากพี่นานเกินไป แค่สี่เดือนเองนะ พี่คเชนทร์ลืมแล้วเหรอ โห
ได้ไงอ่ะ ได้ไง
แล้วเธอก็ทำเสียงโหยหวนมาตามสาย ตัดพ้อต่อว่าผมเสียยกใหญ่ ผมได้แต่ฟัง ฟัง และฟัง ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรที่เธอเล่ามาเลยแม้แต่นิด แต่พอจะจับใจความได้เลา ๆ ลาง ๆ ว่า เธอชื่อตุ้ม และตุ้มก็คือเธอ ตุ้มสนิทกับพี่คเชนทร์ และคเชนทร์ก็คือชื่อผม เบอร์โทรของพี่คเชนทร์ก็เบอร์เดียวกับผม และที่เธอโทรมานี่ก็เพื่อจะบอกว่าเธอกลับมาแล้ว และกำลังจะมาหาผม !
เอ่อ
ผมชักจะเริ่มอึดอัด
ตุ้มกลับไปบ้านมาพี่ ตามโครงการสำนึกรักบ้านเกิดจ้ะ พี่คเชนทร์ สำนึกรักบ้านเกิด เรียบร้อยแล้วพี่ สำนึกเรียบร้อยแล้ว นี่เลยกลับมาหาพี่คเชนทร์ได้
เธอเล่าเองเสร็จสรรพ น้ำเสียงพอจับได้ว่าภูมิใจน่าดู
เอาล่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวตุ้มไปหาพี่ดีกว่า พูดทางโทรศัพท์แล้วมันไม่เวิร์ค
เธอตัดบทอย่างมีเชิง ผมวางหูโทรศัพท์อย่างช้า ๆ ในใจพยายามทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตุ้ม ตุ้มไหน แล้วกำลังจะมาหาผมเนี่ยนะ อืมม์ อาจมีการจำชื่อผิดก็ได้ แต่ถ้ามาหาจริง ๆ ก็แสดงว่าตุ้มเติ้มอะไรนี่รู้จักผม เอ แล้ว แล้ว ผมเริ่มคิดสะเปะ สะปะ สายตาเหลือบไปเห็นนาฬิการูปหมีแพนด้าข้างฝา
คุณพระช่วย !
ผมผงะไปสามก้าว ยังไม่ทันจะเริ่มก้าวที่สี่ ก็ไปติดกำแพงข้างฝาบ้านพอดี ผมเลยหันเหความสนใจไปที่นาฬิกานั่น เพราะตรงรูปหมีแพนด้าพุงกลม ๆ มีข้อความเขียนเป็นลายมือตัวโตๆ ว่า
แด่พี่คเชนทร์ จากน้องตุ้ม
โอ โนว์
โนว์ ผมรำพึงไม่เป็นภาษาประจำชาติ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมรู้จักคนชื่อตุ้มจริงจริงหรือนี่...
แต่ทำไม ทำไม ผมจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ เวลาสี่เดือนมันเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไม ทำไม ผมพยายามนึก นึก และนึก แต่จนแล้วจนรอดผมก็จำไม่ได้ว่า
.ผมเคยมีคนรู้จักชื่อตุ้มได้อย่างไร !
ติงต๊อง
ติงต๊อง
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ช่วยปลุกผมจากภวังค์ ผมรีบเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน แต่ยังไม่กล้าพอที่จะเปิดประตูนั่น ได้แต่แง้ม ๆ ลูกบิด พร้อมส่งสายตาล่อกแล่กมองลอดผ่าน เบื้องหน้าที่ผมเห็นคือผู้หญิงคนหนึ่ง หิ้วชะลอมรุงรัง หน้าตามอมแมม ยืนยิ้มเผล่ ผมมองหน้านั้นแล้วยืนนิ่ง ๆ สักครู่ ก่อนตัดสินใจเปิดประตูออกไป...
หวัดดีพี่คเชนทร์ นี่ตุ้มไง ตุ้ม ตุ้ม
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผม พยายามเรียกสติ พูดพลางใช้มือชี้ตัวเองวุ่นวายไปหมด
อืม ตุ้ม
.ตุ้ม
ผมพยายามนึก แต่ก็ได้แค่พยายาม เพราะจนถึงวินาทีนี้ ผมก็ยังจำไม่ได้ว่า ผมเคยเห็นหน้าสาวตุ้มที่ไหน
จำได้ยางงงงงงงงงง
. เธอถามผมประโยคเดิม ๆ ผมได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนปูเลี่ยน พูดไม่ออก บอกไม่ถูก
พี่คเชนทร์ เธอถือวิสาสะเอื้อมมือมาจับผมอย่างไม่เกรงใจ ผมรีบดึงมือออกอย่างรวดเร็ว พลางหรี่ตามองอย่างถือตัว
จับมือแค่นี้ ทำเป็น ตุ้มยังคงอิน
เมื่อก่อนล่ะแหม คิก คิก เธอหัวเราะมีเลศนัย จนผมอยากจะเอามือไปเบิ๊ดกระโหลกอ้วน ๆ ของเธอสักรอบ
พี่เลิกเล่นเหอะ ตุ้มเหนื่อยแล้วนะ เธอพูดพลางเดินเข้ามาในบ้านหน้าตาเฉย ผมรีบเดินตามต้อยๆ ในใจเริ่มสับสนกับชีวิตยิ่งนัก
ไม่ได้เล่น ไม่ได้เล่น แต่จำไม่ได้จริงจริง เชื่อกันมั่งสิ ผมปฏิเสธอีกครั้งอย่างสุภาพ ตุ้มหันมามองหน้าผมเหมือนผมเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยังไงยังงั้น
อืมมม์ ตุ้มทำสีหน้าครุ่นคิด
สะกดจิตเรียกความจำดีไหม พี่คเชนทร์ ตุ้มหันมาปรึกษา แต่แววตาเหมือนจะเอาจริง
เฮ้ย เฮ้ย ผมร้องเสียงหลง นี่ถึงขั้นจะเล่นไสยศาสตร์กับผมจริง ๆ เหรอเนี่ย
เอางี้
.ตุ้มมีหลักฐาน
เธอพูดพลางหยิบรูปภาพจากในชะลอมออกมา แล้วก็วางลงบนโต๊ะอย่างมั่นอกมั่นใจ ผมเหลือบไปดู เป็นรูปงานเฉลิมฉลองกรุงเทพฯ ครบรอบ 200 ปี
โทษพี่ ตุ้มหยิบผิด เธอหัวเราะแก้เก้อ ก่อนหยิบภาพใหม่ออกมา
รูปนั้นเป็นรูปถ่ายคู่ ฝีมือการถ่ายดีมากทีเดียว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ที่สำคัญคือคนในรูปนั่น เพราะหญิงสาวในรูปก็คนที่อยู่ตรงหน้าผมในขณะนี้ และรูปชายหนุ่มที่หล่อมากในภาพ ก็คือผมนั่นเอง !
หล่อ หล่อ ถ่ายดีนะเนี่ย... ผมเอ่ยปากชม
เป็นไงเล่า
ผมถอนหายใจดังเฮือก ภาพนั้นมันก็คือผมอย่างจริงแท้แน่นอน แต่ทำไมผมจำไม่ได้ล่ะ ทำไม ทำไม !
มีอีกนะ ตุ้มเริ่มสาธยาย แล้วก็เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เธอและผมไปร่วมสร้างวีรกรรมกันมาประมาณแปดสิบเรื่องเห็นจะได้ หลายเรื่องเรียกรอยยิ้มให้กับผมได้อย่างไม่รู้ตัว
ถึงผมจะยังจำอะไรไม่ค่อยได้ในตอนนี้ แต่ผมก็เริ่มสนุกไปกับเรื่องที่เธอเล่าทีละนิดละนิด แต่พอจะขึ้นเรื่องที่แปดสิบเอ็ด เธอก็ทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
ตุ้มชอบเขียนจดหมายพี่ เขียนหาบ่อยเลย สำนวนไม่ดีหรอกพี่ แต่ตุ้มตั้งใจ
.พี่ยังตอบเคยตอบมาเลย นี่ไง นี่ไง
เธอหยิบออกจดหมายออกจากชะลอมใบเขื่องอีกระลอก จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ชะลอมใบนั้นมันจุอะไรได้มากมายขนาดนั้นหนอ
มีอีกนะ พี่คเชนทร์น่ะชอบร้องเพลงให้ตุ้มฟังด้วย
แล้วเธอก็ร้องเพลง ๆ หนึ่งให้ผมฟัง ดูเหมือนจะเป็นเพลงช้า ๆ ทำนองดูเศร้า ๆ ผิดหวัง ผมว่ามันเพราะดีนะ แต่พอได้ยินเสียงตุ้ม ผมก็เริ่มหนักใจ
ฟอร์มไม่มีจะกว้าง
อยากวางก็ไม่ค่อยเศร้า
ชื่ออึมครึมของเขา
เรียกกันจนเป็นชื่อจริง
เธอส่งเสียงเหมือนคนร้องเพลงคร่อมจังหวะยังไงไม่ทราบได้ จนผมอดไม่ได้ต้องบอกเธอไป
มันร้องงี้ไม่ใช่เหรอ
. ผมเตือนสติ
ฟอร์มไม่มีจะวาง
อยากวางก็ไม่ค่อยเข้า
ชื่อกึ่มของเขา
เรียกกันจนเป็นชื่อจริง
ใช่ ใช่ เห็นมั้ย เห็นมั้ย พี่คเชนทร์จำได้ น้ำเสียงเธอดีใจจนออกนอกหน้า สีหน้าเริ่มมีความหวังทีละนิด ใบหน้าที่ขาวกลมอยู่แล้ว ก็ยิ่งส่องประกายความขาวเป็นสาวโอโม่ยิ่งขึ้น
.ยิ่งขึ้น
เพลงเค้าออกจะเพราะ ผมลืมตัวนึกว่าจำเธอได้แล้ว บ่นเบา ๆ อย่างน้อยใจ จนนึกขึ้นได้ว่า ผมยังจำเธอไม่ได้นี่นา
เหตุการณ์ทบทวนความจำจึงเริ่มต่อไป
ไม่เป็นไร พี่เชนทร์ หลัง ๆ ตุ้มเริ่มย่อชื่อของผม นัยว่าเพื่อประหยัดเวลา พร้อม ๆ กับประกาศก้อง หมาสองตัวที่เดินผ่านไปมาเหมือนจะเป็นพยานให้
ตุ้มผิดเองแหละพี่ ตุ้มคงจากพี่นานเกินไป
เธอเริ่มเปลี่ยนทีท่า เรียกคะแนนสงสาร แต่ผมก็ยังคงยืนกรานประโยคเดิม ว่าจำไม่ได้จริงจริง
ถ้าตุ้มส่งข่าวบอกพี่เป็นระยะระยะบ้างก็คงจะดีนะ
.พี่อาจจะจำตุ้มได้
. พี่อาจจะไม่ลืมตุ้มเหมือนอย่างที่เป็นตอนนี้ .. ผมเห็นตาเธอเริ่มแดง เสียงเริ่มอู้อี้ ใบหูเริ่มเปลี่ยนสี
เอาเถอะ ถ้าพี่เชนทร์ยังจำไม่ได้ ไม่เป็นไร
.ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ตุ้มจะมาใหม่
.
เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่าเธอเริ่มมีสีหน้าผิดหวัง และเศร้าสร้อย ผมเองก็พลอยรู้สึกไปกับเธอด้วย (แต่ไม่มากนัก)
แล้วถ้าพรุ่งนี้ ก็ยังจำไม่ได้อีกล่ะ ผมถาม
ไม่เป็นไร พรุ่งนี้จำไม่ได้ วันต่อ ๆ ไปตุ้มก็จะมาอีก จะมาอีก เธอสัญญาแน่นหนัก
ผมมองเธออย่างเงียบ ๆ ผมไม่รู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ผมได้แต่พยักหน้าหงึกหงึก ตอนที่เราบอกลากันอย่างง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากนัก เธอหันหลังเดินกลับไปอย่างช้า ๆ แล้วก็หันกลับมามองหน้าผม สลับกันไปมา
..
เธอกลับบ้านไปแล้ว
แต่เสียงของเธอยังคงแว่วอยู่ในหูผม
ว่าพรุ่งนี้ตุ้มจะมา ตุ้มจะมา ตุ้มจะมาจริงจริงนะ !
ผมไม่รู้ว่าสาวตุ้มจะทำหน้าอย่างไร
.
ถ้าเช้าของอีกวัน ในตอนที่เธอมาหาผม แล้วไม่ได้เจอผมอยู่ในบ้าน
ผมไม่รู้อีกเช่นกัน
ว่าเธอจะทำหน้าอย่างไร
ถ้าเช้าวันนั้น จะมีกระดาษขาวบาง ๆ แผ่นหนึ่งวางอยู่ที่หน้าบ้านแทน
ผมก็ไม่รู้อีกละนะ... ว่าเธอจะทำหน้าอย่างไร
ถ้าเธอจะเห็นว่าเป็นลายมือของผมเองบนกระดาษแผ่นนั้น
อืมม์
แต่ผมคิดว่าผมรู้นะ
ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร
ถ้าเธอได้อ่านข้อความในกระดาษแผ่นนี้
จบลง
..
ไม่ได้จด
ใช่ว่าจะไม่จำ
ไม่ได้เขียนคำ
.ใช่ว่าจะห่างหาย
ไม่ได้มา
ใช่ว่าจะอยู่ไกล
ไม่ได้ส่งข่าวไว้
ใช่ว่าจะไม่ไยดี
ไม่ได้บอก
ใช่ว่าไม่อยากให้รู้
ไม่ได้เห็นกันอยู่
ใช่ว่าจะถอยหนี
ไม่ได้ส่งอะไรให้
ใช่ว่าจะไม่มี
ไม่ได้มาพรุ่งนี้
.ก็ใช่ว่า พี่ จะลืม
.
โดยคุณ :
ชมพูพันธุ์ทิพย์ - [17:33:30 12 พ.ค. 2545] |